Google Chat ทำอะไรได้บ้าง? Google Chat คือเครื่องมือสำหรับรับ-ส่งข้อความทั้งแบบเดี่ยวและกลุ่มที่ไม่ได้มีดีแค่แช็ตอย่างเดียว แต่ทำได้ถึง 9 อย่าง! หากใครที่เคยใช้แค่พิมพ์ตอบโต้เพียงอย่างเดียว DMIT ขอบอกเลยว่าคุณนั้นใช้ Google Chat ไม่คุ้มเอาซะเลย! เพราะจริง ๆ แล้ว Google Chat มีลูกเล่นซ่อนอยู่มากมาย ฟีเจอร์จะดีจะเด็ดแค่ไหน ไปดูกัน! 1. Google Chat สามารถแชร์ไฟล์จาก Google Drive ได้ ไปที่ปุ่มบวก (+) ตรงบทสนทนา ที่ปรากฏด้านล่างซ้ายของบทสนทนานั้น ๆ จากนั้นเลือก Drive file แล้วกดแชร์ไฟล์จาก Google Drive ได้เลย โดยคุณจะเห็นแท็บเมนูดังภาพด้านล่างนี้ 2. Google Chat สามารถสร้างห้องประชุม (Google Meet) ไว้ล่วงหน้าโดยผ่านทาง Google Calendar ได้ Calendar invite (การเชิญเข้าร่วมประชุม) จะอยู่ในแท็บเมนูเมื่อกดที่ปุ่มบวกเช่นเดียวกัน หากคุณคลิกเลือกที่ฟีเจอร์นี้ Google Calendar จะ Pop Up ขึ้นมาที่หน้าจอด้านขวาโดยที่คุณไม่ต้องเปิดหน้าใหม่ คุณสามารถใส่หัวข้อ วันที่และเวลาที่ต้องการประชุมและเพิ่ม Guests ได้ หากสร้างเสร็จก็แชร์ต่อได้เลย ง่ายมาก! 3. Google Chat สามารถสร้างประชุมด่วนได้ ฟีเจอร์นี้เรียกได้ว่าสะดวกมาก ๆ เพียงแค่กดไอคอนกล้องวิดีโอแล้วส่งให้บุคคลที่คุณต้องการประชุมด่วนด้วย จากนั้นระบบจะทำการ Link ไปที่ Google Meet โดยที่คุณไม่ต้องเปิดหน้า Google Meet เอง 4. Google Chat มีอีโมจิน่ารัก ๆ ให้เลือกมากมาย พร้อมโทนสีผิวที่หลากหลาย เลือกได้ตามต้องการ คุณสามารถเพิ่มสีสันของการสื่อสารใน Google Chat ได้ด้วยอีโมจิที่มีให้เลือกมากถึง 5...
Continue readingG Suite Legacy สู่ Google Workspace: เก่าไปใหม่มา เรื่องควรรู้ก่อนเปลี่ยนมาใช้ Google Workspace
“เก่าไปใหม่มา จาก G Suite Legacy สู่ Google Workspace” Google เริ่มไตรมาสแรกของปี 2022 ด้วยการประกาศยกเลิกบริการ Google Apps Standard (Legacy) หรือ G Suite รุ่นใช้งานฟรี หลังให้บริการเป็นเวลายาวนานกว่า 10 ปี ข่าวนี้ทำให้หลายองค์กรหรือผู้ที่ใช้งานรุ่น Legacy อยู่เกิดความตกใจและรู้สึกเคว้งกันไม่น้อย เนื่องจากไม่ทราบทิศทางและขั้นตอนดำเนินการหากต้องผันตัวไปเป็นผู้ใช้รายใหม่และเตรียมย้ายระบบอีเมลหรืออัปเกรดมายัง Google Workspace เวอร์ชันที่ถูกรีแบรนด์ใหม่จาก G Suite เพื่อเติมเต็มความต้องการของผู้ใช้บริการให้ครบครันมากยิ่งขึ้น หากพูดถึงระบบอีเมลหรือแอปพลิเคชันเพื่อการทำงานของ Google กว่าจะมีวันนี้ก็นับว่าเป็นเวลากว่าหลายปีแล้วที่ Google ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ตอบโจทย์ในการใช้งานของผู้บริโภคกว่าพันล้านคนทั่วโลก ที่ผ่านมาก็ได้มีการรีแบรนด์หลายครั้ง จนกลายมาเป็น Google Workspace ในที่สุด เรียกได้ว่า Google Workspace คือ “The Future of Work” เลยก็ว่าได้ จากการพัฒนาดังกล่าวทำให้ในปัจจุบัน Google Workspace ได้ถูกนำมาใช้งานกับภาคธุรกิจอย่างแพร่หลาย มีผู้ใช้งานหลากหลายแบบทั้ง แบบ Free Gmail, Google Apps Legacy, G Suite Legacy และ Google Workspace บริษัท ดีมีเตอร์ ไอซีที เองได้รับข้อคำถามที่พบบ่อยจากกรณี Google ประกาศเลิกให้บริการตัว Legacy ดังกล่าวจากผู้ใช้งานเข้ามามากมายในทุกวัน เราจึงถือโอกาสนี้จัดงานสัมมนาออนไลน์ขึ้นเพื่อแนะแนวทางให้กับทุกท่านที่กำลังใช้งาน G Suite รุ่นใช้งานฟรี (Legacy) และยังไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรหากต้องอัปเกรดเป็น Google Workspace หรือท่านที่กำลังสนใจนำ Google Workspace ไปประยุกต์ใช้กับการทำงานร่วมกันในองค์กรของท่าน ได้เข้ามารับฟังข้อมูลที่ถูกต้องประกอบการตัดสินใจของท่านต่อไปอย่างมีประสิทธิภาพ ลงทะเบียนสำรองที่นั่ง สิ่งที่คุณจะได้รับจากการเข้าร่วม บทสรุปจากทาง Google ยกเลิกให้บริการ Google Apps Standard (Legacy)...
Continue readingWork Insights คืออะไร?
Work Insights คือ? Work Insights คือตัวจัดการจาก Google Workspace ที่จะช่วยรายงานข้อมูลการทำงานแบบเชิงลึกภายในองค์กร ช่วยให้คุณสามารถวิเคราะห์และวางแผนการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น หากคุณเป็นหนึ่งคนที่ต้องการพัฒนากระบวนการการทำงานให้องค์กรทำงานได้อย่างชาญฉลาด Work insights นับได้ว่าเป็นเครื่องมือที่คุณไม่ควรพลาด ไปทำความรู้จักเจ้าเครื่องมือนี้กันเลย! Work Insights ทำอะไรได้บ้าง? Work Insights จะทำการเก็บข้อมูลว่าพนักงานมีการใช้งานแอปพลิเคชันของ Google Workspace มากน้อยแค่ไหนโดยจะสรุปออกมาเป็นเปอร์เซ็นต์เพื่อให้คุณได้เห็นภาพและเข้าใจง่ายมากขึ้น เช่น เมื่อสัปดาห์ที่แล้วทีมของคุณมีการใช้งาน Gmail ที่ 98% Google Docs ที่ 75% และ Google Meet ที่ 45% เป็นต้น คุณสามารถดูได้ว่าในแอปพลิเคชันต่าง ๆ เช่น Google Docs, Sheets, Slides มีการทำงานร่วมกันอย่างไรบ้าง เช่น เปอร์เซ็นของการแก้ไข คอมเม้น หรือ แค่เปิดเข้าดูไฟล์ ซึ่งฟังก์ชันนี้จะช่วยให้บุคคลที่เป็นหัวหน้าสามารถเช็คการทำงานของทีมได้ง่ายและสะดวกมากขึ้นเนื่องจากหลายบริษัทยังมีการ Work From Home กันอย่างต่อเนื่อง คุณสามารถดูได้ว่าการใช้งาน Google Workspace ลดการใช้งานแอปอื่นได้มากแค่ไหน การใช้ Google Workspace นั้นจะทำให้การทำงานง่ายขึ้นอย่างมาก ไม่ต้องสลับแอปให้ยุ่งยาก ฟังก์ชันครบ ซึ่งจะช่วยลดขั้นตอนการทำงานจากหลายแอปและช่วยประหยัดเวลาในการทำงานอีกด้วย Work Insights มีประโยชน์ต่อองค์กรอย่างไร? การใช้งาน Work Insights จะทำให้ทีมเห็นภาพมากขึ้นว่าทีมของตนมีการทำงานเป็นอย่างไร ใช้เวลามากน้อยแค่ไหนในแต่ละแอปพลิเคชัน โดยทีมสามารถนำข้อมูลเหล่านี้มาประเมินหรือวิเคราะห์การทำงานเพื่อปรับปรุงหรือวางแผนการทำงานให้ดีขึ้นได้ ซึ่งนับว่าเป็นหนึ่งในแอปพลิเคชันที่ไม่ควรมองข้ามเลยทีเดียว หากทีมมีการจัดการเป็นอย่างดีจะให้ทำองค์กรมีการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นส่งผลให้ภาพลักษณ์และผลประกอบการดีขึ้นตามลำดับ ดังนั้นการพัฒนาหรือปรับปรุงระบบการทำงานภายในองค์กรจึงเป็นสิ่งที่องค์กรควรคำนึงถึงเป็นอันดับต้น ๆ Work Insights เหมาะกับใครบ้าง? ผู้ดูแลระบบไอที (IT administrators) ผู้บริหารจัดการการเปลี่ยนแปลง (Change management staff) เจ้าหน้าที่ทรัพยากรบุคคล (Human resources staff) เจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการบุคคล (People operations staff)...
Continue readingไขข้อข้องใจ Google Workspace VS Gmail ฟรี แตกต่างกันอย่างไร?
1. Google Workspace แบบฟรี ไม่มี Official Email ของบริษัท หากบริษัทของคุณไม่มีโดเมนเนมเป็นของตัวเองนั้นอาจจะทำให้องค์กรดูไม่มีความน่าเชื่อถือ เนื่องจากลูกค้าหรือผู้ติดต่อจะไม่สามารถรับรู้ได้ว่า Email ที่ตนกำลังประสานงานด้วยอยู่นั้นเป็นของบริษัทจริง ๆ หรือไม่ ดังนั้นการใช้แพ็กเกจจาก Google Workspace จะทำให้บริษัทมีโดเมนเป็นของตัวเองซึ่งทำให้บริษัทดูมีตัวตนและได้รับความน่าเชื่อถือจากลูกค้าและทำให้ภาพลักษณ์ของบริษัทดูดีและมีความ Professional มากขึ้นอีกด้วย 2. Gmail ฟรี ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าบุคคลนั้นคือพนักงานของบริษัทหรือไม่ การที่พนักงานใช้ Gmail ส่วนตัวหรือ Gmail ฟรีเข้ามาทำงานนั้นแสดงว่าพนักงานทุกคนสามารถตั้งชื่อ Gmail อะไรก็ได้ ทำให้บริษัทหรือบุคคลอื่นไม่สามารถรู้ได้ว่า Gmail นั้นเป็นของพนักงานคนใด ฝ่ายไหน หรือหากต้องการจะติดต่อกับใครก็จะหาค่อนข้างยากเนื่องจากทุกคนต่างใช้ชื่อที่ตนต้องการ ว่าง่าย ๆ ก็คือ การที่องค์กรซื้อบริการจาก Google Workspace จะช่วยจัดการ Gmail ของพนักงานอย่างเป็นระบบทำให้บริหารพนักงานง่ายขึ้นและทำงานสะดวกมากยิ่งขึ้น 3. Gmail ฟรี ระหว่างทำงานร่วมกัน ไม่สามารถรู้ได้ว่ามีใครที่กำลังใช้งานอยู่บ้าง สืบเนื่องมาจากข้อด้านบนที่พนักงานต้องใช้ Gmail ส่วนตัวเข้ามาทำงาน ไม่มีการกำหนดชื่อหรือควบคุมรายชื่อพนักงานแบบเป็นแบบแผน จึงทำให้เวลาทำงานร่วมกันแบบ Real time คุณไม่สามารถรู้ได้ว่ามีใครเข้ามาทำงานบ้าง คนที่คุณกำลังทำงานร่วมกันอยู่ด้วยนั้นเป็นใคร จะเห็นได้แค่นามสมมุติที่ถูกสร้างโดย Google แบบอัตโนมัติเท่านั้น แต่ถ้าหากคุณใช้แพ็กเกจสำหรับองค์กร คุณสามารถเห็นการเคลื่อนไหวของคนในทีมที่กำลังทำงานร่วมกันอยู่ได้ ซึ่งจะสามารถระบุตัวตนได้เลยว่าบัญชีที่กำลังเข้าใช้งานอยู่นั้นเป็นของพนักงานคนใดในบริษัท ไม่ต้องห่วงว่าจะมีบุคคลที่ไม่พึงประสงค์เข้ามาร่วมงาน คุณสามารถเห็นและระบุตัวตนได้ทันที รวมถึงคุณยังสามารถดู Version history ได้ด้วย จึงไม่ต้องกังวลว่าใครแก้ตรงไหน เพิ่มตรงไหน ลบตรงไหนออกไป สามารถตรวจสอบและกู้คืนย้อนหลังได้ 4. Gmail ฟรี หากพนักงานลาออกบริษัทไม่สามารถดึงข้อมูลกลับมาใช้ได้ เมื่อพนักงานใช้ Gmail ส่วนตัวทำงานข้อมูลก็จะถูกเก็บไว้ในบัญชีนั้น ๆ ทำให้เมื่อพนักงานคนดังกล่าวลาออกไปบริษัทไม่สามารถนำข้อมูลที่อยู่ในบัญชีอีเมลนั้นมาใช้ได้เนื่องจากเป็นบัญชีส่วนตัว มิหนำซ้ำยังเสี่ยงต่อการถูกล้วงข้อมูลอีกด้วย แต่สำหรับ Google Workspace คุณจะมีแอดมินคอยควบคุมอยู่ ไม่ว่าพนักงานคนไหนลาออก ข้อมูลก็จะถูกดึงมายังส่วนกลางทันที ปลอดภัย ไม่ต้องกลัวข้อมูลหายอีกต่อไป 5. Google Workspace แบบฟรี ข้อมูลไม่มีความปลอดภัย จากข้อมูลที่ได้กล่าวไปแล้วด้านบน คุณคงจะเห็นแล้วว่าบริษัทไม่สามารถควบคุม Gmail แบบฟรีได้...
Continue readingรวมวิธีการใช้งาน Google Meet พร้อมอัปเดตฟีเจอร์เด็ดปี 2022!
โควิดไม่จบ WFH ไปกับ Google Meet Work From Home หรือ WFH นั้นดูท่าจะกลายเป็นสิ่งที่ยังอยู่กับเราไปอีกนาน การทำงานจากที่บ้านหรือที่ไหนก็ได้ที่ไม่ใช่ออฟฟิศจะไม่ใช่แค่เทรนด์อีกต่อไป เนื่องด้วยสถานการณ์โควิด 19 ในปัจจุบันยังไม่มีวี่แววที่จะดีขึ้นเอาซะเลย แถมตอนนี้ยังเกิดโควิดสายพันธ์ุใหม่อย่างเช่นโอไมครอนและเดลตาครอนอีก ด้วยเหตุนี้จึงทำให้หลาย ๆ องค์กรยังคงต้อง Work From Home กันต่อไปอีกยาว ๆ Google Meet เป็นหนึ่งในแอปพลิเคชันจากทาง Google Workspace ที่ช่วยให้คุณสามารถจัดประชุมออนไลน์ได้อย่างไม่สะดุด ซึ่งจะตอบโจทย์การทำงานแบบ WFH ได้เต็มรูปแบบเพราะพนักงานแต่ละคนนั้นทำงานจากต่างสถานที่จึงทำให้เกิดการทำงานแบบออนไลน์มากขึ้น การประชุมออนไลน์ก็มีความสำคัญมากขึ้นอีกด้วย Google Meet ใช้อย่างไร? (ฉบับคนสร้าง Meeting) ค้นหา Google Meet ในเว็บไซต์หรือจะดาวน์โหลดแอปพลิเคชันในโทรศัพท์ก็ได้ กดสร้าง Meeting โดยมี 3 ข้อให้เลือกคือ สร้างห้องประชุมไว้ล่วงหน้า สร้างห้องประชุมเพื่อประชุมตอนนี้ สร้างห้องประชุมไว้ใน Google Calendar โดยการสร้างแบบนี้คุณจะสามารถใส่รายละเอียดของการประชุมได้ เช่น Location, Notification และอื่น ๆ หรือหากคุณมี Account อยู่แล้วจะสร้างโดยการเข้าจาก Google Calendar โดยตรงเลยก็ได้เช่นกันเพียงแค่เปิด Google Calendar แล้วคลิกวันที่ที่คุณต้องการประชุม การเพิ่มผู้เข้าร่วมประชุมทำได้ 2 วิธี ดังนี้ แชร์ Link ให้กับบุคคลอื่น (Link จะปรากฎตอนสร้างห้องประชุม) เพิ่มอีเมล โดยกดที่ Add Others หรือ Add Guests วิธีการเข้าร่วมประชุม (ฉบับผู้เข้าร่วม) เข้าร่วมผ่าน Link ที่ได้รับ -> คลิก Link ที่คุณได้รับ จากนั้นกด Join Meeting เข้าร่วมผ่านการเชิญจากอีเมล เช็คอีเมลของคุณว่าได้รับการเชิญให้เข้าร่วมการประชุมหรือไม่ คลิก...
Continue readingJamboard คืออะไร? มีฟีเจอร์อะไรบ้าง?
Jamboard คือ กระดานสร้างสรรค์ไอเดียจาก Google Workspace ที่คุณสามารถออกแบบไอเดียได้ตามต้องการแล้วแชร์ลงบนหน้ากระดาษอิเล็กทรอนิกส์ ไม่ว่าจะเป็นการจดบันทึก Sticky notes รูปภาพ หรือไฟล์งานจาก Google Workspace ก็สามารถใช้งานร่วมกันได้ ฟีเจอร์เด็ดจาก Jamboard หน้ากระดาษ เลือกพื้นหลังหน้ากระดาษได้ก่อนจะเริ่มสร้างสรรค์ผลงาน ก่อนอื่นเลยคุณต้องทำการเลือกพื้นหลังของกระดาษก่อน โดย Jamboard มีพื้นหลังให้คุณเลือกมากมาย ทั้งหน้ากระดาษเปล่า ลายตาราง ลายจุด ลายเส้น หรือจะใช้รูปที่คุณต้องการก็ได้ เลือกใช้ได้ตามสไตล์ของคุณ เลือกปากกาได้ปากกาจะมีทั้งหมด 4 แบบ ได้แก่ ปากกาธรรมดา ปากกาเมจิก ปากกาไฮไลท์ และพู่กัน มาพร้อมกับสีหมึกถึง 6 สี หรือหากคุณไม่มีปากกา Stylus (ปากกาที่ใช้กับอุปกรณ์ที่มีระบบสัมผัสจอ) ก็ไม่ต้องกังวลไป คุณสามารถใช้งานด้วยนิ้วมือของคุณได้เลย ตอบสนองได้อย่างแม่นยำ สามารถใช้งานได้อย่างไม่สะดุดเช่นเดิม สร้าง Sticky notes ได้Jamboard จะช่วยเพิ่มประสบการณ์การสร้าง Notes ได้ดียิ่งขึ้น สร้างง่าย สีสันสดใสสะดุดตา อ่านแล้วไม่น่าเบื่อ ดึงรูปภาพจาก Cloud ได้หากคุณต้องการใส่รูปภาพ คุณสามารถอัปโหลดรูปภาพจากอุปกรณ์ของคุณได้ทันที หรือวาง URL ก็ได้ ไม่เพียงเท่านั้น Jamboard ยังสามารถเข้าถึง Google Search, Google Drive, และ Google Photos ได้อีกด้วย สร้างรูปทรงได้ไม่ว่าจะเป็นสี่เหลี่ยม วงกลม ลูกศร และอื่น ๆ ก็สามารถสร้างได้ง่าย ๆ แค่ลากวาง ลูกศรเลเซอร์หากมีการใช้งาน Jamboard ร่วมกับบุคคลอื่น อย่างเช่น การประชุมใน Google Meet การที่มีลูกศรเลเซอร์ชี้ข้อความต่าง ๆ ถือว่ามีความสะดวกอย่างมาก ทำให้ผู้ฟังเข้าใจในงานนำเสนอได้ง่ายขึ้นและการสื่อสารดำเนินไปอย่างราบรื่นมากขึ้นอีกด้วย การใช้งาน ใช้งานร่วมกันได้แบบเรียลไทม์คุณสามารถสร้างสรรค์ผลงานร่วมกันได้ตลอดเวลา ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน คุณก็สามารถเข้าถึงและใช้งานได้ทันทีเพียงแค่มีอินเทอร์เน็ต หรือหากคุณต้องการแชร์ไฟล์ให้กับบุคคลอื่นก็ทำได้เช่นกัน นำเสนอผลงานร่วมกันกับ...
Continue readingPitching day for Business Transformation กับบสย. ด้วย Google Workspace by Demeter ICT 2021
ต่อยอดจากความสำเร็จในงาน “TCG KM & INNO Day” ในปี 2563 ที่บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม หรือ บสย. ได้ตัดสินใจนำ Google Workspace เข้ามาสนับสนุนกระบวนทำงานขององค์กรให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัลมากขึ้น โดยมอบความไว้วางใจให้ Demeter ICT เป็นผู้สนับสนุนหลักในการพัฒนาศักยภาพการทำงานผ่านการอบรมและเป็นที่ปรึกษาการใช้งาน Google Workspace อย่างใกล้ชิด จึงได้ขยายผลไปสู่การจัดกิจกรรม “Pitching Day” เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา “Pitching Day” เป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้พนักงานทุกคนได้มีส่วนร่วมในการนำเสนอไอเดียและโซลูชันที่พัฒนาขึ้นเอง จากการประยุกต์ใช้ Google Workspace กับกระบวนการทำงาน โดยภายในงานจะมีการแข่งขันเพื่อเฟ้นหาทีมที่สามารถสร้างสรรค์ไอเดียใหม่ ๆในการนำ Google Workspace มาประยุกต์กับการทำงานให้เกิดประโยชน์ได้มากที่สุด ชิงเงินรางวัลเงินสดและของรางวัลอื่นๆมูลค่ารวมกว่า 100,000 บาท เรียกได้ว่าแจกหนักจัดเต็มกันเลยทีเดียว! กิจกรรมนี้สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพและความคิดสร้างสรรค์ของพนักงาน บสย. ซึ่งนับว่าเป็นโอกาสอันดีที่ให้พนักงานได้แบ่งปันองค์ความรู้ให้แก่ผู้บริหารและเพื่อนร่วมองค์กร ชูให้เห็นถึงความสามารถในการพัฒนากระบวนการการทำงานจาก Google Workspace ไม่ว่าจะเป็นทีมกฎหมาย ทีมบริหารงานกลาง ทีมบัญชีและการเงิน รวมทั้งทีมอื่นๆต่างก็ได้ไอเดียนำไปพัฒนากระบวนการทำงานของตนเอง ซึ่งการแข่งขันครั้งนี้จะช่วยให้ บสย. ค้นพบแนวทางในการทำงานที่ดียิ่งขึ้น และพร้อมก้าวสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูป เป็นการตอกย้ำความสำเร็จในการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนาองค์กร สร้างสรรค์ไอเดียใหม่ๆได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด https://www.youtube.com/watch?v=nRYZsSTGCAo ภาพบรรยากาศงาน Pitching Day “Demeter ICT ขอขอบคุณ บสย. ที่ให้โอกาสเราได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาองค์กรด้วยโครงการดี ๆ อย่าง Business Transformation with Google Workspace โดยผลสำเร็จในครั้งนี้จะช่วยให้องค์กรก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพและมั่นคง”...
สรุป 7 เทรนด์ดิจิทัลเตรียมปรับตัวให้ทันปี 2565
หลาย ๆ คนคงได้ยินคำว่ายุคดิจิทัลกันมาบ้างแล้ว แต่ทว่ายุคดิจิทัลนั้นไม่ใช่แค่เทรนด์ที่มาแล้วหายอีกต่อไป การเข้าสู่โลกดิจิทัลจะเปลี่ยนการทำงานของคุณไปตลอดกาล เพื่อให้เตรียมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นในปี 2565 นี้ ไปดูพร้อม ๆ กันเลยว่าคุณจะต้องปรับตัวและรับมืออย่างไรเพื่อให้รู้เท่าทันสถานการณ์และตอบโจทย์ต่อธุรกิจของคุณมากที่สุด 1. ในโลกอนาคต การทำงานจะถูกเชื่อมต่อกันมากขึ้น McKinsey คาดการณ์ว่ามากกว่า 20% ของแรงงานทั่วโลก สามารถทำงานได้เกือบตลอดเวลาโดยไม่ต้องอยู่ที่ออฟฟิศและไม่ส่งผลกระทบต่อผลผลิตหรือประสิทธิภาพของงาน ระบบอัตโนมัติจะมีบทบาทสำคัญในสภาพแวดล้อมการทำงานแบบ Hybrid และจะทำให้งานและคนมีการเชื่อมต่อกันมากขึ้น ดังจะเห็นได้จากสถิติด้านล่างนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดต่อการเข้าสู่ความเป็นดิจิทัลในปี 2564 ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงกระบวนการการทำงาน (66%) และเทคโนโลยี (49%) ระบบอัตโนมัติที่มีความสำคัญมากที่สุดสำหรับปี 2565 ได้แก่ การปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน (54%) การปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน (49%) และการสร้างประสบการณ์ที่เชื่อมโยงกันได้ดีขึ้น (41%) 2. ธุรกิจที่ปรับตัวเร็วเท่านั้นที่จะอยู่รอด MuleSoft บริษัทพัฒนาแพลตฟอร์มกล่าวว่าเศรษฐกิจที่ถูกขับเคลื่อนด้วยโลกดิจิทัลนั้นสร้างแรงกดดันมหาศาลให้กับองค์กรในการสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าหรือผู้ใช้บริการ อ้างอิงจากข้อมูลของ PwC ผู้บริโภค 1 ใน 3 จะหยุดบริโภคแบรนด์นั้น ๆ หากเจอประสบการณ์ที่ไม่ดีแค่เพียงครั้งเดียว ทางออกขององค์กรคือองค์กรจะต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นมากที่สุด เพื่อให้สอดคล้องกับความคาดหวังของลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้นที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ในแต่ละช่วง ส่วนประกอบพื้นฐานสามประการของธุรกิจที่จะอยู่รอดได้คือ ต้องมีการคิดแบบผสมผสานซึ่งจะช่วยให้คุณไม่สูญเสียความคิดสร้างสรรค์ อะไร ๆ ก็ปรับเปลี่ยนได้ มีความเป็นอิสระทางความคิดมากขึ้น ต้องมีสถาปัตยกรรมธุรกิจที่ปรับเปลี่ยนได้ที่ช่วยให้มั่นใจได้ว่าองค์กรของคุณถูกสร้างขึ้นให้มีความยืดหยุ่นและฟื้นคืนสภาพได้เร็วจากสถานการณ์ต่าง ๆ สิ่งเหล่านี้คือความสามารถเชิงโครงสร้างขององค์กรที่จะทำให้คุณมีกลไกที่จะใช้ในการออกแบบธุรกิจ เทคโนโลยีคือเครื่องมือที่จะเชื่อมโยงหลาย ๆ ส่วนเข้าด้วยกัน ทั้งงาน คน และองค์กร 3. นักเทคโนโลยีธุรกิจจะเข้ามามีบทบาทสำคัญอย่างมาก ภายในปี 2567 ผลิตภัณฑ์และบริการด้านเทคโนโลยี 80% จะถูกสร้างขึ้นโดยผู้ที่ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี การเข้าถึงรูปแบบการเขียนโค้ดที่น้อยลงหรือไม่ต้องเขียนโค้ดและเครื่องมือในการพัฒนาโดยใช้ AI จะเป็นกุญแจสำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จ บทความเพิ่มเติม:ไม่ต้องเขียน Code ก็สร้าง Application ได้จริงเหรอ? 4. Hyperautomation ระบบอัตโนมัติเพิ่มความเป็นดิจิทัลที่มากขึ้น ระบบอัตโนมัติจะเป็นแรงผลักดันขั้นพื้นฐานสำหรับองค์กรดิจิทัลยุคใหม่ การวิจัยในปี 2564 ชี้ให้เห็นว่าระบบอัตโนมัติจะช่วยเร่งการกระจายอำนาจของธุรกิจด้วยการลงทุนทางด้านดิจิทัล การบริการลูกค้าถือเป็นตัวอย่างหนึ่งที่เห็นได้ชัด การมีระบบอัตโนมัติรองรับจะสามารถเพิ่มความยืดหยุ่น เพิ่มประสิทธิภาพ และเพิ่มความพึงพอใจในงานของทีมได้อย่างดี เช่น แชทบอท บริการอัตโนมัติที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก โดยปัจจุบันลูกค้า...
Continue readingเปิดเหตุผลที่ใคร ๆ ต่างก็หลีกเลี่ยงการทำงานแบบไซโล
ไซโล (Silo) คืออะไร? ทำไมองค์กรจึงไม่ควรมี ไซโล คือ ระบบที่แยกการทำงานเป็นแผนกโดยแต่ละแผนกมีแนวทางการทำงานและการสื่อสารที่แตกต่างกัน จึงทำให้เกิดอุปสรรคในการทำงานร่วมกันเป็นทีมในองค์กรใหญ่ หากแต่ละทีมขาดการติดต่อสื่อสารที่ไม่มีประสิทธิภาพหรือเข้าใจไม่ตรงกันภายในบริษัท อาจจะส่งผลให้กระบวนการทำงานในบริษัทไม่มีประสิทธิผลไปด้วย ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ทุกองค์กรควรหลีกเลี่ยงการทำงานแบบไซโลเพื่อลดปัญหาและเพิ่มคุณภาพให้กับงาน ตัวอย่างเช่น SET ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยก็กำลังทลายระบบไซโลแล้วเข้าสู่วัฒนธรรมดิจิทัล (Digital Culture) อยู่เช่นเดียวกัน นับว่าช่วงปีที่ผ่านมาและปีต่อ ๆ ไปนี้หลาย ๆ หน่วยงานต้องปรับเปลี่ยนมาใช้การทำงานที่เป็นดิจิทัลมากขึ้น มีพนักงานใหม่เข้ามา มีทีมหรือแผนกเพิ่มขึ้น อายุของพนักงานในบริษัทเริ่มมีความหลากหลายมากขึ้นอีกเช่นกัน ดังนั้นการทำงานที่เชื่อมต่อกันและการสื่อสารถือเป็นสิ่งหนึ่งที่มีความสำคัญมาก ๆ ต่อองค์กรที่จะช่วยให้องค์กรนั้นเติบโตได้อย่างต่อเนื่องซึ่งทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้จากการขับเคลื่อนของพนักงานที่มีการทำงานร่วมกันเป็นอย่างดี Google Workspace เองก็ถูกออกแบบให้การทำงานมีการเชื่อมต่อกันและมีการสื่อสารกันมากขึ้นภายในองค์กร ใช้งานง่ายและสะดวกเหมาะสำหรับทุกวัย Demeter ICT – Google Cloud Partner อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ก็ได้นำ Google Workspace มาปรับใช้ในองค์กรเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายขาย ฝ่ายการตลาด ฝ่ายเทคนิค ฝ่ายไอที หรือฝ่ายบัญชี ก็สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น ปรับตัวในทันยุคดิจิทัลที่กำลังดำเนินต่อไปในอนาคต ผลกระทบจากการใช้ระบบไซโลในองค์กร ขาดการติดต่อสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ เนื่องจากว่าระบบไซโลนั้นเป็นการทำงานแบบแยกแผนก ตัวใครตัวมัน ทีมใครทีมมัน ไม่มีการสื่อสารระหว่างแผนก แต่ทว่าความจริงแล้วนั้นเราจะขาดส่วนนี้ไปไม่ได้เลย เพราะในการทำงานงานหนึ่งหลาย ๆ ทีมต้องช่วยและประสานงานกันจึงจะทำให้สำเร็จได้ ถ้าทีมขาดการสื่อสารที่ดี และการสื่อสารไม่มีประสิทธิภาพพอ อาจส่งผลให้แต่ละทีมเข้าใจในตัวงานไม่ตรงกันและทำงานยากมากขึ้น ท้ายที่สุดอาจทำให้พนักงานรู้สึกไม่ดีต่อกันจนถึงขั้นทำลายความสัมพันธ์เลยก็ว่าได้ เพิ่มขั้นตอนการทำงานหรือใช้เวลาในการทำงานยาวนานขึ้น ต่อจากข้อด้านบน แน่นอนอยู่แล้วว่าหากทีมขาดการประสานงานที่ดีไปก็จะทำให้ขั้นตอนการทำงานเพิ่มมากขึ้น การทำงานเกิดความซ้ำซ้อน งาน ๆ หนึ่งใช้เวลานานมากกว่าที่ควรจะเป็น และทำให้พนักงานเสียเวลาในการที่จะไปจัดการงานอื่นอีกด้วย ไม่มีความเป็นหนึ่งเดียวกันในองค์กร เมื่อพนักงานทำงานแยกกัน ความเข้าใจทีมต่างกัน ก็จะทำให้พนักงานไม่อยากร่วมงานกัน ไม่มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในองค์กร ส่งผลต่อภาพลักษณ์บริษัทและร้ายที่สุดคือส่งผลต่อผลประกอบการซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกบริษัทไม่อยากให้เกิดขึ้นอย่างแน่นอน วิธีทำลายล้างระบบไซโล จัดหาโปรแกรมหรือระบบที่ช่วยให้การทำงานร่วมกันง่ายขึ้น การนำเอาเทคโนโลยีมาปรับใช้ในการทำงานถือว่ามีประโยชน์อย่างมากในยุคปัจจุบัน เนื่องจากพนักงานในบริษัทมีความหลากหลายมากขึ้น การที่มีระบบที่ดีจะช่วยให้การทำงานระหว่างพนักงานเองมีความง่ายและรวดเร็ว ติดต่อสื่อสารกันได้ไม่มีสะดุด เช่น Google Workspace และ Zendesk มีแหล่งข้อมูลที่คนในองค์กรสามารถเข้าถึงได้ เพื่อให้ทุกคนเข้าใจข้อมูลที่ตรงกัน ดังนั้นองค์กรจึงควรมีแหล่งเก็บข้อมูลที่พนักงานทุกคนสามารถเข้ามาใช้งานร่วมกันได้ พูดง่าย ๆ ก็คือการเก็บข้อมูลไว้ที่เดียวกันนั่นแหละ หากใครต้องการใช้ข้อมูลส่วนไหนก็สามารถเข้ามาดูได้ โดยที่บุคคลอื่นก็จะเห็นชุดข้อมูลเดียวกัน จัดกิจกรรมสร้างความสัมพันธ์ให้บุคคลภายในองค์กร สืบเนื่องมาจากการแบ่งฝ่ายทำงาน...
Continue reading