ในปี ค.ศ. 2000 ยุค Analogue พฤติกรรมของลูกค้าได้เปลี่ยนจากการติดต่อที่ต้องเผชิญหน้าตัวต่อตัว เป็นการใช้ระบบโทรศัพท์ ช่วงปี ค.ศ. 2007 เราต้อนรับการมาถึงของยุค Digital มีหลายช่องทางให้ลูกค้าเลือกในการเข้าถึงแบรนด์ จนเกิดเป็นเทรนด์การทำ Omnichannel (การรวมทุกช่องทางที่ลูกค้าติดต่อเข้ามาทั้งหน้าร้านและช่องทางออนไลน์เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ไร้รอยต่อ) ที่กลายเป็นมาตรฐานในการให้บริการลูกค้า ขณะนี้คือปี ค.ศ. 2025 เทคโนโลยี AI กำลังสร้างยุคใหม่ของการเปลี่ยนแปลงความคาดหวังของลูกค้าในแบบที่รวดเร็วและลึกซึ้งกว่าเครื่องมืออื่นที่เคยมีมา ลูกค้าต้องการบริการที่รวดเร็ว เฉพาะเจาะจง และถูกต้องแม่นยำ นี่จึงกลายเป็นโจทย์ที่เราจำเป็นต้องคิดใหม่ว่า ‘การบริการที่ดี’ นั้นหมายถึงอะไร และจะส่งมอบมันอย่างไร? Customer Experience Trends Report 2025 นับเป็นระยะเวลากว่า 7 ปีแล้วที่ Zendesk ได้ทำการวิจัยเทรนด์ประสบการณ์ลูกค้า ซึ่งในรายงานของปีนี้ก็ได้ทำการสำรวจผ่านมุมมองของผู้บริโภคกว่า 5,000 ราย และมุมมองของฝั่งธุรกิจอีกกว่า 5,500 ราย จาก 22 ประเทศทั่วโลกรวมถึงในไทย สำหรับปี 2025 นี้สามารถสรุปเป็นเทรนด์สำคัญได้ทั้งหมด 5 เทรนด์ ดังต่อไปนี้ Trends 1: บริษัทต่าง ๆ กำลังเร่งนำ AI Copilot (ผู้ช่วยอัจฉริยะที่ขับเคลื่อนด้วย AI) และการบริการแบบอัตโนมัติมาใช้เพื่อยกระดับการโต้ตอบไปอีกขั้น 93% ของผู้นำเทรนด์ด้านประสบการณ์ลูกค้า (CX Trendsetters) เชื่อว่า ระบบ Copiloting เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการช่วยให้ทั้งลูกค้าและเจ้าหน้าที่คุ้นเคยกับ AI และเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการนำ AI มาใช้ในส่วนอื่น ๆ ได้ราบรื่นมากขึ้น 90% ของผู้นำเทรนด์ด้านประสบการณ์ลูกค้า (CX Trendsetters) เชื่อว่า 80% ของปัญหาจะสามารถแก้ไขได้โดยไม่ต้องพึ่งมนุษย์ ภายในไม่กี่ปีข้างหน้า สถิติที่น่าสนใจก็คือหากเทียบการใช้งาน Shadow AI (การนำ AI ภายนอกที่ไม่ได้ผ่านการรับรองจากบริษัทมาใช้งาน) ของปีที่แล้วกับปีนี้นั้น พบว่าในปีนี้มีการใช้งาน Shadow AI เพิ่มขึ้นถึง 250%...
Continue reading5 เคล็ดลับ ปรับองค์กรให้พร้อมรับมือกับยุค AI
“AI จะมาแย่งงานของคนจริงหรือไม่?” เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ทุกคนถกเถียงและสงสัยกันมาอย่างยาวนาน แต่จากที่ข่าวสารและสิ่งที่ทุกท่านเห็นกันมาคงบอกได้แน่ ๆ ว่า AI เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยในปัจจุบัน ทั้งในการใช้ชีวิตประจำวันไปจนถึงการทำงาน แต่ก็ยังมีหลายองค์กร ยิ่งในประเทศไทยเอง ยังไม่ได้มีแผนการรับมือหรือการเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการมาถึงของ AI ขนาดนั้น ซึ่งถ้าองค์กรของคุณกำลังให้ความสนใจเกี่ยวกับเรื่อง AI แต่ยังไม่รู้วิธีว่าต้องเตรียมตัวอย่างไร? บทความนี้ช่วยคุณได้อย่างแน่นอน ในบทความนี้เราได้นำเนื้อหามาจาก Report ของทาง Asana ที่มีชื่อว่า ‘The State of AI at Work’ โดยที่จะมาพูดถึงเคล็ดลับในการเตรียมตัวรับมือกับ AI จากบริษัทชั้นนำด้าน AI กันอย่างเจาะลึก จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย! เลือกอ่านหัวข้อที่คุณต้องการได้เลย! 1. ยกระดับความเข้าใจใน AI ในองค์กร ลงทุนในด้านการศึกษา การฝึกอบรม และการพัฒนาทักษะ เพื่อให้องค์กรของคุณสามารถนำ AI มาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ พนักงานจำเป็นจะต้องมีความรู้ และทักษะในการใช้งานเพื่อดึงศักยภาพและประโยชน์จาก AI ออกมาให้มากที่สุด ซึ่งขั้นตอนนี้ไม่สามารถสำเร็จได้ในครั้งเดียว แต่องค์กรจะต้องให้ความสำคัญในทุกขั้นตอนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เข้าใจถึงความสามารถของ AI ได้อย่างลึกซึ้ง 56% ของพนักงานในองค์กร กำลังเรียนรู้ และทดลองใช้งาน Generative AI ด้วยตนเอง จากการวิจัยของ Asana พบว่า 56% ของพนักงานกำลังเรียนรู้เกี่ยวกับ Generative AI ด้วยตนเอง โดยที่ไม่มีการฝึกอบรมการใช้งานอย่างเป็นทางการ องค์กรควรที่จะต้องสนับสนุนพนักงานที่มีแรงจูงใจด้านนี้ ให้ขึ้นสู่การเป็นผู้นำในการขับเคลื่อน AI มาใช้ภายในองค์กร และยังสามารถช่วยเหลือเพื่อนร่วมงาน พร้อมกับเป็นแรงผลักดันให้ทั่วทั้งองค์กรหันมาสนใจการใช้งาน AI มากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม..การพัฒนาทักษะด้าน AI ไม่ควรตกอยู่ที่พนักงานเพียงฝ่ายเดียว องค์กรควรที่จะต้องสนับสนุนการเรียนรู้ให้กับพนักงานของคุณด้วย เช่น การจัดหาระบบ AI ต่าง ๆ มาให้ใช้งาน การฝึกอบรม (Training) และการออกแบบโครงสร้างหรือกระบวนการทำงานที่สนับสนุนการใช้งาน AI ภายในองค์กรด้วย เมื่อทีมของคุณได้ใช้งาน AI ในหลาย ๆ...
Continue readingZendesk คัดเลือก DEMETER ICT เป็น Advanced AI Enablement Partner ของ APAC
Zendesk ผู้นำด้าน Customer Service Solution ที่มีผู้ใช้งานทั่วโลกมากกว่า 170,000 องค์กร ได้คัดเลือกให้บริษัท ดีมีเตอร์ ไอซีที จำกัด (DEMETER ICT) เป็น Advanced AI Enablement Partner ของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก Advanced AI ของ Zendesk นั้น นับเป็นฟังก์ชันใหม่ที่ให้บริการเสริมจาก Zendesk Suite Professional และ Zendesk Suite Enterprise โดย Advanced AI จะใช้ฟังก์ชันของ OpenAT ที่สามารถวิเคราะห์ระดับความพึงพอใจของลูกค้าที่ติดต่อเข้ามา สามารถสรุปเนื้อหาโดยย่อให้กับพนักงานผู้ให้บริการ และแนะนำการตอบคำถาม รวมไปถึงการสร้างแชทบอทด้วยเครื่องมือของ Generative AI ทำให้การตอบคำถามด้วย AI BOT เป็นไปอย่างธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็น การให้คำแนะนำจากบทความที่เกี่ยวข้อง การรับมือในการพูดคุยกับลูกค้าในแต่ละรูปแบบ การส่งต่อปัญหาแบบอัตโนมัติให้กับบุคคลที่เกี่ยวข้อง ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนในการให้บริการขององค์กรอย่างมีนัยยะสำคัญ DEMETER ในฐานะ Advanced AI Enablement Partner DEMETER เป็นพาร์ทเนอร์ผู้มีประสบการณ์ในการให้บริการ Zendesk มาอย่างยาวนาน เคยได้รับแต่งตั้งให้เป็น High Growth Partner of The Year ในปี 2022 และได้รับการรับรองว่าเป็นทั้ง Premier Partner และ Premier Implementation Partner หรือในความหมายก็คือ พาร์ทเนอร์ผู้เชี่ยวชาญในการวางระบบระดับสูงสุดจาก Zendesk ในฐานะที่เป็น Advanced AI Enablement Partner จากนี้ไป DEMETER จะเป็นพาร์ทเนอร์ที่มีความชำนาญในเชิงลึกในการวางระบบ Advanced AI ของ Zendesk ให้กับองค์กรที่ต้องการนำความสามารถของ AI มาช่วยในการเพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า เพิ่มรายได้ และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน...
Continue readingBest Practice ลดต้นทุนธุรกิจและยกระดับประสบการณ์ลูกค้าด้วยเอไอ (ARTIFICIAL INTELLIGENCE)
ทุกวันนี้หากจะมีเทคโนโลยีที่กำลังมาแรงจนไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คงเป็นเรื่องของเทคโนโลยีเอไอ (AI: Artificial Intelligence) ไม่ว่าจะเป็น ChatGPT เครื่องมือประมวลภาษาที่ช่วยให้เราสนทนากับแชทบอทได้เหมือนแชทคุยกับเพื่อน หรือการใช้เอไอในการสร้างรูปภาพ ที่ผลลัพธ์ออกมาเป็นที่น่าประทับใจมากทีเดียว สิ่งเหล่านี้ตอกย้ำว่าแม้แต่ในเสี้ยวนาทีที่คุณกำลังอ่านบทความนี้ โลกธุรกิจก็กำลังขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากขึ้นอยู่ตลอดเวลา จากรายงาน CX Trends 2023 ของ Zendesk สองในสามของผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าเอไอจะมีบทบาทสำคัญในการช่วยธุรกิจลดต้นทุน ในบทความนี้ เราจึงขอแชร์กลวิธีในการใช้เอไอลดต้นทุนและยกระดับประสบการณ์ลูกค้าให้ทุกคนได้อ่านกัน 1. ลดต้นทุน โดยที่ยังมอบการบริการที่ดีเยี่ยม งบจำกัด พนักงานน้อย มักเท่ากับว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการลูกค้าต้องรับศึกหนัก และยิ่งถ้าไม่มีเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพใช้ ก็ยิ่งเสี่ยงที่จะเกิดข้อผิดพลาดและนำไปสู่ประสบการณ์ลูกค้าที่ย่ำแย่ ถึงอย่างนั้นปัญหานี้ก็ไม่จบลงแค่การหาบอทสักตัวมาใช้ จากการสำรวจพบว่าผู้บริโภคหลายคนคุ้นชินกับการคุยกับบอท ทว่าความรู้สึกหลังจากนั้นมักค่อนไปทางติดลบเสียส่วนใหญ่ ทั้งนี้ก็เพราะบอทมีการตอบกลับที่ย่ำแย่ ส่งมอบข้อมูลผิด ๆ และสำคัญเลยคือขาดความสามารถในการให้ผู้บริโภคเข้าถึงเจ้าหน้าที่ “เป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับแบรนด์ที่จะมอบการตอบกลับที่ถูกต้องแม่นยำ รู้ว่าเมื่อไหร่ที่ควรส่งต่อเคสให้กับเจ้าหน้าที่ ChatGPT ทำได้ดีเพราะสามารถสนทนาเหมือนแชทกับเพื่อนก็จริง แต่มันก็ไม่มีข้อมูลที่จะตอบคำถามที่เฉพาะเจาะจงของแบรนด์ นี่เองที่เป็นปัญหา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับลูกค้าที่ต้องการข้อมูลที่ถูกต้อง” – Cristina Fonseca, Vice President, Product, Zendesk แล้ว AI จะช่วยลดต้นทุนตรงส่วนนี้ได้อย่างไร? แชทบอทที่ดีจะต้องรับมือกับการติดต่อที่มีความซับซ้อนไม่มากได้ และสามารถเชื่อมต่อลูกค้าไปยังเจ้าหน้าที่ได้เมื่อจำเป็น ตรงจุดนี้เองที่จะช่วยให้เจ้าหน้าที่มีเวลาไปมุ่งเน้นกับการสร้างปฏิสัมพันธ์ของลูกค้าที่จะนำไปสู่การเพิ่มรายได้ หรือการซื้อซ้ำ (Retention) ซึ่งจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีกว่า นอกจากนี้แชทบอทก็ควรที่จะเชื่อมต่อกับระบบหลังบ้าน เช่น ระบบ Knowledge Base, E-Commerce Platform หรือระบบจัดการงานต่าง ๆ และควรจะใช้งานได้ในช่องทางส่งข้อความ อีเมล โซเชียลมีเดีย หรือกระทั่งดำเนินงานที่ซับซ้อนอย่างช่วยให้ลูกค้าสั่งซื้อสินค้า ชำระเงิน คืนสินค้าจากในแชทได้ด้วยตนเอง ซึ่ง Zendesk ในฐานะที่เป็น CX Platform ชั้นนำเองก็มีโซลูชันที่ช่วยให้การทำสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องง่ายดาย ไม่ต้องใช้โค้ด อย่างโซลูชัน Zendesk Sunshine Conversations แพลตฟอร์ม API ที่เป็นเหมือนปลั๊คพ่วงซอฟต์แวร์ เชื่อมต่อช่องทางการติดต่อลูกค้ากับระบบหลังบ้านของคุณ เพื่อสร้างประสบการณ์สนทนาที่ไร้รอยต่ออย่างแท้จริง ตัวอย่างลูกค้าของ Zendesk ที่ใช้บอทลดค่าใช้จ่าย Handy ใช้ Zendesk สร้างระบบ Knowledge Base เพื่อให้ลูกค้าบริการตนเอง...
Continue reading