รวม SMART CHIPs ที่น่าสนใจบน Google Docs 

หากใครที่ใช้งาน Google Docs อยู่เป็นประจำ อาจจะเคยใช้งานฟีเจอร์ Smart Chips กันบ้างแล้ว แต่สำหรับใครที่ไม่รู้จักหรือไม่เคยสังเกตเห็น บทความนี้เราจะพาไปรู้จักกัน  Smart Chips หรือชิปอัจฉริยะ ที่คอยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้งาน เพื่อแทรกข้อมูลหรือสร้างกิจกรรมต่างๆลงในเอกสารได้  หากสงสัยว่าหน้าตา Smart Chips เป็นอย่างไร วันนี้ Demeter ICT ได้รวบรวม Smart Chips ใน Google Docs ทั้งหมด ว่ามีอะไรน่าสนใจและสามารถนำมาใช้กับงานเอกสารของคุณได้อย่างไรบ้าง วิธีการแทรก Smart Chips ก่อนอื่น เรามาดูกันว่า Smart Chips นั้นอยู่ตรงไหนของ Google Docs… วิธีการเรียกใช้ Smart Chips ทำได้โดยการพิมพ์เครื่องหมาย “@” จากนั้นจะปรากฎดังภาพด้านล่าง  Smart Chips มีอะไรบ้าง? ทีนี้เราจะมาดูกันว่าใน Smart Chips มีอะไรที่น่าสนใจในการนำมาใช้งานบ้าง… Date หรือ ชิปวันที่ เมื่อคุณใส่ชิปวันที่และเวลาแล้ว ผู้ร่วมงานจะสามารถเห็นวันที่และเวลาตรงกับที่คุณตั้งเอาไว้แม้จะอยู่กันคนละเขตเวลาก็ตาม หากต้องการรู้ว่าเวลาแตกต่างกันเพียงใด สามารถดูได้จากการนำเม้าส์วางบนชิปวันที่นั้น นอกจากนี้ ยังสามารถแทรกชิปวันที่ได้ดังนี้ – @today– @tomorrow– @yesterday– @date– วันที่ที่ต้องการ เช่น @Jan หรือ @1/1/2021– วันที่แบบสัมพัทธ์ เช่น @monday,@next tuesday หรือ @last wednesday วิธีการแทรกชิปวันที่ 1. พิมพ์เครื่องหมาย @ และเลือก Date 2. เลือกวันที่และเวลา 3. กด OK Dropdown หรือชิปเมนูแบบเลื่อนลง ขอแนะนำชิป Dropdown บอกเลยว่าเป็นตัวช่วยที่ดีทีเดียวในเวลาที่คุณต้องการสร้างตัวเลือกแบบหลายรายการ วิธีการแทรกชิปเมนูแบบเลื่อนลง1. พิมพ์เครื่องหมาย @ และเลือก Dropdown2. เลือก Dropdown ที่ต้องการได้เลย ...

Continue reading

อัปเดต Google Chat ใหม่ล่าสุด! ฟีเจอร์ใหม่ทำอะไรได้บ้าง?

Google Chat เป็นหนึ่งเครื่องมือแชทที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ใช้เป็นช่องทางสื่อสารทั้งในและนอกองค์กร โดยจุดเด่นคือสามารถเก็บรายละเอียดข้อความแชทได้ไม่มีวันหมดอายุ แม้จะมีการเปลี่ยนเครื่องลงชื่อเข้าใช้ก็ตาม โดยที่ผ่านมา Google ก็ได้ทำการพัฒนาและปรับปรุงให้ตอบโจทย์การใช้งานของ user อยู่เสมอๆ มาดูกันว่า Google Chat ในเวอร์ชันปัจจุบันสามารถทำอะไรเพิ่มเติมจากเดิมได้บ้าง 1. Google Chat ปรับลุคแผงชุดข้อความใหม่  สำหรับใครที่ใช้ Google Chat บน Desktop อยู่เป็นประจำ จะสังเกตได้ว่า หน้าตา Interface แผงชุดข้อความ ของ Google Chat มีลักษณะดูแปลกตาจากเดิม นั่นก็คือฝั่ง Message ของผู้ตอบกลับ (reply) ที่ย้ายจากฝั่งซ้ายมาอยู่ฝั่งขวานั่นเอง ซึ่งหน้าตาดูเหมือนจะเป็นรูปแบบข้อความในแอปพลิเคชันโซเชียลมีเดียที่เราคุ้นเคยกันมากยิ่งขึ้น และข้อดีคือทำให้ง่ายต่อการมองเห็นและการแยกข้อความของผู้ส่งและผู้รับ สำหรับใครที่ยังไม่เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงก็อดใจรอสักนิด เพราะ Google จะทยอยอัปเดตให้ได้ครบทุก user อย่างแน่นอน หรือไม่ก็ลอง Update เวอร์ชัน Chrome ดูนะ! 2. จะแก้ไขหรือลบข้อความก็ทำได้ ไม่ว่าใครก็คงเคยพิมพ์ข้อความผิดพลาดหรือเกิดเปลี่ยนใจอยากจะยกเลิกข้อความที่ส่งไป แน่นอนว่าคุณสามารถแก้ไขข้อความเหล่านั้นให้เป็นข้อความที่ถูกต้อง รวมถึงสามารถลบข้อความที่ส่งออกไปได้แล้ว โดยมีวิธีการดังนี้ วิธีแก้ไขข้อความ1. การใช้งาน Google Chat บน Mobile ให้แตะที่ข้อความที่ต้องการ / บนคอมพิวเตอร์ให้วางเมาส์บนข้อความที่ต้องการ2. เลือก Edit3. แก้ไขข้อความตามต้องการ4. คลิก Update เพื่อบันทึก วิธีลบข้อความ1. การใช้งาน Google Chat บน Mobile ให้แตะที่ข้อความที่ต้องการ / บนคอมพิวเตอร์ให้วางเมาส์บนข้อความที่ต้องการ 2. เลือก Delete3. คลิก Delete เพื่อยืนยัน 3. เลือกตอบกลับเฉพาะข้อความที่ต้องการ หากในแชทนั้นมีการพูดคุยกันหลายคน หลายข้อความ หลายไอเดีย อาจจะก่อให้เกิดความสับสนหรือความเข้าใจในการตอบกลับที่คลาดเคลื่อนได้ บอกเลยว่ามีประโยชน์มาก คุณสามารถเลือกยกข้อความที่ต้องการเพื่อตอบกลับได้เลย โดยฟีเจอร์นี้สามารถใช้ได้ทั้งในส่วนของ Direct message, Group...

Continue reading

Q&A AppSheet Workshop: Build No-Code Apps to Automate Business Processes

Q&A รวมคำถามที่น่าสนใจพร้อมคำตอบจากทีมงาน Demeter ICT ในงาน AppSheet Workshop: Build No-Code Apps to Automate Business Processes ไว้แล้วที่นี่ Q: Type text กับ name ต่างกันอย่างไร A: Type name ช่วยบ่งบอกว่าข้อมูลคอลัมน์ที่สำคัญและใช้เป็นป้ายกำกับได้อัตโนมัติ ต่างจาก text ที่เป็นการกรอกข้อความธรรมดา Q: สามารถทำ enum ซ้อน enum ได้ไหม A: สามารถทำได้ Q: ใน AppSheet สามารถ Gen ER Diagram ได้หรือไม่ A: ได้ ผู้ใช้งานสามารถเข้าไปดูได้ที่ Setting > Data > Relationships Q: วิธีการแทรกคอลัมน์ระหว่างข้อมูลที่มีอยู่แล้ว และไม่ให้ข้อมูลที่เคยตั้งค่าไว้เปลี่ยนแปลง หรือ เพี้ยน A: ผู้ใช้งานสามารถเพิ่มคอลัมน์ใหม่ในฐานข้อมูล และกด Regenerate schema จาก AppSheet ได้ครับ ที่สำคัญต้องใส่ชื่อคอลลัมน์และชื่อแผ่นงานใน formula (กรณีที่มีการกำหนด formula) ให้ตรงกับหัวคอลัมน์และแผ่นงานใน Sheets เพื่อให้สามารถดึงข้อมูลได้ถูกต้อง Q: การตั้งชื่อคอลัมน์ควรตั้งชื่อให้มีรูปแบบที่ถูกต้องตามสากล เช่น user_id ไม่ควรใช้ user id เพื่อรองรับการเปลี่ยนแหล่งข้อมูลไปบน Database ใช่หรือไม่ และ ถ้าตั้งชื่อคอลัมน์ตามสากล เช่น “user_id” แล้ว อาจจะไปแสดงผลข้อความบนแอปฯแล้วไม่สวยงาม อยากถามว่าจะทำข้อความเพื่อแสดงแทนตัวแปร user_id นี้ได้อย่างไร เช่น แสดงคำว่า รหัสผู้ใช้งานแทน A: ผู้ใช้งานสามารถตั้งชื่อการแสดงผลของแต่ละคอลัมน์ใน AppSheet ได้ Q:...

Continue reading

AppSheet Workshop: Build No-Code Apps to Automate Business Processes

เตรียมพบกับงาน AppSheet WorkShop ครั้งแรกของ Demeter ICT Demeter ICT ขอมอบสิทธิพิเศษส่งท้ายปีให้กับลูกค้าคนสำคัญที่ใช้บริการ Google Workspace กับเรา ในการเข้าร่วมเวิร์กชอปการสร้างแอปพลิเคชันองค์กรด้วย AppSheet มูลค่ากว่า 20,000 บาท ในงาน AppSheet Workshop: Build No-Code Apps to Automate Business Processes ให้สามารถนำกระบวนการทำงานมาพัฒนาและต่อยอดเข้าสู่รูปแบบอัตโนมัติบนแอปพลิเคชันขององค์กรคุณโดยเฉพาะ เพื่อสนับสนุนการทำงานร่วมกันของพนักงานในองค์กรให้มีประสิทธิภาพและราบรื่นยิ่งขึ้น เข้าร่วมฟรี ที่นั่งมีจำกัด! AppSheet Workshop: Build No-Code Apps to Automate Business Processes วันพฤหัสบดีที่ 28 กันยายน 2566 เวลา: 13:30 – 16:30 น.  สถานที่: Somerset Ekamai Bangkok เวลา: 13:30 – 16:30 น.  สถานที่: Somerset Ekamai Bangkok *สงวนสิทธิ์เข้าร่วมให้ลูกค้าผู้ใช้งาน Google Workspace กับดีมีเตอร์ ไอซีที เท่านั้น *จำกัดองค์กรละไม่เกิน 2 ท่าน (1 การลงทะเบียน = 1 ท่าน/ที่นั่ง) ปิดลงทะเบียน เมื่อลงทะเบียนแล้วกรุณารอรับอีเมลตอบกลับเพื่อกดยืนยันสิทธิ์อีกครั้ง การสำรองที่นั่งจึงเป็นอันเสร็จสิ้นสมบูรณ์ วัตถุประสงค์ของเวิร์กชอป / สิ่งที่ผู้เข้าร่วมจะได้รับจากเวิร์กชอปนี้ เข้าใจความสามารถและโครงสร้างการทำงานของ AppSheet  สามารถสร้างแอปพลิเคชันด้วยฟังก์ชันพื้นฐานได้ สามารถออกแบบ workflow และสร้าง automation ให้กับแอปพลิเคชันได้ สามารถประยุกต์ใช้ AppSheet เพื่อสร้างแอปพลิเคชันให้ตรงกับความต้องการขององค์กรได้ ความรู้พื้นฐานและการเตรียมตัว มีความรู้ความเข้าใจและเห็นถึงปัญหาของกระบวนการทำงานที่ต้องการพัฒนาในองค์กร ไม่จำเป็นต้องมีทักษะการเขียนโค้ดใดๆทั้งสิ้น ผู้เข้าร่วมต้องนำแล็ปท็อปส่วนตัวมาด้วย Agenda 12:30...

Continue reading

พาส่อง AI ใน Google Workspace ผู้ช่วยอัจฉริยะที่จะทำให้งานของคุณง่ายขึ้นอีกหลายเท่า

นาทีนี้ต้องยอมรับว่า AI มีบทบาทสำคัญในโลกปัจจุบันเป็นอย่างมากและเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวเรามากขึ้น เพราะถ้าลองสังเกตดีๆแทบจะอยู่ในทุกส่วนของชีวิตประจำวันเราไปแล้ว เช่น การปลดล็อคหน้าจอมือถือด้วยการแสกนใบหน้า การรักษาความปลอดภัยทางธุรกรรมการเงิน หรือแม้แต่อุปกรณ์สมาร์ทโฮมต่างๆ รวมไปถึง AI ยังเป็นที่นิยมใช้ในหลายๆสายงาน ไม่ว่าจะเป็นด้านการแพทย์ การบริการ เทคโนโลยีสารสนเทศและอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกได้มากขึ้นเลยทีเดียว  Duet AI with Workspace แน่นอนว่า Google Workspace เอง ก็มีเทคโนโลยี AI เป็นของตัวเองเช่นกัน โดยใช้ชื่อเรียกว่า “Duet AI with workspace” ซึ่งจะเข้ามาทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยอัจฉริยะ ในการช่วยคิด ช่วยค้น และเนรมิตงานให้ออกมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ เป็นอีกหนึ่งแรงสำคัญที่จะช่วยให้การทำงานของคุณสะดวกและง่ายขึ้นอีกหลายเท่าตัว จากเดิมที่เราทำ collaboration ระหว่างเพื่อนร่วมงานด้วยเครื่องมือ Google Workspace แล้ว ทีนี้เราลองมา collaborate กับ AI กันบ้าง ดูซิว่าการทำงานของคุณจะเปลี่ยนไปขนาดไหน Duet AI ของ Google Workspace หน้าตาเป็นอย่างไร ? Duet AI จะปรากฎอยู่ที่แอปพลิเคชันการทำงานต่างๆ เช่น Gmail, Docs, Sheets, Slides และ Meet   โดยจะมีหน้าที่และความสามารถพิเศษที่แตกต่างกันออกไป เพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น เราจะพาทุกท่านไปดูกันว่า Duet AI มีหน้าที่อย่างไรในแต่ละแอปพลิเคชันบ้าง https://www.youtube.com/watch?v=6DaJVZBXETE&t=3s Gmail: Help me write มาทำให้การเขียนอีเมลของคุณง่ายขึ้น ด้วยตัวช่วยอย่าง “Help me write” ที่ช่วยคุณร่างอีเมล ตอบกลับ หรือแม้กระทั่งช่วยสรุปใจความสำคัญของอีเมลนั้นๆได้อีกด้วย ที่น่าสนใจก็คือในเวลาที่คุณจำเป็นต้องตอบอีเมลผ่านโทรศัทพ์มือถือที่อาจจะไม่สะดวกในการพิมพ์ เพียงแค่พิมพ์ขึ้นต้นสัก 2-3 คำ นอกนั้น AI ก็จะช่วยร่างประโยคนั้นให้เสร็จสมบูรณ์ให้คุณได้เลยทันที Google Docs: Help me write นอกจาก Help...

Continue reading

ผู้ใช้งาน Google Workspace เตรียมใช้งาน AppSheet Core ฟรี!

เพื่อเป็นการส่งเสริมประสิทธิภาพการทำงานร่วมกันในองค์กรให้ดียิ่งขึ้น Google จึงได้นำ AppSheet แพลตฟอร์มการสร้างแอปพลิคชันแบบไร้โค้ดมาพัฒนาเพื่อให้ลูกค้าของ Google Workspace สามารถนำกระบวนการทำงานมาต่อยอดให้อยู่ในรูปแบบแอปพลิเคชัน และสามารถเชื่อมต่อกับ Google Cloud และฐานข้อมูลอื่นๆมากมาย ได้อย่างไม่มีข้อจำกัด  หากท่านใดกำลังสงสัยอยู่ว่า AppSheet คืออะไร สามารถทำความรู้จักได้ที่บทความนี้ >>สรุป AppSheet คืออะไร ? ทำอะไรได้บ้าง ? (ฉบับเข้าใจง่าย) ประกาศข่าวดีล่าสุดจาก Google เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา Google ได้เพิ่มความสามารถของ AppSheet Core ให้กับลูกค้าที่ใช้งาน Google Workspace สำหรับองค์กรและหน่วยงานการศึกษา ให้ได้ใช้งานกันไปเลยโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม Google Workspace แพ็กเกจใดบ้างที่สามารถใช้งาน AppSheet Core ได้? AppSheet Core จะถูกเพิ่มเข้ามาในแพ็กเกจ Google Workspace ดังต่อไปนี้ Business Starter, Standard และ Plus Enterprise Starter และ Standard Non-profits Education Standard AppSheet Core ทำอะไรได้บ้าง? AppSheet Core คือหนึ่งในแพ็กเกจของ AppSheet ยอดนิยมที่ให้ท่านได้ใช้ฟีเจอร์เพื่อเพิ่มความสามารถของแอปพลิเคชันให้มากขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะการสร้าง Automation ขั้นสูงและการจัดการและควบคุมความปลอดภัยของแอปพลิเคชัน ท่านสามารถดูรายละเอียดของ AppSheet Core เพิ่มเติมได้ที่นี่ >> เปรียบเทียบแพ็กเก็จ AppSheet  วิธีตั้งค่าความปลอดภัยของแอปพลิเคชัน AppSheet Core หากท่านกังวลในเรื่องของความปลอดภัยของการใช้งานแอปพลิเคชัน ไม่ว่าจะเป็น:  การแชร์แอปพลิเคชันสู่ภายนอกองค์กร  การเชื่อมต่อแอปพลิเคชันกับฐานข้อมูลภายนอกองค์กร  การส่งอีเมลอัตโนมัติสู่บัญชีนอกองค์กร  การใช้แอปพลิเคชัน AppSheet อื่น ที่ไม่ใช่ขององค์กร ผู้ดูแลระบบ (Admin) Google Workspace ขององค์กรท่านสามารถตั้งค่า...

Continue reading

รู้ Insight ที่แท้จริง ด้วย Dashboard

ลองนึกดูสิว่าน่าเสียดายแค่ไหน เมื่อคุณมี Data ในมือแต่ไม่สามารถเข้าถึงแก่นที่สำคัญของข้อมูลได้เลย ไม่มีแม้แต่เครื่องมือที่ช่วย analyze ข้อมูลเหล่านั้นให้สามารถอยู่ในรูปแบบที่เราสามารถมองและเข้าใจได้ทันทีว่าตอนนี้ข้อมูลที่มีอยู่เป็นอย่างไร เกิดปัญหาที่ใด และจะแก้ไขให้ทันเวลาได้อย่างไร หากจะค้นทีก็ต้องไล่เปิดตามไฟล์ Excel หรือ Spreadsheet แล้วนำมาสรุปผล ซึ่งต้องใช้เวลาที่ดูแล้วก็ไม่คุ้มค่ากับความเสียหายที่เกิดขึ้นแน่นอน  และจะดีกว่าไหม ถ้ามีเครื่องมือที่ช่วยนำข้อมูลเหล่านั้นขึ้นมาอยู่ในรูปแบบของแดชบอร์ด ให้คุณสามารถมองเห็นภาพรวมข้อมูลได้ในที่เดียว โดยบทความนี้เราจะพาไปรู้จักว่า แดชบอร์ด (Dashboard)คืออะไร และแนะนำเครื่องมือสร้างแดชบอร์ดที่นิยมอย่างมากในแวดวงธุรกิจ แดชบอร์ดคืออะไร แดชบอร์ด คือหน้าต่างที่แสดงผลข้อมูลที่ผ่านการวิเคราะห์ด้วยเครื่องมือ Data Visualization ให้อยู่ในรูปแบบ Graphical User Interface (GUI) หากแปลเป็นไทยก็คือ “ส่วนติดต่อผู้ใช้งานแบบกราฟิก” หรือ “ส่วนต่อประสานกราฟิกกับผู้ใช้งาน” นั่นหมายความว่าแดชบอร์ดมักจะแสดงผลของข้อมูลในรูปแบบ แผนภูมิ กราฟ ตาราง มาตรวัด และองค์ประกอบภาพอื่นๆ โดยจุดประสงค์หลักของแดชบอร์ดก็คือให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าใจสถานะของข้อมูลโดยรวมได้รวดเร็วมากขึ้น จากเดิมที่ต้อง manual ค้นหาข้อมูลจากแหล่งเก็บข้อมูลต่างๆ ซึ่งหากยิ่งมีข้อมูลจำนวนมาก ก็อาจจำต้องใช้เวลานานในการรวบรวม เพราะเหตุนี้ทำให้หลายองค์กรเลือกที่จะมีแดชบอร์ดไว้ดูภาพรวมข้อมูลขององค์กร เพื่อที่จะได้นำไปปรับใช้ วางแผน หรือแก้ไขได้อย่างรวดเร็วและทันท่วงที  แท้จริงแล้วแดชบอร์ดมีไว้สำหรับ C-Level ? หลายคนอาจจะยังเข้าใจว่า แดชบอร์ดนั้นมีไว้สำหรับให้ผู้บริหารหรือ C-Level ขึ้นไปไว้ดูภาพรวมการบริหารเท่านั้น แต่ความจริงแล้วแดชบอร์ดสามารถนำมาปรับใช้ได้ทุกระดับหน้าที่ ซึ่งสามารถเริ่มต้นได้ตั้งแต่ระดับปฏิบัติงานเพื่อให้เห็นภาพข้อมูลโดยละเอียดไว้สำหรับการวิเคราะห์และตัดสินใจในแต่ละวัน    แดชบอร์ดที่ดีจำเป็นต้องมีลักษณะพื้นฐานอย่างไร องค์ประกอบของหน้าแดชบอร์ดจำเป็นต้องมีการจัดวางที่เหมาะสม เรียบง่าย และดูสบายตา  อัปเดตข้อมูลอยู่เสมอ เพื่อให้ผู้ใช้งานมั่นใจและสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างเรียลไทม์ สามารถดึงข้อมูลได้หลากหลายแหล่ง เช่น ฐานข้อมูล สเปรดชีต API และบริการบนคลาวด์ ทำให้ผู้ใช้สามารถเลือกดูข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ได้ในที่เดียว สามารถรองรับและเข้าถึงได้จากทุกอุปกรณ์ เช่น คอมพิวเตอร์ เดสก์ท็อป และ สมาร์ทโฟน ต้องมีระบบรักษาความปลอดภัยที่สามารถป้องกันข้อมูลของผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี เปรียบเทียบการใช้และไม่ใช้แดชบอร์ด Dashboard Dashboard อำนวยความสะดวกในการเรียกดูข้อมูลด้วยแผนภูมิ กราฟ ฯลฯ ใช้เวลาวิเคราะห์จากข้อมูลดิบ แล้วนำมาทำรายงานอีกที ซึ่งอาจพลาดข้อมูลที่สำคัญ แสดงข้อมูลเป็นล่าสุดอยู่เสมอ ต้องคอยอัปเดตข้อมูลใหม่อยู่ตลอด สามารถเลือกมุมมองแสดงผลข้อมูลให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้งานได้ ออกแบบรายงานแยกให้ตรงกับบทบาทของแต่ละบุคคลด้วยวิธี manual มีระบบควบคุมการเข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อน มีความเสี่ยงข้อมูลรั่วไหลได้มากกว่า...

Continue reading

เพิ่มลูกเล่นให้การประชุม ด้วยฟีเจอร์ Q&As & Polls

ในการประชุมวีดิโอคอล Google Meet ผู้จัดการประชุมสามารถเปิดใช้ฟีเจอร์ Q&As & Polls ให้ผู้เข้าร่วมสามารถมีส่วนร่วมในการประชุมนั้นๆได้มากยิ่งขึ้น  ซึ่ง 2 ฟีเจอร์นี้ Google Meet ได้ทำการเพิ่มขึ้นมาจาก Activities เดิมดังนี้ Breakout rooms – เปิดใช้ห้องกลุ่มย่อยสำหรับการ DiscussionRecording – บันทึกการประชุมวิดีโอ Transcript – บันทึกข้อความถอดเสียงWhiteboarding – ใช้กระดานไวท์บอร์ดด้วย Jamboard Polls – ใช้แบบสำรวจ (NEW)Q&As – ใช้การถามและตอบ (NEW) โดยบทความนี้เราจะมาทำความรู้จักความสามารถของฟีเจอร์ Q&As และ Polls กันว่า สามารถนำมาประยุกต์ใช้ให้ตรงกับวัตถุประสงค์ในการประชุมได้อย่างไรบ้าง ฟีเจอร์ Q&As หรือ ถามและตอบ ฟีเจอร์ Q&As เป็นฟีเจอร์ที่เปิดให้ผู้เข้าร่วมมีส่วนร่วมในการพิมพ์เพื่อถามคำถามได้ โดยที่ผู้ถามไม่จำเป็นต้องเปิดไมโครโฟนให้เกิดการติดขัดระหว่างการบรรยาย ตัวอย่างเช่น กรณีงานสัมมนาผ่าน Meet หากผู้เข้าร่วมสัมมนามีข้อสงสัยหรือคำถามเพิ่มเติมสามารถพิมพ์คำถามไว้ได้ที่ฟีเจอร์ Q&As ได้ โดยที่ผู้บรรยายจะสามารถเห็นคำถามนั้นได้ทันที และหากคำถามใดที่ตอบแล้ว ผู้จัดการประชุมสามารถทำเครื่องหมาย mark as answered ไว้ได้เลย นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมประชุมทั้งหมดยังสามารถร่วมโหวตคำถามที่ถูกใจได้อีกด้วย   ฟีเจอร์ Polls หรือ แบบสำรวจ ในการประชุมบางครั้งอาจจะต้องมีโหวตคำตอบหรือความคิดเห็นจากผู้เข้าร่วมการประชุม ซึ่งผู้จัดการประชุมสามารถใช้ฟีเจอร์ Polls นี้เพื่อสร้างแบบสำรวจได้อย่างเรียลไทม์ โดยผู้โหวตสามารถเลือกโหวตแบบไม่ประสงค์ออกนามได้ อีกทั้งผู้จัดการประชุมยังสามารถตั้งค่าเปิดให้แสดงผลการโหวตได้เลยทันที นอกจากนี้ยังสามารถใช้ฟีเจอร์นี้เพื่อการสร้างแบบทดสอบความเข้าใจในการเรียนการสอนหรือการประชุมได้อีกด้วย เพิ่มเติม: ผู้จัดการประชุมสามารถสร้างแบบสำรวจล่วงหน้าไว้ก่อนได้ และหากต้องการเปิดให้โหวต ให้ทำการคลิกที่ปุ่ม Vote ไม่ว่าจะเป็นฟีเจอร์ Q&As หรือ Polls สามารถดึงดูดความสนใจของผู้เข้าร่วมได้ดีทีเดียว และจะช่วยเพิ่มสีสันหรือความน่าสนใจของการประชุมนั้นๆได้ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการประชุมเพื่อให้ได้ข้อสรุปได้เร็วยิ่งขึ้นอีกด้วย ติดตามอัปเดต Google Workspace จาก Demeter ICT ได้ที่ คลิก...

รู้หรือไม่? เราสามารถตอบรับการขอเข้าถึงไฟล์ได้ 2 วิธี

หนึ่งในความสามารถของ Google Workspace ที่ Google เองภูมิใจนำเสนอนั่นก็คือความปลอดภัยที่รักษาข้อมูลของผู้ใช้งาน เปรียบเสมือนมีพนักงานคอยรักษาความปลอดภัยข้อมูลตลอด 24 ช.ม. ที่สร้างความมั่นใจให้ผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี ตัวอย่างเช่นการเข้าถึงข้อมูลต่างๆที่อยู่บนแอปพลิเคชันของ Google Workspace ซึ่งปกติแล้วไฟล์นั้นๆจะถูกตั้งค่าจำกัดการเข้าถึง (Restricted) เป็น default หากมีบุคคลภายนอกต้องการเข้าถึงไฟล์ ก็จะมีแจ้งเตือนไปยังเจ้าของไฟล์ให้ทำการตรวจสอบการขออนุญาตเข้าถึงไฟล์ก่อนทุกครั้ง โดยบทความนี้ จะมาแชร์วิธีการรีวิวหรือการตรวจสอบการเข้าถึงไฟล์ ซึ่งมีทั้งหมด 2 วิธีด้วยกัน วิธีที่ 1: รีวิวผ่านอีเมล ในกรณีที่มีบุคคลที่ต้องการขอเข้าถึงไฟล์ เจ้าของไฟล์จะได้รับการแจ้งเตือนทางอีเมลเข้ามาว่ามีผู้ที่ต้องการสิทธิ์ในการเข้าถึง โดยที่เจ้าของไฟล์สามารถอนุมัติหรือปฎิเสธการเข้าถึงไฟล์พร้อมให้บทบาทสิทธิ์ของไฟล์นั้นๆ ผ่านอีเมลได้เลย  วิธีที่ 2: รีวิวผ่านไฟล์ วิธีนี้เป็นอัปเดตล่าสุดของ Google ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับเจ้าของไฟล์ ไม่ว่าจะเป็นไฟล์ Docs, Slides, Sheets, PDFs และอื่นๆ ให้สามารถรีวิวผ่านไฟล์ได้ ซึ่งก่อนหน้านี้สามารถรีวิวผ่านอีเมลได้เพียงวิธีเดียว  เมื่อมีผู้ที่ต้องการเข้าถึงไฟล์เอกสาร เจ้าของไฟล์จะได้รับการแจ้งเตือนที่ไฟล์นั้นๆ สังเกตได้ว่าจะปรากฎจุดที่ปุ่มแชร์ของไฟล์ โดยที่เจ้าของไฟล์สามารถรีวิวการขอเข้าถึงไฟล์ รวมการให้สิทธิ์บทบาทการเข้าถึงไฟล์จากตรงนี้ได้เลย  ทำความรู้จักบทบาทสิทธิ์การเข้าถึงไฟล์ Viewer (ผู้มีสิทธิ์อ่าน): มีสิทธิ์ดู แต่แก้ไขหรือแชร์ไฟล์กับผู้อื่นไม่ได้Commenter (ผู้แสดงความคิดเห็น): มีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นและให้คำแนะนำ แต่แก้ไขหรือแชร์ไฟล์กับผู้อื่นไม่ได้Editor (ผู้มีสิทธิ์แก้ไข): มีสิทธิ์แก้ไขไฟล์ ยอมรับหรือปฏิเสธคำแนะนำ และแชร์ไฟล์กับผู้อื่นได้ บอกเลยว่าอัปเดตครั้งนี้จะให้ช่วยการทำงานร่วมกันทั้งภายในและนอกองค์กรง่ายขึ้นแน่นอน หรือหากไฟล์ใดที่คุณต้องการจำกัดระยะเวลาการเข้าถึง คุณสามารถตั้งค่าได้ตามบทความนี้ >>> ไฟล์หมดอายุเมื่อไหร่ หมดสิทธิ์เข้าถึงทันที! เพื่อตัดสิทธิ์การเข้าถึงไฟล์นั้นๆได้เลย...