มีไฟล์เป็นร้อยก็หาเจอได้ภายใน 5 วิด้วย Cloud Search เครื่องมือการค้นหาข้อมูลอัจฉริยะที่ทำงานร่วมกับ Google Workspace โดยตรง ซึ่งหลาย ๆ คนอาจจะยังไม่เคยได้ยินหรือไม่คุ้นชินกับแอปพลิเคชันนี้ ดังนั้นทาง DMIT จะขอยกตัวอย่างคร่าว ๆ เพื่อให้คุณได้เข้าใจการทำงานของ Cloud Search มากขึ้น สมมุติว่าคุณต้องการหาไฟล์ ๆ หนึ่ง แต่คุณไม่ทราบว่าไฟล์นั้นชื่ออะไร ถูกเก็บไว้ที่ไหน คุณก็สามารถค้นหาได้จาก Keywords ที่คุณรู้หรือที่คุณคิดว่าน่าจะใช่ จากนั้น Google จะโชว์ผลลัพธ์ทั้งหมดมาให้คุณภายในพริบตาเดียวเท่านั้น Cloud Search หาไฟล์จากที่ไหนได้บ้าง? จากที่ได้กล่าวไปแล้วด้านบนว่า Cloud Search ทำงานกับ Google Workspace ดังนั้นแอปพลิเคชันที่เชื่อมต่อได้ ก็จะมีทั้ง Gmail, Docs, Sheets, Slides, Drive, Calendar, และ Sites รวมไปถึงกลุ่มที่คุณเข้าร่วมหรือกลุ่มภายในองค์กรได้อีกด้วย มากไปกว่านั้นคุณสามารถเลือกกรองไฟล์ส่วนที่คุณต้องการค้นหาได้ ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ ไฟล์เอกสาร PDF งานนำเสนอ วิดีโอ หรือโฟลเดอร์ต่าง ๆ คุณก็สามารถค้นหาไฟล์ที่คุณต้องการใช้ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว จะเห็นได้ว่าคุณไม่ต้องเข้าทีละแอปเพื่อค้นหาไฟล์ ๆ เดียวอีกต่อไป Cloud Search จัดให้ครบจบได้ภายใน 5 วิ คอนเฟิร์ม! Cloud Search อยู่ที่ไหน? คุณจะต้องไปที่หน้า Gmail ของคุณจากนั้นกด Google Apps ที่อยู่ด้านบนขวา แล้วเลื่อนไปที่ Cloud Search โดยมี Logo สีฟ้าแบบนี้ จากนั้นก็เริ่มค้นหาได้เลย! สำหรับแพ็กเกจที่รองรับ Cloud Search ได้แก่ Business Standard, Business Plus, และ Enterprise หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ Demeter ICT...
Continue readingไม่ต้องเขียนโค้ดก็สร้างแอปพลิเคชันได้ด้วย AppSheet
จริง! เพียงแค่มี AppSheet ผลิตภัณฑ์จากทาง Google คุณก็สามารถสร้าง Application ได้แล้ว ง่ายมาก ไม่ต้องเขียน Code ย้ำ! ไม่ต้องเขียน Code ด้วยความที่สมัยนี้อะไร ๆ ก็เป็นดิจิทัลไปซะหมด หลาย ๆ องค์กรจึงต้องปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานและพัฒนาให้ก้าวทันโลกปัจจุบัน หลาย ๆ คน ก็เริ่มสร้างธุรกิจใหม่ด้วยตัวเอง ซึ่งตัว AppSheet นี้ถูกสร้างและพัฒนาขึ้นมาเพื่อให้องค์กรของคุณสามารถสร้างแอปพลิเคชันไว้ใช้ในองค์กรได้โดยที่ไม่ต้องมีความรู้ทางไอทีหรือเทคโนโลยีที่ดูจะเข้าใจและเข้าถึงยากเหลือเกิน หากลองนึกย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อนที่กว่าจะสร้างแอปพลิเคชันนึงขึ้นมานั้นต้องใช้เวลาในการเขียน Code ยาวนานและยากมาก ๆ แถมยังต้องใช้เงินจำนวนมากในการสร้างอีก แต่หากเปรียบเทียบกับปัจจุบันนี้ อะไร ๆ ก็ถูกปรับให้ง่ายขึ้น สร้างง่าย ใช้งานง่าย ออกแบบตามวัตถุประสงค์เองได้เลย AppSheet X Google AppSheet สามารถทำงานร่วมกับผลิตภัณฑ์จากทาง Google ได้ เช่น Google Data Studio และ Google Workspace (Google Docs, Sheets, Forms, Drive, และอื่น ๆ) คุณสามารถสร้างฐานข้อมูลเองได้โดยใช้เครื่องมือเหล่านี้ที่หลาย ๆ คนคงจะเคยได้ยินและเคยใช้งานกันมาบ้างแล้ว ซึ่งทำให้การใช้งาน AppSheet นั้นดูง่ายขึ้นมากกว่าเดิมอีกหลายเท่า AppSheet ช่วยอะไรได้บ้าง? ออกแบบได้ตามต้องการเพื่อแก้ไขปัญหาในองค์กรองค์กรของคุณสามารถกำหนดรูปแบบของแอปพลิเคชันได้ตามต้องการ ตัวอย่างเช่น บริษัทคุณมีปัญหาเรื่องการเช็คชื่อพนักงาน ไม่รู้จะว่าพนักงานเข้า – ออกงานตรงตามเวลาหรือไม่ คุณสามารถนำปัญหาที่เกิดขึ้นในองค์กรมาสร้างแอปพลิเคชันเพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้ให้หมดไป ทั้งยังทำให้บริษัทของคุณดูทันสมัยและมีการทำงานที่เป็นระบบมากขึ้นอีกด้วย ลดขั้นตอนและประหยัดเวลาในการทำงานจากเดิมที่คุณต้องส่งเอกสารเพื่อดำเนินเรื่องอะไรสักอย่างในบริษัท คุณจะต้องกรอกแบบฟอร์มและรอดำเนินการซึ่งก็ไม่รู้จะใช้เวลานานเท่าไหร่กว่าจะดำเนินการเสร็จเนื่องจากต้องส่งเอกสารไปยังหลายฝ่าย ใช้เวลาก็หลายวัน แต่ถ้าคุณมี AppSheet คุณลืมขั้นตอนเหล่านั้นไปได้เลย คุณสามารถกรอกข้อมูลผ่านแอปและระบบจะทำการส่งข้อมูลไปยังปลายทางได้โดยอัตโนมัติ เสร็จภายในไม่กี่นาที สร้างภาพลักษณ์ที่ดีขึ้นให้กับองค์กรการทำงานแบบเดิม ๆ จะไม่จำเป็นอีกต่อไป หากองค์กรของคุณมีเทคโนโลยีที่สามารถตอบโจทย์การทำงานของพนักงานให้สะดวกมากยิ่งขึ้น มีแอปที่คอยช่วยจัดการให้การทำงานมีความรวดเร็วและเป็นระบบ ซึ่งจะช่วยให้องค์ของคุณดูมีความเป็นมืออาชีพและมีความน่าเชื่อมากขึ้น หากคุณมีความสนใจนำ AppSheet นี้ไปปรับใช้กับองค์กรของคุณ คุณสามารถซื้อบริการแยกได้ ยิ่งไปกว่านั้นทางเรามีโปรโมชันสุดคุ้มให้ ถ้าคุณซื้อบริการ Google Workspace Enterprise...
Continue readingGoogle Meet VS Microsoft Team เหมือนและแตกต่างกันอย่างไร?
หากพูดถึงเรื่องการประชุมทางไกล (Video Conference) ก็คงหนีไม่พ้นแอปพลิเคชันจากสองบริษัทชื่อดังอย่างเช่น Google Meet และ Microsoft Team ซึ่งหลาย ๆ คนคงจะคุ้นชินและเคยใช้แอปพลิเคชันเหล่านี้มาบ้างแล้ว แต่ว่าแอปพลิเคชันไหนกันที่เหมาะกับคุณ เหมือนและต่างกันอย่างไร วันนี้ DMIT ได้รวบรวมข้อมูลทั้งหมดมาไว้ที่นี่ให้อย่างจัดเต็ม พร้อมแล้ว ไปดูกันเลย! ระดับความยากง่ายของการใช้งาน Google Meet นั้นถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่าย เพียงแค่กดเข้าหน้าแรกบนหน้าเดสก์ท็อปหรือบนแอปในโทรศัพท์ คุณก็จะเจอปุ่มที่สามารถสร้าง Meeting ได้ทันที อีกทั้งเมื่อคุณได้สร้าง Meeting ไว้แล้วคุณสามารถเลือกใช้ภาพพื้นหลังหรือเอฟเฟ็กต์อื่น ๆ ได้อีกด้วย ส่วนฝั่ง Microsoft Team นั้นจะมีการใช้งานที่ซับซ้อนมากขึ้นอีกสักหน่อย เนื่องจากเน้นการประชุมที่ค่อนข้างมีความเป็นทางการ การจะเลือกใช้งานฟังก์ชันใดจึงอาจจะต้องกดหลายปุ่ม แต่ก็ไม่ยากเกินไปอย่างแน่นอน แถมยังมีภาพพื้นหลังและลูกเล่นอื่น ๆ ไม่แพ้กัน หมายเหตุ : หากคุณต้องการเข้าใช้งานผ่านโทรศัพท์ คุณจะต้องทำการดาวน์โหลดและใช้งานผ่านแอปเท่านั้น แอปพลิเคชันที่เชื่อมต่อได้ Google Meet Calendar – คุณสามารถสร้าง New Meeting ได้ใน Google Calendar ทันที เพียงแค่คลิกวันที่และเวลาที่คุณต้องการสร้าง จากนั้นก็สามารถเพิ่มคนที่คุณต้องการที่จะให้เข้าร่วมประชุมหรือแชร์ลิงก์ได้เลย Gmail – หากคุณได้รับคำเชิญหรือมีคนแชร์ลิงก์ Meeting ให้ Google จะทำการส่ง Email เข้าไปใน Gmail ของคุณเพื่อให้คุณกดยืนยันที่จะเข้าร่วม Chat – สมมุติว่าคุณกำลังคุยงานอยู่แล้วต้องการที่จะ Meeting โดยด่วน คุณสามารถกดปุ่มรูปวิดีโอได้ที่ด้านล่างขวา จากนั้นคุณก็จะเข้าสู่ Google Meet โดยอัตโนมัติ Microsoft Team Outlook – คุณสามารถสร้างลิงก์ Meeting แล้วแชร์ไปให้ผู้เข้าร่วมทาง Email ได้ แต่มีข้อแม้คือคุณต้องเขียนอีเมลขึ้นมาเอง Calendar – การใช้งานจะคล้ายกับ Google Meet ที่กล่าวไปด้านบน แต่ว่า Microsoft...
Continue readingCanva บริษัทผลิตแพลตฟอร์มเพื่อการออกแบบชื่อดัง สนับสนุนการทำงานร่วมกันของพนักงานด้วย Google Workspace
“Canva พื้นที่ที่ทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการออกแบบได้อย่างง่าย“ Canva นำเสนอสภาพแวดล้อมการทำงานร่วมกันด้วย Google Workspace เพื่อสนับสนุนพนักงานที่อยู่ต่างประเทศที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้พวกเขาเชื่อมต่อถึงกันและพัฒนาได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพมากที่สุด “Google Workspace เป็นเหมือนอากาศและน้ำสำหรับเรา เป็นส่วนหนึ่งของสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติในที่ทำงานของเรา” Jeff Lai ผู้เชี่ยวชาญด้านโครงสร้างพื้นฐานภายในของ Canva กล่าว ยืนยันจากผู้ใช้จริงมาอย่างยาวนาน Google Workspace ธุรกิจที่เต็มไปด้วยนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่สนับสนุนการทำงานร่วมกันในองค์กรอย่างสร้างสรรค์บนระบบคลาวด์ ซึ่งมีการรักษาความปลอดภัยอย่างดีเยี่ยมจึงทำให้ได้รับความไว้วางใจจากหลาย ๆ หน่วยงาน เช่น Canva ผู้ใช้งาน Google Workspace มาอย่างยาวนาน และ Jeff Lai ผู้เชี่ยวชาญด้านโครงสร้างพื้นฐานภายในของ Canva ได้กล่าวไว้ว่า “หากจะเป็นธุรกิจระดับโลก บริษัทต้องมั่นใจว่าองค์กรมีเทคโนโลยีที่สามารถเติบโตและขยายไปพร้อมกับตนเองได้” ดังนั้น Canva จึงตัดสินใจเลือก Google Workspace ที่จะมาตอบโจทย์การทำงานร่วมกันจากทั่วทุกมุมโลก Canva มีใบอนุญาตใช้งาน Google Workspace มากถึง 1,850 สิทธิ์ เพื่อรองรับพนักงานราว 1,200 คน ด้วยชุดแอปพลิเคชันที่ครอบคลุมความต้องการด้านการสื่อสาร การเชื่อมต่อ และประสิทธิภาพของผลงาน โดยมั่นใจว่าการใช้บริการ Google Workspace จะทำให้องค์กรมีพื้นที่จัดเก็บเพียงพอเพื่อให้ธุรกิจไม่ต้องเสียค่าบริการซื้อพื้นที่จัดเก็บเสริม ทีมนักออกแบบ นักพัฒนา นักการตลาด นักลงทุน และที่ปรึกษาของ Canva ใช้ Google Workspace สำหรับงานต่าง ๆ เช่น จัดกำหนดการประชุม ส่งอีเมลให้ฝ่ายภายในและภายนอก จัดเก็บไฟล์และติดตามกิจกรรมในสเปรดชีต ซึ่งการทำงานบน Google Workspace นั้นช่วยให้ Canva สามารถขยายฐานผู้ใช้งานได้มากขึ้นและช่วยให้ Canva ประสบความสำเร็จในการสร้างแพลตฟอร์มที่มีเทมเพลตและแบบอักษรนับพัน รวมถึงรูปภาพสต็อก ไอคอน และภาพประกอบนับล้าน เข้าถึงได้จากทุกหนทุกแห่งราว 100 % เนื่องจากพนักงานของ Canva ที่อยู่ต่างประเทศนั้นมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว โมเดลการทำงานแบบกระจายจึงเป็นโซลูชันที่เหมาะสมที่สุด Canva เลือกใช้เครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการทำงานร่วมกันที่พร้อมให้บริการตลอดแบบ 24/7...
Continue readingPhishing และ Malware ก็ทำอะไร Google Workspace ไม่ได้!
เมื่อการทำงานแบบผสมผสาน (Hybrid working) กลายเป็นบรรทัดฐานสำหรับองค์กรหลายแห่ง การรักษาความปลอดภัย ความเป็นส่วนตัวของข้อมูล และความน่าเชื่อถือจึงเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก และถือเป็นรากฐานที่ทำให้คนสามารถทำงานร่วมกันบน Cloud ได้อย่างสบายใจไปพร้อมกับ Google Workspace ปกป้องความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูลด้วยการเข้ารหัสแบบ Client-side Client-side Encryption หรือการเข้ารหัสโดยข้อมูลลูกค้า คือ การที่องค์กรทำการล็อคประตูเข้าถึงคลังข้อมูลบางอย่างหรือที่เราเรียกว่าการเข้ารหัสข้อมูลก่อนที่ข้อมูลจะถูกอัปโหลดไปยัง Server ซึ่ง Password ที่ใช้ล็อคไว้นั้นคือกุญแจเข้ารหัสที่มีเพียงแค่คนในองค์กรที่รู้เท่านั้น วิธีนี้จะทำให้องค์กรเองสามารถควบคุมข้อมูลด้วยตัวเองได้โดยตรง ช่วยให้องค์กรสามารถรักษาข้อมูลที่เป็นความลับได้อย่างปลอดภัย ไม่ว่าจะใช้งานบนอุปกรณ์ใดก็ตาม อีกทั้งยังสามารถแชร์ไฟล์ที่เข้ารหัสให้บุคคลอื่นได้อีกด้วย ซึ่งหากรวมกับการเข้ารหัสแบบอื่นๆ จากทาง Google แล้ว องค์กรจะสามารถยกระดับการป้องกันข้อมูลที่อยู่ใน Google Workspace มากขึ้นกว่าเดิมได้อีกหลายเท่า การเข้ารหัสแบบ Client-side นี้มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับองค์กรที่จัดเก็บข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อน เช่น ข้อมูลที่เกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญา บันทึกการรักษาพยาบาล หรือข้อมูลทางการเงิน เป็นต้น สำหรับลูกค้า Google Workspace Enterprise Plus การเข้ารหัส Client-side จะพร้อมใช้งานใน Google Drive, Docs, Sheets, และ Slides ในขั้นต้น โดยรองรับไฟล์หลายประเภท รวมถึงไฟล์ Office, PDF และอื่นๆ การป้องกัน Phishing และ Malware สำหรับ Google Drive Phishing คือ การหลอกลวงผ่านระบบออนไลน์ที่มีเป้าหมายเพื่อล้วงข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งาน ตัวอย่างเช่น การส่งอีเมลเพื่อหลอกให้เจ้าของอีเมลคลิกเข้าไปเพื่อดึงข้อมูลส่วนตัวออกมา เช่น ข้อมูลบัตรเครดิต เป็นต้น ส่วน Malware คือการปล่อยไวรัสเข้าอุปกรณ์ที่ผู้ใช้ใช้งานอยู่ เพื่อไปทำลายข้อมูลที่อยู่ในอุปกรณ์นั้นๆให้เกิดความเสียหาย สำหรับ Google Workspace นั้นมีการปกป้องข้อมูลแบบ built-in ใน Google Drive ที่จะช่วยบล็อกเนื้อหาฟิชชิงและมัลแวร์จากผู้ใช้และองค์กรภายนอก ซึ่งตอนนี้ Google ได้พัฒนาให้ Google Workspace แอดมินสามารถเข้ามาจัดการข้อมูลต่างๆ ภายในองค์กรได้ด้วยตัวเองเพื่อป้องกันภัยคุกคามจากภายในและปัญหาจากผู้ใช้งาน หากพบเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม ไฟล์ที่เกี่ยวข้องจะถูกตั้งค่าสถานะและทำให้มองเห็นได้เฉพาะแอดมินและเจ้าของไฟล์เท่านั้น...
Continue readingอะไรในองค์กรที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่อย่าง Gen Z?
ก่อนจะเข้าเรื่องต้องขอเกริ่นก่อนว่าคน Gen Z นั้นคือคนที่เกิดปีพ.ศ. 2538 – 2552 ซึ่งหลายๆ องค์กรอาจจะเคยทำงานร่วมกันกับคน Gen นี้มาบ้างแล้ว และอาจสงสัยว่าทำไมคน Gen นี้ส่วนมากจะทำงานกับองค์กรได้ไม่นาน เปลี่ยนงานบ่อย จนทำให้หลายๆคนคิดว่าคน Gen นี้ไม่มีความอดทนเอาซะเลย แต่จริงๆแล้วคน Gen นี้ไม่ได้ความอดทนต่ำแต่อย่างใด แต่ทว่าเขานั้นเกิดมาพร้อมกับเทคโนโลยี มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆมากมาย ชอบความสะดวกรวดเร็ว และชอบเรียนรู้บนโลกออนไลน์ซะส่วนใหญ่ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้คน Gen Z ต้องการทำงานกับองค์กรที่ตอบโจทย์สิ่งเหล่านี้ได้ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่จะช่วยให้การทำงานง่ายขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้นนั่นเอง ทำไมทำงานกับคน Gen Z ถึงยากนัก? สำหรับองค์กรในประเทศไทยนั้นพนักงานส่วนใหญ่จะมีอายุค่อนข้างมากและยึดติดกับระบบการทำงานแบบเดิมๆ เคยทำงานแบบไหนก็จะทำแบบนั้น ไม่เปลี่ยนแปลงตามยุคสมัย ตัวอย่างเช่น หากคุณเคยทำงานบนกระดาษหรือโปรแกรมใดๆที่คุณเคยใช้ คุณก็จะไม่เปิดใจให้กับสิ่งใหม่ๆถึงแม้ว่าสิ่งนั้นจะทำให้การทำงานของคุณง่ายขึ้นก็ตาม ซึ่งเหตุผลก็เพียงเพราะคุณคิดว่าการเปลี่ยนแปลงนั้นยากที่จะเรียนรู้และคุณคุ้นชินกับระบบแบบเดิมมากกว่า แต่หากมองในมุมคน Gen Z เขาไม่ได้คิดอย่างนั้นเลย คนรุ่นนี้ต้องการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆให้ดีขึ้นอยู่เสมอ เพราะฉะนั้นหากจะตอบคำถามที่ว่าทำไมคนรุ่นนี้ถึงทำงานกับองค์กรได้ไม่นาน ก็คงต้องย้อนกลับไปว่าองค์กรของคุณมีเทคโนโลยีที่จะซัพพอร์ตการทำงานให้คนรุ่นใหม่ในยุคสมัยนี้แล้วหรือยัง? เครื่องมือเทคโนโลยีแบบไหนที่จะช่วยให้การทำงานกับ Gen Z ง่ายขึ้น? Kahoot Gen Z in the workplace report. จากกราฟด้านบนจะเห็นได้ว่า คนส่วนใหญ่ต้องการทำงานบนโทรศัพท์ สื่อออนไลน์ วิดีโอ และผ่านโซเชียลมีเดียเป็นอันดับต้นๆ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าผู้คนนั้นต้องการอุปกรณ์ที่สามารถเข้าถึงการทำงานได้ทุกที่ ทุกเวลา แม้ว่าจะต้องใช้อุปกรณ์ส่วนตัวอย่างเช่นโทรศัพท์ก็ตาม การทำงานบนสื่อหรือแอปพลิเคชันออนไลน์ก็มีความต้องการใช้งานสูงไม่แพ้กัน ณ ปัจจุบันมีแอปพลิเคชันหลากหลายให้เลือกใช้ จะรู้ได้อย่างไรว่าแอปไหนดีที่สุด ซึ่งคำตอบก็คือแอปพลิเคชันที่มีฟังก์ชันครบ ใช้งานง่าย เหมาะกับทุกวัย เช่น Google Workspace ซึ่งนับว่าเป็นแอปพลิเคชันหนึ่งที่ใช้งานง่ายมากๆ ตอบโจทย์การทำงานหลากหลายรูปแบบ เพราะใน Google Workspace นั้นจะมีแอปพลิเคชันย่อยอีกมากมายแบ่งตามการใช้งานเพื่อให้ผู้ใช้ใช้งานได้สะดวกมากยิ่งขึ้น อีกทั้งผู้ใช้ยังสามารถเข้าถึงได้ตลอดทุกที่ ทุกเวลา และบนทุกแพลตฟอร์มอีกด้วย สำหรับการทำงานหรือเรียนรู้ผ่านวิดีโอ คนสมัยนี้ชอบการเห็นภาพและการได้ยินเสียงไปพร้อมกันเพราะจะทำให้พวกเขารู้สึกมีส่วนร่วมกับสิ่งนั้นๆและทำให้เขาจดจำเนื้อหาของวิดีโอเหล่านั้นได้มากและง่ายขึ้นกว่าเดิม ง่ายกว่าการศึกษาจากหนังสือด้วยตัวเองหลายเท่า การใช้โซเชียลมีเดียก็ยังคงมีความนิยมอยู่ไม่น้อยเช่นกัน จะเห็นได้จากการที่หลายๆ องค์กรใช้โซเชียลมีเดียเป็นสื่อในการพูดคุยกับกลุ่มเป้าหมาย เช่น Facebook และ Instagram ซึ่งสามารถเรียกสื่อเหล่านี้ว่าเป็นหน้าบ้านขององค์กรแทนเว็บไซต์เลยก็ว่าได้ การที่องค์กรเลือกใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆสื่อสารนั้นจะทำให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายมากขึ้น เนื่องจากว่าคน Gen...
Continue readingGoogle Cloud (Storage) คืออะไร?
Google Cloud คือ? Google Cloud ชื่อที่เราเรียกกันจนชินปาก จริง ๆ แล้วสิ่งที่ทุกคนหมายถึงนั่นก็คือ Google Cloud Storage นั่นเอง ซึ่งก็คือการจัดเก็บข้อมูลผ่านทาง Google ที่คุณสามารถสร้างและเก็บไฟล์ได้โดยผ่านระบบออนไลน์ได้อย่างง่าย เพียงแค่คุณมีบัญชี Gmail ก็สามารถเข้าถึงฟังก์ชันต่างๆได้ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างสรรค์ผลงานออนไลน์ผ่าน Google Workspace (Docs, Sheets, Slides) หรือ แอปพลิเคชันอื่นๆจาก Google ระบบก็จะทำการบันทึกไฟล์อัตโนมัติและอัปโหลดบน Cloud ได้ทันที ไม่เพียงแต่งานเอกสารเท่านั้น แต่ยังรวมถึงรูปภาพ เสียง วิดีโอ หรือไฟล์ต่างๆที่คุณต้องการจัดเก็บอีกด้วย *ในส่วนของ Google Cloud นั้นจะมีความหมายคนละอย่างกันกับ Google Cloud Storage นะ ! Google Cloud Storage ดียังไง? ไม่ต้องมี Hard Disk หรือ Flash Drive หลายๆคนอาจจะชินกับการทำงานแบบเดิมๆ ที่ต้องอาศัยการเก็บข้อมูลผ่าน Hard Disk หรือ Flash Drive ซึ่งคุณนั้นต้องพกมันไปทุกที่ ไม่หนำซ้ำยังต้องระวังเรื่องไวรัสอีก ไม่เหมือนกับสมัยนี้ที่ทุกอย่างเปลี่ยนเป็นระบบออนไลน์ไปซะหมด คุณจะไม่ต้องมีอุปกรณ์เสริมแบบเดิมๆอีกต่อไป ทุกครั้งที่คุณมีการทำงานผ่านแอปพลิเคชันของ Google งานของคุณก็จะถูกบันทึกอยู่บน Cloud ทันที ประหยัดค่าใช้จ่าย สืบเนื่องมาจากข้อด้านบน แน่นอนว่าพอคุณไม่ต้องพก Hard Disk หรือ Flash Drive ก็จะทำให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากยิ่งขึ้น ไม่จำเป็นต้องซื้ออุปกรณ์ใหม่ที่มีความจำเยอะขึ้นเพื่อจัดเก็บไฟล์หรือข้อมูลที่มากขึ้น แชร์ให้คนอื่นได้ตลอดทุกที่ ทุกเวลา เนื่องจากว่าเป็นการจัดเก็บข้อมูลผ่านระบบออนไลน์ จึงทำให้คุณสามารถตั้งค่าความเป็นส่วนตัวหรือแชร์ให้บุคคลอื่นได้ตลอดเวลา ถึงแม้ว่าตัวคุณไม่ได้ออนไลน์อยู่ เพื่อนหรือทีมของคุณก็สามารถเข้าถึงไฟล์นั้นๆได้ตามที่คุณต้องการได้ทุกที่ ทุกเวลา ใช้งานได้บนทุกอุปกรณ์ หากจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพ ก็คงหนีไม่พ้นเรื่อง Hard Disk หรือ Flash Drive เช่นเดิมที่เมื่อก่อนนั้นคุณต้องเสียบกับ Computer หรือ...
Continue readingGoogle Workspace เกิดมาได้อย่างไรและตอบโจทย์ยุคดิจิทัลได้มากแค่ไหน?
It’s Time for Google Workspace! ถึงเวลาแล้วที่ Google จะช่วยคุณพัฒนาและเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานแบบเดิมๆให้ดีขึ้นด้วย Google Workspace เทคโนโลยีรูปแบบใหม่ที่จะทำให้การทำงานในยุคดิจิทัลเป็นเรื่องง่ายๆ หากจะย้อนกลับไปที่จุดเริ่มต้นก็คงจะหนีไม่พ้นวิกฤติการณ์โควิด 19 ที่อยู่กับเรามายาวนานอย่างไม่คาดคิด ทำให้การทำงานในยุคปัจจุบันนั้นถูกปรับเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง หลายบริษัทยกเลิกการทำงานรูปแบบเดิมแล้วเปลี่ยนเป็นการทำงานรูปแบบใหม่เพื่อให้ตอบสนองต่อโลกดิจิทัลที่เติบโตอย่างต่อเนื่องและรวดเร็วมากขึ้น การเดินทางไปทำงานที่ออฟฟิศหรือการไปประชุมก็จะไม่จำเป็นอีกต่อไปหากว่าเรามีเครื่องมือที่ช่วยให้เราทำงานจากที่บ้านหรือที่ไหนก็ได้ แม้ว่าพนักงานบริการส่วนหน้าที่ต้องติดต่อปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าโดยตรงก็ต้องเปลี่ยนมาให้บริการลูกค้าผ่านทางโทรศัพท์หรืออินเทอร์เน็ตแทน ตลอดจนถึงแพทย์หรือหน่วยงานภาครัฐก็ยังต้องมองหาเทคโนโลยีที่จะเข้ามาช่วยซัพพอร์ตกระบวนการการทำงานและบริหารจัดการให้เป็นไปอย่างมีระบบ สะดวก รวดเร็ว และคุ้มค่ามากที่สุด การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ถือเป็นเรื่องท้าท้ายอย่างมากสำหรับ Google แต่ถ้าหากมองอีกมุมหนึ่งก็ยังนับว่าเป็นโอกาสที่สำคัญเลยทีเดียวที่จะช่วยผู้คนให้ประสบความสำเร็จในโลกของดิจิทัลเช่นนี้ ดังนั้น Google จึงได้สร้าง Google Workspace ขึ้นโดยมีสโลแกนว่า “ทุกสิ่งที่คุณต้องการ รวมอยู่ที่นี่ที่เดียว” Google Workspace ประกอบไปด้วยชุดแอปพลิเคชันที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เช่น Gmail, Calendar, Drive, Docs, Sheets, Slides, Meet, และอื่นๆอีกมากมาย ไม่ว่าคุณจะไปทำงานที่ออฟฟิศหรือจะทำงานที่บ้าน Google Workspace คือโซลูชันที่ดีทีสุดที่จะช่วยสร้างสรรค์ผลงานที่ยอดเยี่ยมและช่วยยกระดับการสื่อสารและทำงานร่วมกันในองค์กรให้ดียิ่งขึ้น Google Workspace ได้พัฒนาแอปพลิเคชันโดยมีแนวคิดหลัก 3 ข้อ ดังนี้ 1. เปิดประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้ใช้งาน ในเดือน กรกฎาคมที่ผ่านมา Google ได้ประกาศโซลูชันใหม่ที่จะรวบรวมการทำงานของคุณให้เป็นหนึ่งเดียวทั้งการสื่อสารและการทำงานร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นการส่งข้อความ อีเมล เสียง หรือ วิดีโอ ก็สามารถรวมอยู่ในที่เดียวกันได้ โดยสิ่งนี้จะเสริมสร้างประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้นให้กับผู้ใช้บริการ Google Workspace สำหรับการใช้งาน Google Workspace นั้นก็ง่ายมากๆเลยทีเดียว ตอบโจทย์ทั้งองค์กรขนาดเล็กและองค์กรขนาดใหญ่ โดยที่ผู้ใช้ทุกคนสามารถเข้าถึงฟีเจอร์ Chat และ Drive ได้ และสามารถสร้างผลงานและทำงานร่วมกันกับผู้ใช้งานคนอื่นได้ด้วยแม้ว่าจะเป็นคนนอกองค์กรก็ตาม ทั้งหมดนี้เพื่อเป็นการตอกย้ำว่าทุกคนสามารถเข้าถึงข้อมูลชุดเดียวกันได้อย่างง่ายดาย อีกทั้ง Google Workspace ยังถูกออกแบบมาเพื่อให้ประหยัดเวลาในการใช้งานมากขึ้น ตัวอย่างเช่น Docs, Sheets, และ Slides คุณสามารถกดดูไฟล์งานได้โดยที่ไม่ต้องเปิดหน้าต่างใหม่ซึ่งนั่นหมายความว่าคุณจะสามารถประหยัดเวลาในการทำงานและทำให้งานนั้นเสร็จเร็วขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ ยิ่งไปกว่านั้นคุณยังสามารถแท็กคนที่คุณต้องการจะกล่าวถึงเพื่อให้คนๆนั้นเห็น Email, Chat หรือ Video ตามที่คุณต้องการได้ ไม่เพียงแค่นั้น...
Continue readingเปิดโมเดล สร้างธุรกิจให้ก้าวทันการทำงานในยุคใหม่ไปกับ Google Workspace
“ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน” เป็นเรื่องที่ภาคธุรกิจในปัจจุบันต่างตระหนักถึง ดังจะเห็นได้จากปัญหาการแพร่ระบาดของวิกฤติ COVID-19 ที่เกิดขึ้นมาแบบไม่ทันตั้งตัว และได้สร้างผลกระทบอย่างคาดไม่ถึงให้กับภาคธุรกิจและเศรษฐกิจทั่วโลก ถึงแม้สถานการณ์จะเริ่มคลี่คลาย รัฐบาลยกเลิกเคอร์ฟิว และจะเริ่มเปิดประเทศในอีกไม่นานนี้ก็ตาม แต่ในอนาคตก็ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะมีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้นมาอีกบ้าง การแพร่ระบาดจะกลับมาอีกไหม? จะมีการล็อกดาวน์เกิดขึ้นอีกหรือเปล่า? จึงเป็นคำถามที่ผู้ประกอบการภาคธุรกิจไม่นิ่งนอนใจ ดังนั้นสิ่งที่เห็นได้ชัดคือองค์กรธุรกิจหลายแห่งปรับตัวและมองหาวิธีการใหม่ ๆ เทคโนโลยีใหม่ ๆ รวมถึงเครื่องมือที่เหมาะสมที่สุด เพื่อให้ธุรกิจสามารถเดินหน้าต่อได้อย่างราบรื่น และเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้ธุรกิจพร้อมรับมือกับทุก ๆ สถานการณ์ ทั้งนี้ยังต้องมีความสอดรับกับกลุ่มคนทำงานรุ่นใหม่ที่มีพฤติกรรม ไลฟ์สไตล์ และความต้องการที่แตกต่างจากคนรุ่นก่อน เพื่อให้ก้าวทันยุคสมัยใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไปอยู่เสมอนั่นเอง บริษัท ดีมีเตอร์ ไอซีที จึงขอเชิญชวนเจ้าของกิจการ ผู้ประกอบการ และองค์กรต่าง ๆ ที่กำลังมองหาวิธีการทำงานและเครื่องมือดิจิทัลที่เหมาะสมที่สุด พลิกวิกฤติในความไม่แน่นอนของสถานการณ์ COVID-19 เป็นโอกาสในการปฏิรูปการทำงานของพนักงานในองค์กรให้ก้าวทันยุคใหม่หรือปี 2022 ที่กำลังจะมาถึงนี้อย่างมีประสิทธิภาพและยืดหยุ่นด้วยเทคโนโลยีจาก Google ให้คุณพร้อมรับกับทุกสถานการณ์และการเปลี่ยนแปลงการทำงานในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น การทำงานทางไกล (Remote Working) การทำงานจากที่บ้าน (Work from Home) หรือการทำงานแบบผสมผสาน (Hybrid Working) ซึ่งสามารถประยุกต์ใช้ในการทำงานหลักได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืนในอนาคตในยุคหลัง COVID-19 หรือ Next Normal นั่นเอง ลงทะเบียนสำรองที่นั่ง สิ่งที่คุณจะได้รับจากการเข้าร่วม โมเดลในการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการทำงานร่วมกันในองค์กรยุคใหม่ พร้อมวิธีการที่สามารถนำไปปรับใช้ได้จริง ทำความรู้จัก Google Workspace เครื่องมือสำหรับการทำงานร่วมกันขององค์กรยุคดิจิทัล ที่มีผู้ใช้งานมากกว่าพันล้านคนทั่วโลก การลดต้นทุนแฝงจากการใช้งานซอฟต์แวร์ในการทำงานหลายระบบ (Silo) ในแบบเดิม ๆ เพื่อลดความเสี่ยงในการลงทุนด้านทรัพยากร การบริหารกระบวนการการทำงานร่วมกันในองค์กรอย่างเป็นระบบ ลดขั้นตอนการทำงานที่ซ้ำซ้อน และการจัดการทรัพยากรบุคคลด้วยเทคโนโลยี (พนักงานจะสามารถทำงานได้หลากหลาย รวดเร็ว และยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น) การใช้งานเทคโนโลยีที่มีอยู่ในมือให้คุ้มค่าและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด Agenda 20.00 – 20.05 น. พิธีกล่าวเปิด 20.05 – 20.20 น. Reduce Costs, Boost Productivity, and Simplify manageability for Your Business...
Continue reading