เพิ่มสปีดการทำงานกับ Asana ให้รวดเร็วด้วย Keyboard Shortcuts!

สำหรับลูกค้าและผู้ใช้งาน Asana ทุกคน..คุณเคยใช้เวลาคลิกเมาส์ไปมาใน Asana แล้วรู้สึกว่าน่าจะมีวิธีที่เร็วและคล่องตัวกว่านี้ไหม? ถ้าคุณรู้สึกแบบนี้ เรามีข่าวดี! ด้วยฟีเจอร์ Keyboard Shortcuts คุณสามารถยกระดับการทำงานให้รวดเร็วยิ่งขึ้น ประหยัดเวลา ลองใช้คีย์ลัดเหล่านี้ดู แล้วคุณจะรู้สึกเหมือนได้เพิ่มพลังให้กับการจัดการโปรเจกต์และงานแบบมืออาชีพเลยทีเดียว ทำไมต้องใช้ Keyboard Shortcuts? รวดเร็วทันใจ: ลดเวลาที่เสียไปกับการเลื่อนหาเมนูและคลิกเมาส์ ทำงานลื่นไหล: สลับการทำงานระหว่างส่วนต่าง ๆ ได้อย่างคล่องตัว ไม่มีสะดุด ดูเป็นมือโปร: ใคร ๆ ก็อยากทำงานกับคนที่ใช้เครื่องมือได้อย่างชำนาญใช่ไหมล่ะ? 5 Keyboard Shortcuts สุดฮิตสำหรับ Asana ที่ต้องรู้! เริ่มต้นใช้งาน Asana อย่างมืออาชีพด้วย 5 คีย์ลัดยอดนิยมเหล่านี้ Tab + Q: เพิ่มงานด่วน (Quick Add task) Tab + N: สร้าง Section ใหม่ Tab + /: ค้นหา (Search) Tab + F: เพิ่มผู้ติดตาม (Add follower) Tab + X: เข้าสู่โหมดโฟกัส (Focus mode) เราจัดหมวดหมู่คีย์ลัดอื่น ๆ ที่น่าสนใจมาให้แล้ว! การจัดการ Task (Task Actions & Tasks) Tab + Q: เพิ่ม Task ด่วน Tab + N: สร้าง Section ใหม่ Tab + BKSP: ลบ Task ที่เลือก Shift + ↑...

Continue reading

Work Management คืออะไร? กุญแจสำคัญของการทำงานยุคใหม่ที่ทุกทีมต้องรู้จัก

การบริหารจัดการงานในองค์กรทุกวันนี้ ไม่ใช่แค่เรื่องการมอบหมายงานหรือจัดการโปรเจกต์ของตัวเองอีกต่อไป แต่ต้องรวมถึงการประสานงานระหว่างทีม การวางโครงสร้างเวิร์กโฟลว์ให้เป็นไปอย่างลื่นไหลและการสื่อสารที่เรียลไทม์ ซึ่งล้วนเป็นองค์ประกอบสำคัญของการทำงานในยุคปัจจุบัน หลาย ๆ องค์กรจึงเริ่มมองหาเครื่องมือหรือแพลตฟอร์มที่จะช่วยให้ทีมทำงานได้ง่ายขึ้น เป็นระบบมากขึ้นและลดการทำงานซ้ำซ้อนให้น้อยลง ดังนั้นหนึ่งในเครื่องมือที่ตอบโจทย์ความต้องการเหล่านั้นคือระบบ “Work Management” ทำความรู้จัก Work Management คืออะไร? Work Management คือ กระบวนการจัดการงานในภาพรวมให้เป็นระบบ ไม่ว่าจะเป็นโปรเจกต์ งานที่ต้องทำเป็นประจำ หรือกระบวนการทำงานที่ต่อเนื่อง เป้าหมายของการทำ Work Management คือทำให้ทุกคนในทีมหรือผู้ที่เกี่ยวข้องรู้ว่า “ใครต้องทำอะไร กำลังทำอะไร ทำเมื่อไร และทำอย่างไร” เพราะฉะนั้นการทำ Work Management จึงไม่ใช่แค่การจัดการงาน แต่เป็นการผสานคนกับงานในทุกระดับขององค์กร เพื่อให้ทุกคนได้รับข้อมูลที่จำเป็นตรงกันและพร้อมเดินหน้าไปสู่เป้าหมายเดียวกันได้อย่างมั่นใจ Work Management vs Project Management ต่างกันอย่างไร? หลาย ๆ คนอาจจะกำลังสับสนว่าทั้งสองตัวนี้ต่างกันอย่างไร? แม้ว่าอาจจะมีบางมิติที่คล้ายกัน แต่ Work Management และ Project Management มีขอบเขตที่ต่างกันอย่างชัดเจนดังนี้ Work Management คือ การจัดการงานที่ครอบคลุมตั้งแต่กระบวนการทำงานของแต่ละงานให้เป็นระบบ การวางแผนและการสื่อสารกับทีม เพื่อให้การทำงานระหว่างทีมต่าง ๆ (Cross-functional) เป็นไปอย่างราบรื่นมากที่สุด Project Management คือ การจัดการโปรเจกต์และภาพรวมตั้งแต่จุดเริ่มต้นจนสิ้นสุดของโปรเจกต์นั้น ๆ เท่านั้น เช่น การวางไทม์ไลน์, การทำ to-do list, การประเมินทรัพยากรที่มี, จัดลำดับขั้นตอนและความสำคัญของงาน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม ที่นี่ 3 องค์ประกอบสำคัญของการทำ Work Management ให้ได้ผลจริง การจัดการงานในทีมไม่ใช่แค่การตั้งเดดไลน์หรือมอบหมายงานเท่านั้น แต่ต้องมี “ระบบ” ที่ทำให้ทุกคนทำงานร่วมกันได้อย่างลื่นไหล ซึ่งสิ่งสำคัญที่ต้องมีคือ 3 องค์ประกอบนี้: 1. การสื่อสาร (Communication) การทำงานร่วมกันต้องเริ่มจากการสื่อสารที่ดี แต่ในยุคที่เรามีแชท อีเมล วิดีโอคอลเต็มไปหมด สิ่งสำคัญคือการตกลงให้ชัดว่า จะใช้เครื่องมือไหนกับเรื่องอะไร...

Continue reading

Asana Features Updated ประจำเดือนเมษายน 2025

เลือกอ่านหัวข้อที่คุณต้องการได้เลย! สำหรับ Asana Package Personal และ Basic Unified toolbar: ใช้แถบเครื่องมือรูปแบบเดียวกันในทุกหน้าจอของ Asana เพื่อให้ใช้งานได้ง่ายและต่อเนื่อง “Member of” tab in mobile project directory: ค้นหาโปรเจกต์ที่คุณเป็นสมาชิกได้จากแท็บ “member of” บนแอปมือถือ Updated Google Drive attachment filepicker: แนบไฟล์จาก Google Drive ใน Asana ได้ง่าย ๆ เพียงวางลิงก์หรือพิมพ์ชื่อไฟล์ที่ต้องการ ดูรายละเอียดเพิ่มเติม ที่นี่ New OAuth (Open Authentication) flow for Google Drive in Asana desktop app: เชื่อมต่อกับ Google Drive ได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้นบนเวอร์ชันเดสก์ท็อปของ Asana สำหรับ Asana Package Starter และ Premium Custom task types and statuses: สร้างประเภทงานตามกระบวนการทำงานของคุณ เพื่อช่วยให้จัดการงานได้เป็นระบบมากขึ้นและปรับปรุงการแสดงผลให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ในโปรเจกต์ของคุณ ให้ไปที่เมนู “Customize” เลือก “Tasks template” คลิก “Types” แล้วเลือก “Custom” จากเมนูดรอปดาวน์ ตั้งชื่อประเภทงานของคุณ เช่น “สถานะคำขอการตลาด” กำหนดตัวเลือกสถานะที่กำหนดเอง เช่น Submitted, In review, Sent, Published กำหนดสีสำหรับแต่ละสถานะ ตั้งค่าว่าสถานะไหนที่จะทำให้งานนั้นเสร็จสมบูรณ์หรือไม่สมบูรณ์ เพิ่มรายละเอียดอื่น ๆ ใน Tasks template คลิก “Done” เพื่อบันทึกเทมเพลตงานที่กำหนดเองของคุณ...

Continue reading

5 ขั้นตอน ยกระดับโฟลว์การทำงานของทีม Project Management

ถึงแม้ว่าหลาย ๆ คนจะเข้าใจว่าการบริหารโปรเจกต์ (Project Management) คือ การควบคุมและกำหนดเวลาของโปรเจกต์ แต่ในความเป็นจริงแล้ว การบริหารโปรเจกต์กลับมีขอบเขตที่กว้างกว่านั้นมาก ซึ่งในบทความนี้เรามีคำแนะนำง่าย ๆ ที่จะช่วยให้คุณเข้าใจ 5 ขั้นตอนของการบริหารโปรเจกต์ได้อย่างครบถ้วน การเข้าใจวงจรของการจัดการโปรเจกต์จะช่วยให้คุณปรับปรุงกระบวนการภายใน และด้วยการนำเครื่องมือที่ช่วยบริหารจัดการโปรเจกต์ จะยิ่งช่วยยกระดับการทำงานของคุณให้มีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น 5 ขั้นตอน การยกระดับการทำงานของทีม Project Management มีอะไรบ้าง? PMBOK® หรือ Project Management Body of Knowledge คือคู่มือที่รวบรวมความรู้และทักษะในการบริหารจัดการโปรเจกต์ จัดทำโดย Project Management Institute หรือ PMI โดยเนื้อหาในคู่มือจะเจาะลึกขั้นตอนการจัดการโปรเจกต์ทั้ง 5 ขั้นตอน ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากต่อผู้ที่ต้องการพัฒนาความรู้และทักษะด้านการบริหารจัดการโปรเจกต์ 1. การเริ่มต้นโปรเจกต์ (Project initiation) ในช่วงเริ่มต้นของโปรเจกต์ ทีมจะต้องกำหนดขอบเขตและวัตถุประสงค์ของโปรเจกต์ ระบุผู้ที่เกี่ยวข้อง พร้อมศึกษาถึงความเป็นไปได้ และจัดทำเอกสารโปรเจกต์เพื่อให้สมาชิกในทีมเข้าถึงข้อมูลและสื่อสารกันได้อย่างง่ายดาย โดยทีมส่วนใหญ่มักจะเริ่มต้นด้วยการประชุมหรือศึกษาความเป็นไปได้ของโปรเจกต์ นอกจากการนำเสนอแนวคิดเบื้องต้นของโปรเจกต์แล้ว คุณควรระบุถึงประโยชน์ ต้นทุน และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการดำเนินโปรเจกต์ รวมถึงตัวชี้วัดความสำเร็จอื่น ๆ ตามเกณฑ์ที่องค์กรของคุณใช้ พร้อมสรุปรายละเอียดสำคัญของโปรเจกต์ เช่น เป้าหมาย งบประมาณ และระยะเวลา จะช่วยให้ทีมเข้าใจขอบเขตงานและใช้เป็นแนวทางในการดำเนินโปรเจกต์ได้ง่ายขึ้น 2. การวางแผนโปรเจกต์ (Project planning) ขั้นตอนแรกของการวางแผนโปรเจกต์คือการกำหนดเป้าหมายของโปรเจกต์ในแต่ละส่วนงานให้ชัดเจนโดยคุณสามารถใช้แผนงานที่ได้รับความนิยมเหล่านี้ SMART Goals เป็นวิธีการที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การกำหนดเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง วัดผลได้ ทำได้จริง เกี่ยวข้อง และมีกรอบเวลาที่ชัดเจน วิธีนี้ช่วยให้ทีมสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ วางแผนโปรเจกต์ และติดตามความคืบหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ CLEAR Goals เป็นอีกแนวทางหนึ่งที่เน้นการทำงานร่วมกันและความยืดหยุ่น โดยมีเป้าหมายร่วมกัน ซึ่งเหมาะกับทีมที่มีสภาพแวดล้อมการทำงานที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา OKR (Objectives & Key Results) เป็น framework ที่มุ่งเน้นการจัดวางเป้าหมายในระดับองค์กร โดยเริ่มจากวัตถุประสงค์ในภาพรวมและกำหนดโปรเจกต์ต่าง ๆ ที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ OKR จะช่วยให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเห็นภาพรวมขององค์กรได้อย่างชัดเจน มีหลายวิธีที่จะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายได้...

Continue reading

Asana in Action: Mastering Your Work Management with Asana AI

“Work Smarter, Not Harder” New! พบกับงานอีเวนต์ที่ Demeter ICT จัดร่วมกับ Asana หนึ่งในพาร์ทเนอร์ของเราเป็นครั้งแรก อีเวนต์ที่จะเปลี่ยนรูปแบบการทำงานของคุณให้ดีขึ้นกว่าที่เคย เตรียมพร้อมเข้าสู่โลกของ Work Management ที่ไร้รอยต่อกับงาน “Asana in Action: Mastering Your Work Management with Asana AI” มาร่วมปลดล็อคความท้าทายในการทำงานร่วมกันที่ยุ่งเหยิงสู่การทำงานร่วมกันอย่างชาญฉลาดและมีประสิทธิภาพ พร้อมเจาะลึกฟีเจอร์ของ Asana ที่กำลังมาแรงอย่าง Asana Intelligence (Asana AI) ที่จะช่วยยกระดับการทำงานของคุณให้ง่ายและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เรียนรู้จากประสบการณ์และกรณีศึกษาจากลูกค้าที่ใช้งาน Asana มาช่วยแก้ปัญหาและปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานจริง รวมถึงเดโม่สาธิตการใช้งาน Asana เพื่อให้เห็นภาพการใช้งาน Asana ในรูปแบบต่าง ๆ ให้ได้รับประสิทธิภาพสูงสุดพร้อมกิจกรรม Quiz game ที่คุณจะได้ร่วมสนุกและลุ้นรับของรางวัลสุดพิเศษ! และช่วง Q&A ไขทุกข้อสงสัยของคุณเกี่ยวกับ Asana โดยผู้เชี่ยวชาญจาก Demeter ICT และ Asana โดยตรง กับงานสัมมนาออนไลน์ Asana in Action: Mastering Your Work Management with Asana วันอังคารที่ 26 พฤศจิกายน 2567 เวลา 10.00 – 11.30 น. บรรยายผ่านช่องทาง Google Meet (*มีทั้งบรรยายไทยและอังกฤษ*) ปิดการลงทะเบียนแล้ว ลงทะเบียนเข้าร่วมงานฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ Highlights ที่คุณจะได้รับจากงานนี้: ทำความรู้จักกับ Asana – Work Management Platform เพื่อการบริหารงานร่วมกันและจัดการโปรเจกต์ระดับโลก เผยวิธีเปลี่ยนความท้าทายในการทำงานให้เป็นความสำเร็จด้วย Asana แบ่งปันเทคนิคและเครื่องมือที่ช่วยให้ทีมจัดการปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ บอกเล่าเรื่องราวความสำเร็จของลูกค้าที่ใช้งาน Asana...

Continue reading

ใช้งาน Asana แบบ Free VS Asana แบบ Premium ต่างกันอย่างไร?

Asana เป็นเครื่องมือ Project Management อันดับ 1 ที่ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับธุรกิจทุกขนาดและความต้องการที่หลากหลาย ซึ่งความแตกต่างระหว่าง Asana แบบ Free กับ แบบ Premium (คือ เสียเงินค่า License ขึ้นอยู่กับแพ็กเกจ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่นี่) จะสัมพันธ์กับฟีเจอร์ในการทำงาน ความสามารถในการจัดการทีมและการจัดการโปรเจกต์ของคุณ หากคุณกำลังไม่แน่ใจว่า ระหว่างการใช้งาน Asana แบบ Free กับแบบ Premium แบบไหนจะเหมาะกับทีมหรือองค์กรของคุณมากกว่ากัน บทความนี้เราจะมาเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างการใช้งานทั้งสองแบบกันอย่างชัด ๆ เพื่อให้ผู้ที่สนใจใช้งาน Asana ตัดสินใจกันได้ง่ายมากยิ่งขึ้น เลือกอ่านหัวข้อที่คุณต้องการได้เลย! 1. User Limits (จำนวนผู้ใช้งาน) Asana Free เหมาะสำหรับบุคคลทั่วไป ฟรีแลนซ์และธุรกิจขนาดเล็ก (SMB) มีสมาชิกภายในทีมไม่เกิน 10 คน ที่ต้องการใช้งาน Asana เพื่อที่จะจัดการงานส่วนตัวหรือเริ่มต้นจัดการโปรเจกต์ภายในทีม Asana Premium เหมาะสำหรับทีมและองค์กรขนาดกลางไปจนถึงขนาดใหญ่ พร้อมแพ็กเกจที่หลากหลาย เพื่อให้คุณสามารถเลือกแพ็กเกจที่เหมาะสมและตรงกับองค์กรของคุณมากที่สุด 2. Features (ฟีเจอร์การใช้งาน) Asana Free การจัดการงาน (Task Management) สามารถสร้าง Task งาน มอบหมายงานให้กับสมาชิกภายในทีมและกำหนดวันเสร็จสิ้นของงานหรือโปรเจกต์ของคุณได้ มุมมองโปรเจกต์ (Project Views) สามารถเห็นภาพรวมของโปรเจกต์ ตารางปฏิทินและลิสต์งานต่าง ๆ ได้ เครื่องมือการทำงานร่วมกัน (Collaboration Tools) สามารถแสดงความคิดเห็น ตอบกลับเกี่ยวกับงานและสามารถแนบไฟล์ได้ (จำกัดขนาดไว้ที่ 100MB ต่อไฟล์) รายงานแดชบอร์ด (Reporting Dashboard) มองเห็นรายงานแดชบอร์ดพื้นฐานและภาพรวมความคืบหน้าของโปรเจกต์ การเชื่อมต่อเบื้องต้น (Integration) สามารถเชื่อมต่อกับระบบอื่น ๆ ของบริษัทได้อย่างเช่น Slack, Google Workspace และ Microsoft Teams แต่เนื่องจากข้อจำกัดของฟีเจอร์แบบฟรี...

Continue reading

Asana คืออะไร? รู้จัก Asana ซอฟต์แวร์ด้านการทำ Project Management ที่ดีที่สุด

เลือกอ่านหัวข้อที่คุณต้องการได้เลย! Asana คืออะไร? Asana คือ ซอฟต์แวร์เพื่อการบริหารจัดการโปรเจกต์ (Project Management Software) ที่สร้างขึ้นเพื่อให้บุคคล ทีม แผนก หรือองค์กรสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด เช่น การจัดระเบียบทีมหรือฝ่ายที่เกี่ยวข้อง การติดตามการทำงาน โปรเจกต์ และเป้าหมายให้สำเร็จตามแผนที่วางไว้ ทั้งนี้ Asana ยังเป็นแพลตฟอร์มที่มีความยืดหยุ่นสูงเหมาะกับการทำงานในปัจจุบัน ทั้งการตั้งค่ามุมมองของหน้าจอการทำงานให้เหมาะสมกับตัวเองได้ การเชื่อมต่อเข้ากับแพลตฟอร์มอื่น ๆ ที่องค์กรใช้งานอยู่ การสร้างรีพอร์ทเพื่อให้เห็นภาพรวมของโปรเจกต์เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของการทำงานและทีมที่ตรงจุด รวมถึงการใช้งานบนมือถือที่เป็นแอปพลิเคชันและรองรับทั้ง iOS และ Android สามารถติดตามโปรเจกต์ได้แม้กระทั่งตอนเดินทาง ฟีเจอร์ของ Asana มีอะไรบ้าง? จัดระเบียบงาน (Organize work) : สร้าง Tasks งานหรือโปรเจกต์ พร้อมกระจายงานที่สามารถจัดการได้และมอบหมายงานให้กับสมาชิกในทีมที่เกี่ยวข้อง ทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ (Collaborate effectively) : สามารถสื่อสารกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง แชร์ไฟล์ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความคืบหน้าของงาน ภายใน Asana ได้ทั้งหมด ติดตามความคืบหน้า (Track progress) : ติดตามดูสถานะของงานและโปรเจกต์ทั้งหมดได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย กำหนดเวลาของโปรเจกต์ (Project deadlines) : กำหนดเวลาสำหรับงานและโปรเจกต์ และมีการส่งแจ้งเตือนเมื่อเวลานั้นใกล้เข้ามา จัดลำดับความสำคัญของงาน (Prioritize work) : ใช้ฟีเจอร์ที่ช่วยจัดลำดับความสำคัญและวันครบกำหนดเพื่อให้แน่ใจว่างานไหนสำคัญที่สุดและต้องทำให้เสร็จก่อน กำหนดเป้าหมาย (Set goals) : ติดตามความคืบหน้าของงาน เพื่อนำไปสู่เป้าหมายหลักของบริษัท และดูว่างานแต่ละอย่างมีส่วนช่วยให้ภาพรวมของบริษัทโตขึ้นได้อย่างไร การเชื่อมต่ออย่างอิสระ (Integrations) : เชื่อมต่อ Asana กับเครื่องมือและแพลตฟอร์มที่คุณใช้อยู่แล้ว เช่น Slack, Google Drive, Dropbox และอื่น ๆ ได้อย่างง่ายดาย ประโยชน์ของการใช้ Asana คืออะไร? 1.ช่วยจัดระเบียบและเพิ่มความชัดเจนให้กับองค์กร (Improved organization and clarity) ศูนย์กลางของข้อมูล: ช่วยกำจัดข้อมูลที่กระจัดกระจายทั้งในอีเมล...

Continue reading