ตอนนี้ใน Google Meet สามารถเห็นผู้ร่วมประชุมได้ถึง 49 คนพร้อมกัน ด้วยตัวเลือกมุมมองแบบอัตโนมัติและแบบตาราง (Tiled) นอกจากนี้ยังสามารถมองเห็นตัวเองเป็นส่วนหนึ่งในหน้าจอด้วย ซึ่งแต่เดิมคุณจะไม่เห็นภาพตัวเองเมื่อวิดีโอคอล โดยการวางเมาส์เหนือภาพ thumbnail ของตัวเองที่มุมขวาบน คุณจะเห็นตัวเลือกในการเพิ่มหรือลบตัวเองออกจากตาราง การเห็นผู้คนมากขึ้นในเวลาเดียวกันขณะประชุมช่วยให้สามารถเห็นปฏิกิริยาของทุกคนที่มีต่อสิ่งที่กำลังพูดคุย และช่วยให้รู้สึกว่าการวิดีโอคอลเหมือนเป็นการประชุมแบบตัวต่อตัว กระตุ้นให้ทุกคนมีส่วนร่วมมากขึ้น นอกจากนี้การเพิ่มตัวเองเข้าไปในหน้าจอจะช่วยให้คุณรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของการประชุมนั้นๆ อีกด้วย ฟีเจอร์นี้พร้อมใช้งานใน Google Meet บนเว็บเบราวเซอร์เท่านั้น ตามค่าเริ่มต้นจำนวนตารางสูงสุดที่คุณจะเห็นในการจัดวางอัตโนมัติคือ 9 ช่อง และในรูปแบบ Tiled คือ 16 ช่อง แต่หลังจากอัปเดตนี้คุณจะสามารถใช้แถบเลื่อนเพื่อปรับจำนวนตารางได้ตามต้องการ หากคุณจำนวนตารางน้อยลงก็อย่าเพิ่งตกใจ จำนวนจะขึ้นอยู่กับขนาดหน้าต่างของคุณ เนื่องจากตารางที่มีจะปรับให้พอดีกับหน้าจอของคุณ โดยคุณสามารถใช้งาน Google Meet ได้ใน Google Workspace ทุกแพ็คเกจ ที่มา – G suite Updates Google Workspace เพื่อการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ บริษัท ดีมีเตอร์ ไอซีที จำกัด พาร์ทเนอร์ Google ในประเทศไทย อย่างเป็นทางการ รายละเอียดแพ็คเกจ 02-030-0066...
ย้ายผู้ใช้จาก Hangouts ไปยัง Google Chat พร้อมแชทได้ใน Gmail
คุณสามารถโอนย้ายผู้ใช้ทั้งหมดจาก Hangouts Classic ไปยัง Google Chat ด้วยการตั้งค่า “Chat preferred” ใน Admin หากคุณเปิดใช้งานการตั้งค่านี้ Google Chat จะกลายเป็นแอปพลิเคชันแชทเริ่มต้นสำหรับองค์กรของคุณแทน Hangouts Classic ตัวเดิม และปรากฏใน Gmail บนเว็บเบราวเซอร์ด้วย ทำให้ผู้ใช้สามารถสื่อสารกันได้อย่างราบรื่นโดยไม่ต้องสลับใช้งานแอปพลิเคชันไปมา ซึ่งคุณสามารถใช้งาน Google Chat ได้ใน Google Workspace ทุกแพ็คเกจ การตั้งค่าแชทที่ต้องการ หรือ “Chat preferred” ช่วยให้แอดมินสามารถย้ายผู้ใช้ทั้งหมดในครั้งเดียวไปยัง Google Chat ซึ่งก่อนหน้านี้หากบางคนใช้ Hangouts Classic ในขณะที่คนอื่นๆ ใช้ Google Chat ก็อาจทำให้เกิดปัญหาในการติดต่อสื่อสาร หรือพลาดข้อความที่สำคัญได้ นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถเข้าถึงฟีเจอร์การแชทได้อย่างสะดวกและรวดเร็วจาก Gmail บนเบราว์เซอร์โดยตรง ประกอบไปด้วย: การแชทแบบ 1:1 และกรุ๊ปแชท ห้องแชทแบบ Full-screen การใช้บ็อทโต้ตอบ Forward to inbox อีโมจิ แก้ไขและลบข้อความ สำหรับแอดมินหรือผู้ดูแลระบบ: การตั้งค่า Chat preferred ตามค่าเริ่มต้นจะอยู่ในสถานะ ปิด หากต้องการเปิดใช้งานและย้ายผู้ใช้ออกจาก Hangouts Classic คุณต้องเปิดใช้ Google Chat สำหรับโดเมนของคุณ ที่มา – Google Blog Google Workspace เพื่อการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ บริษัท ดีมีเตอร์ ไอซีที จำกัด พาร์ทเนอร์ Google ในประเทศไทย อย่างเป็นทางการ รายละเอียดแพ็คเกจ 02-030-0066...
ตั้งค่า Gmail เร็วทันใจด้วยฟีเจอร์ใหม่ Quick setting
Google เพิ่มเมนูการตั้งค่าโฉมใหม่ที่เรียกว่า Quick setting ที่จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถค้นหาการตั้งค่าในหน้าต่าง Gmail ได้ง่ายดายและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น เมื่อคลิกที่การตั้งค่า หรือไอคอนรูปฟันเฟือง คุณจะเห็นอินเทอร์เฟซแบบใหม่ โดยตัวเลือกการตั้งค่าต่างๆ จะแสดงอยู่ข้างกล่องจดหมายของคุณเลย ในขณะเดียวกันเมนูการตั้งค่าแบบเดิมจะยังคงใช้งานได้อยู่ โดยคลิกปุ่ม “ดูการตั้งค่าทั้งหมด” ที่ด้านบนของเมนู Quick setting แบบใหม่ ใน Gmail มีตัวเลือกมากมายสำหรับการปรับแต่งเลย์เอาท์ สี ธีม และรายละเอียดอื่นๆ เพื่อให้เหมาะกับการทำงานของผู้ใช้ สำหรับการตั้งค่าใน Quick setting จะประกอบไปด้วย: การปรับแต่งความหนาแน่นของข้อความและข้อมูลที่แสดง (Density) การเลือกประเภทกล่องจดหมายที่แตกต่างกัน เพื่อช่วยในการจัดลำดับความสำคัญของอีเมล เพิ่มหน้าต่างเพื่อดูเนื้อหาอีเมลอย่างรวดเร็ว ตัวเลือกธีมเพื่อปรับแต่งรูปลักษณ์ของกล่องจดหมาย ฟีเจอร์ Quick setting ใหม่นี้ จะทำให้ผู้ใช้ค้นหาตัวเลือกการตั้งค่าที่กล่าวมาข้างต้นได้ง่ายและรวดเร็วมากขึ้น และกล่องจดหมายจริงของคุณจะอัปเดตทันทีเพื่อแสดงให้เห็นว่าหน้าอินเทอร์เฟซมีความเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง ขอเน้นว่าการอัปเดต Gmail ครั้งนี้จะไม่มีตัวเลือกการตั้งค่าใหม่เพิ่มขึ้นแต่อย่างใด Quick setting เป็นเพียงการเพิ่มวิธีที่ง่ายขึ้นในการเข้าถึงการตั้งค่าที่มีอยู่แล้วในเมนูการตั้งค่า Gmail แบบเต็มเท่านั้น และการตั้งค่าปัจจุบันของผู้ใช้จะไม่ถูกเปลี่ยนแปลง ที่มา – Google Blog Google Workspace เพื่อการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ บริษัท ดีมีเตอร์ ไอซีที จำกัด พาร์ทเนอร์ Google ในประเทศไทย อย่างเป็นทางการ รายละเอียดแพ็คเกจ 02-030-0066...
Titan Security Keys คืออะไร?
เมื่อปี 2018 ทางกูเกิ้ลได้เปิดตัว “ไททันคีย์” (Titan Security Keys) ในสหรัฐอเมริกาเพื่อช่วยบริษัทต่างๆ ในการปกป้องบัญชีผู้ใช้จากฟิชชิ่ง และการแฮ็คบัญชี ตอนนี้ไททันคีย์มีให้บริการใน Google Store ที่สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น แคนาดา ฝรั่งเศส และสหราชอาณาจักร ไททันคีย์สามารถใช้งานได้ทุกที่ที่รองรับคีย์ความปลอดภัยของ FIDO รวมถึงโปรแกรมการป้องกันขั้นสูงของ Google และช่วยให้สามารถป้องกันบ็อทอัตโนมัติ การโจมตีแบบฟิชชิ่ง และการแฮ็คข้อมูลบัญชีได้อย่างสมบูรณ์แบบ วันนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับไททันคีย์ที่ว่านี้กัน ว่ามันคืออะไร แล้วมีความสามารถ และความพิเศษอะไรบ้าง ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่าไททันคีย์คืออะไร ไททันคีย์คือ Security Keys เป็นอุปกรณ์ (ฮาร์ดแวร์) ตรวจสอบสองระดับ (Two-Factor Authentication หรือ 2FA) ซึ่งช่วยป้องกันฟิชชิ่ง และข้อมูลผู้ใช้ระดับสูง เช่น ผู้ดูแลระบบไอที หรือระดับผู้บริหาร ไททันคีย์ทำงานร่วมกับเบราว์เซอร์ยอดนิยมอย่าง Chrome และระบบบริการที่รองรับมาตรฐาน FIDO (อย่างเช่น Google, Dropbox, Ebay, Facebook ฯลฯ) ไททันคีย์ผลิตขึ้นด้วยชิปฮาร์ดแวร์ที่มีเฟิร์มแวร์ ออกแบบโดย Google เพื่อตรวจสอบความสมบูรณ์ของคีย์ การป้องกันบัญชีขั้นสูง ไททันคีย์ใช้มาตรฐาน FIDO สำหรับ 2FA ยกระดับการเข้ารหัสด้วยการ encrypt ข้อมูลขั้นสูง เพื่อยืนยันตัวตนของผู้ใช้และ URL ของหน้าเพจล็อกอิน ไททันคีย์จะช่วยป้องกันผลกระทบจากการโจมตีแบบฟิชชิ่ง และช่วยป้องกันการสวมรอยบัญชี ฮาร์ดแวร์ที่น่าเชื่อถือ รหัสรักษาความปลอดภัยของไททันคีย์ ผลิตจากชิปฮาร์ดแวร์ที่มีเฟิร์มแวร์ ออกแบบโดย Google เพื่อตรวจสอบความสมบูรณ์ของคีย์ ช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าส่วนประกอบต่างๆ ของคีย์นี้ไม่ได้ถูกดัดแปลง ใช้ได้กับระบบบริการที่หลากหลาย ไททันคีย์ทำงานร่วมกับเบราว์เซอร์ยอดนิยมอย่าง Chrome และระบบบริการที่รองรับมาตรฐาน FIDO (อย่างเช่น Google, Dropbox, Ebay, Facebook ฯลฯ) ไททันคีย์เพียง 1 อัน มีความปลอดภัยสูง สามารถใช้ตรวจสอบ รับรองความถูกต้องของบัญชีและบริการส่วนบุคคลมากมาย สำหรับผู้ใช้ Google...
Continue readingDigital Transformation ไม่ใช่จบแค่เรื่องของเทคโนโลยี
โดย ดร. วรัญญู สุจิวรพันธ์พงศ์ , CEO บริษัท ดีมีเตอร์ ไอซีที จำกัด วันนี้ผมได้พูดสองหัวข้อในงาน Event ที่ Google Thailand เรื่องแรกได้พูดถึงวิธีการเติมไฟในการทำงานแบบ Google ครับ จุดเริ่มคือเคยสังเกตุไหมครับว่าหนึ่งในสาเหตุที่บุคลากรในองค์กรของเราเริ่มออกอาการเซ็งและหมดไฟคือเรามีกระบวนการในการทำงานที่ไม่มีมูลค่าถึงร้อยละ 70 เนื่องจากเป็นงานที่ต้องเสียเวลาในการเตรียมข้อมูล ต้องปิงปองไปกลับระหว่างเพื่อนร่วมงาน ต้องเดินเอาเอกสารไปให้ ต้องพิมพ์เอกสารออกมาเซ็นต์ และต้องเก็บเอกสารเป็นตั้งๆ เพราะกลัวตรวจสอบไม่ได้ หรือแม้แต่ต้องเดินทางมาประชุมด้วยการฝ่ารถติดเข้ามา โดยที่ทำงานเป็นเรื่องเป็นราวอาจจะแค่ 30% ที่เหลือเป็นการเสียเวลาในกระบวนการโดยทั้งนั้น เหตุว่าทำไม Google ถึงได้เป็นองค์กรนวัตกรรมระดับโลก เพราะ Google เน้นในเรื่องแค่สามเรื่องคือ 1) เน้นการทำงานแข่งกับเวลา 2) มีกระบวนการขั้นตอนในการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เข้าใจ pain points ของผู้ใช้งาน และ 3) การแบ่งปันข้อมูลในการทำงานร่วมกัน ซึ่งหากเรามีเครื่องมือในการทำให้ทั้งสามเรื่องเกิดขึ้นได้ง่าย เท่ากับว่าเวลาที่ต้องสูญเสียไปกับเรื่องไม่เป็นเรื่องในการพูดคุย การแก้งานไปมา การแชร์ข้อมูลเดียวกันก็จะหายไปอย่างมหาศาล ซึ่ง Google ได้ใช้ G Suite ในการเป็นเครื่องมือการทำงานในชีวิตประจำวันนั่นเอง เอาเข้าจริงหลายองค์กรมักจะเข้าใจผิดคิดว่าการทำ Digital Transformation คือการใช้เงินแก้ปัญหาด้วยการซื้อเครื่องมือเทคโนโลยี (Technology) มาใช้งานในองค์กร แต่องค์กรจำนวนมากได้ลืมปัจจัยอีกสองอย่างที่ละเลยเสมอในการทำ Digital Transformation ขององค์กร นั่นก็คือ 1. People และ 2. Process!!!! ทั้งสองอย่างประกอบกับ 3. Technology จึงจะทำให้การทำ Digital Transformation ในองค์กรเกิดขึ้นได้จริง เพราะตอนนี้คนรวยสุดคือทรัพย์ศรีไทยที่รับจ้างเก็บเอกสารกองพะเนินให้เราอยู่ การทำ Digital Transformation ในองค์กรจะประกอบไปด้วยสามเรื่องคือ 1) Technology 2) People และ 3) Process ฟังดูจะรู้ว่ามันไม่จบแค่ใช้เงินซื้อเทคโนโลยีเหมือนกับที่หลายหน่วยงานทั้งรัฐและเอกชนเข้าใจคำว่า Thailand 4.0 ว่ารีบๆ ไปหาระบบงานมารองรับ ทั้งกระบวนการทำงานและการวิเคราะห์ข้อมูล เสร็จแล้วก็จบแล้ว แต่นั่นเรากำลังพูดแค่ในมุมของ Technology...
Continue readingG Suite: Your Digital Transformation Partner
โดย: ดร. วรัญญู สุจิวรพันธ์พงศ์, Founder & CEO, Demeter ICT ผ่านไปด้วยดีกับอีเวนทํประจำไตรมาสของ Demeter ICT ร่วมกับ Google ในหัวข้อ G Suite: Your Digital Transformation Partner คำว่า Digital Transformation คำนี้ค่อนข้างฮิตกันในยุคนี้ ที่ทั้งหน่วยงานรัฐและเอกชนก็พูดถึง ซึ่งเรามักจะมองว่ามันเกี่ยวข้องกับองค์กรขนาดใหญ่ แต่องค์กรระดับ SME ไม่น่าจะเกี่ยวข้องเพราะว่าเป็นเรื่องไกลตัว หรือมักจะมองว่า Digital Transformation คือการลงทุนทางด้าน ‘เทคโนโลยี’ ใช้เงินแก้ปัญหาแล้วจบเลย แต่จริงๆ แล้วเรื่องราวไม่ได้ง่ายแบบนั้นครับ หลายองค์กรมักจะตั้งต้นคำว่า Digital Transformation คือการไปเอาเทคโนโลยีเป็นตัวตั้งต้น ด้วยการดูว่าปัจจุบันในอุตสาหกรรมเดียวกับธุรกิจมีเทคโนโลยีอะไรบ้าง แล้วก็ลงทุนซื้อเทคโนโลยีมาใช้งานเลย แต่ก็ไม่ได้แก้ปัญหาขององค์กรจริงๆ เพราะกินยาผิด เนื่องจากเทคโนโลยีที่เอามาใช้ไม่ได้แก้ปัญหาขององค์กรจริงๆ ซึ่งส่วนใหญ่คนในองค์กรยังคงมีรูปแบบการทำงานที่เหมือนเดิม แม้จะมีเทคโนโลยีเข้ามาใช้ก็ตาม ในความเห็นผมการทำ Digital Transformation จะต้องเริ่มที่ Pain point หรือจุดที่องค์กรมีปัญหาองค์กรก่อน เช่น ทำการวิเคราะห์ว่าทุกวันนี้องค์กรมีปัญหาอะไร ทำงานช้าที่ตรงไหน data discrepancy อยู่จุดไหน ขาดข้อมูลส่วนไหนบ้าง โดยที่ยังไม่ต้องพูดถึงเทคโนโลยีก่อน จากนั้นพอสรุปประเภทปัญหาได้แล้ว จึงคิดต่อว่าเครื่องมืออะไรบ้างที่มาแก้โจทย์นี้ได้ และที่สำคัญคือ ‘คนในองค์กร’ จะมีภาพความฝันในการทำงานบนเทคโนโลยีนั่นด้วยวิธีการทำงานแบบไหนที่ไม่เหมือนเดิม ซึ่งมาถึงจุดนี้เราจะตอบได้ทันทีว่า Digital Transformation จะไม่ใช่เรื่องของ CIO เท่านั้น แต่เป็นเรื่องของ CEO ที่ต้องทำหน้าที่ Project Sponsor ในการไดรฟ์ให้คนในองค์กรมาทำงานด้วยวิธีใหม่ บนเทคโนโลยีใหม่ ไม่ใช่ทำงานบนเทคโนโลยีใหม่ด้วยวิธีการทำงานแบบเดิม ซึ่งการทำ Change Management หรือการบริหารการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้คนในองค์กรปรับเปลี่ยนวิธีทำงานบนเทคโนโลยีใหม่ เป็นสิ่งทีืจำเป็นในการทำ Digital Transformation มากครับ ผมมักจะยกตัวอย่างขององค์กรที่ใช้ Google G Suite อยู่เสมอว่า G Suite ไม่ใช่มาแทนระบบอีเมลเดิม...
Continue readingมาเยือนออฟฟิสกูเกิ้ลที่สิงคโปร์กันเถอะ
...
อีเมลสำหรับบริษัทคืออะไร ?
อีเมล (Email) หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ คือ การแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างบุคคลโดยการส่งข้อความผ่านอินเทอร์เน็ต ประกอบไปด้วยเนื้อหาของอีเมล ที่อยู่ของผู้ส่ง และที่อยู่ของผู้รับ (สามารถมีหลายคนได้) ซึ่งโดยปกติแล้วผู้คนจะนิยมใช้อีเมลในการติดต่อสื่อสารสำหรับข้อความที่เป็นทางการ เช่น การติดต่อด้านธุรกิจ การประชาสัมพันธ์หรือการประกาศเกี่ยวกับบริษัท การรับสมัครงาน การติดต่อกับบริษัทคู่ค้าต่างประเทศ เป็นต้น หากคุณเพิ่งเริ่มต้นก่อตั้งบริษัทใหม่ การมีอีเมลของบริษัทไว้สื่อสารกันทั้งภายในและภายนอกองค์กร คือสิ่งแรกที่จะช่วยให้การสื่อสารในบริษัทเป็นไปได้อย่างราบรื่นและเป็นระบบ อีกทั้งยังช่วยให้บริษัทของคุณดูมีความน่าเชื่อถือและเป็นมืออาชีพอีกด้วย รูปแบบของอีเมล อีเมลจะประกอบไปด้วย 2 ส่วนด้วยกัน คือ ส่วนหัวและส่วนเนื้อความ อ้างอิงรูปแบบอีเมลจาก Gmail 1. ส่วนหัว อีเมลของผู้รับ หัวข้ออีเมล หัวข้ออื่น ๆ เช่น Cc คือ การส่งอีเมลให้กับบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องที่ไม่ใช่ผู้สื่อสารหลัก Bcc คือ การส่งอีเมลให้กับบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องโดยซ่อนอีเมลของผู้รับนี้เอาไว้ ซึ่งผู้รับอีเมลและผู้ที่อยู่ใน Cc จะไม่เห็นอีเมลของคนที่อยู่ใน Bcc 2. เนื้อหา/ข้อความในอีเมล ข้อความในอีเมลนี้จะเป็นใจความหลักในการสื่อสาร ซึ่งคุณสามารถแนบไฟล์เอกสาร แนบรูปภาพ แนบลิงก์ไปกับข้อความได้เลย อีกทั้งคุณยังสามารถปรับแต่งข้อความได้ที่เมนูด้านล่าง เช่น การปรับแต่งลักษณะตัวอักษร การนำเข้าไฟล์จาก Google Drive การใส่ลายเซ็น การจัดการ Layout และอื่น ๆ ตัวอย่างอีเมลสำหรับบริษัท sales@dmit.co.th sales = ชื่อสำหรับการตั้งอีเมล คุณสามารถเลือกใช้ชื่อได้ตามต้องการ (คนส่วนใหญ่นิยมใช้ชื่อจริงหรือชื่อแผนก) @ = เครื่องหมายกั้นระหว่างชื่อและโดเมนเนม dmit.co.th = ชื่อโดเมนเนม 3 ส่วนนี้จะประกอบกันเป็น 1 อีเมลนั่นเอง ดังนั้นหากคุณต้องการมีอีเมลเป็นของบริษัท คุณจึงจะต้องมีโดเมนด้วย ทำความรู้จักโดเมนเนมได้ที่นี่ Demeter ICT ผู้เชี่ยวชาญและให้คำปรึกษาด้าน Business Transformation จัดหาโซลูชันเพื่อการทำงานที่เหมาะสมที่สุดให้กับธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น Google Workspace, Gemini, AppSheet และแพลตฟอร์มอื่น ๆ รวมถึงบริการรับจดโดเมน สร้างอีเมลบริษัท และจัดอบรมการใช้งานโซลูชันต่าง ๆ ...
การป้องกันอีเมลตก spam
การตั้งค่านี้มีไว้ใช้ในกรณีที่ผู้ใช้งานต้องการแก้ไขเวลาที่มีอีเมลเข้ามาที่หน้าอินบ็อกแล้วอีเมลชอบไปตกอยู่ที่โฟลเดอร์สแปมบ่อยๆ สำหรับการแก้ไขปัญหาดังกล่าวสามารถดำเนินการตั้งค่าได้ตามวิธีการดังนี้ คลิกที่ลูกศรชี้ลงขนาดเล็กที่ด้านขวาสุดของแถบค้นหา เพื่อกำหนดการค้นหา เลือกเงื่อนไขการค้นหา คลิกที่ตัวกรอง เพื่อเริ่มการตั้งกฏ เลือก Option ให้กับการตั้งค่านี้ คลิกเลือก ไม่ส่งไปที่สแปม (Never send it to Spam) คลิกเลือก ใช้การตั้งค่านี้กับอีเมลที่เคยส่งมาก่อนหน้านี้ด้วย (Also apply filter to matching conversations.) คลิก Create filter เสร็จเรียบร้อย ***หากต้องการให้การกรองนี้มีผลกับอีเมลที่เคยส่งมาแล้วให้ คลิกที่ Also apply filter to matching message บริษัท ดีมีเตอร์ ไอซีที จำกัด ผู้ให้บริการ G Suite ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ(ตัวแทน Google ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ)สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมพร้อมราคา G Suite โปรโมชั่นพิเศษ โทร! 02-675-9371092-262-6390 (support)095-896-5507 (sale)support@dmit.co.thOfficial LINE: @dmit...