เทียบชัด Google Workspace VS Zimbra ใครจะเป็นที่หนึ่งในวงการ Collaboration Platform! รีวิวจริงจาก Gartner

หากจะพูดถึงการทำงานแบบ Collaboration ก็คงนึกถึงแพลตฟอร์มอื่นไปไม่ได้เลย นอกจาก Google Workspace และ Zimbra เมื่อไม่นานมานี้ทาง Zimbra ได้ประกาศ End of Life Free version หรือที่เราเรียกกันว่า Zimbra Open source ซึ่งข่าวการยกเลิกนี้ทำให้ผู้ใช้จำนวนมากจำเป็นต้องอัปเกรดหรือมองหาแพลตฟอร์มเพื่อการทำงานจากค่ายอื่นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ฉะนั้นเพื่อเป็นทางเลือกให้กับคุณที่อาจจะกำลังใช้งาน Zimbra และจะถูกยกเลิกการใช้งานฟรีในวันที่ 31 ธันวาคม ปี 2023 นี้ เราจึงได้จัดทำบทความเปรียบเทียบ Zimbra กับ Google Workspace ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่สนับสนุนเรื่องการทำงานร่วมกันแบบออนไลน์เช่นเดียวกัน เปรียบเทียบในแง่ของแอปพลิเคชันต่าง ๆ และค่าใช้จ่ายเบื้องต้น เพื่อให้คุณได้หาโซลูชันที่เหมาะสมและคุ้มค่าให้กับองค์กรของคุณได้มากที่สุด  อีกทั้ง Demeter ICT ยังได้นำรีวิวจากองค์กรผู้ใช้จริงและ rating บางส่วนจาก Gartner มาเผยแพร่ให้คุณได้เห็นภาพรวมกันของการใช้งานมากยิ่งขึ้นอีกด้วย เปรียบเทียบ Google Workspace และ Zimbra เจ้าของผลิตภัณฑ์ (บริษัทแม่) Google Synacor แอปพลิเคชันที่ได้รับ (อ้างอิงจากแพ็กเกจเริ่มต้น) Gmail Drive Docs Slides Sheets Forms Calendar Meet Site Chat Email Calendar Briefcase (งานเอกสารและการจัดการ Drive) Office (งานตารางและงานนำเสนอ) Chat and Video หมายเหตุ: อ้างอิงหมวดหมู่แอปพลิเคชันตามหน้า Official Website ณ วันที่ 21 ธันวาคม 2023 พื้นที่จัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ / บัญชี 30 GB 3 GB ราคาเริ่มต้น / บัญชี / เดือน...

Continue reading

How to: แสกนเอกสารได้ง่ายๆ ผ่าน Google Drive

รู้หรือไม่ Google Drive มีฟีเจอร์ที่ช่วยสแกนเอกสารต่างๆได้!  เมื่อคุณต้องการถ่ายรูปและอัปโหลดขึ้นไดรฟ์ โดยเฉพาะไฟล์ที่เป็นเอกสารที่ต้องอาศัยภาพถ่ายที่คมชัดให้เห็นตัวอักษรที่ชัดเจน หลายคนคงยังใช้วิธีถ่ายรูปจากโทรศัพท์มือถือ หรือไม่ก็แสกนจากเครื่อง Scanner แล้วค่อยนำไปอัปโหลดขึ้น Google Drive วันนี้เรามีวิธีที่ง่ายแบบรวบรัดให้อยู่ในขั้นตอนเดียว แค่ทำผ่าน Google Drive แอปเดียวจบ จากเมื่อปีที่ผ่านมาแอปพลิเคชัน Google Drive บน Android สามารถให้ผู้ใช้งานได้ใช้ฟีเจอร์ Drive scanner เพื่อแสกนเอกสารต่างๆ เพื่อบันทึกเป็นไฟล์ PDF ไว้บนไดร์ฟได้เลยทันที  และล่าสุด Google ก็ได้พัฒนาฟีเจอร์ Drive scanner เอาใจสาวก iOS ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานบนโทรศัพท์หรือแท็ปเล็ตให้ได้ใช้งานด้วยเช่นกัน ความสามารถของ Drive Scanner ผู้ใช้งานสามารถเลือกระบบจับภาพอัตโนมัติ เพื่อให้การแสกนรวดเร็วยิ่งขึ้น  ช่องมองภาพจากกล้องมุมมองกว้าง ทำให้แสกนภาพได้สะดวก ครอบตัดเฉพาะส่วนที่เป็นเอกสารได้ สามารถนำเข้าภาพจากอัลบั้มรูปในโทรศัพท์ได้  ปุ่มแสกนสามารถเข้าถึงการแสกนได้อย่างรวดเร็ว แนะนำการตั้งชื่อไฟล์ PDF ด้วยการเรียนรู้จาก Machine learning (ปัจจุบันมีให้บริการเฉพาะในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น) วิธีการใช้งาน Drive Scanner เปิดแอป Google Drive  บนสมาร์ทโฟน แตะที่ปุ่มแสกน   ถ่ายภาพเอกสารที่ต้องการสแกน สามารถเลือกได้ว่าต้องการถ่ายแบบกำหนดเอง หรือจับภาพอัตโนมัติ  เมื่อแสกนเรียบร้อย สามารถเลือกจัดการรูปภาพเพิ่มเติมได้ เช่น ครอบตัด ปรับแสงและสีถ่ายใหม่ หรือ ถ่ายเพิ่มเติม เป็นต้น  หากได้ภาพที่ต้องการแล้วให้แตะ เสร็จสิ้น  ตั้งชื่อไฟล์ และเลือกพื้นที่จัดเก็บ แตะ บันทึก เพื่อบันทึกไฟล์ เพียงเท่านี้ คุณก็จะได้ไฟล์ที่แสกนเป็น PDF บน Google Drive ที่สามารถแชร์ต่อให้บัญชีอื่นได้เลย...

6 อัปเดตกับ Google Chat ฟีเจอร์ใหม่น่าสนใจเพียบ

ยังคงทยอยอัปเดตฟีเจอร์ใหม่กันมาเรื่อยๆสำหรับ Google Chat บอกเลยว่ารวมอัปเดตรอบนี้มีฟีเจอร์น่าสนใจมากมายที่จะทำให้การสื่อสารในองค์กรของคุณดีขึ้น รวมถึงการเตรียมเปลี่ยนโฉมไอคอน Google Chat ใหม่เร็วๆนี้ สำหรับใครที่พลาดรวมอัปเดตก่อนหน้านี้ สามารถดูได้ที่นี่  1. แถบ Main menu ที่ย่อขยายได้ สำหรับ Google Chat บน Desktop ในส่วนของแถบ Main menu ที่รวบรวม Direct message และ Spaces ทั้งหมด สามารถย่อและขยายได้อัตโนมัติเมื่อนำเม้าส์ไปชี้ ทำให้เราได้หน้าต่างของห้องแชทที่ขยายกว้างขึ้นนั่นเอง แต่หากใครไม่ถนัดหรือไม่ชินกับรูปแบบนี้ก็สามารถปิดฟังก์ชันนี้ได้ โดยการคลิกที่ปุ่ม Main menu ที่ด้านซ้ายบน ใน Spaces จะ Thread เยอะแค่ไหนก็ไม่พลาด สามารถเรียกดู Thread หรือชุดข้อความ/กระทู้ทั้งหมดที่มีอยู่ใน Spaces ได้ ให้คลิกที่ปุ่ม Active threads จากนั้นจะปรากฎ Thread ทั้งหมด สามารถโต้ตอบและกดติดตาม Thread ที่ต้องการผ่านตรงนี้ได้เลย  ค้นหาแชทได้ง่ายขึ้นด้วย Shortcut ที่แถบ Main menu จะปรากฎฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามาใหม่นั่นก็คือ Shortcut เพื่อเป็นทางลัดให้ผู้ใช้งานค้นหาแชทได้เร็วขึ้นกว่าเดิม โดยใน Shortcut สามารถแบ่งเป็นอีก 3 ฟีเจอร์ดังนี้ Home– ปรากฎห้องที่มีการสนทนาทั้งหมดรวมไว้ในที่เดียว และสามารถกรองข้อความที่ยังไม่ถูกเปิดอ่านได้  Mentions– แสดงข้อความแชทที่มีการกล่าวถึงคุณเท่านั้น Starred–  แหล่งรวบรวมข้อความที่มีการบันทึกหรือติดดาว จากการกด Star บนข้อความที่สำคัญ รับแจ้งเตือนจาก Google Drive ผ่านแชทได้โดยตรง สามารถรับการแจ้งเตือนเมื่อมีการกระทำใดๆต่อไฟล์บน Google Drive ผ่าน Google Chat ได้เลย เพียงแค่ติดตั้งแอป Google Drive ไม่ว่าจะเป็น  ไฟล์หรือโฟลเดอร์ใหม่ที่แชร์กับคุณ  ความคิดเห็นใหม่หรือรายการการทำงานที่มอบหมายให้คุณ  คำขอเข้าถึงไฟล์ที่คุณเป็นเจ้าของ  การแจ้งเตือนสำหรับพื้นที่เก็บข้อมูล 5. ใส่คำค้นหาในแชทได้เร็วขึ้นกับ...

Continue reading

กรองข้อมูล (Filter) ใน Google Sheets อย่างไรไม่ให้คนอื่นเห็นและไม่กระทบไฟล์ต้นฉบับ

การใช้ฟังก์ชัน Filter ใน Google Sheets กรองข้อมูลเพื่อหาเซลล์หรือข้อมูลที่คุณต้องการนั้นเป็นฟังก์ชันที่เป็นประโยชน์อย่างมาก แต่ในบางครั้งที่คุณและเพื่อนร่วมงานต้องการดูข้อมูลคนละชุดในไฟล์เดียวกัน การที่คุณ Filter ข้อมูลแล้วเกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งไฟล์อาจไม่ใช่วิธีการที่ดีนัก เพราะอาจทำให้เพื่อนร่วมงานที่กำลังใช้งานไฟล์เดียวกันกับคุณอยู่เกิดความสับสนได้ เนื่องจากข้อมูลที่กำลังถูกใช้งานอยู่นั้นอาจจถูกซ่อนไว้และจะถูกจัดเรียงใหม่ทันที เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหานี้ คุณสามารถใช้ฟังก์ชัน Filter Views แทนการกรองข้อมูลแบบปกติ ซึ่งฟังก์ชัน Filter Views จะช่วยให้คุณสามารถกรองข้อมูลในไฟล์ได้โดยไม่กระทบต่อข้อมูลต้นฉบับนั่นเอง วิธีสร้าง Filter Views ใน Google Sheets เปิดไฟล์ Google Sheets คลิกที่เซลล์หรือคอลัมน์ที่ต้องการกรอง ไปที่แท็บ Data แล้วคลิก Filter Views ตั้งชื่อ Filter ของคุณ คลิก Create วิธีนี้เป็นวิธีที่แนะนำมาก ๆ สำหรับคนที่ชอบทำงานร่วมกันแบบ Online & Real-Time Collaboration เพราะหากคุณใช้ฟังก์ชัน Filter Views ทีมของคุณจะไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด Google Sheets จะโชว์เพียงข้อมูลต้นฉบับ เท่านั้น  ซึ่งหากคุณมีการใช้งานไปแล้วและต้องการกลับมาใช้งาน Filter ที่คุณสร้างไว้อีกครั้ง คุณก็เพียงแค่ต้องกลับไปที่แท็บเมนูเดิม คือ Data >> Filter Views จากนั้นเลือกชื่อ Filter ที่คุณได้ตั้งไว้ในตอนแรกได้เลย  ใช้ Filter Views ดีอย่างไร ? หากมีผู้ใช้อื่นกำลังใช้งานไฟล์นั้นอยู่ ข้อมูลต้นฉบับในไฟล์นั้นจะไม่ถูกเปลี่ยนแปลงใด ๆ  ผู้ใช้อื่นไม่สามารถมองเห็น Filter ที่คุณกำลังใช้งานอยู่ได้ นอกจากว่าผู้นั้นจะกำลังใช้งาน Filter เดียวกันกับคุณ คุณสามารถแบ่งการมองเห็นของข้อมูลได้ เช่น Filter สำหรับฝ่ายขาย หรือ Filter สำหรับฝ่ายบัญชี เนื่องจากทุกฝ่ายมีอำนาจในการเข้าถึงข้อมูลที่แตกต่างกัน ดังนั้นการสร้าง Filter สำหรับแต่ละฝ่ายเพื่อให้ดูชุดข้อมูลที่ต่างกันจึงเป็นประโยชน์อย่างมาก วิธีลบ Filter Views ไปที่ Data ในแท็บเมนูด้านบน...

Continue reading

Gemini ใน Google Workspace คืออะไร ? อยากทำงานด้วย AI ต้องฟังทางนี้ !

ยังคงเป็นกระแสกันอย่างต่อเนื่องกับ Gemini เทรนด์การทำงานใหม่ที่ได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากองค์กรชั้นนำหลายแห่งทั่วโลก ! ในปี 2023 ไตรมาสที่ 3 Google ได้เปิดตัว Gemini ผลิตภัณฑ์เสริมของ Google Workspace ที่ผสานพลังของปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ากับการทำงานร่วมกันแบบดิจิทัล ซึ่งความสามารถของ Gemini ได้สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้คนทั่วโลกเป็นอย่างมาก  หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ Gemini ได้รับความนิยมอย่างมากก็คือ ผลิตภัณฑ์นี้ถูกพัฒนามาจาก Generative AI ของ Google เอง ซึ่งเป็นเทคโนโลยี AI ขั้นสูงที่สามารถสร้างสรรค์ผลงานต่าง ๆ ออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ เช่น ภาพ วิดีโอ เสียงเพลง และข้อความ เป็นต้น ความสามารถของ Generative AI นั้นมีความแม่นยำและสร้างสรรค์เป็นอย่างมาก จึงทำให้มั่นใจได้ว่า Gemini จะสามารถช่วยสร้างสรรค์ผลงานต่าง ๆ ออกมาได้อย่างมืออาชีพและมีคุณภาพมากที่สุด หากตอนนี้คุณก็เป็นหนึ่งในองค์กรที่สนใจทำงานด้วย Gemini มาทำความรู้จัก Gemini ไปพร้อม ๆ กันเลยว่า Duet AI คืออะไร ? สามารถทำอะไรได้บ้างและสามารถทำงานร่วมกับ Google Workspace ได้มากน้อยแค่ไหน ? อ่านบทความนี้ให้จบ รับรองว่าได้คำตอบภายใน 3 นาทีแน่นอน ! เริ่มจับเวลาได้เลย ! Duet AI คืออะไร ? Gemini คือ ผู้ช่วยอัจฉริยะของ Google Workspace ที่สามารถช่วยคิด ช่วยค้น และเนรมิตผลงานออกมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ ซึ่ง Google เองก็ได้ให้คำนิยามว่า Duet AI เป็น AI-powered collaborator ยกระดับการทำงานจาก Online Collaboration Tool สู่การทำงานร่วมกันแบบไร้รอยต่อด้วย Gemini โซลูชันการทำงานด้วย AI ยุคใหม่ที่องค์กรไม่ควรพลาด...

Continue reading

Checklist 3 สิ่งต้องมี เตรียมบุคลากรให้พร้อมทำงานในยุคแห่ง AI

เมื่อ AI เริ่มขยับเข้ามาใกล้คุณมากขึ้นจนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ดังนั้นหากคุณอยากที่จะก้าวทันและก้าวนำหน้าคู่แข่ง คุณจึงไม่ควรพลาดที่จะปรับเปลี่ยนบริษัทให้สามารถทำงานได้ในยุคแห่ง AI  และเพื่อให้การปรับเปลี่ยนหรือทรานส์ฟอร์มภายในบริษัทประสบความสำเร็จดั่งที่หวัง เราจึงได้คัดสรร Checklist ที่จะช่วยนำทางให้คุณได้เบื้องต้นว่า หากจะเริ่มทำงานด้วย AI ต้องเตรียมหรือเรียนรู้อะไรบ้าง Checklist 3 สิ่งต้องมี เตรียมบุคลากรให้พร้อมทำงานด้วย AI 1. ต้อง Reskilling และ Upskilling เมื่อ AI เป็นสิ่งที่หลายคนยังไม่คุ้นเคย ดังนั้นการจะทำงานด้วยการใช้ AI ก็จำเป็นที่จะต้องมีสกิลบางอย่างเพื่อให้สามารถนำ AI มาประยุกต์ใช้กับงานได้มากขึ้น การ Reskilling หรือ Upskilling จึงเป็นสิ่งที่องค์กรควรให้ความสำคัญแก่พนักงานอย่างมาก เพราะจะช่วยให้พนักงานสามารถทำงานด้วยการใช้เครื่องมือ AI ชนิดต่าง ๆ ได้อย่างคล่องแคล่ว และสามารถนำมาสร้างหรือวิเคราะห์ธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย ตัวอย่างทักษะที่แนะนำ ได้แก่ การเรียนรู้ในส่วนของ Data Analysis, Machine Learning, Automation และ Critical Thinking ซึ่งทักษะเหล่านี้จะทำให้พนักงานเข้าใจการทำงานด้วยเทคโนโลยี AI มากขึ้น และยังสามารถนำสกิลเหล่านี้มาช่วยในการตัดสินใจทางธุรกิจได้อย่างดี แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจำเป็นจะต้องเรียนรู้ทุกสกิลที่เกี่ยวกับ AI นะ CEO หรีอ Manager ของคุณจะเป็นคนช่วยนำทางว่าในหน้าที่ใครเหมาะที่จะเรียนรู้สกิลไหนเพื่อที่จะต่อยอดได้อย่างมีประโยชน์มากที่สุดหรือจะเป็นในส่วนของสกิลที่ยังขาดไปและจำเป็นต้อง Reskill หรือ Upskill ก็ได้เช่นกัน ซึ่งองค์กรเองสามารถให้พนักงานเข้าร่วม Training Program, Workshops, Courses, หรือจะเป็นการเรียนรู้ผ่าน Online platform ก็ได้  สรุปสั้นเลย คือการลงทุนในการ Reskilling And Upskilling มีแต่ได้กับได้ ทักษะเหล่านี้ไม่เพียงแต่จะพัฒนาทักษะของพนักงานเพียงอย่างเดียว แต่ยังพัฒนาองค์กรของคุณอีกด้วย 2. สนับสนุนการเรียนรู้แบบ Lifelong Learning Culture การเรียนรู้นั้นถือว่าเป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ สำหรับองค์กรที่ต้องการจะศึกษาและปรับตัวเข้าหากับ AI องค์กรควรมีการผลักดันให้พนักงานชอบการเรียนรู้เพื่อพัฒนาสกิลต่าง ๆ ให้มีความถนัดและชำนาญมากขึ้น โดยการให้ผู้นำขององค์กรเป็นแบบอย่างในการลองผิดลองถูก เรียนรู้จากข้อผิดพลาดและความสำเร็จ...

Continue reading

Human-AI Collaboration คืออะไร ?

หากคุณได้ติดตามข่าวเกี่ยวกับเทคโนโลยีมาบ้างในช่วงนี้ ก็คงจะพอทราบว่าศึกแห่ง AI กำลังเริ่มต้นขึ้นอย่างจริงจังแล้ว หากสังเกตดี ๆ สิ่งต่าง ๆ รอบตัวคุณล้วนแต่ทยอยเปลี่ยนเป็น AI กันหลายอย่าง ทั้งนี้ก็เพราะธุรกิจต่าง ๆ เริ่มมีการนำ AI มาใช้เพื่อให้ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคและใช้ AI ในการช่วยสร้างสรรค์ผลงานขององค์กรเพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วและมีคุณภาพมากที่สุด ดังนั้นเมื่อมีการนำ AI เข้ามาทำงานร่วมกับมนุษย์มากขึ้น จึงเกิดเป็นการทำงานที่เราเรียกกันว่า “Human-AI Collaboration” Human-AI Collaboration คืออะไร ? Human-AI Collaboration คือ การที่คุณทำงานร่วมกับ AI เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่คุณวางแผนไว้ ซึ่ง AI จะทำหน้าที่เหมือน Partner เปรียบเสมือนคู่คิดของคุณที่คอยให้คำปรึกษาและคอยช่วยเหลืองานต่าง ๆ นั่นเอง ตัวอย่างเช่น การให้ AI ช่วยค้นหาข้อมูล ช่วยสร้างรูปภาพ ช่วยวิเคราะห์รายงาน หรือช่วยในการตัดสินใจทางธุรกิจ เป็นต้น ซึ่ง Human-AI collaboration จะแตกต่างจาก AI-centric แบบดั้งเดิม ใน 5 แง่มุมดังนี้ 1. เป้าหมาย Traditional AI-centric: มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาความสามารถของ AI Human-AI collaboration: มุ่งเน้นไปที่การสร้างผลลัพธ์อย่างถูกต้องแม่นยำและมีประสิทธิภาพสูงสุด 2. การมีส่วนร่วมของมนุษย์ Traditional AI-centric: บทบาทของมนุษย์จะถูกจำกัดลงอย่างต่อเนื่อง Human-AI collaboration: ข้อมูลที่มนุษย์ได้ให้กับ AI คือข้อมูลที่สำคัญที่สุดในการนำมาใช้ประมวลผลสำหรับการแก้ไขปัญหาและปรับปรุงกระบวนการต่าง ๆ  3. ความสามารถ Traditional AI-centric: มนุษย์สามารถถูกแทนที่ได้ง่ายด้วยความสามารถของ AI Human-AI collaboration: เพิ่มประสิทธิภาพของการทำงานด้วยการหลอมรวมจุดแข็งของมนุษย์และ AI เข้าด้วยกัน 4. อำนาจในการตัดสินใจ Traditional AI-centric: AI ตัดสินใจแทนมนุษย์ได้เลยทันที Human-AI collaboration: มนุษย์ตัดสินใจได้เองด้วยข้อมูล Insight...

Continue reading

วิธีส่ง Appointment Schedule จองตารางนัดหมายให้ทันใจด้วย Gmail

เมื่อ Demeter ICT ได้พาทุกท่านไปสร้าง Appointment Schedule ใน Google Calendar กันเรียบร้อยแล้ว บทความนี้เรียกได้ว่าเป็นส่วนเพิ่มเติมสำหรับใครที่ต้องการต่อยอด Appointment Schedule ให้สามารถทำงานร่วมกับ Gmail ได้ ซึ่งคุณจะสามารถแนบตารางนัดหมายส่งให้ผู้รับได้เลยทันที ไม่ต้องเข้า-ออกหลายแอปพลิเคชัน รับรองว่านัดหมายได้รวดเร็วทันใจอย่างแน่นอน วิธีการส่ง Appointment Schedule ด้วย Gmail มี 2 วิธี คือ 1. Offer times you are free วิธีนี้คือการที่คุณนำตาราง Appointment Schedule ที่คุณสร้างขึ้นมาวางลงบนอีเมลที่คุณกำลังเขียนอยู่ ซึ่งผู้รับจะสามารถกดเลือกเวลานัดหมายที่ต้องการผ่านอีเมลที่คุณส่งไปได้เลยทันที ตัวอย่าง Appointment Schedule ที่จะปรากฏบน Gmail การส่ง Appointment Schedule ด้วยวิธีการ Offer times you are free ไปที่หน้า Gmail แล้วกด Compose เมื่อมีหน้าต่าง Gmail ปรากฏขึ้นมา ให้ไปที่แท็บเมนูด้านล่างแล้วกด Set up a time to meet เลือก Offer times you are free จากนั้นเลือกวันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการเสนอนัดหมายให้กับผู้รับ เมื่อเรียบร้อยแล้ว กดส่งได้เลย เมื่อผู้รับได้กดเลือกเวลาใดเวลาหนึ่งจากที่คุณเสนอไปแล้ว คุณจะได้รับอีเมล Event Confirmed เพื่อยืนยันการนัดหมาย แล้วการนัดหมายนั้นจะเข้าไปอยู่ใน Google Calendar ของคุณและผู้รับโดยอัตโนมัติเลยทันที 2. Create an event ตัวเลือกนี้จะเป็นการสร้าง Event ใหม่จากหน้า Google Calendar ซึ่งรายละเอียดการสร้าง Event ก็จะเหมือนกับการสร้างประชุมปกติดังรูปภาพด้านล่าง...

Continue reading

พิมพ์งานเอกสารให้รวดเร็วยิ่งขึ้นด้วย Building Block ใน Google Docs 

อัปเดตล่าสุดจาก Google เมื่อคุณลองคลิกสร้าง (Create) เอกสารใหม่ใน Google Docs คุณจะเห็นความเปลี่ยนแปลงด้านบนหัวกระดาษที่จะปรากฎเป็นแถบ 3 แถบขึ้นมาที่หน้าตาแปลกไปจากเดิม นั่นก็คือ Meeting Notes, Email Drafts และ More ตามภาพด้านล่าง โดยฟีเจอร์ดังกล่าวมีจุดประสงค์เพื่อให้ผู้ใช้งาน Docs สามารถเข้าถึง Building Blocks ซึ่งเป็นเทมเพลตการสร้างกิจกรรมต่างๆบน Docs เพื่อช่วยให้การพิมพ์งานเอกสารของคุณง่ายและรวดเร็วขึ้น หรืออีกวิธีคือคุณสามารถเข้าถึง Building Blocks ได้ด้วยการพิมพ์ @ หากใครยังไม่รู้วิธีการใช้งาน บทความนี้เราจะพาไปรู้จักกัน Building Blocks ใน Docs คืออะไร? Building Blocks คือหนึ่งเครื่องมือใน Smart Canvas ที่มีอยู่ใน Google Docs ให้คุณสามารถเลือกใช้เทมเพลตกิจกรรมที่ Google Docs มีให้ หรือคุณสามารถสร้างเทมเพลตเอกสารของคุณไว้ใช้เองก็ได้เช่นกัน  ซึ่งข้อดีก็คือ Building Blocks จะช่วยให้คุณสามารถใช้งานเอกสารได้รวดเร็วและสะดวกยิ่งขึ้น  นอกจากนี้ เราได้มีบทความแนะนำการใช้ Smart Chips ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือใน Building Blocks เช่นกัน >> บทความ: รวม Smart Chips ที่น่าสนใจบน Google Docs Building Blocks มีอะไรน่าสนใจให้ใช้งานกันบ้าง? Meeting Notes เพิ่มเติมรายละเอียดโน้ต (Notes) และการมอบหมายงาน (Action Items) สำหรับ Meeting นั้นๆ อีกทั้งสามารถแก้ไขรายละเอียดวันและเวลา ลงใน Meeting Notes โดยการเพิ่มเติมหรือแก้ไขนี้จะไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงใน Google Calendar วิธีการใช้เทมเพลต Meeting Notes  1. ไปที่งานเอกสาร Google Docs 2....

Continue reading