จะสร้างแอปด้วย AppSheet ก็ต้องเตรียมตาราง Spreadsheet ใน Google Sheets ให้พร้อม บอกได้เลยว่าการเตรียม Spreadsheet สำหรับการสร้างแอปนั้นง่ายนิดเดียว เพราะการสร้างชีตนั้นจะอ้างอิงจากรูปแบบตารางที่หลายองค์กรนั้นมีการใช้งานกันอยู่แล้วนั่นเอง และเพื่อให้ AppSheet สามารถทำงานได้ง่าย คุณจะต้องสร้างตารางที่ทำให้ AppSheet เข้าใจกลไกของการทำงานของคุณได้มากที่สุด ดังนั้นหากคุณรู้ Tips ในการจัดการตารางก่อนสร้างแอปจะช่วยให้คุณสามารถสร้างแอป จัดการ และแก้ไขแอปของคุณได้ง่ายมาก ๆ ทำด้วยตัวเองได้เลย คอนเฟิร์ม ! 4 Tips เตรียม Spreadsheet ให้พร้อม ง่ายต่อการสร้างแอปด้วย AppSheet 1. ใช้ layout ที่อ่านแล้วเข้าใจง่าย ก่อนที่คุณจะกำหนดข้อมูล ให้คุณตั้งคำถามกับตัวเองก่อนว่า คุณต้องการสร้างแอปสำหรับอะไรหรือคุณต้องการใช้แอปเพื่อทำอะไร ? คุณต้องมีข้อมูลอะไรบ้าง ? ตัวอย่างเช่น คุณต้องการทำแอปสำหรับเช็คสต๊อกสินค้าในร้านขายของ คุณต้องมีข้อมูลอะไรบ้าง ? ชื่อสินค้า รหัสสินค้า จำนวนสต๊อกที่มีอยู่ในร้านหรือจำนวนที่ขายออก เป็นต้น เมื่อข้อมูลพร้อมแล้ว ก็นำมาสร้างตารางใน Google Sheets ได้เลย (หรือหากยังไม่มีข้อมูล คุณก็สามารถใส่ชื่อคอลัมน์อย่างเดียวก็ได้ เพื่อให้แอปรับรู้ว่าข้อมูลที่คุณต้องการคืออะไรนั่นเอง) คำแนะนำ: คุณควรที่จะรวมตารางไว้ในตารางเดียวกัน หากแยกตารางออกเป็นหลาย ๆ ตาราง จะทำให้แอปทำงานค่อนข้างซับซ้อนและยากต่อการเปลี่ยนแปลงข้อมูล Spreadsheet ที่ถูกต้อง Spreadsheet ที่ไม่แนะนำ 2. ตั้งชื่อคอลัมน์ให้ง่ายและสอดคล้องกัน เพื่อให้ AppSheet สามารถทำงานได้ง่ายและอ่านค่าได้อย่างรวดเร็ว เราแนะนำให้คุณตั้งชื่อคอลัมน์ให้สั้นกระชับ อ่านแล้วเข้าใจง่าย และในกรณีที่คุณต้องการใส่ข้อมูลย่อยของแต่ละรายการ ให้คุณสร้างแท็บในชีตเดียวกันเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งแท็บ โดยคุณจะต้องใช้ชื่อคอลัมน์ให้เหมือนกันกับแท็บแรก ตัวอย่างเช่น แท็บ 1: มีคอลัมน์ชื่อสินค้า รหัสสินค้า และห้องจัดเก็บ ซึ่งคุณอาจจะอยากอธิบายเพิ่มเติมว่าห้องจัดเก็บของแต่ละรายการอยู่ที่ใดบ้าง ให้คุณสร้างแท็บที่ 2 โดยมีคอลัมน์แรกเป็น ‘ห้องจัดเก็บ’ คอลัมน์ต่อมาถึงจะเป็นคำอธิบายในส่วนของที่ตั้งของสถานที่นั้น ๆ ซึ่งแท็บที่ 2 จะถูกเรียกใช้งานก็ต่อเมื่อคุณต้องการให้ข้อมูลนั้นแสดงผลโดยอัตโนมัติเมื่อมีคนคลิกรายการที่กำหนด เช่น ส้มอยู่ห้องจัดเก็บ B...
Continue readingForrester ยก Google ขึ้นแท่นผู้นำด้าน Data Security Platform Q1 2023
Google Cloud เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มการจัดเก็บข้อมูลออนไลน์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในขณะนี้ หลายองค์กรได้ปรับเปลี่ยนการทำงานมาอยู่รูปแบบออนไลน์กันมากขึ้น ดังนั้นเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลจึงเป็นเรื่องที่ไม่อาจมองข้ามได้ ดังนั้น Google จึงได้มีระบบรักษาความปลอดภัยของข้อมูลอย่างแน่นหนา ที่จะสามารถช่วยให้ข้อมูลถูกจัดเก็บและเคลื่อนย้ายได้อย่างปลอดภัย ทำให้องค์กรสามารถตรวจสอบและควบคุมส่วนต่าง ๆ ได้อย่างอิสระ….นี่แหละกลยุทธ์ที่สำคัญของ Google และด้วยระบบการป้องกันและรักษาความปลอดภัยนี้เอง ทำให้ The Forrester Wave™ ยก Google Cloud ให้เป็นผู้นำด้าน Data Security Platforms Q1 2023 นวัตกรรมการรักษาความปลอดภัย คือ จุดแข็งของ Google ที่ไม่มีใครเทียบได้ Google นั้นให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยของการเก็บข้อมูลออนไลน์เป็นอันดับหนึ่ง เริ่มจากการนำกลยุทธ์ด้านความปลอดภัยมายกระดับธุรกิจเชิงพาณิชย์และองค์กรภาครัฐทุกแห่งสู่ Cloud-Native Security ที่ใช้การประมวลข้อมูลและการวิเคราะห์ข้อมูลผ่าน AI และ Machine Learning ซึ่งจะช่วยให้ข้อมูลฝั่งองค์กรและฝั่ง End users ได้รับการปกป้องอย่างครบถ้วน ไม่เพียงแค่นั้น เทคโนโลยี Data Loss Prevention (DLP) ของ Google ยังทำให้ผู้ใช้งานสามารถจัดการข้อมูลได้แบบ Real-time ปรับเปลี่ยนได้ตามต้องการ และสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องอีกด้วย ในบทวิจัยของ Forrester ได้กล่าวว่า “Google นั้นโดดเด่นในเรื่องของนวัตกรรมอย่างมาก ตัวอย่างเช่น AI และ Machine Learning, การพัฒนานวัตกรรมภายในองค์กร, การร่วมมือกับหุ้นส่วนเพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ (การประมวลผล, การควบคุม, และการจัดการบน Cloud service เป็นต้น)” ทุกการใช้งานมีความปลอดภัย ด้วยเทคโนโลยีที่ชื่อว่า infoType detectors – กลไกการตรวจจับข้อมูลอ่อนไหว ทำให้ Google สามารถเก็บรักษาข้อมูลความลับอันถือเป็นสินทรัพย์ขององค์กรได้ทั้งใน Google Chrome Enterprise และใน Google Workspace (Gmail & Drive) เช่น ข้อมูลการผลิต ข้อมูลการวิเคราะห์ต่าง ๆ...
Continue readingแชร์วิธีการเชื่อมต่อกราฟใน Google Sheets, Docs, Slides เข้าด้วยกันแบบ Real-time
พอกันทีกับการที่ต้องคอยแก้ไขข้อมูลไปมา พอกันทีกับการสร้างกราฟใหม่อยู่ตลอด พอกันทีกับการที่ต้องคอย Screenshot หน้าจอแล้วไปวางในไฟล์อื่น วันนี้คุณจะสามารถเชื่อมต่อข้อมูลและใช้กราฟตัวเดียวกันจาก Google Sheets, Docs, Slides ได้เลยทันที ! ไม่ต้องทำงานซ้ำซ้อนอีกต่อไป เพียงแค่เปลี่ยนจากการเลือกประเภทของกราฟ (Bar, Column, Line, Pie) เป็นการเลือกกราฟจาก Sheets แทน ….นี่คือขั้นตอนแบบรวบรัดนะ แต่สำหรับใครที่ต้องการเห็นภาพชัดเจนมากขึ้นว่าต้องไปที่ไหน ? ทำอย่างไร ? เราได้แบ่งขั้นตอนการแทรกกราฟไว้ ดังนี้ ขั้นตอนการนำกราฟจาก Google Sheets มาที่ Docs และ Slides คุณต้องสร้างข้อมูลและสร้างกราฟใน Google Sheets ให้เรียบร้อยเสียก่อน เปิด Google Docs หรือ Google Slides ไปที่ Insert (แทรก) > Chart เลือก From Sheets 4. เลือกไฟล์ Sheets ที่มีกราฟที่คุณต้องการ เพียงเท่านี้เป็นอันเรียบร้อย ! วิธีทำให้ข้อมูลในกราฟเชื่อมต่อกันแบบ Real-time เมื่อคุณเปลี่ยนข้อมูลในตารางใน Google Sheets จะเห็นว่ากราฟใน Sheets มีการอัปเดตแบบอัตโนมัติ แต่ใน Docs และ Slides ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ให้คุณทำตามนี้ เปิด Docs หรือ Slides แล้วไปที่ Chart บนหน้ากระดาษของคุณ จากนั้นให้คุณคลิก Update ที่มุมบนขวาของกราฟนั้น ๆ เพียงเท่านี้คุณก็สามารถนำกราฟมาเชื่อมต่อกันได้แบบ Real-time แล้วง่าย ๆ ไม่ว่าคุณจะทำงานเอกสารหรืองานนำเสนอก็ไม่ต้องคอยนำเข้ากราฟทุกครั้งที่แก้ไขข้อมูลเหมือนที่เคยทำมา ลืมการทำงานแบบเดิม ๆ ไปได้เลย ! ติดตาม Demeter ICT...
Continue readingสร้างแอปด้วย AppSheet ทำไมถึงง่ายกว่าแพลตฟอร์มอื่นกันนะ ?
เรื่องของเทคโนโลยีหรือเรื่องของแอปพลิเคชัน ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและเข้าใจยาก ยิ่ง ณ ตอนนี้โลกของเราได้กลายเป็นโลกแห่งดิจิทัลไปแล้ว ก็ยิ่งทำให้เทคโนโลยีมีความซับซ้อนขึ้นไปอีกเท่าตัว จะให้คนธรรมดามาสร้าง APP ก็เหมือนจะไม่มีหวังและเกินกำลังไปเสียเปล่า แต่ทว่าภายใต้ความซับซ้อนนี้ Google ก็ได้พัฒนานวัตกรรมใหม่ที่ชื่อว่า AppSheet ที่เปิดโอกาสให้คนธรรมดาแบบเราได้สร้างสรรค์แอปพลิเคชันของตัวเอง เรียกได้ว่าสวนทางกับแนวคิดความซับซ้อนของเทคโนโลยีอย่างมาก เพราะจากเดิมที่ต้องรู้เรื่องการเขียนโปรแกรม กลับกลายเป็นว่าตอนนี้ ใครก็สร้างได้ ไม่ต้องมีความรู้เฉพาะทางอีกต่อไป ทำไมการสร้าง APP จาก AppSheet ถึงง่ายกว่าแพลตฟอร์มอื่น ? ✅ ไม่ต้องมีความรู้เรื่องภาษาคอมพิวเตอร์ ✅ ไม่ต้องมีทักษะการเขียนโค้ด ✅ ไม่ต้องซื้อโปรแกรมสำเร็จรูปหรือจ้าง Outsource ไม่ต้องมีความรู้เรื่องภาษาคอมพิวเตอร์ ไม่ต้องมีทักษะการเขียนโค้ด ไม่ต้องซื้อโปรแกรมสำเร็จรูปหรือจ้าง Outsource 1. ไม่ต้องมีความรู้เรื่องภาษาคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นภาษา JavaScript, Python, PHP หรือภาษาอื่น ๆ คุณก็ไม่จำเป็นจะต้องรู้เรื่องภาษาเหล่านี้แม้แต่นิดเดียว เพราะการทำงานของ AppSheet นั้นเป็นการนำข้อมูลที่คุณมีอยู่ มาสร้างเป็นแอปพลิเคชันโดยการนำข้อมูลมา Match กัน หากจะกล่าวให้เข้าใจง่าย ๆ ให้นึกภาพว่าคุณกำลังสร้าง Google Forms เช่น คุณต้องการสร้างฟอร์มการส่งงานสำหรับฝ่าย Marketing คุณต้องการข้อมูลอะไรบ้าง ? เช่น วันที่ส่งงาน ชื่องาน ชื่อผู้ส่ง ไฟล์แนบ หรือรายละเอียดอื่น ๆ ให้คุณนำข้อมูลเหล่านี้มาใส่ไว้ใน Google Sheets เพื่อกำหนดเป็นหัวข้อ ตัวอย่างเช่น เพียงแค่คุณมีหัวข้อเหล่านี้ คุณก็สามารถสร้างแอปได้แล้ว ดูขั้นตอนการสร้างแอปได้ที่นี่ คลิก 2. ไม่ต้องมีทักษะการเขียนโค้ด ทักษะการเขียนโค้ดเป็นสิ่งที่ต้องมาคู่กับภาษาคอมพิวเตอร์อยู่แล้ว มีทั้งสถาบันเปิดสอนและคอร์สเรียนออนไลน์ที่สอนเรื่องนี้มากมาย แต่สำหรับ AppSheet เพียงแค่คุณรู้วิธีการทำงานบนซอฟต์แวร์ต่าง ๆ เช่น Google Workspace, Microsoft Office 365 หรืออื่น ๆ คุณก็สามารถสร้างแอปเองได้เลย ไม่ต้องไปเรียนเสริมใด ๆ ทั้งนั้น 3. ไม่ต้องซื้อโปรแกรมสำเร็จรูปหรือจ้าง...
Continue readingเผยผลลัพธ์การใช้งาน AppSheet จากองค์กรชั้นนำระดับโลก
จากตลาด Low-code สู่ No-code Platform AppSheet กลายมาเป็นเครื่องมือสร้างแอปพลิเคชันที่สามารถทลายกำแพง Coding ได้อย่างสมบูรณ์แบบ 100 % ผลการวิเคราะห์จาก Forbes ได้กล่าวว่า จากนี้เป็นต้นไปแอปพลิเคชันต่าง ๆ จะถูกพัฒนาโดย No-code/ Low-code Platform มากกว่า 65% ความต้องการเครื่องมือที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพจะทวีคูณเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งนี้ก็เพื่อสนับสนุนการทำงานแบบไร้รอยต่อ การสื่อสารแบบ Real-time และการนำข้อมูลไปต่อยอดให้เกิดประโยชน์สูงสุดนั่นเอง ด้วยเหตุนี้ AppSheet จึงได้กลายมาเป็นผู้นำตลาดด้าน No-code/ Low-code Platform ที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้ โดยประเทศที่กำลังให้ความสนใจ AppSheet และมีการนำ AppSheet ไปใช้งานกับธุรกิจแล้ว ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส แคนาดา อินเดีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และประเทศอื่น ๆ ซึ่ง ณ ตอนนี้ ในประเทศไทย AppSheet ก็กำลังเป็นที่นิยมไม่แพ้กัน ต้องการทำความรู้จัก AppSheet ศึกษาเพิ่มเติมได้เลย ! ผลลัพธ์การใช้งาน AppSheet จากองค์กรชั้นนำระดับโลก Globe TelecomAppSheet คือกุญแจแห่งความสำเร็จของ Globe Telecom เพราะ AppSheet นั้นสามารถขับเคลื่อนองค์กรสู่นวัตกรรมใหม่ ๆ และสามารถสร้างวัฒนกรรมการทำงานร่วมกันแบบดิจิทัลได้ ซึ่งตัวอย่างผลลัพธ์การใช้งาน AppSheet ได้แก่ พนักงานในองค์กรสามารถสร้างแอปพลิเคชันได้เองมากกว่า 200 แอป องค์กรสามารถลดระยะเวลาการประมวลผลจากการสร้างแอปแบบเดิมได้กว่า 79.8% องค์กรสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้สูงถึง 6.7 ล้านดอลลลาร์ในปีแรก Lixilเพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายในการเติบโตอย่างมั่นคง องค์กรมีแนวคิดที่จะสนับสนุนให้พนักงานใช้เครื่องมือดิจิทัลในการทำงาน ซึ่งภายใน 1 ปี พนักงานสามารถสร้างแอปพลิเคชันได้ราว ๆ กว่า 850 แอป ซึ่งแอปที่ถูกสร้างจาก AppSheet นี้สามารถช่วยแก้ไขปัญหาต่าง ๆ และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้อย่างดี...
Continue readingAppSheet ช่วยให้ธุรกิจของคุณดีขึ้นได้อย่างไร ? ไม่ใช่องค์กรสาย IT ใช้ได้ไหม ?
ในฐานะนักธุรกิจคนหนึ่ง แน่นอนว่าการผลักดันธุรกิจให้ก้าวหน้านั้นเป็นสิ่งที่ไม่เคยหยุดนิ่งเลย ซึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุดของการพัฒนาธุรกิจ คือกระบวนการทำงานภายในองค์กร หรือที่เราเรียกกันว่า “Workflow” หากเราลองหาความเชื่อมโยงล่ะก็ ต้องบอกว่า หากองค์กรมีระบบการทำงานดีก็จะช่วยให้ผลประกอบการดีไปด้วย คุณจะเชื่อหรือไม่ ? ซึ่งในปัจจุบันเรามีเครื่องมือที่ช่วยพัฒนาธุรกิจอย่างหลากหลาย เช่น AppSheet แพลตฟอร์มสร้างแอปพลิเคชันเพื่อปรับเปลี่ยนขั้นตอนการบริหารจัดการ หรือกระบวนการทำงานของธุรกิจให้เป็นรูปแบบอัตโนมัติ ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถพัฒนาและต่อยอดธุรกิจได้จริง ตัวอย่างเช่น บริษัท Globe Telecom ที่สามารถลดระยะเวลาการประมวลผลจากการสร้างแอปแบบเดิมได้กว่า 79.8% ประหยัดค่าใช้จ่ายกว่า 6.7 ล้านดอลลาร์ และอีกมากมาย สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ >> How AppSheet continues to grow as a low-code platform market leader AppSheet จะช่วยให้ธุรกิจของคุณดีขึ้นได้อย่างไร ? สรุปสั้น ๆ ได้ ดังนี้ เมื่อการทำงานของคุณเริ่มเป็นระบบอัตโนมัติมากขึ้น คุณจะสามารถลดระยะเวลาการทำงานที่ซ้ำซ้อนลงได้ พนักงานสามารถทำงานได้อย่างสะดวกสบาย ส่งโปรเจกต์ได้อย่างรวดเร็ว AppSheet สามารถลดความผิดพลาดจากมนุษย์ หรือ Human error ได้ องค์กรไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายเพื่อซื้อโปรแกรมสำเร็จรูปหรือจ้างนักเขียนโปรแกรมอีกต่อไป พนักงานในองค์กรสามารถสร้างแอปพลิเคชันได้เลยทันที ไม่ต้องรอเวลาประมวลผลนาน AppSheet เหมาะกับธุรกิจใดบ้าง ? จริงอยู่ที่ AppSheet นั้น คือการสร้างแอปพลิเคชัน ถึงแม้ว่าคำนี้จะดูไกลตัวไปบ้าง แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า AppSheet มีไว้สำหรับอุตสาหกรรมไอทีเพียงอย่างเดียว คุณสามารถนำ AppSheet มาประยุกต์ใช้ได้กับทุกอุตสาหกรรมและทุกแผนกงาน เช่น การจัดการ Inventory การรับออเดอร์ซื้อขาย การบันทึกข้อมูลฝ่ายจัดซื้อ การส่งเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ การอัปเดตสถานะกระบวนการต่าง ๆ หรือการสร้างแบบฟอร์มเก็บข้อมูล และอื่น ๆ ตัวอย่างสายงานที่ Demeter ICT ให้บริการ AppSheet Accounting Customer Engagement Education & Training Field Service Human...
Continue readingDemeter ICT สนับสนุน Supalai ทรานฟอร์มธุรกิจสู่ความเป็นดิจิทัล
Demeter ICT และบริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมกันจัดงาน Supalai Digital Transformation 2023 เพื่อสนับสนุนให้บุคลากรในองค์กรมีส่วนร่วมในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีกันมากขึ้น ซึ่งภายในงานนี้ มีกิจกรรมให้ชาว Supalai ได้ร่วมสนุกกันมากมาย เช่น บูธสำหรับการเล่นเกมและเรียนรู้นวัตกรรมใหม่ ๆ จากแผนก IT และ Engineer รวมถึง Session ให้ความรู้โดยผู้บริหารจากบริษัท ศุภาลัยที่มาแชร์แนวคิดสู่การทรานฟอร์มองค์กรสู่ยุคดิจิทัลในปี 2023 และในอนาคต บรรยากาศงาน Supalai Digital Transformation ตัวอย่างกิจกรรมที่น่าสนใจ 1. Digital Academy สำหรับผู้พักอาศัยที่ศุภาลัย บอกเลยว่ากิจกรรมนี้น่าสนใจมาก ๆ เพราะเป็นบูธที่แนะนำนวัตกรรมใหม่สำหรับการแลกบัตรจอดรถเข้าคอนโดมิเนียมหรือบ้านพักโครงการศุภาลัย ซึ่งหากเป็นแบบดั้งเดิม คุณคงคุ้นชินกันอยู่แล้วกับการแลกบัตรผ่านประตูเพื่อเข้าที่พัก แต่ด้วยเทคโนโลยีใหม่ที่ทางศุภาลัยได้พัฒนาขึ้น ระบบแลกบัตรจะไม่จำเป็นอีกต่อไป เพราะศุภาลัยมีระบบที่สามารถตรวจสอบทะเบียนรถได้แบบอัตโนมัติ คุณสามารถขับรถผ่านได้เลยทันที ! 2. Business Intelligence (BI) & Robot Business Intelligence คือการนำข้อมูลมาวิเคราะห์และแสดงแดชบอร์ดให้เห็นภาพรวมของธุรกิจ Robot คือระบบอัตโนมัติขององค์กรที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยลดการทำงานแบบดั้งเดิมหรือแบบ Manual ซึ่งกิจกรรมนี้จะส่งเสริมให้ชาวศุภาลัยมีแนวคิดเกี่ยวกับดิจิทัลมากขึ้น สนุกไปกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ ดูตัวอย่างความสนุกได้ที่วิดีโอด้านบนเลย ! 3. Digital Clinic Concept ของบูธนี้คือ คลินิกให้คำปรึกษาและให้ความช่วยเหลือปัญหาต่าง ๆ เกี่ยวกับ IT ซึ่งมี 3 ช่องทางด้วยกัน เริ่มจากการส่งแบบฟอร์มในระบบ สู่การประชาสัมพันธ์ในองค์กร และจัดเตรียมข้อมูลช่องทางการติดต่อต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับผู้ที่ต้องการใช้ข้อมูลนั่นเอง Quote of the day “ศุภาลัยไม่เปลี่ยน บริษัทอื่นก็เปลี่ยน ไม่ใช่ว่าต้องทำอย่างไรจึงจะตามคนอื่นทัน แต่เราต้องนำคนอื่น ฉะนั้นแล้ว Digital Transformation ไม่ใช่เรื่องของผู้บริหาร ไม่ใช่เรื่องของคนปฏิบัติ แต่เป็นเรื่องของทุกคนที่ต้องหาดาวเหนือเหลาเป้าไปด้วยกัน และช่วยขับเคลื่อนไปด้วยกัน”...
SUPALAI ทรานฟอร์มการทำงานไร้อุปสรรคด้วย Google Workspace
About Supalai บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ บ้าน ทาวน์โฮม คอนโดมิเนียม และอื่น ๆ ในปัจจุบันบริษัท ศุภาลัยก้าวขึ้นมาเป็น Top 5 บริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองในกรุงเทพมหานครและจังหวัดอื่น ๆ โดยมีแนวคิดในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ ดังนี้ บ้าน ศุภาลัย ออกแบบรองรับทุกไลฟ์สไตล์ของคนในครอบครัว สบายใจด้วยวัสดุได้มาตรฐานสากลและระบบรักษาความปลอดภัย ทาวน์โฮม ศุภาลัย บ้านฟังก์ชันครบ ทำเลเดินทางสะดวก พื้นที่พักผ่อนปรับเปลี่ยนได้ พร้อมห้องครัวที่รองรับทั้งครัวหนักและเบา อุ่นใจด้วยกล้องวงจรปิด กับสภาพแวดล้อมและสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกบ้านศุภาลัย คอนโดมิเนียม ศุภาลัย นิยามใหม่ของชีวิต Urban Living คอนโดฯ พื้นที่กว้างฟังก์ชันลงตัวกับทำเลคุ้มค่าน่าอยู่ น่าลงทุน เชื่อมต่อทุกการเดินทาง รายล้อมด้วยความสะดวกโดยรอบ ด้วยดีไซน์ที่ทันสมัย ทำเลดี สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทำให้ในปัจจุบันบริษัท ศุภาลัยกลายมาเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายและมีชื่อเสียงมาอย่างยาวนานหลายสิบปี Experience with Google Workspace ความต้องการความปลอดภัยทางไซเบอร์เป็นจุดริเริ่มที่ทำให้บริษัท ศุภาลัยตัดสินใจใช้งาน Google Workspace ซึ่งเรียกได้ว่า “นี่เป็นการตัดสินใจอย่างถูกต้อง” เพราะ Google Workspace ช่วยให้บริษัทไม่ต้องลงทุนด้าน Security, Infastructure, System, Network เพิ่มเติม และที่สำคัญ Google Workspace เปลี่ยนแปลงวิถีการทำงานของพนักงานในบริษัท ศุภาลัยได้อย่างลงตัว เพราะพนักงานสามารถทำงานได้จากทุกสถานที่และ Collaborate ร่วมกันได้อย่างสะดวก ทำให้ในปัจจุบัน Google Workspace กลายเป็นเครื่องมือและปัจจัยหลักที่ช่วยให้พนักงานในบริษัทศุภาลัยสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับการใช้งานแอปพลิเคชันใน Google Workspace พนักงานมีการใช้แอปพลิเคชัน Gmail, Google Meet, Google Forms, และ Google Drive อยู่เป็นประจำ ซึ่งแอปพลิเคชันเหล่านี้ตอบโจทย์ในการทำงานได้แบบครบวงจร สะดวกสบายในการเก็บข้อมูล ทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น ไร้กังวลเรื่องไฟล์หมดอายุ และหมดปัญหาเรื่องการทำงานแบบยึดติดสถานที่และความปลอดภัยต่าง ๆ Supalai...
Continue readingThe Fastest Workflow App for Smart Enterprises: ยกระดับการทำงานรูปแบบอัตโนมัติด้วยนวัตกรรมการสร้างแอปไร้โค้ดจาก AppSheet
คุณอยากมีแอปพลิเคชันเป็นขององค์กรไหม? แอปพลิเคชันที่คุณสามารถสร้างเองได้ ออกแบบฟังก์ชันเองได้ ไม่ต้องรอโปรแกรมเมอร์อีกต่อไป เตรียมพบกับงานอีเวนต์ครั้งยิ่งใหญ่ ครั้งแรกในประเทศไทย กับงาน “The Fastest Workflow App for Smart Enterprises: ยกระดับการทำงานรูปแบบอัตโนมัติด้วยนวัตกรรมการสร้างแอปไร้โค้ดจาก AppSheet” by Demeter ICT, Official Certified Partner in Thailand รับประกันเนื้อหาเกี่ยวกับ AppSheet เน้น ๆ จัดหนัก จัดเต็มแน่นอน ห้ามพลาด ! โดยในงานนี้ Demeter ICT ได้ยกทัพเหล่าผู้เชี่ยวชาญด้าน AppSheet มาให้ความรู้โดยตรง ไม่ว่าจะเป็น การแนะนำเกี่ยวกับ AppSheet แพลตฟอร์มยอดฮิตที่กำลังมาแรงแซงทางโค้งทั้งในตลาดไทยและต่างประเทศ การนำ AppSheet มาสร้างแอปพลิเคชันโดยเริ่มจากการวิเคราะห์กระบวนการภายในองค์กรสู่วิธีการสร้างแอปจริงแบบ Step by Step การใช้ประโยชน์จาก Google AI สร้าง Chatbot ด้วย AppSheet โดยที่ไม่ต้องลงทุนเพิ่มแต่อย่างใด สร้างจาก AppSheet ได้เลย ฟรี ! ผลลัพธ์ของการใช้งาน AppSheet จากกรณีศึกษาจากลูกค้าผู้ใช้งานจริงของเรา พร้อมโปรโมชันสุดพิเศษสำหรับผู้ที่มาร่วมงานอีเวนต์นี้เท่านั้น ! และเพื่อตอกย้ำคุณประโยชน์และความสำเร็จของ AppSheet มากขึ้นไปอีก เราได้นำบทพิสูจน์จากบริษัทชื่อดังระดับโลกอย่าง Globe Telecom มายืนยันผลลัพธ์ของ AppSheet อีกเสียงว่าช่วยพัฒนาองค์กรได้จริง พนักงานสามารถสร้างแอปพลิเคชันได้มากกว่า ไม่จำกัดจำนวนแอปพลิเคชัน สร้างได้แบบ Unlimited 200 แอป ลดระยะเวลาการประมวลผลจากการสร้างแอปแบบดั้งเดิมได้ 79.8 % องค์กรสามารถลดต้นทุนได้สูงสุดถึง 6.7 ล้านดอลลาร์ ไม่เพียงแค่นี้ AppSheet ยังช่วยพัฒนาส่วนต่าง ๆ ขององค์กรของคุณได้อีกมากมาย หากคุณอยากทำความรู้จัก AppSheet เพิ่มเติม อยากรู้ว่า AppSheet พัฒนาการทำงานได้อย่างไร ให้ผลดีแค่ไหน...
Continue reading