OMO คืออะไร? แนวคิดการผสานโลกออนไลน์–ออฟไลน์ (O2O) และกลยุทธ์การตลาดแบบ LINE OMO ในยุค “New Retail” การหลอมรวมระหว่างโลกออนไลน์และออฟไลน์ หรือที่เราเรียกว่า OMO (Online-Merge-Offline) ได้กลายเป็นหัวใจสำคัญของการแข่งขันทางธุรกิจยุคใหม่ รายงาน State of the Consumer 2025 (ตีพิมพ์ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2025) โดยบริษัทที่ปรึกษาระดับโลกอย่าง McKinsey สะท้อนภาพที่น่าสนใจของผู้บริโภคทั่วโลก ที่ผู้บริโภคทั่วโลกไม่ได้เป็นเพียงแค่ “นักช็อปดิจิทัล” อีกต่อไปแล้ว แต่เป็นกลุ่มคนที่มีพฤติกรรมซับซ้อนกว่าที่เคยเป็นมา เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน สิ่งที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจนคือ “ความอ่อนไหวต่อราคา” ที่ยังคงสูง ขณะที่ “ความภักดีต่อแบรนด์” กลับลดลงอย่างเห็นได้ชัด ผู้บริโภควันนี้เดินข้ามเข้าถึงไปมาระหว่างช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ได้อย่างเป็นเรื่องปกติ เพื่อค้นหาทั้ง “ความคุ้มค่า” และ “ประสบการณ์ที่เป็นของตนเอง” ดังนั้นสถานการณ์ตอนนี้จึงไม่ใช่เพียงยุคของการขายสินค้า แต่เป็นยุคที่แบรนด์ต้องเข้าใจพฤติกรรมมนุษย์ที่ผสานระหว่างข้อมูล เทคโนโลยี และอารมณ์อย่างแท้จริง ในตลาดที่ผู้บริโภคเป็นศูนย์กลางตามพฤติกรรมข้างต้น คำถามจึงมีว่าแบรนด์และธุรกิจต้องทำอย่างไรเพื่อเอาชนะใจลูกค้าอย่างยั่งยืน คำตอบของหลายแบรนด์ได้ชี้ไปที่กลยุทธ์ที่มีนักการตลาดพูดถึงมากที่สุดอันหนึ่งนั่นก็คือกลยุทธ์ OMO (Online-Merge-Offline) หรือการผสานโลกออนไลน์–ออฟไลน์ บทความนี้จะพาคุณผู้อ่านเจาะลึก โมเดลธุรกิจ OMO ปี 2025 เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง OMO และ O2O ในแต่ละด้าน และอธิบายว่า กลยุทธ์ในการใช้ LINE สำหรับ OMO จะช่วยแบรนด์เชื่อมต่อข้อมูลสมาชิกและจัดการฐานข้อมูลลูกค้าอย่างไร พร้อมแบ่งปันกรณีศึกษา Zenyum X Appier BotBonnie ที่ประสบความสำเร็จในไต้หวัน เพื่อให้ทุกท่านเข้าใจ “รูปแบบการปฏิสัมพันธ์ของลูกค้า” ในยุค OMO อีกด้วย อ่านเพิ่มเติม Appier คืออะไร? OMO คืออะไร? ไม่ใช่แค่ O2O แต่เป็นการผสานโลกจริง–โลกดิจิทัลแบบ “ยึดผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง” OMO (Online-Merge-Offline) คือแนวคิดการผสานช่องทางออนไลน์และออฟไลน์อย่างแนบสนิท แตกต่างจาก O2O ที่เป็นเพียงการนำลูกค้าออนไลน์มาที่หน้าร้าน OMO คือการ ทำลายกำแพงระหว่างออนไลน์กับออฟไลน์...
Continue readingAsana Features Updated ประจำเดือนตุลาคม 2025
เลือกอ่านหัวข้อที่คุณต้องการได้เลย! สำหรับ Asana Package Personal และ Basic Less feedback in Slack: การยืนยันการกระทำ (Action confirmations) จะไปแสดงเป็น การตอบกลับในเธรด (threaded replies) แทนที่จะเป็นโพสต์หลัก เพื่อลดการรบกวน จากการเชื่อม Slack กับ Asana Mobile push notifications sync across devices: คุณจะไม่ได้รับการแจ้งเตือนบนมือถือ หากคุณได้เก็บ (archived) การแจ้งเตือนเดียวกันนั้นไว้ใน Asana inbox บนเว็บแล้ว Guest authentication with magic links: ผู้ใช้งาน Guest สามารถเข้าสู่ระบบด้วยลิงก์แบบครั้งเดียวที่มีอายุจำกัด (magic links) ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานการยืนยันตัวตนของ FedRAMP/NIST โดยเหตุการณ์ทั้งหมดจะถูกบันทึกใน audit logs และปฏิบัติตามนโยบาย session ของโดเมน ดูรายละเอียดเพิ่มเติม ที่นี่ Multi-filter and multi-sort: สามารถใช้ตัวกรองหลายแบบและการเรียงลำดับหลายเงื่อนไขในมุมมองโปรเจกต์บน Android ได้แล้ว เช่นเดียวกับบน iOS Hide all images on Board view: ใช้ตัวเลือกการแสดงผล (view options toggle) เพื่อปิดภาพหน้าปกทั้งหมดบนบอร์ดของคุณ ทำให้สามารถสแกนงานได้ง่ายขึ้น ดูรายละเอียดเพิ่มเติม ที่นี่ Comment drafts sync on Android: เริ่มเขียนคอมเมนต์บนเว็บหรือ iOS แล้วมาต่อบน Android ได้ แต่เวอร์ชันแรกนี้รองรับเฉพาะแค่ข้อความ (text-only drafts) Team pages: แก้ไขชื่อและคำอธิบายของรายการที่จัดไว้ (curated items) ได้โดยไม่ต้องลบและสร้างใหม่ View...
Continue readingฟีเจอร์อันทรงพลังของ WeChat ที่เพิ่มพลังการตลาดของธุรกิจ
ธุรกิจและแบรนด์จำนวนมากที่มีบัญชีทางการของ WeChat หรือ WeChat Official Account (WeChat OA) เพื่อเป็นช่องทางในการ engagement กับลูกค้าชาวจีนโดยส่วนใหญ่ยังใช้ฟีเจอร์ของ WeChat OA ไม่ค่อยคุ้มค่าและเต็มที่นัก จากฟีเจอร์เครื่องมือการตลาดทั้งหมดของ WeChat OA ซึ่งแบรนด์หรือธุรกิจส่วนใหญ่มักจะใช้แค่การส่งบทความ (Contents) และการพูดคุยผ่านแชทบน WeChat OA เท่านั้น อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม WeChat Official Account คืออะไร หลายท่านอาจจะยังไม่ทราบว่า WeChat OA ทำได้มากกว่านั้น ไม่ว่าจะเป็นฟีเจอร์การทำงานแบบ CRM การทำแคมเปญการตลาดแบบระบุตำแหน่ง (Geo-Targeted Campaigns) วีดีโอสั้นบน WeChat Channel (Short Video) รวมไปถึงการเชื่อมต่อกับ WeCom เพื่อการคุยกับลูกค้าแบบ B2B แบบไร้รอยต่อ (WeCom เป็น WeChat Official Account อีกประเภท ที่ใช้สำหรับการสื่อสารภายในองค์กร) ในบทความนี้จะเป็นการแนะนำฟีเจอร์เด่นๆ ของ WeChat OA ที่ธุรกิจสามารถใช้ในการทำการตลาดและสร้างความสัมพันธ์ลูกค้าในประเทศจีนได้อย่างมีประสิทธิภาพ 1. สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าแบบเฉพาะกลุ่ม (Segmentation) ด้วย WeChat CRM WeChat OA ไม่ได้เป็นเพียงแอปสำหรับการแชท แต่ WeChat OA คือแพลตฟอร์มที่ช่วยให้แบรนด์บริหารความสัมพันธ์กับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับธุรกิจหรือแบรนด์ที่ต้องการประสบความสำเร็จในจีน การทำความเข้าใจฟีเจอร์ CRM (Customer Relationship Management) ของ WeChat OA เป็นสิ่งที่สำคัญ เราสามารถใส่ข้อมูลลูกค้าด้วย Tag เพื่อจัดกลุ่มลูกค้าตาม Segementation ได้ ในระบบ WeChat OA ไม่เพียงแค่เราจะมองเห็นรายชื่อผู้ติดตาม (Followers) เรายังสามารถใส่แท็ก (Tags) และแบ่งกลุ่มลูกค้าตามความชอบ เรื่องที่ติดต่อ ประวัติการซื้อ ระดับการมีส่วนร่วม และอื่น...
Continue readingถอดกรณีศึกษาเคส ดารา อ. และนักธุรกิจ พ. กับความปลอดภัยในการใช้งาน Google Drive
ถือเป็นข่าวดังทั้งในโลกออนไลน์และสื่อต่าง ๆ โดยเฉพาะในรายการโหนกระแสอาทิตย์ที่ผ่านมา กรณีนักธุรกิจ พ. อ้างว่าโดนฮุบธุรกิจจากดาราสาว อ. ซึ่งถึงแม้ว่าตอนนี้จะจบลงด้วยดี โดยการที่ดาราสาวเจรจาซื้อหุ้น 48% เป็นมูลค่า 25 ล้านบาท และต่างฝ่ายต่างถอนฟ้องซึ่งกันและกัน แต่ยังมีสิ่งที่ติดใจผู้เขียนและเชื่อว่าหลาย ๆ คนอาจจะมีข้อสงสัยที่เหมือน ๆ กันในเรื่องของความปลอดภัยในการใช้งาน Google Drive ที่มีการเอ่ยถึงว่าจุดเริ่มต้นเกิดจากน้องสาวของ อ. พบ “โลโก้รีแบรนด์อื่น ใน Google Drive ของบริษัท” ซึ่งมันเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ขึ้นได้อย่างไร? การใช้งาน Google Drive ยังคงมีความปลอดภัยหรือไม่อย่างไร? และเราควรป้องกันอย่างไรไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ขึ้น ซึ่งในบทความนี้ผู้เขียนก็ได้ถอดบทสัมภาษณ์ และสอบถามข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญของบริษัท Demeter ICT หลาย ๆ คน และนำมาเรียบเรียงเป็นกรณีศึกษาถึงประเด็นดังกล่าวให้กับผู้อ่านกันค่ะ ก่อนจะเริ่มมาทำความเข้าใจเบื้องต้นว่า Google Drive มีกี่ประเภท? Google Drive แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ คือ Google Drive สำหรับบุคคลทั่วไป (Personal) และ Google Drive ที่มาพร้อมกับ Google Workspace สำหรับองค์กร (Business) 1. Google Drive สำหรับบุคคลทั่วไป พื้นที่เก็บข้อมูล: ทุกบัญชี Google (Gmail) จะได้รับพื้นที่ฟรี 15 GB ซึ่งใช้ร่วมกันระหว่าง Google Drive, Gmail, และ Google Photos การจัดการ: ไฟล์ทั้งหมดจะอยู่ใน “My Drive” ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนตัวที่จัดการโดยเจ้าของบัญชีเพียงคนเดียว การทำงานร่วมกัน: สามารถแชร์ไฟล์และโฟลเดอร์ให้ผู้อื่นได้ แต่การควบคุมสิทธิ์จะทำเป็นรายบุคคลหรือรายกลุ่ม ถ้าต้องการพื้นที่เพิ่มขึ้น สามารถสมัครสมาชิก Google One ซึ่งเป็นแพ็กเกจพื้นที่เก็บข้อมูลสำหรับผู้ใช้ทั่วไป โดยมีตัวเลือกตั้งแต่ 100...
Continue readingนำข้อมูลสร้างรายงานด้วย AI ให้ตรงใจด้วยฟังก์ชัน Report ใน NotebookLM
ทุกวันนี้สาวก AI for Work หรือ Content AI Creator ต่างก็ยกให้ NotebookLM (AI ยอดนิยมจากค่าย Google) เป็นฮีโร่ช่วยชีวิตการทำงานจาก 5-6 ชั่วโมงให้ลดลงเหลือหลักนาทีได้! หลายท่านที่ยังไม่เคยใช้ อาจจะแปลกใจว่ามันขนาดนั้นเลยหรอ? ของแบบนี้จะมาเล่าสรรพคุณอย่างเดียวก็คงไม่เห็นภาพ ต้องลองเลย! เพราะเจ้า NotebookLM นี้จะช่วยรับหน้าที่เป็นผู้ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลจากแหล่งข้อมูลที่คุณอัปโหลดไป ไม่ว่าจะอยากรู้ข้อมูลอะไรก็สามารถโต้ตอบกับ AI ได้หมด แถมยังสามารถแปลงข้อมูลที่วิเคราะห์นั้นออกมาเป็นเนื้อหาที่พร้อมใช้อย่าง สร้างสรุปข้อมูลรูปแบบเสียงหรือ Podcast, สร้าง Video ,สร้าง Mind Map, สร้าง Flash card รวมถึง สร้าง Quiz ได้อีกด้วย นี่แหละที่ช่วยให้คุณไม่ต้องใช้เวลานานเกินไปกับการนั่งดึง Insight จากไฟล์ข้อมูลแล้วนั่งทำสรุปข้อมูลเอง NotebookLM ตัวเดียวรับจบได้ในไม่กี่นาที และความสามารถของ NotebooLM ไม่ได้หมดเพียงเท่านี้ เพราะล่าสุด Google ได้อัปเดตเพิ่มฟังก์ชันโหมด “Reports หรือ สร้างรายงานสรุปข้อมูลด้วย AI” ใน Studio เข้าไป พอได้ลองเล่นดูแล้วบอกเลยว่า นี่แหละคืออีกหนึ่งไม้เด็ดของ NotebookLM ! ฟังก์ชัน Reports ใน NotebookLM คืออะไร? ลองนึกถึงภาพที่คุณต้องนำข้อมูลมากมายมาเรียบเรียงให้เป็นรายงานดูสิ น่าจะใช้เวลาอยู่ไม่น้อย แต่ฟังก์ชัน Report นี้สามารถช่วยคุณประหยัดเวลาลงได้ เพราะ Reports ใน NotebookLM คือเครื่องมือสร้างรายงานด้วย AI ที่จะเปลี่ยนข้อมูลให้เป็นรายงานสรุปที่กระชับและตรงประเด็น โดยสามารถเลือกกำหนด รูปแบบรายงาน โครงสร้างที่อยากได้ หรือจะใช้รูปแบบที่ AI แนะนำก็ได้เช่นกัน อีกทั้งยังรองรับกว่า 130 ภาษา ภาษาไทยก็ใช้ได้หายห่วง ฟังก์ชัน Reports ใน NotebookLM สร้างรายงาน AI รูปแบบไหนได้บ้าง? การสร้างรายงานใน NotebookLM...
Continue readingพลิกโฉมทีมการตลาดของ Accor ด้วย Asana เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานเกือบ 100%
Accor บริษัทโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปและหนึ่งในผู้นำระดับโลกที่มีโรงแรมในเครือมากมายรวมถึงในประเทศไทยเองที่รู้จักกันในชื่อโรงแรมต่าง ๆ เช่น SO/, Mövenpick, Pullman, Novotel และ ibis ได้เลือกใช้แพลตฟอร์ม Asana เพื่อยกระดับกระบวนการทำงานด้านการตลาดของพวกเขา ด้วยการรวมการจัดการแคมเปญทั้งหมดไว้ในที่เดียว ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานเพิ่มขึ้น 96% ช่วยลดการประชุมได้ครึ่งหนึ่ง ส่งผลให้ทีมการตลาดมีเวลาที่จะไปโฟกัสกับงานด้านความคิดสร้างสรรค์และการคิดกลยุทธ์มากขึ้น ความท้าทายและอุปสรรคของ Accor ทีมการตลาดของ Accor ต้องเจอกับข้อมูลที่กระจัดกระจายและการสื่อสารหลายช่องทาง ข้อมูลสำคัญกระจายอยู่ใน Excel และ PowerPoint ทำให้การทำงานร่วมกันซับซ้อนและเสียเวลาในการค้นหาข้อมูลนาน รวมถึงยังต้องประชุมและส่งอีเมลจำนวนมาก จนกินเวลาที่ควรใช้กับงานสำคัญอื่น ๆ และความท้าทายยิ่งกว่านั้น คือ ทีมงานในแต่ละภูมิภาคและเขตเวลายังทำงานเชื่อมต่อกันได้ราบรื่นนัก โซลูชันของ Accor Accor ใช้ Asana เป็นแพลตฟอร์มศูนย์กลางในการทำงานด้านการตลาด เชื่อมต่อผู้ร่วมงานภายนอกกว่า 200 ราย ทั้งเอเจนซี่และที่ปรึกษาไว้ในระบบเดียว พร้อมจัดอบรมเฉพาะทีมเพื่อให้ทุกคนใช้งานได้อย่างราบรื่น ผลลัพธ์ของ Accor หลังใช้งาน Asana การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ช่วยพลิกโฉมการทำงานด้านการตลาดของ Accor ด้วยการรวมการสื่อสารไว้ในที่เดียว ส่งผลให้บริษัทสามารถ: เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของทีมขึ้นถึง 96% ลดจำนวนการประชุมและการส่งอีเมลลง 50% มีเวลามากขึ้นสำหรับงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์และการคิดเชิงกลยุทธ์ ด้วยระบบการทำงานใหม่นี้ยังสามารถทำงานร่วมกับทีมทั่วโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้การจัดการโปรเจกต์ง่ายขึ้น และช่วยให้นักการตลาดโฟกัสกับสิ่งที่ตัวเองต้องทำได้ดีที่สุดคือการสร้างและออกแบบแคมเปญที่โดดเด่นเพื่อดึงดูดลูกค้าของพวกเขา “ด้วย Asana เราสามารถสร้างศูนย์กลางของข้อมูลทั้งหมดได้ ช่วยให้การสื่อสารระหว่างทีมท้องถิ่นและทีมทั่วโลกเป็นไปอย่างราบรื่น และทำให้เราวางแผนและจัดการแคมเปญได้โดยไม่กระทบกับงานของทีม” Juliette Dembele Campaign Director at Accor Accor เลือก Asana เพื่อรวบรวมให้การจัดการแคมเปญการตลาดทั้งหมดอยู่ในระบบเดียว นักการตลาดยืนยันว่าเวิร์กโฟลว์ทำงานง่ายและมีความโปร่งใสมากขึ้น ทีมการตลาดมักต้องเจอกับความวุ่นวายในการสื่อสาร ไม่ว่าจะเป็นอีเมลประสานงานที่เยอะเกินไป การประชุมยาวอย่างต่อเนื่อง ไฟล์ข้อมูล Excel ที่กระจัดกระจาย หรือ PowerPoint ที่มีหลายเวอร์ชันจนไม่รู้ว่าอันไหนคือไฟล์ Final Accor ที่มีพนักงานและผู้ร่วมงานกว่า 700 คน ต้องดูแลหลายแบรนด์ใน 4 ภูมิภาคทั่วโลก และต้องจัดการแคมเปญการตลาดหลายร้อยแคมเปญในแต่ละปี ซึ่งก็เผชิญกับความท้าทายเดียวกัน Juliette Dembele (Campaign...
Continue readingHow to สร้าง Gem – เครื่องมือ Customize คำสั่งใน Gemini อ่านจบใช้เป็นแน่นอน !
Gemini Gems คืออะไร ? Gem คือ เครื่องมืออันทรงพลังที่จะช่วยให้การใช้งาน Gemini ของคุณสร้างผลลัพธ์ได้ดียิ่งขึ้นด้วยการกำหนดบทบาทและความสามารถ (Customized role) ของ Gemini ให้มีความถนัดแตกต่างกัน เช่น Gemini ผู้ช่วยด้านการเขียนและแก้ไขสคริปต์ Gemini ผู้ช่วยด้านการวิเคราะห์กราฟธุรกิจ Gemini ผู้ช่วยด้านการวางแผนและแนะนำการเดินทาง Gemini ผู้ช่วยด้านการตอบคำถามจากไฟล์ที่กำหนด Gemini ผู้ช่วยด้านการช่วยเขียนและตรวจสอบโค้ด Gemini ผู้ช่วยสรุปข้อมูล และบทบาทอื่น ๆ ซึ่งการใช้งาน Gem นี้คุณจะต้องทำการตั้งค่าด้วยตัวเองเพื่อให้เหมาะกับการใช้งานเฉพาะตัวของคุณ หรือหากคุณต้องการแชร์ Gem ให้กับคนในทีมก็สามารถทำได้เช่นกัน (ไปที่ Explore Gems แล้วกดแชร์) ข้อดีของการใช้ Gem มีผู้ช่วยส่วนตัว (สามารถมีได้หลายคน) ไม่จำเป็นต้องพิมพ์ Prompt ใหม่ในทุกการค้นหา สามารถแชร์ให้บุคคลอื่นได้ ผลลัพธ์มีความแม่นยำ เพราะ Gem จะมีความเชี่ยวชาญในด้านที่คุณกำหนด แยกหมวดหมู่การใช้งานได้ สามารถค้นหาประวัติการใช้งานได้ง่าย ใช้งานได้สะดวก วิธีการสร้าง Gem 1. เข้าเว็บไซต์ Gemini ไปที่ https://gemini.google.com/app 2. เลือก Explore Gems ในแท็บด้านซ้ายให้เลือก Explore Gems จากนั้นหน้า Gem manager จะปรากฏขึ้นมาดังภาพ ซึ่งคุณสามารถเลือกใช้ Gem ใน Gemini ได้เลย หรือหากต้องการสร้างเอง กด New Gem 3. ตั้งชื่อ Gem, บทบาทของ Gem, แนบไฟล์ (ถ้ามี) , และทดลองใช้งาน Name: ชื่อ Gem โดยส่วนใหญ่จะตั้งชื่อตามหน้าที่ของ Gem Instructions: คำสั่ง – ส่วนนี้สำคัญที่สุดที่จะทำให้...
Continue readingเทียบชัด ! รีวิว Google Workspace และ Zimbra จาก Gartner
หากจะพูดถึงการทำงานแบบ Collaboration ก็คงนึกถึงแพลตฟอร์มอื่นไปไม่ได้เลยนอกจาก Google Workspace และ Zimbra โดยเมื่อไม่นานมานี้ Zimbra ได้ประกาศยุติการซัพพอร์ตเวอร์ชัน Daffodil v10.0.x ในวันที่ 30 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา และจะยุติการซัพพอร์ตทางเทคนิคในวันที่ 31 ธันวาคม 2568 นี้ด้วย ส่งผลให้ผู้ใช้งาน Zimbra ในปัจจุบันได้รับความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของข้อมูลและไม่สามารถแก้ไข Bug ระหว่างการใช้งานได้ ซึ่งหากคุณต้องการใช้งานต่อ คุณจะต้องอัปเกรดเป็นเวอร์ชัน Daffodil v10.1.x หรือเปลี่ยนโซลูชันเพื่อให้ใช้งานได้อย่างต่อเนื่องและสะดวกมากขึ้น ประกาศการยุติให้บริการจาก Zimbra ขอบคุณข้อมูลจาก www.zimbra.com ดังนั้นหากองค์กรของคุณกำลังพิจารณาและมองหาโซลูชันใหม่อย่าง Google Workspace เราจึงได้จัดทำบทความเปรียบเทียบข้อมูลระหว่าง Google Workspace และ Zimbra เพื่อให้คุณสามารถเลือกโซลูชันให้เหมาะสมกับการใช้งานในองค์กรได้มากที่สุด เปรียบเทียบ Google Workspace และ Zimbra เจ้าของผลิตภัณฑ์ (บริษัทแม่) Google Synacor แอปพลิเคชันที่ได้รับ Email Calendar Drive Docs Slides Sheets Forms Meet Site Chat Vids (New) Gemini (Pro) NotebookLM (Pro) AppSheet Email Calendar Briefcase (งานเอกสารและการจัดการ Drive) Office (งานตารางและงานนำเสนอ) Chat and Video พื้นที่จัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ / บัญชี 30 GB 2 TB 5 TB สามารถขอเพิ่มได้* หากคุณติดตั้งแบบ On-Premise พื้นที่จัดเก็บจะขึ้นอยู่กับ Hardware ของคุณ หากคุณติดตั้งแบบ Cloud-Hosted...
Continue readingสร้าง Infographic ด้วย Gemini เปลี่ยนข้อมูลให้เป็นภาพที่เข้าใจง่าย
ล่าสุด Gemini (gemini.google.com) ช่วยสร้าง Infographic จากข้อมูลที่สืบค้นหรือจากไฟล์ข้อมูลที่มีก็ได้เช่นกัน ซึ่งฟังก์ชันนี้ช่วยให้คุณสามารถนำเสนอข้อมูลจากตัวหนังสือธรรมดาๆให้ออกมาเป็นภาพ Infographic ให้ดูน่าสนใจ เคยไหม? ที่บางทีข้อมูลที่เราสืบค้นมานั้นซับซ้อนแถมยังมีเนื้อหามากมาย ทำให้ต้องใช้เวลาอ่านทำความเข้าใจ ตรงนี้เราก็สามารถให้ฟังก์ชันนี้ช่วยแปลงข้อมูลเหล่านั้นออกมาเป็นภาพให้คุณทำความเข้าใจได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังสามารถปรับแต่ง โต้ตอบข้อมูลบน Infographic ได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหา หรือรูปแบบ สี การจัดวางก็ทำได้ ซึ่งวิธีแปลงข้อมูลเป็น Infographic นั้นทำได้ง่ายๆ เพียง 3 สเต็ปนี้ วิธีสร้าง Infographic ด้วย Gemini ที่หน้าเว็บ gemini.google.com ไปที่เมนู Tools เลือก Canvas 2. พิมพ์ Prompt ที่ต้องการ เช่น “ขอรายละเอียดเกี่ยวกับ Human Resource Management” 3. จากนั้น Gemini จะสืบค้นข้อมูลออกมา ให้ไปที่เมนู Create แล้วเลือก Infographic เพื่อให้ประมวลผลออกมาเป็นแผนภาพ อย่างไรก็ตามเมื่อคุณได้ Infographic มาแล้ว คุณก็ยังสามารถโต้ตอบข้อมูลที่อยู่บนกราฟิกได้ตลอดเวลาเพื่อให้ได้ข้อมูลที่พึงพอใจมากที่สุด และนั่นก็คือความสามารถที่มาจาก Google Gemini API นั่นเอง การสร้างอินโฟกราฟิกด้วย Gemini ถือเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้การนำเสนอข้อมูลเป็นเรื่องง่ายและน่าสนใจ ไม่ว่าข้อมูลจะซับซ้อนแค่ไหนก็สามารถแปลงออกมาเป็นภาพที่เข้าใจได้ทันที หวังว่าคุณจะได้ไอเดียจากประโยชน์ของฟังก์ชันนี้และสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการนำเสนอข้อมูลในโอกาสต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพนะคะ...