เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (May, 14 2020) ทาง Zendesk ได้มีการจัด Webinar ที่ชื่อว่า Zendesk Showcase ขึ้นมา และได้เชิญผู้เชี่ยวชาญทางด้านต่างๆมาให้คำแนะนำเกี่ยวกับธุรกิจ ในช่วงที่มีวิกฤติ Covid-19 นี้ และมีท่านนึงที่ได้พูดเกี่ยวกับ CX หรือ Customer Experience ในช่วงนี้ได้อย่างสนใจ เขาก็คือ Riccardo Pasto หัวหน้าฝ่ายวิจัยประสบการณ์ลูกค้าของประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ บริษัท Forrester ซึ่งเขาได้พูดถึงว่า “มีหลายๆองค์กรล้มเหลวในการวางแผนสำหรับสถานการณ์ในช่วงวิกฤต และพบว่าตัวเองกำลังดิ้นรนเพื่อตอบสนองในช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความต้องการของผู้บริโภค แต่ถ้าหากไม่มีการวางแผนที่รัดกุมแล้วอาจเป็นเรื่องยากที่จะทำความเข้าใจ และตอบสนองความต้องการได้แม่นยำ ในสถานการณ์นี้” ดังนั้นสิ่งที่เราต้องทำในวันนี้คือตอนนี้เพื่อช่วยธุรกิจของเรา เราจะเรียนรู้และสร้างประสบการณ์ลูกค้าอย่างไร ในวิกฤตการระบาดครั้งนี้ หรือ เราควรที่จะมีการรับมืออย่างไรในการพบเจอวิกฤตในครั้งต่อๆไปให้ดีขึ้นกว่านี้หรือไม่ ซึ่งทาง Riccardo Pastro ได้นำเสนอ 4 ลำดับความสำคัญ ที่จะช่วยนำพาให้ธุรกิจของคุณนั้น พ้นไปจากพายุลูกนี้ได้ 1. เริ่มต้นด้วย Start your Empathy การเอาใจใส่ คุณจะต้องรู้และเข้าใจลูกค้าของคุณในตอนนี้ เพราะในสถานการณร์ตอนนี้มีหลายปัจจัยมากที่ต้องบังคับให้ผู้บริโภคหรือพฤติกรรมของคนนั้นต้องเปลี่ยนไป เช่น พฤติกรรมการกักตุนของ พวก กระดาษชำระ, อาหาร, ยาฆ่าเชื้อ, รวมไปถึง หน้ากากอนามัย ซึ่งข้อมูลเรานี้ เรามักจะได้มาจากการ Survey และการสังเกตพฤติกรรมผู้บริโภค และนำข้อมูลมาวิเคราะห์กันในองค์กร เพือให้เข้าใจและรู้ถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคให้มากที่สุดและเป้นไปในแนวทางเดียวกัน 2. และเมื่อเรารู้จักและเข้าใจลูกค้ามากขึ้นแล้ว Adapt your CX accordingly หรือง่ายๆก็คือ ปรับธุรกิจของคุณให้เข้ากับผู้บริโภคเหล่านั้น ยกตัวอย่างเช่น บริษัท ประกันภัย Suncorp ได้มีการลดราคา พรีเมี่ยมแพ็คเกจถึง 20% และยังสามารถตรวจโรคโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม และยังสามารถให้คำปรึกษาฟรีทั้งเขาและครอบครัว และ Achie rose ที่รู้จักในการกันในนามของบริษัทผู้ผลิต วิสกี้ ของประเทศออสเตรเลีย ก็ได้มีการออกผลิตใหม่ คือ เจลทำความสะอาดมือ เพราะพวกเขาตระหนักถึงความต้องการของลูกค้าของเขาในตอนนี้ แต่มันก็มีสิ่งที่ต้องระมัดระวังหลายอย่างดังนั้น คุณควรก็ควรที่จะรอบคอบและทำความรู้จักลูกค้า และ...
Continue reading6 คำศัพท์ที่ต้องรู้ในยุค Digital
มาทำความรู้จักคำศัพท์ที่คุณอาจจะเคยเห็นผ่านตาหรือยังไม่เคยได้เห็นเลย แต่เราจะมารู้จักกันมากขึ้นในวันนี้ และหลังจากนี้คุณจะได้เห็นคำพวกนี้ในยุค Digital นี้ไปอีกนาน CJ หรือ Customer Journey ก็คือ การเดินทางของลูกค้าโดยหลักจะแบ่งเป็น 5 ขั้นตอน 1. Awareness(การรับรู้ของแบรนด์) 2. Interest(สนใจสินค้า) 3. Evaluation(การเปรียบเทียบ+ตัดสินใจ) 4. Purchase(ซื้อสินค้า) 5. Use(ใช้สินค้า) 6. Loyalty(ความซื่อสัตย์ต่อแบรนด์หรือการซื้อซ้ำ) เป็นการดูการเดินทางของลูกค้าตั้งแต่ต้นจนจบเพื่อให้เข้าใจพฤติกรรมของลูกค้ามากขึ้น CX หรือ Customer Experience ก็คือ ประสบการณ์ของลูกค้า เป็นกระบวนการสร้างความภักดี (Loyalty) ของแบรนด์ เพื่อทำให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดี และยังคงอุดหนุนแบรนด์ของเราแทนที่จะไปหาคู่แข่ง ซึ่งเราจะต้องรู้ถึง CJ และ Data ที่เรามีนำมาวิเคราะห์เพื่อที่จะได้รู้ถึง CX ของลูกค้าอย่างแท้จริง CRM หรือ Customer Relationship Management ถ้าแปลตรงตัวก็ คือ บริหารความสัมพันธ์ลูกค้า คือกระบวนการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างลูกค้ากับแบรนด์ การรวบรวมข้อมูลลูกค้า รวมถึงมีสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้า เพื่อรักษาฐานลูกค้าของแบรนด์ได้อีกด้วย ซึ่งไม่ได้มีแค่การขายกับบริการเท่านั้น CRM ยังรวมถึงความต้องการและพฤติกรรมของลูกค้าของเราอีกด้วย ตอนนี้หลายๆธุรกิจก็พยายามมุ่งไปทาง CRM มากขึ้น เพราะว่า ในปัจจุบันสินค้าหรือบริการไม่ใช่สิ่งเดียวที่ตอบโจทย์ลูกค้าอีกต่อไปในปัจจุบัน แต่มีความสัมพันธ์ที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกมีส่วนร่วมและใกล้ชิดกับแบรนด์มากขึ้นอีกด้วย PDPA หรือ Personal Data Protection Act คือ การป้องกันข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าซึ่งประเทศไทยกำลังจะนำพรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้มาใช้อย่างเต็มรูปแบบในวันที่ 27 พ.ค. 2563 ซึ่งพรบ. ฉบับนี้เป็นที่น่าจับตามองมาก เพราะว่าในปัจจุบัน ข้อมูลลูกค้าไม่ว่าจะเป็นชื่อ ที่อยู่ พฤติกรรม หรือการจ่ายเงินต่างๆ เป็นข้อมูลที่สำคัญมากในการทำธุรกิจ จึงทำให้เป็นสิ่งที่ล้ำค่าสำหรับบริษัทหรือฝ่าย Marketing มาก ดังนั้นทำให้ต้องมีพรบ.ฉบับนี้ขึ้นมาเพื่อป้องกันไม่ให้นำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ในทางที่ผิดหรือละเมิดเอาข้อมูลจากที่อื่นมา Martech หรือ Marketing Technology คือ การทำการตลาดแบบดิจิทัลที่จะมีการใช้เทคโนโลยีในยุคปัจจุบันเข้ามาช่วยมากขึ้น หลายๆคนอาจจะคิดว่ามันคืออันเดียวกับ Digital Marketing แต่จริงๆแล้ว Digital...
Continue readingWork From Home ก็ดูแลลูกค้าอย่างมืออาชีพได้
ตอนนี้หลายๆคนคงเริ่มชินและคุ้นเคยกับการ Work From Home มากขึ้นแล้ว แต่หลายๆที่ถึงจะ Work From Home ก็จริง แต่ก็ไม่สามารถทำงานได้เต็ม 100% เหมือนกับเวลาอยู่ที่บริษัท จึงทำงานได้บางส่วนเท่าที่จะพอทำได้ แต่ทาง Zendesk ได้พัฒนาระบบ Customer Service Software ให้สามารถดูแลและติดต่อลูกค้าได้ทุกที่ ทุกเวลา ไม่ว่าตัวคุณจะอยู๋ที่ไหนก็ตาม ไม่ว่าจะเป็น บนคอมพิวเตอร์ หรือจะเป็น Application บนมือถือ ก็สามารถบริการลูกค้าได้อย่างมืออาชีพ ด้วย 4 ฟีเจอร์หลักๆที่ทาง Demeter ICT ได้เป็นตัวแทนจำหน่ายอันดับ 1 ของไทย Zendesk Support – เป็นศูนย์กลางที่รวบรวมช่องทางการติดต่อสื่อสารของลูกค้าทั้งหมดไว้ในที่เดียว โดยจะเข้าเป็นระบบ Ticket เพื่อให้ง่ายต่อการจัดเก็บเป็น Category ที่เราต้องการ และที่สำคัญคุณสามารถจะดูแลลูกค้าได้ทุกที่ ทุกเวลา ไม่ว่าจะอยู่บ้าน อยู่ที่บริษัทหรืออยู่ข้างนอก เพราะมี Application ที่โหลดเข้าในมือถือได้ Zendesk Chat – Live chat ที่สามารถพูดคุยกับลูกค้าได้แบบ Real time เพื่อลดระยะเวลาการรอของลูกค้าได้ สร้างความประทับใจให้แก่ลูกค้า แล้วจะสามารถเก็บประวัติการพูดคุยต่างๆ เพื่อนำมาทำการวิเคราะห์และประเมินผลหลังจากการพูดคุยได้อีกด้วย Zendesk Guide – การแก้ปัญหาหรือตอบคำถามลูกค้าที่พบบ่อยๆ เพื่อลดงานให้แก่เจ้าหน้าที่หรือคนที่เกี่ยวข้อง แล้วยังช่วยลดเวลาการรอของลูกค้าได้อีกด้วย Zendesk Explore – เป็นการนำข้อมูลที่ได้จาก ช่องทางต่างๆ มาประเมินและวิเคราะห์เป็นแผนผังอย่างสวยงามและเข้าใจง่าย เพื่อนำมาเป็นแนวทางในการพัฒนาธุรกิจหรือขยายธุรกิจต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทดลองใช้ Zendesk trial ฟรี สอบถาม ราคา Zendesk ติดต่อ บริษัท ดีมีเตอร์ ไอซีที จำกัด ผู้ให้บริการระบบ Zendesk ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ – Zendesk Thailand Partner สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ราคา Zendesk พร้อมโปรโมชันพิเศษ โทร. 02-030-0066 096-804-5482...
Continue readingCustomer Service สำคัญต่อธุรกิจอย่างไร?
ต้องยอมรับว่าปัจจุบันในโลกหรือประเทศของเรานั้น มีพ่อค้าแม่ค้ามากมายทั้งทางออฟไลน์ และทางออนไลน์ และยิ่งตอนนี้ที่ทุกคนเจอวิกฤต Covid-19 ไป บางคนถูกพักงานหรือโดนไล่ออกจากงาน ยิ่งทำให้คนหาลู่ทางใหม่ๆในการทำธุรกิจมากขึ้นเพื่อความอยู่รอด ใครทำอะไรเป็นก็ต่างคนต่างทำสิ่งนั้นออกมาขายกันมากมาย ซึ่งสินค้าของแต่ละคนก็อาจจะแตกต่างกันออกไปไม่มากก็น้อย เพราะถ้าเรามีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองก็รอดไป แต่ถ้าสินค้าเราไม่แตกต่างจากคนอื่นละ อะไรจะเป็นปัจจัยที่ทำให้ลูกค้ามาซื้อและมาบริโภคของเรา คุณภาพสินค้า? ราคา? หรืออะไร.. แต่จริง ๆ แล้วปัจจัยนึงที่สำคัญมากๆเลยคือ บทบาทหน้าที่ของ Customer Service หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า CS ที่แต่ละที่จะไม่มีทางเหมือนกันอย่างแน่นอน เพราะต้องยอมรับว่าผู้บริโภคสมัยนี้ เขาไม่ได้มองที่ราคาและคุณภาพของสินค้าเพียงเท่านั้น เพราะถ้าสินค้าราคาถูกกว่า คุณภาพดีกว่า แต่พนักงานหรือเจ้าของร้านพูดจาไม่ดีหรือบริการไม่ดี ลูกค้าก็พร้อมที่จะไม่ซื้อ และเปลี่ยนไปซื้อร้านที่แพงกว่านิดหน่อย แต่ได้รับบริการและการดูแลที่ดีกว่า แล้ว Customer Service แบบไหนล่ะถึงเรียกว่าดี? มาดูไปพร้อมๆกัน ตอบลูกค้าไว รวดเร็ว ข้อนี้ทุกคนคงรู้กันดีอยู่แล้ว นึกถึงถ้าเราเป็นลูกค้า เวลาที่เราสื่อสารกับพนักงานในช่องทางต่าง ๆ เราก็อยากที่จะรู้ข้อมูลตอนนั้นเลยเพื่อการตัดสินใจ แต่ถ้าเราเจอ Customer Service ที่ไม่ตอบเราสักที รอนาน ทำให้เราเสียเวลา เราก็เลิกที่จะรอแล้วไปดูสินค้าตัวอื่นหรือสินค้าร้านอื่นแทนได้ ดูแลลูกค้าด้วยความจริงใจและทัศนคติที่ดี ไม่อคติต่อลูกค้า ข้อนี้จะขึ้นอยู่กับตัวพนักงานเป็นหลัก ว่าทางบริษัทรับคนแบบไหนเข้ามาทำงาน และมีการสอนงานให้รับมือกับลูกค้าที่มีหลากหลายประเภทอย่างไรบ้าง เพราะงานบริการลูกค้าต้องมีใจและพร้อมที่จะบริการลูกค้าด้วยความเต็มใจ ถ้าเราเจอคนที่หน้าเหวี่ยงใส่ น้ำเสียงกระแทกกระทั้น พูดห้วน ๆ ใส่เรา เราก็จะเริ่มรู้สึกว่า คน ๆ นี้ไม่อยากดูแลและบริการเราจริง ๆ แก้ปัญหาหรือตอบคำถามของลูกค้าให้ตรงจุด ข้อนี้สำคัญมากในเรื่องของการตัดสินใจซื้อของลูกค้า เพราะว่า ถ้าลูกค้าถามแล้ว พนักงานตอบแบบส่ง ๆ พนักงานไม่รู้ข้อมูลที่แท้จริง อาจทำให้ลูกค้าและบริษัทเสียหายได้ ดังนั้น ถ้าเราต้องติดต่อฝ่ายอื่น หรือคนที่ดูแลส่วนนั้นที่ลูกค้าถามจริง ๆ เราก็สามารถส่งไปให้ฝ่ายที่ดูแลตอบคำถามลูกค้าดีกว่า ดูแลลูกค้าหลังการขาย หรือ ให้คำปรึกษาหากลูกค้ามีการสอบถามเพิ่มเติมหลังจากที่ซื้อสินค้าหรือบริการไปแล้ว เพราะระหว่างนั้นลูกค้าอาจเจอปัญหาได้ ข้อนี้ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจของลูกค้าเช่นกัน ซึ่งทาง Zendesk ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของ Customer Service สำหรับธุรกิจในอนาคต จึงได้พัฒนาระบบ Customer Service Software ขึ้นมาเพื่อที่จะมาช่วยเหล่าทีม...
Continue readingแชร์วิธีแก้เครียดเวลาต้อง Work From Home ในช่วง COVID-19
ช่วงนี้จะสังเกตได้ว่าหลายๆบริษัท ให้พนักงานทำงานที่บ้านได้แล้ว ซึ่งการทำงานที่บ้านอาจจะเป็นสิ่งดีๆสิ่งหนึ่งในตอนนี้ที่พอจะทำได้ในช่วงที่ทุกคนเครียดกับเจ้า Covid-19 จนถึงขั้นประสาทแดกไปแล้วทั่วประเทศเพราะถามตัวเองตลอดเวลาว่าติดรึยัง? แต่หารู้ไม่ว่าการทำงานที่บ้านมันก็มีข้อเสียเช่นกัน ซึ่งหนึ่งในข้อเสียของการทำงานที่บ้าน หรือ Work From Home นั้นมันก็คือ ก่อให้เกิดความเครียดและความเครียดสะสม เพราะว่ามันค่อนข้างที่จะผิดธรรมชาติของมนุษย์เกินไปสักหน่อย เพราะว่ามนุษย์เรานั้นเป็นสัตว์สังคม ชอบเจอผู้คน หรือการมีปฏิสัมพันธ์ ซึ่งการที่เราทำงานที่บ้านเป็นระยะเวลานานๆ ไม่ได้เจอเพื่อน ไม่ได้เจอคนอื่นๆ อาจจะก่อให้เกิดความเครียดสะสม และทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานน้อยลงได้ ดังนั้นเราจึงควรจะหากิจกรรมอื่นๆที่เราชอบทำควบคู่ไปกับการอยู่บ้านด้วย เพื่อเป็นสิ่งที่จะทำให้เราคลายความเครียดลง และยังเป็นการพักผ่อน บรรเทาความคิดเกี่ยวกับเรื่อง Covid-19 ให้น้อยลง มาดูกันดีกว่าว่ามีกิจกรรมอะไรบ้าง? ดูหนัง/ดูซีรี่ส์ เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ยอดฮิตในตอนนี้มากๆ ไม่ว่าจะเป็น Youtube, Netflix, LineTV, หรือ จะเป็นโทรทัศน์ หรือ ไลฟ์โชว์ต่างๆ เหมือนที่ตอนนี้เวลาเลื่อนดูไอจีสตอรี่ของใคร ก็ถ่ายรูปจอทีวีที่กำลังดู Netflix อยู่ อ่านหนังสือ สำหรับเหล่านักอ่านที่อยู่บ้านตอนนี้ ซึ่งการอ่านหนังสือก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ช่วยให้เราผ่อนคลายได้มากขึ้น ซึ่งก็มีหลากหลายแนวแล้วแต่คนจะชอบหรือสิ่งที่ตัวเองสนใจ เล่นเกม ก็เป็นอีกสิ่งนึงที่คลายเครียดได้ดีในช่วงนี้ แล้วธุรกิจ Streaming ในตอนนี้ก็เป็นที่นิยมมากๆพอกับ หนังหรือซีรี่ส์เลยด้วย แต่สำหรับบางคนอาจจะเครียดกว่าเดิม เพราะเล่นเกมแพ้ทำให้หัวร้อนมากขึ้น ออกกำลังกาย กิจกรรมนี้สำหรับสาย Healthy ที่ช่วงนี้ห้ามออกไปข้างนอก ซึ่ง Fitness ก็เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่เสี่ยงเพราะมีคนรวมตัวกกันเป็นจำนวนมาก ถึงแม้การออกกำลังกายที่บ้านอาจจะได้ไม่เท่า Fitness แต่ก็สามารถช่วยได้บางส่วนแล้วยังช่วยลดความเครียดได้อีกด้วย ทำความสะอาดบ้าน จัดของ กิจกรรมนี้สำหรับชาวพ่อบ้านหรือแม่บ้าน เวลานี้เป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่จะทำความสะอาดบ้านหรือจัดของภายในบ้านที่เราอาจจะไม่ได้ทำมันมานานหรืออันนี้ยังไม่มีเวลา ตอนนี้เราต้องอยู่บ้านเราควรจัดพื้นที่ในการทำงาน และ ความสะอาด ให้ผ่อนคลายและสบายที่สุด ทำอาหาร กิจกรรมนี้สำหรับคนที่ชอบทำอาหารและคนที่ซื้อของมากักตุนในช่วงนี้ ก็เป็นช่วงเวลาอันดีเช่นกัน ที่จะได้ฝึกฝีมือการทำอาหาร และยังเป็นกิจกรรมที่ช่วยคลายเครียดได้ดี อีกหนึ่งกิจกรรมเลย แต่สำหรับคนที่ไม่ชอบทำจริงๆ การอยู่บ้านแบบนี้ก็แนะนำเป็น Food Delivery ต่างๆ ช้อปปิ้งออนไลน์ กิจกรรมนี้สำหรับนักช้อปตัวยง ที่ตอนนี้เหล่าเว็บไซด์ช้อปปิ้งออนไลน์ มีโปรโมชั่นมากมายและแข่งขันกันสูงมากในช่วงนี้ ไม่ว่าจะเป็น Lazada หรือ Shopee ที่จะช่วยผ่อนคลายเหล่านักช้อปให้คลายความเครียดนี้ไปได้ ซึ่งตัวช่วยที่จะ Support คุณ และ ลดความเครียดในการทำงานที่บ้านได้ดียิ่งขึ้น เหมือนทำงานอยู่ที่บริษัท...
Continue readingWork From Home มีข้อดี ข้อเสียอย่างไร?
เนื่องจากสถานการณ์ตอนนี้ที่ Covid-19 หรือไวรัสโคโรน่า ได้แพร่ระบาดไปแล้ว 30 กว่าจังหวัดทั่วประเทศ ทำให้บางที่ทำงานหรือบริษัท ได้มีมาตรการเพื่อช่วยเหลือพนักงานโดยการที่ให้พนักงานทำงานที่บ้าน หรือ การ Work From Home ซึ่งมีที่มา จากฝั่งอเมริกาและยุโรป ก่อนที่จะมีสถานการณ์ Covid-19 ซะอีก เพราะพวกเขาเชื่อมั่นว่าการที่พนักงานได้ผ่อนคลายหรือมีความสุข มันก็จะส่งผลถึงงานที่ทำซึ่งมันก็จะทำให้งานออกมาดีไปด้วย ซึ่งถ้าพูดถึงบริษัทในไทยก็มีบางบริษัทที่เริ่มนำนโยบายนี้มาลองปรับใช้ในบริษัท ตัวอย่าง เช่น บริษัท ดีมีเตอร์ ไอซีที จำกัด ของเรานั่นแหละ ที่มีนโยบายให้ พนักงาน Work From Home ที่บ้านได้อาทิตย์ละ 1 วัน แต่ในช่วงนี้สถานการณ์ไม่ค่อยดี ก็เลย Work From Home ไปยาวๆ มาดูข้อดี ข้อเสีย ของการ Work From Home กันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง ข้อดี ปลอดภัยทั้งต่อตนเองและผู้อื่น เพราะ เราไม่ได้ไปพบผู้คนด้านนอก หรือพบน้อยที่สุดซึ่งตอนนี้เราไม่รู้ว่าใครเป็นใคร สามารถจัดการเวลาการทำงานตามเวลาที่ตัวเองต้องการได้ ผ่อนคลายและมีความกดดันน้อยกว่าทำงานอยู่ที่บริษัท ประหยัดค่าเดินทางและประหยัดเวลาในการเดินทางทำให้เรามีเวลาในการทำอย่างอื่นมากขึ้น สุขภาพอาจจะดีขึ้นเพราะไม่ต้องมาเจอมลพิษด้านนอก แต่ก็ต้องอย่าลืมออกกำลังกายด้วย ได้ศึกษาทดลองใช้ฟีเจอร์หรือระบบใหม่ๆที่เกี่ยวกับการทำงานแบบ Work From Home เพราะเวลาที่อยู่บริษัทไม่ได้ใช้ระบบเหล่านี้ ข้อเสีย เวลาอยู่บ้านสิ่งเร้ามีมากมาย เช่น เตียง คอม เกม หรือจะเป็นสัตว์เลี้ยง ทำให้คุณต้องมีสมาธิและจิตใจที่แข็งแกร่งมากพอ ความขี้เกียจ เพราะไม่มีใครมากดดันหรือสั่งให้เราทำเหมือนตอนที่อยู่ในบริษัท เวลาอยู่บ้านคุณจะหยิบนู่นหยิบนี่กินตลอดเวลา อาจจะทำให้คุณอ้วนขึ้นได้ บางบริษัทยังไม่มีระบบการทำงานที่จะทำให้พนักงานสามารถทำงานที่บ้านได้ จึงอาจทำให้เกิดความผิดพลาดในการสื่อสารในการทำงาน และในสถานการณ์ปัจจุบันยิ่งเป็นสถานการณ์ที่ควรหลีกเลี่ยงเพื่อความปลอดภัยของพนักงานและลดการแพร่เชื้อภายในประเทศ ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าไม่ใช่ทุกๆบริษัทที่จะเหมาะสมกับการทำงานแบบ Work From Home แต่ว่าถ้าหากคุณลองเปลี่ยนแปลงหรือปรับเปลี่ยนการทำงานบางอย่าง คุณอาจจะเจอวิธีการทำงานที่สะดวกและดีกว่า อย่างเช่นระบบของ Zendesk ที่ไม่ได้ช่วยแค่ด้าน Customer Service อย่างเดียวเท่านั้น แต่คุณสามารถปรับเปลี่ยนไปใช้ในองค์กร เช่น การเก็บข้อมูลหรือการสื่อสารภายในองค์กรที่ทำให้ช่วยประหยัดเวลา และง่ายต่อการใช้งานมากขึ้นไปอีกด้วย ตัวอย่างเช่น ถ้าลูกค้าติดต่อมาหา Customer Service...
Continue readingส่องวิกฤต Covid-19 เปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างไร?
ในตอนนี้ข่าวที่มาแรงที่สุดในทุกประเทศคงไม่พ้นเรื่อง ไวรัสโคโรน่า หรือ COVID-19 นั่นเอง ที่ตอนนี้ได้แพร่ไปกว่า 40 กว่าจังหวัดทั่วประเทศแล้ว และหลายๆคนในที่นี้คงหวาดระแวง จนถามตัวเองอยู่ทุกวันว่าตอนนี้เราติด COVID-19 รึยัง? จนไม่เป็นอันทำอะไรแล้ว ซึ่งเจ้าไวรัสตัวนี้มันไม่ได้ส่งผลแค่ร่างกายของเราเท่านั้น มันยังส่งผลไปยังเรื่องอื่นๆมากมายดังข่าวที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายไปแล้ว เนื่องจากอยู่ในจุดที่ตกต่ำที่สุดในรอบ 8 ปี และนอกเหนือจากตลาดหุ้นมันยังส่งผลถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปอีกด้วย เนื่องจากการปิดให้บริการในสถานที่ต่างๆ เพื่อให้คนอยู่บ้านหรือพบเจอผู้คนให้น้อยที่สุด เพราะในตอนนี้เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าคนที่อยู่รอบข้างเรานั้น แต่ละคนกลับมาจากประเทศไหนมา ไปประเทศไหนมาบ้าง ดังนั้นสิ่งที่เราทำได้ดีที่สุดคือการป้องกันตัวเอง ซึ่งการป้องกันตัวเองของหลายๆคนก็ตัดปัญหาโดยการที่ไม่ออกไปข้างนอกหรือออกไปข้างนอกให้น้อยที่สุดเท่าที่จำเป็น ซึ่งพฤติกรรมเหล่านั้นเองมันส่งผลให้ธุรกิจบางอย่างที่เป็นพวกธุรกิจออนไลน์ หรือ ธุรกิจบน Cloud นั้นยิ่งเป็นที่นิยมมากในตอนนี้ อย่างเช่น Netflix ซึ่งตั้งแต่เปิดปี 2020 มาหุ้นของ Netflix ขึ้นมาแล้ว 15% มันแสดงให้เห็นว่าผู้คนได้หากิจกรรมและวิธีแก้เบื่อเวลาอยู่บ้านมากขึ้น ยังไม่รวมถึงหุ้นกลุ่มสตรีมมิ่งหรือเกมต่างๆที่พากันขึ้นในช่วงที่มีวิกฤต Covid-19 นี้ อีกมากมาย รวมไปถึงการศึกษาและการทำงาน ณ ตอนนี้โรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาต่างๆได้ปรับเปลี่ยนการเรียนการสอนเป็นแบบออนไลน์แล้วในหลายๆประเทศ เพื่อให้นักเรียนไม่ต้องออกมาจากบ้านเพื่อเผชิญหน้ากับเจ้าไวรัสตัวนี้ และสำหรับคนทำงานก็มีหลายๆบริษัทที่เริ่มให้ Work from home กันแล้วเพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อภายในองค์กร ทำให้ธุรกิจประเภทขนส่ง Logistics หรือ Delivery เป็นที่นิยมมากๆในตอนนี้ และเนื่องจากสถานการณ์ที่ต้องทำให้หลายๆคนต้องอยู่แต่ในบ้าน เพื่อจะต้องทำตัวเองให้เจอคนให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ มันส่งผลให้ร้านค้าต่างๆเงียบเหงากันไปตามๆกัน จึงมีแคมเปญชื่อ #YESICAN ที่มีเหล่าคนเซเลปคนดังมากมายที่จะช่วยโปรโมทร้านให้ชาวพ่อค้าแม่ค้าที่มีร้านค้าเข้ามาฝากร้านได้ในช่องทางต่างๆ เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ซบเซาในช่วงที่ทุกคนไม่ออกจากบ้านไปจับจ่ายใช้สอย ดังนั้นเหล่าคนที่ขายของในช่วงนี้อาจจะมีลูกค้าที่มาจากหลากหลายช่องทางมากขึ้น เพราะพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยน ดังนั้นช่องทางการขาย หรือวิธีการขายเราก็ควรที่จะปรับเปลี่ยนไปตามพฤติกรรมของผู้บริโภคเช่นกัน ซึ่ง Zendesk มีตัวช่วยที่เป็นฟีเจอร์ต่างๆที่ตอบโจทย์สำหรับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปที่เข้ากับสถานการณ์นี้หลายอย่างเลย ตัวอย่างเช่น Zendesk มีระบบ Social Messaging Adds on ที่รวบรวมช่องทางการสื่อสารยอดนิยมมาไว้รวมกันที่เดียว เช่น Messenger, LINE, Direct Message Twitter, WhatsApp และ WeChat หรือ จะเป็นตัว Zendesk Chat ที่เป็นระบบ Live Chat Online...
Continue readingZendesk รวบรวมช่องทางการสื่อสารไว้ในที่เดียว
การพูดคุยกับลูกค้าในปัจจุบันสำคัญพอๆกับตัวสินค้าเลย ลูกค้าส่วนใหญ่สมัยนี้มักจะตัดสินใจซื้อสินค้าจากการพูดคุยกับผู้ขาย เพราะคนไทยชอบการพูดคุยที่เป็นกันเองเหมือนเพื่อน ถ้ายิ่งมีไลฟ์สไตล์เดียวกันแล้วนั้นจะยิ่งคุยกันยาวเลย ซึ่งการตอบหรือพูดคุยกับลูกค้าเป็นสิ่งหนึ่งที่จะวัดว่าคุณให้ความสำคัญกับลูกค้าแค่ไหน ส่วนช่องทางที่ลูกค้าติดต่อเพื่อมาพูดคุยกับเราก็มีมากมาย และหลักๆในเวลานี้ก็จะมี Facebook Messenger, LINE, WhatsApp, Twitter Direct Message และ WeChat หรือศัพท์ทาง IT จะเรียกว่า Multichannel ซึ่งทาง Zendesk ได้รวบรวมช่องทางเหล่านั้นมารวมไว้ในที่เดียวและทำให้คุณสามารถพูดคุยหรือตอบกับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยผ่านแค่ทางเดียว หรือศัพท์ทาง IT เรียกว่า Omnichannel ระบบของ Zendesk ที่จะทำให้คุณใกล้ชิดและสร้างความประทับใจให้กับลูกค้ามากขึ้น Respond right away ข้อความตอบกลับลูกค้าอัตโนมัติ สำหรับตอบคำถามที่ลูกค้าถามบ่อยๆโดยที่คุณไม่ต้องเสียเวลามาตอบเองทุกครั้ง และคุณยังสามารถปรับแต่งข้อความเป็นคำพูดที่เป็นตัวคุณเองได้อีกด้วยเพื่อสร้างความใกล้ชิดมากขึ้นไม่ให้ดูเป็นระบบเกินไป Be available ตั้งปุ่มแชทบนหน้าเว็บไซต์หรือแอปของคุณได้ เพื่อให้ลูกค้าสามารถส่งข้อความหาคุณได้ ทุกที่ ทุกเวลา Get it together เป็นศูนย์รวบรวมและบอกช่องทางของลูกค้าที่ติดต่อเข้ามา แล้วยังสามารถดูข้อมูลของลูกค้าในขณะทำงานได้แบบเรียลไทม์ “ลูกค้าต้องการติดต่อเราทาง WhatsApp, และ Zendesk ก็สามารถช่วยให้เราลดระยะเวลาในการตอบกลับลูกค้าทาง WhatsApp จากเป็นวันลดมาเหลือไม่กี่นาที ก่อนที่จะมาใช้ Zendesk เราต้องให้เจ้าหน้าที่ใช้โทรศัพท์สามถึงสี่เครื่อง พร้อมหมายเลข WhatsApp ในการรับข้อความจากลูกค้า ซึ่งวิธีนี้มันไม่สามารถทำให้เราขยายธุรกิจและวัดผลอะไรไม่ได้เลย แต่ตอนนี้เราสามารถรจสอบและจัดการข้อความใน WhatsApp พร้อมกับลูกค้าที่มาจากช่องทางอื่นๆ และมอบการบริการที่ดีกว่าเดิมให้กับลูกค้าในช่องทางต่างๆที่เขาสะดวกได้ การที่ Zendesk สามารถเชื่อมกับ WhatsApp ได้คือหัวใจสำคัญในการขยายตลาดสู้ระดับโลกอย่างต่อเนื่องของเรา” – Gib Lopez, Co-founder และ COO บริษัท PAYJOY Zendesk ช่วยให้ดีขึ้นได้ยังไง? สร้างความสัมพันธ์ที่ดีให้กับลูกค้าโดยเชื่อมต่อกับช่องทางที่ลูกค้าสะดวกที่สุด ช่วยให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้ง่ายขึ้น ช่วยในการจัดการแและจัดลำดับความสำคัญของลูกค้าจากช่องทางต่างๆในที่เดียว เชื่อมต่อรวดเร็วและง่ายดาย ทำให้เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้มากขึ้นจากระบบการทำงานที่มีอยู่ ที่มา : Zendesk ทดลองใช้ Zendesk trial ฟรี สอบถาม ราคา Zendesk ติดต่อบริษัท ดีมีเตอร์ ไอซีที จำกัด ผู้ให้บริการระบบ Zendesk ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ – Zendesk...
Continue reading5 สิ่งที่ต้องมีในธุรกิจยุค 5G
เพิ่งมีข่าวไปหมาดๆ กับการประมูล 5G ในประเทศไทย ซึ่งก็มีบริษัทยักษ์ใหญ่มาร่วมประมูลแข่งขันกันมากมายทั้ง AIS, TRUE, DTAC, TOT และ CAT และสิ่งที่จะเพิ่มและเข้ามาเปลี่ยนแปลงในยุค 5G นั่นคือ ไม่ใช่แค่โทรศัพท์อย่างเดียวแล้วที่จะมี Internet หรือ Wifi แต่มันจะเป็นยุคที่เรียกว่า IoT หรือ Internet of Things ก็คือ อุปกรณ์ที่ใช้ในชีวิตประจำวันหลายๆอย่างจะมี Internet ในตัวเองหมด เช่น ทีวี, ตู้เย็น, ไฟ และอีกมากมาย คือ เรียกว่าเราแทบจะกินอยู่หลับนอนด้วย Internet เลยทีเดียว ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการใช้ชีวิต หรือ lifestyle ของคนในปัจจุบันกำลังจะเปลี่ยนไป ทุกอย่างจะไวขึ้นและรวดเร็วมากขึ้นไปอีก เพราะฉะนั้นธุรกิจก็จะต้องปรับตัวและไวให้ทันคนในปัจจุบันด้วยเช่นกัน ซึ่ง 5 สิ่งที่ต้องเตรียมมีดังนี้ 5 สิ่งที่ต้องมีสำหรับยุค 5G ที่กำลังจะเข้ามา ต้องมีช่องทางให้ลูกค้าได้เห็นสินค้าหรือหาข้อมูลได้ในหลากหลายช่องทาง เพราะในปัจจุบัน ลูกค้าออกมาจับจ่ายใช้สอยน้อยลง ร้านค้าจึงต้องสร้างให้สินค้าไปใกล้และเข้าหาลูกค้ามากขึ้นเอง ในช่องทางต่างๆ เช่น Social Media, การโทรศัพท์, Application หรือ เว็บไซด์ต่างๆ ต้องมีช่องทางการจ่ายเงินให้ลูกค้าหลากหลายช่องทาง เช่น Credit/Debit Card, iBanking หรือ Application การจ่ายเงินต่างๆ เช่น Paypal, Promptpay, Alipay, etc. เพราะการที่ลูกค้าจ่ายเงินนานและยุ่งยาก ยิ่งทำให้ลูกค้ามีเวลาตัดสินใจในการซื้อสินค้ามากขึ้น ดังนั้นถ้าลูกค้าเจอร้านที่จ่ายเงินยุ่งยากและใช้เวลานานเขาก็พร้อมที่จะไปทันที ต้องมีการขนส่งถึงที่อยู่ของลูกค้าด้วยความรวดเร็วและถูกต้องปลอดภัย ไม่ว่าเราจะใช้ขนส่งสาธารณะหรือส่งด้วยตนเอง ซึ่งก็เป็นอีกปัจจัยนึงที่สำคัญมากในตัดสินใจของลูกค้า คือ ลูกค้าจะต้องสามารถตรวจสอบหรือเช็คสถานะสินค้าของตัวเองได้ว่าจะถึงวันไหน ตอนนี้อยู่ที่ไหน ซึ่งพวกเขาอาจจะทักมาในช่องทางต่างๆ ต้องสร้างประสบการณ์ที่ดี (Customer Experience) ให้กับลูกค้าเนื่องจากทุกๆร้านก็พยายามที่จะทำให้สินค้าไปใกล้ลูกค้าให้มากขึ้น แล้วอะไรคือตัวที่วัดว่าลูกค้าจะซื้อสินค้าของร้านไหนหล่ะ? นั่นคือเรื่องของการบริการ ลูกค้าในปัจจุบันให้ความสำคัญกับเรื่อง Customer Experience มาก ถ้าพวกเขาเจอประสบการณ์ที่ไม่ดีกับร้านของคุณเขาพร้อมที่จะเปลี่ยนแล้วย้ายไปซื้อของร้านอื่นทันที เพราะฉะนั้นข้อนี้ก็เป็นอีกข้อนึงที่สำคัญมาก ต้องมี Content...
Continue reading