Google Drive เครื่องมือจัดการไฟล์ยอดนิยมของธุรกิจทั่วโลก เพราะนอกจากความสามารถในการจัดเก็บข้อมูลบน Cloud แล้ว ยังช่วยให้ผู้ใช้งานทุกคนสามารถเข้าถึงไฟล์ต่าง ๆ และทำงานได้อย่างสะดวกจากทุกที่ทุกเวลา หากคุณเป็น SME ที่มีการใช้งาน Google Drive อยู่แล้ว แต่เพียงใช้ Google Drive เพื่อจัดเก็บไฟล์เท่านั้น ไม่มีการใช้ฟังก์ชันอื่นเลย วันนี้ Demeter ICT จะพาคุณมาทำความรู้จักฟังก์ชันต่าง ๆ บน Google Drive เพื่อนำไปสร้างประโยชน์และจัดการธุรกิจได้อย่างมืออาชีพ ใช้แล้วชีวิตการทำงานของคุณจะดีขึ้นอย่างแน่นอน ! 1. สรุปโฟลเดอร์และไฟล์ด้วย Gemini ใน Google Drive เมื่อคุณจัดเก็บข้อมูลใน Google Drive คุณจำได้หรือไม่ว่าในแต่ละโฟลเดอร์นั้นเกี่ยวข้องกับอะไรบ้าง ? ข้อมูลที่คุณต้องการอยู่ในไฟล์ไหน ? ตอนนี้คุณกำลังเปิดทีละไฟล์เพื่ออ่านข้อมูลทั้งหมดอยู่หรือไม่ ? และใช้เวลานานกี่ชั่วโมง ? ด้วย Gemini ใน Google Drive คุณจะไม่ต้องเสียเวลาแบบนั้นอีกต่อไป เพียงแค่คุณคลิก Summarize this folder เพื่อสรุปข้อมูลคร่าว ๆ ให้คุณเห็นภาพรวมของข้อมูลทั้งหมดและรู้ว่าในโฟลเดอร์มีข้อมูลที่คุณต้องการจะค้นหาหรือไม่ และหากคุณรู้แล้วว่าในโฟลเดอร์มีข้อมูลที่คุณต้องการ ให้คุณคลิกไปที่ไฟล์นั้นเพื่อค้นหาแบบเจาะลึกมากขึ้น จากนั้นพิมพ์ Prompt ที่ Gemini ใน Side Panel เพื่อค้นหาข้อมูล เช่น “ค้นหาและสรุปข้อมูลค่าใช้จ่ายของทีมจัดซื้อในเดือนเมษายน ปี 2025” เป็นต้น ซึ่งการใช้ฟังก์ชันนี้จะช่วยให้คุณประหยัดเวลาในการสรุปข้อมูลได้เยอะมากเลยทีเดียว 2. ค้นหาไฟล์ที่ต้องการด้วย Gemini ใน Google Drive หากคุณต้องการค้นหาไฟล์จากข้อมูลทั้งหมดที่มีใน Google Drive แต่คุณดันจำชื่อไฟล์ไม่ได้ คุณสามารถค้นหาไฟล์ที่ต้องการได้ง่าย ๆ ด้วย Gemini ที่ Side Panel จากนั้นพิมพ์ Keywords หรือข้อมูลสำคัญที่คุณพอจะนึกออกลงไป เช่น “ค้นหาไฟล์แคมเปญการตลาดที่อัปเดตล่าสุดจากแบรนด์...
Continue readingคลิกเดียวจบ! สร้าง Mind Map จากข้อมูลมหาศาลง่าย ๆ ด้วย NotebookLM
พบกับฟีเจอร์ใหม่จาก NotebookLM ที่จะทำให้การวิเคราะห์ข้อมูลธุรกิจนั้นง่ายยิ่งขึ้น ไม่ต้องเสียเวลาอ่านเอกสาร ไม่ต้องนั่งทำความเข้าใจข้อมูลทั้งหมดด้วยตัวเอง เพียงแค่ใช้ฟีเจอร์ Mind Map ก็สามารถค้นหาข้อมูลที่ต้องการและทำความเข้าใจภาพรวมของเนื้อหาได้ภายในพริบตา วิธีการใช้ฟีเจอร์ Mind Map ใน NotebookLM อัปโหลดไฟล์ 2. คลิกเครื่องหมายถูกเพื่อเลือกไฟล์ที่ต้องการใช้ในการวิเคราะห์ที่แท็บด้านซ้าย 3. กดปุ่มสร้าง Mind Map 4. ไปที่หน้าต่างด้านขวาล่างเพื่อเรียกดู Mind Map ที่สร้างเสร็จแล้ว 5. กดหัวข้อที่ต้องการดูข้อมูล 6. หากต้องการบันทึกเป็นรูปภาพ คลิกที่มุมบนด้านขวา นอกจากนี้ NotebookLM ยังสามารถวิเคราะห์ข้อมูลออกมาในรูปแบบต่าง ๆ ได้อีกมากมาย เช่น ข้อความ ไทม์ไลน์ และเสียง (Interactive Mode) เป็นต้น คุณสามารถทำความรู้จัก NotebookLM เพิ่มเติมได้ที่บทความด้านล่างนี้ หรือหากคุณต้องการใช้ NotebookLM Plus เพื่อเข้าถึงฟีเจอร์แบบเต็มรูปแบบมากขึ้น ติดต่อ Demeter ICT ได้ที่Email: sales@dmitco.th Facebook: Demeter ICT และ Line: @dmit (มี@) ต้องการทดลองใช้งาน NotebookLM คลิก...
Google Vids ขยายการใช้งานสู่แพ็กเกจ Business Starter, Enterprise Starter และ Nonprofit แล้ว
หลังจากเปิดตัว Google Vids แอปสร้างวิดีโออัจฉริยะพลัง AI กับกลุ่มผู้ใช้งาน Google Worskspace แพ็คเกจ Standard ขึ้นไป ก็ได้รับกระแสและความนิยมอย่างต่อเนื่อง ด้วยพลังของ Gemini AI ที่ฝังอยู่ในแอป ทำให้แม้แต่ผู้ที่ไม่เคยมีประสบการณ์สร้างวิดีโอมาก่อน ก็สามารถสร้างสรรค์วิดีโอที่น่าสนใจและดึงดูดได้ง่ายๆ เพียงไม่กี่คลิก Google Vids คืออะไร? และเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา Google ประกาศข่าวดีขยายการให้บริการ Google Vids ไปยังผู้ใช้งาน Business Starter, Enterprise Starter และ Nonprofit พร้อมกับโอกาสทองในการรับสิทธิ์ใช้งาน AI ใน Google Vids อย่างเต็มรูปแบบโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเป็นระยะเวลา 12 เดือนนับจากวันที่ประกาศ (หลังจากนั้นจะสามารถใช้ Vids ได้ แต่จะไม่มีฟีเจอร์ AI) นอกจากนี้ Google Vids กำลังทยอยอัปเดตฟีเจอร์ Generate a Video ด้วยพลัง AI ของโมเดล Veo 2 ให้ผู้ใช้งานสามารถพิมพ์พร้อมพ์เพื่อสร้างคลิปอย่างที่ต้องการได้หลากหลายสไตล์ และจะเปิดให้ใช้งานในไม่กี่อึดใจรอ https://www.youtube.com/watch?v=ebH-ZfkqIjQ&t=4s สำหรับผู้ใช้งาน Business Starter, Enterprise Starter และ Nonprofit อย่าพลาดที่จะได้สัมผัสประสบการณ์การสร้างวิดีโอด้วย AI แบบไม่มีค่าใช้จ่าย! อย่ารอช้า รีบเข้าไปลองใช้งาน Google Vids กันเลย! เริ่มใช้งาน Google Vids Source: Expanding Google Vids to Business Starter, Enterprise Starter and Nonprofit customers...
วิธียกเลิกการส่งอีเมล Gmail (Undo send) ส่งผิดเรียกกลับคืนได้ทันที
การยกเลิกอีเมลเป็นหนึ่งในฟังก์ชันที่คนส่วนใหญ่ต้องการมากที่สุดเพื่อป้องกันการส่งอีเมลผิดหรือต้องการแก้ไขเพิ่มเติมภายหลัง ดังนั้นในบทความนี้เราจะพาคุณมาเรียนรู้วิธีการตั้งค่าและเปิดใช้งานฟังก์ชันยกเลิกการส่งอีเมลใน Gmail เพื่อป้องกันความผิดพลาดและเพิ่มความมั่นใจในการสื่อสารของคุณให้ดียิ่งขึ้น Step 1: ตั้งค่าเวลาในการยกเลิกอีเมล วิธีการ เปิดหน้า Gmail ไปที่การตั้งค่า (Settings) หรือสัญลักษณ์ฟันเฟืองที่มุมบนด้านขวา คลิก See all settings 4. จากนั้นเลื่อนลงมาที่ Undo Send Step 2: เปิดใช้งานฟังก์ชัน Unsend วิธีการ เปิดและร่างอีเมล (Gmail) ที่คุณต้องการส่ง เมื่อคุณคลิกส่งแล้ว ให้คุณสังเกตที่มุมด้านล่างซ้ายของหน้าจอ จากนั้นจะมีหน้าต่างเล็ก ๆ ปรากฏขึ้นดังภาพ โดยหน้าต่างนี้จะแสดงขึ้นภายในระยะเวลาที่คุณได้ตั้งค่าไว้ใน Step 1 3. เมื่อคุณกด Undo อีเมลจะถูกส่งกลับเข้ามาอยู่ในขั้นตอนการเขียนอีเมลโดยอัตโนมัติ หรือหากคุณไม่ได้กดฟังก์ชันใด อีเมลก็จะถูกส่งไปยังผู้รับทันทีโดยที่คุณไม่สามารถยกเลิกได้แล้วนั่นเอง เราหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณสามารถยกระดับการสื่อสารผ่าน Gmail ให้ดูมืออาชีพมากยิ่งขึ้น รวมถึงการตั้งค่าต่าง ๆ ให้คุณสามารถใช้อีเมลให้เหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด Demeter ICT – Google Cloud Premier Partner สนับสนุนการทำงานร่วมกันแบบออนไลน์ให้มีประสิทธิภาพจากการทรานส์ฟอร์มธุรกิจด้วยเทคโนโลยีที่เชื่อถือได้ ...
Gemini มีกี่ประเภท? ทำความรู้จัก Gemini สำหรับธุรกิจและการใช้ส่วนตัว
Gemini หนึ่งในผลิตภัณฑ์ Generative AI จาก Google ได้ถูกแบ่งออกเป็นหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น Gemini App, Gemini for Google Workspace, หรือ Gemini ที่มาพร้อมกับอุปกรณ์สื่อสารต่าง ๆ ซึ่ง Demeter ICT ก็ได้รับคำถามเข้ามาอย่างล้นหลามเกี่ยวกับความแตกต่างของแต่ละผลิตภัณฑ์ ดังนั้นเราจะพาทุกคนมาไขข้อสงสัยกันในบทความนี้ Gemini สำหรับธุรกิจ แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ 1. Gemini: Chat with Google AI (https://gemini.google.com/app) คือ Gemini สำหรับการสนทนาและตอบคำถามทั่วไปโดยอ้างอิงข้อมูลการค้นหาจากเว็บไซต์ของ Google โดยผู้ที่มีบัญชีองค์กรของ Google Workspace แพ็กเกจ Business Standard ขึ้นไปจะได้รับ Gemini เวอร์ชัน Advanced ซึ่งจะสามารถเข้าใจคำถามที่ซับซ้อนได้ดีกว่า คิดวิเคราะห์ได้มากกว่า (แพ็กเกจ Starter จะได้รับเวอร์ชันธรรมดา) และล่าสุดยังมีฟีเจอร์ Deep Research ที่สามารถเจาะลึกคำค้นหาและสร้างเป็นรายงานได้อีกด้วย ตัวอย่างการใช้งาน การค้นหาข้อมูลบนเว็บไซต์ การเปรียบเทียบข้อมูล การขอคำแนะนำทางธุรกิจ การวิเคราะห์ไฟล์หรือรูปภาพ การสรุปไฟล์เอกสาร การสร้างรูปภาพ เป็นต้น 2. Gemini for Google Workspace คือ Generative AI ที่ถูกฝังการทำงานอยู่ในแอปพลิเคชันต่าง ๆ บน Google Workspace โดยมีการแบ่งแยกความเชี่ยวชาญตามการใช้งานในแต่ละแอปพลิเคชัน เช่น Gmail: ช่วยเขียน ตอบ และสรุปอีเมล Google Docs: ช่วยร่างเอกสารต่าง ๆ Google Slides: ช่วยสร้างสไลด์และรูปภาพ Google Sheets: ช่วยติดตามโปรเจกต์ งานตาราง และสูตรคำนวณ Google...
Continue readingรู้จัก Gemini Deep Research ผู้ช่วยวิจัย AI ส่วนตัว ที่พร้อมค้นหาคำตอบในทุกข้อคำถาม และวิธีการใช้งาน
“หมดปัญหากับการค้นคว้าข้อมูลที่ซับซ้อน Gemin Deep Research จะช่วยคุณลงสำรวจหัวข้อที่ต้องการ และสรุปผลในรูปแบบรายงานที่อ่านง่าย” การค้นคว้าข้อมูลในเรื่องที่ซับซ้อนนั้นเต็มไปด้วยเรื่องที่ท้าทาย เริ่มตั้งแต่การวางแผนเพื่อคัดกรองข้อมูลมหาศาล การตรวจสอบความน่าเชื่อถือ การเปรียบเทียบเนื้อหา รวมไปจนถึงการรวบรวมข้อมูลและสรุปออกมาเป็นรายงาน ที่ล้วนแล้วแต่ต้องใช้เวลาเป็นอย่างมาก แต่ทั้งหมดทั้งมวลนี้ Gemini Deep Research สามารถช่วยคุณได้ในเวลาไม่กี่นาทีเท่านั้น! Gemini Deep Research คืออะไร? Gemini Deep Research คือผู้ช่วยวิจัยส่วนตัวที่ใช้ AI ขั้นสูงที่อยู่ใน Gemini Advanced (Chat with Gemini) มีความสามารถในการวางแผนการวิจัย ค้นหาและวิเคราะห์ข้อมูลจากเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือและสรุปผลเป็นรายงานที่เข้าใจง่ายบน Google Docs ซึ่งช่วยให้คุณประหยัดเวลา เพิ่มประสิทธิภาพ และสัมผัสประสบการณ์การเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกได้อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน Dave Citron (Senior Director, Product Management, Gemini app) ได้กล่าวไว้ในบทความว่า Deep Research เป็นก้าวสำคัญในวิสัยทัศน์ของ Google ที่ต้องการพัฒนา AI ให้มีความสามารถในการดำเนินการและตัดสินใจได้ด้วยตนเองมากขึ้น (Agentic AI) จึงกลายเป็น Gemini Deep Research ที่สามารถค้นคว้าข้อมูลได้เองเหมือนนักวิจัยมืออาชีพ ที่อาศัยการประมวลผลข้อมูลจำนวนมหาศาลมากถึง 1 ล้านโทเค็นให้ออกมาเป็นรายงานที่ละเอียดและเข้าใจได้ง่าย ข้อแตกต่างระหว่าง Gemini Deep Research และ Gemini Flash หลายท่านอาจสงสัยว่าทำไมการวิเคราะห์ข้อมูลต้องใช้ Gemini Deep Research แล้ว Gemini Flash ใช้แทนไม่ได้หรือ? เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนมากยิ่งขึ้น มาดูตัวอย่างที่เข้าใจง่ายกันเลย ลองนึกภาพว่าคุณต้องการวิเคราะห์เทรนด์ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย คุณอาจมีคำถามที่ซับซ้อนมากมาย เช่น – “แนวโน้มการเติบโตของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยเป็นอย่างไร?”– “ปัจจัยอะไรบ้างที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค?”– “คู่แข่งรายสำคัญในตลาดนี้มีใครบ้าง และมีกลยุทธ์อย่างไร?” เมื่อใช้ Gemini Flash Gemini Flash จะให้คำตอบที่รวดเร็วและกระชับ แต่ข้อมูลอาจจะไม่ละเอียดพอสำหรับการวิเคราะห์เชิงลึก เช่น อาจจะได้ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า...
Continue readingเปิดผลสำรวจ ROI ของ Generative AI ธุรกิจควรมี AI จริงหรือไม่?
องค์กรหลายแห่งในยุคนี้คงจะหลีกเลี่ยงไม่ได้กับการลงทุนใน Generative AI สำหรับภาคธุรกิจ และหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยให้ธุรกิจตัดสินใจลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ คือ ROI (Return On Investment) หรือความคุ้มค่าในการลงทุน ซึ่งในปัจจุบันพบว่ายังมีธุรกิจอีกมากมายที่ยังไม่มีการนำ Generative AI มาใช้พัฒนาและเพิ่มศักยภาพของธุรกิจอย่างจริงจัง ดังนั้นวันนี้เราจะมาเปิดผลลัพธ์ ROI ของ Generative AI ที่ได้มีการเก็บข้อมูลเมื่อปี 2024 เพื่อช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจนำ AI มาใช้งานกับธุรกิจได้อย่างคุ้มค่ามากขึ้น สรุปภาพรวม ROI ของ Generative AI จากผลสำรวจของ Google Cloud และ National Research Group กลุ่มตัวอย่าง: 2,500 ผู้นำองค์กรระดับอาวุโส ระดับธุรกิจ: Enterprise รายได้: $10,000,000 ขึ้นไป องค์กรได้นำ Generative AI มาปรับใช้อย่างราบรื่นและประสบความสำเร็จ 84% องค์กรเห็น ROI ในปีแรก 76% องค์กรใช้ Generative AI ในการผลิตและเห็นการเติบโตของรายได้รวมต่อปีเพิ่มขึ้น 6% หรือมากกว่า 86% ผลคาดการณ์ระยะเวลาในการได้รับ ROI โดยแบ่งตามประเภทการใช้งาน จากผลสำรวจจะเห็นได้ว่าองค์กรส่วนใหญ่จำนวน 30-35% คาดการณ์ว่าจะได้รับ ROI จากการลงทุนใน Generative AI ภายใน 1 ปี ผลลัพธ์จากการใช้ Generative AI ในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้านต่าง ๆ Productivity Generative AI สามารถช่วยปรับปรุงและพัฒนากระบวนการทำงานของฝ่าย IT ได้สูงสุด Business Growth Generative AI ช่วยเพิ่มจำนวน Leads ต่อยอดไปสู่การพัฒนาธุรกิจ สินค้า และบริการต่าง ๆ ในองค์กร Business Growth Generative AI ช่วยเพิ่มจำนวน Leads...
Continue readingวิเคราะห์ข้อมูลด้วย AI: 4 ฟีเจอร์ใหม่ใน Google Workspace ที่ต้องลอง !
ข้อมูลจำนวนมากและซับซ้อนอาจทำให้เสียเวลาค้นหาโดยใช่เหตุ เราจึงได้รวบรวม 4 เครื่องมือที่มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดจาก Google Workspace เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ที่จะมาปฏิวัติวิธีการทำงานของคุณด้วย AI สุดล้ำจาก Google ซึ่งฟีเจอร์เหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกได้อย่างรวดเร็ว วิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างแม่นยำและทำงานร่วมกับทีมได้อย่างราบรื่นมากยิ่งขึ้น จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย… 1. เข้าถึงข้อมูลเชิงลึกได้เร็วขึ้นด้วย AI ใน Google Sheets ใครที่ใช้ Google Sheets บันทึกข้อมูลอยู่เป็นประจำต้องไม่พลาดฟีเจอร์ใหม่ของ Gemini ใน Google Sheets ที่มาพร้อมกับความสามารถลึกซึ้งกว่าเดิม โดยจะช่วยให้คุณเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกได้รวดเร็วยิ่งขึ้นด้วย AI ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์แนวโน้ม รูปแบบ หรือความสัมพันธ์ของข้อมูล อีกทั้งยังช่วยสร้างแผนภูมิต่างๆ รวมถึงสร้างรูปแบบการแสดงข้อมูลในตารางโดยใช้สีที่แตกต่างกันเพื่อแสดงค่าของข้อมูล (Heatmap) ทำให้สามารถเห็นภาพรวมของข้อมูลและจุดที่มีค่าสูงหรือต่ำได้อย่างรวดเร็ว เคสตัวอย่างการใช้งาน Gemini ใน Google Sheets Gemini ใน Google Sheets เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม โดยช่วยให้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ และตัดสินใจทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น การวิเคราะห์ประสิทธิภาพการตลาด: ผู้จัดการฝ่ายการตลาดสามารถวิเคราะห์ข้อมูลแคมเปญได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย โดยให้ Gemini วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกและสร้างแผนภูมิที่แสดงประสิทธิภาพของช่องทางต่างๆ มีการใช้แผนภาพการกระจาย (Scatter Diagram) และการแสดงผลข้อมูลด้วย Heatmap ซึ่งจะช่วยให้เห็นภาพข้อมูลได้ชัดเจนยิ่งขึ้นและระบุจุดที่ต้องปรับปรุงได้ง่ายขึ้น การจัดการกระแสเงินสด: เจ้าของธุรกิจ SME สามารถคาดการณ์กระแสเงินสดในอนาคตได้ด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลในอดีตและระบุปัญหาที่อาจเกิดขึ้น โดยการคาดการณ์ล่วงหน้าช่วยให้ธุรกิจสามารถวางแผนและเตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดได้ การวิเคราะห์สินค้าคงคลัง: นักวิเคราะห์การเงินสามารถตรวจสอบแนวโน้มสินค้าคงคลังและหาจุดผิดปกติได้ทันท่วงที ซึ่งการตรวจพบรูปแบบหรือแนวโน้มความต้องการที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วจะช่วยลดความเสี่ยงและป้องกันปัญหาสินค้าขาดสต็อกได้ 2. NotebookLM: สรุปข้อมูล ตอบคำถาม และสร้างเนื้อหาด้วยพลัง AI เคยไหมที่ต้องนั่งอ่านเอกสารกองโต หาข้อมูลสำคัญจากไฟล์มากมาย? NotebookLM จะเปลี่ยนเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย! เพียงแค่ใส่ Source ในรูปแบบเอกสาร, PDF, ไฟล์ Google Drive, วิดีโอ หรือไฟล์เสียงที่คุณต้องการวิเคราะห์เข้าไป NotebookLM ก็จะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านข้อมูลของคุณทันที! ที่ไม่ว่าคุณต้องการทราบข้อมูลใด NotebookLM ก็จะช่วยหาคำตอบและวิเคราะห์ข้อมูลออกมาได้อย่างแม่นยำ และมั่นใจได้ว่า Result ที่คุณได้รับคือข้อมูลที่เป็นความจริง มากไปกว่านั้นองค์กรสามารถใช้ประโยชน์จาก NotebookLM ในการสร้างแหล่งข้อมูลส่วนกลาง...
Continue readingHow to: เชื่อมต่อ Salesforce กับ Gemini จัดการข้อมูลลูกค้าได้ง่าย ๆ ผ่าน Gmail
ปัจจุบัน Google ได้พัฒนา Extension สำหรับ Gemini เพื่อให้คุณสามารถจัดการงานต่าง ๆ ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ Salesforce for Gemini: ผู้ช่วยอัจฉริยะด้าน CRM ที่จะช่วยให้คุณจัดการข้อมูลลูกค้าได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว และน่าประทับใจ เพียงแค่ใช้ Salesforce for Gemini คุณก็สามารถนำข้อมูลของลูกค้าเข้าสู่ระบบได้เลยทันที ไม่จำเป็นต้องสลับแอปหรือนำเข้าข้อมูลด้วยตัวเองอีกต่อไป ทำตามนี้ได้เลย วิธีการติดตั้งและใช้งาน Salesforce for Gemini เพื่อจัดการข้อมูลลูกค้า 1. ติดตั้ง Salesforce Extension อันดับแรกคุณจะต้องทำการติดตั้ง Extension โดยคลิกที่นี่หรือค้นหา ‘Salesforce for Gemini’ ในสัญลักษณ์ + (Marketplace) ที่แท็บเมนูด้านขวา ซึ่งเงื่อนไขในการใช้งานมีดังนี้ ต้องมีบัญชี Google Workspace (แพ็กเกจใดก็ได้) ต้องสามารถเข้าถึง Salesforce Sales Cloud ได้ จากนั้นกด Install แล้วเลือก continue 2. ค้นหา Insights ของลูกค้าได้ทันทีด้วยฟังก์ชัน Sales enquiry เมื่อคุณติดตั้งเรียบร้อยแล้ว Gmail จะทำการเชื่อมต่อกับ Salesforce โดยอัตโนมัติ ซึ่งหากคุณเชื่อมต่อสำเร็จ คุณจะพบกับปุ่มฟังก์ชันนี้เมื่อคุณเปิดอีเมลของคู่สนทนา (ลูกค้า) ‘Take action on this sales inquiry’ 3. บันทึกข้อมูล Salesforce Leads ผ่านหน้า Gmail ได้โดยตรง เมื่อคุณกดปุ่ม ‘Take action on this sales inquiry’ แล้ว Gemini ใน Side Panel จะปรากฏขึ้นที่ด้านขวา ให้คุณเลือก...
Continue reading