ระบบ Ticket คืออะไร?

การเข้าถึงที่แตกต่างกัน จำนวนช่องทางการสื่อสารที่ถูกสร้างขึ้นในปัจจุบันเพื่ออำนวยความสะดวกในการติดต่อสื่อสาร ทำให้ลูกค้ามีทางเลือกในการติดต่อกับเจ้าหน้าที่มากยิ่งขึ้น แต่ขณะเดียวกันกลับเป็นเรื่องยากที่จะรองรับลูกค้าผ่านการบริการที่สอดคล้องกัน หลายๆบริษัทอนุญาตให้ลูกค้าส่งคำร้องขอผ่านทางแบบฟอร์มบนเว็บไซต์ ซึ่งมักบังคับให้ลูกค้ากรอกข้อมูลต่างๆที่จำเป็น เช่น หมายเลขบัญชี หรือ อีเมล ซึ่งช่วยให้มั่นใจว่าเจ้าหน้าที่จะได้รับข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการให้บริการ แต่ก็ไม่ใช่ประสบการณ์ที่ดีสำหรับลูกค้าเสมอไป ลูกค้าบางคนชอบติดต่อด้วยโทรศัพท์เพราะมีความรวดเร็ว บางคนชอบส่งข้อความสั้นๆอย่างการทวีต ทำให้ธุรกิจในปัจจุบันถูกบังคับให้ต้องมีการรองรับลูกค้าที่เข้ามาจากช่องทางที่หลากหลาย ซึ่งบางช่องทางอาจขาดข้อมูลของลูกค้าที่จำเป็น นอกจากนี้ด้วยรูปแบบช่องทางที่แตกต่างกัน ทำให้การประสานงานเป็นไปได้ยาก ยกตัวอย่างเช่น ลูกค้าอาจจะส่งเรื่องร้องเรียนบริษัทไปทางอีเมลก่อน จากนั้นมีการทวีตข้อความร้องเรียนอีกครั้ง ซึ่งเป็นไปได้ว่าเจ้าหน้าที่ที่รับเรื่องจากคนละช่องทางการร้องเรียนอาจไม่ได้รับทราบมาก่อนว่าลูกค้าได้แจ้งเรื่องเข้ามาก่อนแล้ว และข้อมูลดังกล่าวของลูกค้าจะไม่ได้ถูกบันทึกไว้เพื่อใช้อ้างอิงในครั้งต่อๆไป ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่มีข้อมูลในการอ้างอิงถึงปัญหาในการให้บริการกับลูกค้ารายเดิม ฉะนั้นระบบ Ticket จึงถูกคิดค้นมาเพื่อให้ลูกค้าสามารถติดต่อกับบริษัทผ่านช่องทางที่ต้องการได้ และยังมั่นใจว่าทางเจ้าหน้าที่จะได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ของลูกค้าจากการบันทึกเข้าภายในระบบที่มีการจัดระเบียบขั้นสูง ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถเรียนรู้และปรับปรุงการบริการให้ดีขึ้นในครั้งต่อไป ระบบ Ticket คืออะไร?Ticket System หรือ ระบบ Ticket คือ ซอฟต์แวร์ที่ช่วยรวบรวมคำร้องขอของลูกค้าทั้งหมดที่มาจากหลากหลายช่องทางนำมาจัดเก็บไว้ในที่เดียว พูดง่ายๆก็คือ ไม่ว่าลูกค้าจะติดต่อคุณเข้ามาทาง Live Chat, E-mail, Facebook, Messenger, Line@หรือ Twitter ก็ตาม ข้อความเหล่านั้นจะถูกส่งเข้ามาและถูกเก็บเป็น Ticket ไว้ในระบบหรือหน้าแพลตฟอร์มนั่นเอง รู้หรือไม่?ระบบการจัดการ Ticket หรือ Ticket management ช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถปรับปรุงการสื่อสารกับลูกค้าให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นอย่างง่ายดายในแพลตฟอร์มเดียว ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถแก้ปัญหาให้กับลูกค้าในแต่ละครั้งได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น และในกรณีที่ลูกค้ารายเดิมกลับมาอีกครั้ง เจ้าหน้าที่สามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญของลูกค้ารายนั้นโดยอัตโนมัติ รวมถึงข้อมูลของการติดต่อครั้งสุดท้าย ว่าลูกค้ารายนั้นมีปัญหาอะไร เจ้าหน้าที่แก้ปัญหาให้อย่างไร และเจ้าหน้าที่คนก่อนหน้าสื่อสารอะไรไปกับลูกค้าท่านนี้บ้าง นอกจากนี้ระบบการจัดการ Ticket ยังช่วยรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ที่สามารถนำมาใช้เพื่อปรับปรุงทีมเจ้าหน้าที่ เมื่อมีปัญหาที่ลูกค้าหลายรายได้รับบ่อยๆ เจ้าหน้าที่สามารถทำความเข้าใจเกี่ยวกับปัญหาดังกล่าวและดำเนินการแก้ไขปัญหานั้นๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นเมื่อไม่มีระบบการจัดการ Ticket คำร้องขอของลูกค้าผ่านช่องทางที่บริษัทไม่มีการติดตามจะถูกปล่อยทิ้งไปและไม่มีใครสังเกตเห็น ยากต่อการติดตามลูกค้าและดูไม่เป็นมืออาชีพ เนื่องจากไม่มีระบบที่มีประสิทธิภาพในการติดตามข้อมูลของลูกค้า เมื่อลูกค้ารายเดิมติดต่อเข้ามา ในมุมมองของบริษัทจะเป็นการติดต่อครั้งแรกกับลูกค้ารายเดิมเสมอ ซึ่งไม่ใช่เรื่องดี ในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า ยุ่งยากเมื่อต้องรับมือกับลูกค้าที่เข้ามาหลากหลายช่องทาง เป็นเหตุให้อาจมี Ticket ที่สูญหายหรือถูกละเลย ยากต่อการจัดการกับ Ticket ที่เข้ามา เมื่อไม่มีการจัดหมวดหมู่และเรียงลำดับ Ticket ที่ชัดเจน ต้องคอยเปิดทุกหน้าต่างของช่องทางการติดต่อลูกค้า เช่น E-mail, Facebook, Messenger, Line@ หรือ Twitter อยู่ตลอดเวลา แทบจะติดตามไม่ได้เลยเมื่อมีข้อผิดพลาด ที่มา: Zendesk...

Continue reading

ประมวลผลงานที่โดดเด่นของ G Suite ในปี 2017 ที่ผ่านมา

เราลองมาดูภาพรวมกันว่า เมื่อปี 2017 ที่ผ่านมา มีอะไรที่น่าสนใจเกี่ยวกับ G Suite บ้าง   1. ระบบ AI แสนอัจฉริยะจาก Google ทางกูเกิ้ลได้รวมระบบ AI ใส่ลงใน G Suite ให้คุณสามารถบรรลุผลได้มากขึ้นโดยใช้เวลาน้อยลง ด้วยระบบอัจฉริยะ (Machine Learing) อย่างเช่น ใน Google Sheets ช่วยคุณสร้างภาพแผนภูมิ ตาราง จากการระบุประโยคคำถาม คุณจะได้คำตอบสำเร็จรูปที่คุณต้องการได้ในทันที 2. ช่วยปกป้องข้อมูลทางธุรกิจของคุณ การป้องกันข้อมูลสำคัญทางธุรกิจเป็นสิ่งท้าทายที่ทุกบริษัทต้องเผชิญ แต่ Gmail ช่วยแจ้งเตือนเมื่อคุณกำลังโต้ตอบอีเมลกับบุคคลอื่นนอกชื่อโดเมนบริษัทของคุณ นอกจากนี้ใน Google Drive ช่วยคุณปกป้องข้อมูลได้อย่างง่ายดายด้วยการควบคุม จำกัดการแชร์ข้อมูล และยังมี Google Vault เครื่องมือที่จะช่วยรองรับข้อกำหนดทางกฎหมาย และการปฏิบัติตามเงื่อนไขของบริษัท และยังช่วยให้คุณสามารถจัดการแอปพลิเคชันของบุคคลที่สามที่สามารถเข้าถึงข้อมูล G Suite ของคุณได้ง่ายขึ้น 3. ให้ความสำคัญกับการประชุม ทราบหรือไม่ว่าเราใช้เวลาไปกับการประชุมอย่างมากโดยไม่รู้ตัว กูเกิ้ลสร้างประสบการณ์ใหม่ใน Hangouts สำหรับองค์กร ออกแบบเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในห้องประชุม นอกจากนี้ Google Calendar ยังทำการเปลี่ยนโฉมใหม่ และสามารถใช้งานได้แล้วบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ของคุณ 4. การแก้ปัญหาระดับองค์กรเพื่อการทำงานร่วมกัน และการจัดเก็บข้อมูล บริษัทใหญ่มักจะปวดหัวกับการจัดการเอกสารต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแผนการทำงาน แผนการประชุม หรือแผนการเงิน ดังนั้นจึงต้องมีตัวช่วยในการค้นหา จัดการเอกสารของคุณ ซึ่งทางกูเกิ้ลทำการพัฒนา Google Drive อยู่เสมอ เพื่อให้มั่นใจได้ว่า Google Drive ตอบโจทย์ความต้องการของคนในองค์กรอย่างแท้จริง ซึ่งมีเครื่องการันตีด้วยว่า Google Drive ถูกให้ชื่อว่าเป็นผู้นำด้านคลาวด์โซลูชัน Gartner และ Forrester Wave ซึ่งคุณสามารถอ่านบทความได้ที่นี่ 5. สร้างเครื่องมือสำหรับการตลาด เพื่อการผสานรวมกันได้มากยิ่งขึ้น กูเกิ้ลสร้างเครื่องมือที่จะช่วยให้การทำการตลาด และการขายมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อย่างการประกาศเป็นพาร์ทเนอร์กับ Salesforce อย่างเป็นทางการ นอกจากนี้ยังรวม Hire...

Continue reading

แก้ปัญหาระบบภายในมหาวิทยาลัยแบบเดิมๆ ฉบับ UCLA

การใช้งาน จำนวนนักศึกษา จำนวนเจ้าหน้าที่แผนก ฟีเจอร์ที่ชอบ โซลูชันที่ใช้ ภายใน มากกว่า 43,000 200 ทริกเกอร์ University of California, Los Angeles หรือ UCLA เปิดดำเนินกิจการครั้งแรกที่ลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย เป็นหนึ่งในเก้าวิทยาเขตของ University of California แผนกจิตวิทยาของ UCLA เป็นหนึ่งในหน่วยงานที่ใหญ่และมีประสิทธิภาพมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งโดดเด่นในเรื่องของการมีสิ่งอำนวยความสะดวกและทรัพยากรจำนวนมากเพื่อโอกาสในการวิจัยนวัตกรรมใหม่ๆ มากมาย โดยคณะอาจารย์ที่มีชื่อเสียงจะได้รับทุนการศึกษาประจำปีมากกว่า 14 ล้านเหรียญสหรัฐ และได้รับการยอมรับให้เป็นผู้นำในสาขาของตน เช่นเดียวกับมหาวิทยาลัยอื่นๆ UCLA พยายามทำให้การบริการของมหาวิทยาลัยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อที่จะสามารถทุ่มเททรัพยากรให้กับการเรียนการสอนมากยิ่งขึ้น ยกเว้นภาควิชาจิตวิทยา ซึ่งดำเนินงานด้าน core help desk ด้วยเจ้าหน้าที่เพียงแค่ 2 คน ในการจัดการคำร้องขอจากเจ้าหน้าที่ อาจารย์ และนักวิจัยมากกว่า 200 คน Cathy McCann ผู้ดูแลแผนกให้ความช่วยเหลือกล่าวว่า “หลายปีที่ผ่านมาเราได้รับการร้องขอในรูปแบบต่างๆ ทั้งทางอีเมล โทรศัพท์ และบุคคล โดยคำร้องขอเหล่านั้นมีตั้งแต่การขอรหัสผ่านที่เป็นเรื่องง่ายๆ ไปจนถึงปัญหาที่ซับซ้อน ในขณะที่เรามุ่งมั่นและพยายามอย่างหนักเราก็พบว่าการทำงานจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นถ้าเรามีระบบ Ticket ง่ายๆ ที่ช่วยให้เราสามารถจัดการคำร้องขอและติดตามทุกอย่างได้จากส่วนกลาง นอกจากนี้เรายังต้องการ web-based help desk เพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องใช้ทรัพยากรด้านไอทีภายในอีกด้วย” McCann กล่าวต่อว่า “ราคาของ Zendesk Support ความสะดวกสบายและความง่ายในการใช้งานไม่มีเจ้าไหนเทียบได้ โซลูชันยังมีฟีเจอร์มากมาย แต่ในขณะเดียวกันก็ใช้งานได้ง่ายทั้งสำหรับเราและสำหรับผู้ใช้งานของเรา ในฐานะที่เป็นทีมเล็กๆ ที่ให้บริการฐานผู้ใช้จำนวนมากที่แตกต่างกันไปในด้านความถนัดทางเทคนิค McCann จะต้องแน่ใจว่ามีการสื่อสารกันอย่างกระชับได้ใจความเมื่อต้องแก้ไขปัญหา และด้วยทริกเกอร์อัตโนมัติที่เกิดขึ้นตามการตั้งค่าเงื่อนไขต่างๆที่กำหนดไว้ในขั้นตอนการทำงานขององค์กร ช่วยเปลี่ยนการสนทนาที่เคยเกิดขึ้นผ่านอีเมลหลายฉบับและนำมารวบรวมไว้ในการสนทนาเดียวที่สามารถติดตามได้ “ทริกเกอร์ของ Zendesk Support เหมาะสำหรับการช่วยให้พนักงานกลุ่มเล็กๆของเรา สื่อสารกับผู้ใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วย Support ทุกๆครั้งที่มีการอัปเดตระบบ ผู้ใช้จะได้รับการอัปเดตสถานะทางอีเมลเพื่อแจ้งให้ผู้ใช้งานรู้ว่าเราไม่ได้ละเลยพวกเขา” McCann กล่าว McCann ยังสังเกตอีกว่าเธอได้รับประสบการณ์ที่ราบรื่นในการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ของ Zendesk “โดยปกติเวลาเราโทรหาบริษัทอื่นๆ มักได้รับการโอนสายไปทั่วทุกแผนก แต่เมื่อใดก็ตามที่ฉันโทรหา Zendesk ฉันได้เชื่อมต่อกับคนที่ใช่อย่างรวดเร็ว”...

Continue reading

7 ประโยชน์ที่คุณจะได้รับจากการใช้ G Suite สำหรับธุรกิจ

การใช้ชื่อโดเมนเป็นชื่อเดียวกับบริษัทของคุณในการทำธุรกิจ (อย่างเช่น john@yourcompany.com) จะช่วยให้บริษัทของคุณดูมีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น และเป็นเครื่องยืนยันว่าคุณกำลังทำธุรกิจอย่างจริงจัง แต่ยังมีหลายธุรกิจที่ยังใช้ชื่อโดเมนเป็น “@gmail.com” อยู่เลย สาเหตุหลักๆ อาจจะมาจากกลัวการเปลี่ยนแปลง กลัวระบบใหม่ที่ไม่คุ้นเคย หรือค่าใช้จ่ายบริษัทที่เพิ่มขึ้น เป็นต้น แต่หมดกังวลไปได้เลย เพราะสิ่งที่เราจะนำเสนอต่อไปนี้ จะทำให้คุณสนใจหันมาใช้ G Suite ได้อย่างแน่นอน หน้าเว็บอีเมลแบบเดิม หน้าเว็บอีเมลของ G Suite ไม่มีอะไรต่างจาก Gmail ที่คุณใช้เลย เพราะฉะนั้นคุณจึงไม่ต้องกังวลเรื่องการสร้างความคุ้นเคยใหม่ สร้างแบรนด์ให้ธุรกิจของคุณ นอกจากจะใช้อีเมลในการติดต่อธุรกิจที่เป็นชื่อโดเมนของคุณเองแล้ว หน้าเว็บอีเมลยังสามารถใส่โลโก้บริษัท แทนโลโก้ของกูเกิ้ลได้อีกด้วย หน่วยความจำบนระบบคลาวด์ แต่ละ user จะได้รับพื้นที่อีเมล เอกสารต่างๆ ถึง 30GB จากเดิม 15GB ทำงานร่วมกันแบบเรียลไทม์ G Suite ออกแบบมาให้คุณและเพื่อนร่วมกันสามารถทำงานร่วมกันไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน เมื่อไหร่ เวลาใด และยังสามารถแชร์เอกสารต่างๆ ด้วยบริการอื่นๆ ที่มีอยู่ใน G Suite อย่าง Google Drive, Google Docs, Google Sheets, หรือ Google Slides เป็นต้น เชื่อมต่อได้ทุกอุปกรณ์ สามารถใช้ IMAP เพื่อช่วยให้ข้อมูลในกล่องข้อความของคุณเชื่อมต่อได้กับทุกอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์เคลื่อนที่ต่างๆ แอปพลิเคชันอย่าง Apple Mail หรือ Microsoft Outlook สามารถรองรับการตั้งค่า IMAP ของกูเกิ้ลได้อีกด้วย ซึ่งการใช้ IMAP ข้อมูลของคุณถูกเก็บรวมอยู่ในระบบคลาวด์ เป็นระบบศูนย์กลาง เมื่อคุณละออกจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ มาใช้โทรศัพท์มือถือ กล่องข้อความของคุณก็จะถูกซิงค์ ข้อมูลต่างๆ ยังคงเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง การตั้งค่าที่น่าเชื่อถือ หากโฮสต์ของเว็บคุณเกิดออฟไลน์ หรือคุณตัดสินใจที่จะเปลี่ยนโฮสต์ คุณยังสามารถใช้งานอีเมลต่อได้อยู่โดยไม่มีปัญหาขัดข้องใดๆ เติบโตไปพร้อมกับธุรกิจคุณ G Suite สามารถเพิ่มหรือลบ user ตามการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจคุณได้อย่างอิสระ แต่ไม่ใช่แค่เพียงเท่านี้...

Continue reading

ปรับปรุงประสบการณ์การค้าปลีกด้วย Live Chat เชิงพาณิชย์

ช่องทางการสื่อสารที่คุณใช้สนับสนุนลูกค้าไม่ควรต้องมีความยุ่งยาก และในปัจจุบันแบรนด์ต่างๆ จำเป็นต้องมีช่องทางการสนับสนุนให้ครอบคลุมอยู่ทุกหนทุกแห่งของลูกค้าบนโลกออนไลน์ ในยุคที่การค้าเชิงพานิชย์ต้องเข้าสู่การสนทนาบนโลกออนไลน์ Live Chat หรือ Social Message ได้ถูกออกแบบมาเพื่อเชื่อมต่อลูกค้ากับแบรนด์หรือร้านค้าที่พวกเขาชื่นชอบในแบบเรียลไทม์ เพื่อช่วยเติมเต็มช่องว่างระหว่างลูกค้าในการค้นหาสิ่งที่ต้องการมากยิ่งขึ้นเพียงแค่คลิก add to cart ก็สามารถซื้อของออนไลน์ง่ายๆได้ที่บ้าน ซึ่งส่งผลให้อุตสาหกรรมค้าปลีกต้องมีการปรับตัวเป็นอย่างมาก การแชทและแมสเสจจะช่วยให้คุณสามารถมอบประสบการณ์ให้กับลูกค้าได้ทุกที่ทุกเวลา โดยไม่ต้องคำนึงว่าลูกค้าจะติดต่อมาเมื่อไหร่หรืออย่างไร Live Chat เชิงพานิชย์ไม่ใช่เรื่องของอนาคตอีกต่อไป แชท คือ สิ่งที่อยู่บนเว็บไซต์ของคุณหรือในแอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ ขณะที่แมสเสจ (Message) หรือข้อความถูกให้บริการผ่านบุคคลที่ 3 เช่น Facebook Messenger หรือ Twitter Direct Message ซึ่งทั้งสองแบบถือเป็นการสนทนาในแบบเรียลไทม์ และสามารถเป็นการสนทนาเชิงรุกได้เช่นกัน แต่ความแตกต่างที่สำคัญคือการเข้าถึงของลูกค้า ตัวอย่างเช่น ลูกค้าใช้เวลาหลายชั่วโมงบนโซเชียลมีเดียที่เต็มไปด้วยสิ่งเร้าและคู่แข่งจำนวนมาก แต่เมื่อลูกค้าเห็นสิ่งที่ชื่อชอบในเพจ Facebook ของคุณ ลูกค้ามักไม่ต้องการที่จะกระโดดไปที่หน้าเว็บไซต์ของคุณให้ยุ่งยาก ฉะนั้นในบรรดาสิ่งรบกวนทั้งหมดในหน้า News Feed เมื่อลูกค้าเลือกที่จะหยุดและมีส่วนร่วมกับคุณ เหตุใดจะต้องเสี่ยงที่จะสูญเสียลูกค้าโดยการทำให้ลูกค้าต้องเปลี่ยนช่องทางการสื่อสารไปยังเว็บไซต์ของคุณเพื่อถามคำถามที่พวกเขาต้องการ และในทางกลับกันเมื่อลูกค้าเลือกที่จะเข้าเว็บไซต์ของคุณลูกค้าก็ต้องการที่จะติดต่อกับคุณผ่านบนเว็บไซต์ โดยไม่ต้องการที่จะกระโดดไปที่หน้าเพจหรือช่องทางการสื่อสารอื่นๆ เช่นกัน Zendesk Chat VS. Zendesk Message แชท (Chat) ในแพลตฟอร์มของ Zendesk Chat คุณสามารถติดตั้ง AI ที่สามารถเปิดใช้งานแชทบอท ซึ่งตัวแชทบอทนี้สามารถช่วยคุณ ตอบคำถามลูกค้าเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ต่างๆ ตั้งแต่กางเกงยีนส์ไปจนถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ แชทบอทอาจถามลูกค้าว่า กางเกงยีนส์ไซส์ไหนที่พอดีกับคุณ เพื่อเป็นการสำรวจความพึงพอใจเกี่ยวกับไซส์ของลูกค้า จากนั้นบอทจะทำการผสานรวมกับข้อมูลไซส์ที่มีอยู่บนเว็บไซต์ เพื่อให้คำแนะนำเกี่ยวกับขนาดที่เหมาะสมตามคีย์เวิร์ดหลักที่ลูกค้ากำลังมองหาเพื่อจัดหาคำตอบสำหรับคำถามของลูกค้า ยกตัวอย่างเคส Happy Socks ในภาพด้านบน คุณจะเห็นหน้าต่างเชิงรุกที่บอททำการทักลูกค้าไปก่อนเพื่อเสนอความห่วงใยว่ามีอะไรให้ช่วยไหม เพื่อให้แน่ใจว่าลูกค้าจะได้รับในสิ่งที่ต้องการ ซึ่งในกรณีนี้ลูกค้าต้องการถุงเท้าสำหรับฤดูร้อน บอทก็จะทำการจับคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องและทำการส่งลิงก์ไปยังหน้าถุงเท้าสำหรับฤดูร้อน ซึ่งแนวคิดนี้เป็นการใช้ประโยชน์จากเนื้อหาของผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่แล้วบนเว็บไซต์ และนำมาปรับใช้กับป๊อบอัพอัจฉริยะเพื่อเพิ่มประสบการณ์ตลอดการใช้งาน ของลูกค้า แมสเสจ (Message) ในยุคโซเชียลมีเดียแมสเสจช่วยให้คุณมีโอกาสตอบโต้กับลูกค้าในระดับที่เป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น ด้วย Zendesk Message จะช่วยให้เจ้าหน้าของคุณสามารถจัดการกับการแชทจากช่องทางต่างๆ บนโซเชียลที่เข้ามาทั้งหมด และสามารถตอบคำถามภายในหน้าอินเทอร์เฟซเดียวได้ ไม่ว่าจะเป็นข้อความจาก Facebook Messenger, Line@ และอื่นๆ ซึ่งจะช่วยให้บริษัทสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ...

Continue reading

แค่มี Google Translate ไม่ต้องกลัวหลงทางหรือสั่งอาหารไม่ได้

ปัญหาของคนที่ใช้ Google Translate หลายคนคือเวลาเห็นป้ายข้อความในภาษาต่างประเทศ ไม่รู้จะแปลยังไง แต่ต่อไปนี้เราไปเที่ยวประเทศไหนก็ไม่ต้องกลัวหลงทาง หรือสั่งอาหารไม่ได้แล้วครับ เพราะแค่พกเครื่องโทรศัพท์มือถือไปไหนมาไหน เราก็เที่ยวได้อย่างสบายใจ ก่อนหน้านี้ถ้าใครจำได้ Google Translate แอพแปลภาษาของ Google บนโทรศัพท์มือถือสร้างความตื่นตะลึงให้กับชาวโลกด้วยพีเจอร์ Instant translate ที่เพียงเราเอากล้องในโทรศัพท์มือถือไปส่องตามป้าย,หน้าจอแสดงผล,กระดาษ หรืออะไรก็ตามแต่ที่มีตัวหนังสือพิมพ์อยู่ มันจะสามารถแปลคำหรือประโยคที่อยู่บนป้ายเหล่านั้นให้เป็นภาษาที่เราต้องการได้เลยทันที แต่น่าเสียดายที่ช่วงแรกที่ปล่อยออกมา Google รองรับเพียง 7 ภาษาเท่านั้นและไม่มีภาษาไทย มาจนถึงวันนี้ Google Translate อัพเดตใหม่รองรับภาษาไทยในการทำ Instant translate หรือ แปลสด แล้วครับ  Google ประกาศเรื่องอัพเดตใหม่ของ Google Translate เมื่อวันพุธที่ 29 กรกฎาคม 2559 ที่ผ่านมาว่า Quote: “พวกเราเริ่มต้นเปิดความสามารถนี้ให้กับ 7 ภาษาคือ อังกฤษ, ฝรั่งเศส, เยอรมัน, อิตาลี, โปรตุเกส, รัสเซีย และสเปน มาวันนี้เราขอเพิ่มเข้าไปอีก 20 ภาษา โดยคุณสามารถแปลแบบไปกลับระหว่างภาษาอังกฤษ, บัลแกเรีย, คาตาลัน, โครเอเชีย, เช็ก, เดนิช, ดัตช์, ฟิลิปปินส์, ฟินแลนด์, ฮังการี, อินโดนีเซีย, ลิทัวเนีย, นอร์เวย์, โปแลนด์, โรมาเนีย, สโลวัก, สวีเดน, ตุรกี และยูเครน นอกจากนั้นคุณยังสามารถแปลแบบทางเดียวจากภาษาอังกฤษไปเป็นภาษาฮินดีและภาษาไทยได้อีกด้วย (หรือถ่ายภาพนิ่งของตัวหนังสือแล้วเอามาแปลทีหลัง เราก็แปลได้ถึง 37 ภาษา)” จากการทดลองด้วยตัวเองพบว่า เมื่อเราอัพเดต Google Translate แล้วเข้าไปใช้งานเลือกภาษาเป็น English -> Thai เมื่อกดปุ่มกล้องแล้วจะมีข้อความแจ้งมาให้ download language pack เพิ่มอีกประมาณ 3MB จากนั้นก็ใช้งานได้เลยครับ เอากล้องไปส่งตัวหนังสือภาษาอังกฤษที่ไหนก็ได้ แล้วมันจะถูกแทนที่ด้วยภาษาไทยทันที มหัศจรรย์มาก คือเข้าใจอารมณ์ของ “วุ้นแปลภาษา” ของวิเศษในโดราเอมอนเลยทีเดียว วิดีโอต่อไปนี้จะเป็นวีดีโอแนะนำอัพเดตของ Google Translate ที่ทำประกอบเพลง La Bamba...

Continue reading

3 เครื่องมือสุดเทพ บน Gmail ที่คุณอาจยังไม่รู้จัก

มาถึงวันนี้เชื่อว่าคงไม่มีใครไม่รู้จัก Gmail บริการ Free Email ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในขณะนี้ ที่สามารถใช้งานบนอุปกรณ์ชนิดใดก็ได้ มาพร้อมกับ เครื่องมือการใช้งานที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ปฏิทินสำหรับบันทึกตารางการประชุม, ห้องสนทนาสำหรับเจรจาธุรกิจ, รวมถึงมีพื้นที่สำหรับจัดเก็บ Email ที่มากถึง 15 GB ทำให้มีผู้ใช้งาน Gmail มากที่สุดในโลก คือมากกว่า 425 ล้านคน แต่เครื่องมือการใช้งานดังกล่าว เป็นเครื่องมือที่คนส่วนใหญ่รู้จักและใช้งานเป็นประจำอยู่แล้ว วันนี้เราจะขอแนะนำเครื่องมือที่จะทำให้ชีวิตคุณง่ายขึ้น ด้วย 3 เครื่องมือบน Gmail ที่คุณอาจไม่เคยใช้ หรือไม่รู้มาก่อนว่ามีอยู่ ซึ่งจะเป็นอะไรบ้างนั้น ติดตามได้ที่นี่เลย 1. ปุ่ม “ยกเลิกการส่ง” คุณอาจเคยสะกดข้อความบนอีเมลผิด ลืมแนบไฟล์สำคัญ หรือส่งอีเมลไปให้ผิดคน! แต่กว่าจะรู้ตัวก็กด ส่ง อีเมลไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งอีเมลที่ส่งไปอย่างผิดพลาดนั้นอาจทำให้ชีวิตต้องเจอกับปัญหาอื่นๆ ที่ตามมาได้ ทาง Google จึงได้ออกแบบตัวช่วยนี้ขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหานั้นให้กับคุณ เพียงแค่คลิกที่ปุ่ม “ยกเลิกการส่ง” แบบง่ายๆ เท่านั้นเอง วิธีการตั้งค่า “ยกเลิกการส่ง” คลิก ไอคอนเฟือง ที่มุมบนขวาของหน้า Gmail >> คลิกตัวเลือก การตั้งค่า >> คลิกแท็บ ทั่วไป >> และคลิก “เปิดใช้” ที่หัวข้อ ยกเลิกการส่ง และสามารถ ตั้งระยะเวลาการยกเลิก ได้ตามต้องการ สุดท้ายคลิก บันทึก   เพียงเท่านี้ คุณก็จะมีเวลา 5-30 วินาทีในการตรวจทานความถูกต้องของอีเมลหลังจากที่กด ส่ง ไปแล้ว เพื่อที่หากต้องการแก้ไขเพิ่มเติมก็สามารถกด Undo กลับสู่หน้าแก้ไขอีเมลได้อย่างทันท่วงที   2. เครื่องมือ “การตอบกลับสำเร็จรูป” หากคุณรู้สึกว่าต้องตอบคำถาม หรือพิมพ์ข้อความในรูปแบบซ้ำ ๆ เพื่อตอบกลับอีเมลอยู่บ่อยครั้ง เราขอแนะนำให้คุณใช้ตัวช่วย ด้วยเครื่องมือที่มีชื่อว่า “การตอบกลับสำเร็จรูป (Canned Responses)” ที่จะทำให้คุณสามารถพิมพ์เนื้อหาของอีเมลเก็บเอาไว้ และสามารถเรียกขึ้นมาใช้ได้ทุกครั้งที่ต้องการ การเปิดใช้งานก็สามารถทำได้ง่าย เพียงแค่ไม่กี่คลิก  วิธีการตั้งค่า “การตอบกลับสำเร็จรูป” คลิก ไอคอนเฟือง ที่มุมบนขวาของหน้า Gmail >> คลิกตัวเลือก การตั้งค่า >> คลิกแท็บ ห้องทดลอง (Labs) >> กรอกข้อความในช่องค้นหาห้องทดลอง ว่า “การตอบกลับสำเร็จรูป” >> เมื่อปรากฎหัวข้อดังกล่าวให้คลิก “ใช้งาน” >>...

Continue reading

เผยกลยุทธ์มัดใจผู้เล่นจากค่ายที่ผลิตเกมยอดฮิตอย่าง LOL

จำนวนเอเจนท์ 500+ ปริมาณ Ticket / ปี มากกว่า 3 ล้าน จำนวนผู้เล่น / เดือน มากกว่า 100 ล้าน จำนวนมาโคร 2,000 Products Used “ ในโลกแห่งรูนเทอร์ร่า ด้วยทักษะ การทำงานเป็นทีม และโชคช่วยอีกนิดหน่อย จะนำชัยชนะมาสู่คุณ จงก้าวไปสู่ชัยชนะสูงสุดด้วยการทำลายทีมอื่น ๆ และปกป้อง Nexus ไว้ให้ได้ ” ด้วยยอดผู้เล่นที่มากกว่า 100 ล้านรายต่อเดือน ทำให้เกม League of Legends จากค่าย Riot Games มีฐานแฟนๆที่เหนียวแน่นทั่วโลกที่ทุ่มเทให้กับการเล่นในลีกและจับตาดูการแข่งขันบน Twitch และ YouTube เกม League of Legends หรือที่เหล่าเกมเมอร์ในประเทศไทยรู้จักกันดีในชื่อย่อว่า LOL เปิดตัวในปี 2009 โดยจัดเป็นเกมออนไลน์ประเภท MOBA ที่ยังคงรักษาและดึงดูดผู้เล่นใหม่ๆ เนื่องจากตัวเกมมีการออกแบบที่น่าสนใจ โดยผู้ก่อตั้ง Brandon Ryze Beck และ Marc Tryndamere Merrill ต้องการสร้างเกมในฐานะที่เป็นผู้เล่นเองเพื่อผู้เล่นทั่วโลก และในทุกๆวัน ทีม Support Engineering ของ Riot Games ที่นำทีมโดย Shaun BlueFire Randall (product manager in Support Engineering) ได้พยายามค้นหาวิธีการที่จะช่วยลดอุปสรรคต่างๆที่ทำให้ผู้เล่นไม่สามารถเล่นเกมได้ และทำให้ประสบการณ์ของผู้เล่นดีขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งทำให้ League of Legends ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากจากการปรับกลยุทธ์ที่เหนือกว่าคู่แข่งค่ายอื่นๆ ในช่วงแรก Riot ใช้ระบบอีเมลเพื่อจัดการกับคำขอสนับสนุนต่างๆจากผู้เล่น แต่เมื่อฐานบริษัทได้เติบโตขึ้นอย่างมาก จึงเห็นได้ชัดเลยว่าบริษัทต้องการโซลูชันที่ดีกว่าในการสนับสนุนผู้เล่นที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งหลังจากทำการประเมินจากผู้จัดจำหน่ายหลายราย Riot Games ได้เลือกใช้ Zendesk...

Continue reading

จับไอเดียจากความคิด เนรมิตให้เกิดขึ้นจริงด้วย G Suite

หลายคนคงทราบกันดีว่า ไอเดียสามารถเกิดขึ้นได้หลายรูปแบบ G Suite ช่วยสรรสร้างงานต่างๆ จากไอเดียของคุณได้อย่างง่ายดาย และนี่คือ 4 วิธิเบื้องต้น ในการใช้แอพพลิเคชันอันชาญฉลาดใน G Suite จาก Google 1. ไอเดียนั้นจะลงตัวได้ ถ้าทุกคนในทีมคุยกัน สำหรับบางคน ไอเดียใหม่ๆ มักจะเกิดขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัว รีบระดมสมองกับเพื่อนร่วมทีมของคุณก่อนที่ไอเดียนั้นจะหายไปด้วยฟีเจอร์ “Find a Time” และ “Find a Room” ใน Google Calendar ฟีเจอร์อัจริยะที่จะช่วยค้นหาวันเวลาที่ว่างตรงกันมากที่สุดของคนในทีม และยังสามารถค้นหาห้องประชุมที่ว่างอยู่ พร้อมทั้งบอกรายละเอียดต่างๆให้เสร็จสรรพ 2. พักสมองสักนิด แล้วค่อยกลับมาคิดงานต่อ ในบางครั้งสิ่งที่ดีที่สุดที่คุณสามารถทำโปรเจ็คอันยาวไกลนี้ให้ราบรื่นต่อไปได้ ก็คือการพักสายตา ร่างกาย หรือจิตใจสักหน่อย ออกไปสูดอากาศด้านนอกสักนิด แต่คุณก็ยังสามารถติดตามโปรเจ็คได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว แม้ว่าตัวคุณจะอยู่นอกออฟฟิศก็ตาม ด้วย Google Drive ที่มีฟีเจอร์ค้นหาไฟล์ให้คุณอัตโนมัติ และถ้าคุณใช้ Team Drives ที่มาพร้อมกับ G Suite แพ็คเกจ Business ขึ้นไป คุณจะสามารถกำหนดสิทธิ์ในการแชร์ไฟล์ หรือการเข้าถึงข้อมูลของคนในทีม และยังรับรองในเรื่องความปลอดภัยข้อมูลได้มากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย 3. แก้ไขครั้งสุดท้าย แล้วนำเสนองานให้โดนใจ นัดเวลาว่างตรงกันได้แล้ว แต่ไม่เคยได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาครบทีมเสียที สิ่งเหล่านั้นจะไม่เป็นปัญหาสำหรับคุณอีกต่อไป เพราะคุณสามารถนำเสนองานให้เพื่อนร่วมทีมผ่าน Google Hangouts ได้เลย ไม่ว่าเพื่อนร่วมทีมจะอยู่ที่ไหนเวลาใด แถมคุณยังสามารถแชร์ Google Slides ของคุณจากคอมพิวเตอร์ให้เพื่อนในทีมดูผ่านอุปกรณ์ต่างๆ ของพวกเขาได้อีกด้วย 4. ติดตามผลโปรเจ็คของคุณ การคิดงานเป็นส่วนที่ยากแล้ว แต่ส่วนที่ยากกว่าก็คือการติดตาม หรือวัดผลความสำเร็จของโครงการ แต่ G Suite ก็ยังสามารถช่วยคุณได้เช่นเคย ลองใช้แบบสำเร็จรูปใน Google Sheets สร้างรายละเอียดตัวติดตามโครงการ Sheets ยังช่วยให้คุณสามารถหาจำนวนผลลัพธ์เมื่อสิ้นสุดโครงการของคุณ ใช้ Explore ใน Sheets เพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงลึกแบบทันที เพียงแค่ระบุคำถามที่ต้องการ แต่ต้องไม่ใช่สูตรเชิงคณิตศาสตร์ เมื่อเสร็จแล้วให้สร้าง Google Formขึ้นมาสักอัน เพื่อขอรับความคิดเห็นเกี่ยวกับการปรับปรุงโครงการในครั้งต่อไป และนี่ก็คือส่วนหนึ่งของการใช้เครื่องมือจาก G Suite เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด แต่ไม่ใช่แค่เพียงเท่านี้ G Suite ยังสามารถทำอะไรได้มากกว่าที่คุณคิด สนใจใช้ G Suite คุณสามารถสอบถามรายเอียดต่างๆ การใช้งาน หรือราคา G Suite กับทาง ดีมีเตอร์ ไอซีที ผู้ให้บริการ G Suite ในประเทศไทยได้เลยค่ะ ที่มา – Google Blog บริษัท ดีมีเตอร์ ไอซีที จำกัด ผู้ให้บริการ G Suite...

Continue reading