วิธีสรุปข้อมูลรูปแบบเสียง (Audio) ใน NotebookLM พร้อมแชร์ประสบการณ์หลังการใช้จริง

เรียกได้ว่าตอบโจทย์มาก ๆ สำหรับใครที่ชอบการฟังและพูดมากกว่าการอ่านและเขียน เพราะ NotebookLM – AI วิเคราะห์ข้อมูลจาก Google (สร้างด้วยโมเดลล่าสุดของ Gemini) ได้อัปเดตฟังก์ชันใหม่อย่างการสร้าง Audio จากไฟล์เพื่อสรุปข้อมูลทั้งหมดภายในไม่กี่นาที โดย NotebookLM จะทำการสรุปข้อมูลจากไฟล์ที่คุณเลือกออกเป็น 2 เสียงสนทนา คือชายและหญิงที่มีการพูดคุยกันอย่างเป็นธรรมชาติ คล้ายมนุษย์จริง ๆ ทำให้คุณสนุกไปกับการฟังข้อมูลพร้อมรับสาระสำคัญจากไฟล์อย่างครบถ้วน อีกทั้งหากคุณมีคำถาม คุณก็สามารถใช้โหมด Interactive เพื่อพูดคุยกับเสียงนั้นได้เลย วิธีการเปิดใช้งานฟังก์ชันสรุปข้อมูลด้วย Audio อัปโหลดไฟล์ 2. คลิกเลือกไฟล์ที่คุณต้องการให้ NotebookLM วิเคราะห์ 3. ให้คุณมองไปที่ด้านขวาบน คุณจะเห็นคำว่า Studio ในหน้าต่าง Audio Overview ให้คุณกดปุ่ม Generate  4. หรือกด Custom เพื่อกำหนดแนวทางการสร้างเสียงที่คุณต้องการ เช่น การกำหนดความสั้น – ยาวของสรุปหรือการระบุข้อมูลที่คุณต้องการให้สรุปแบบเจาะจง 5. เมื่อสร้างเสียงเสร็จแล้ว กดปุ่มเล่น (Play) ได้เลย วิธีการเปิดโหมด Interactive เมื่อคุณสร้างเสียงเสร็จแล้วต้องการถามคำถาม ให้คุณกดที่ปุ่ม Interactive Mode 2. กดปุ่ม Play Audio 3. คลิก Join 4. หากพูดเสร็จแล้วให้เว้นระยะเวลาเงียบสักเล็กน้อย ไม่ต้องกดปุ่มใดเพิ่มเติม 5. AI จะทำการวิเคราะห์และตอบคำถามของคุณออกมาเป็นเสียงสนทนาได้เลยทันที รีวิวประสบการณ์หลังได้ลองใช้งานฟังก์ชัน Interactive Audio “สวัสดีค่ะ เราเป็นคนหนึ่งในทีมการตลาดที่ได้มีการลองใช้ฟังก์ชันนี้ในการทำงานจริง ก่อนหน้านี้เราได้รับไฟล์ PDF โดยข้อมูลในไฟล์เป็นภาษาอังกฤษทั้งหมดและมีหลายหน้ามาก ๆ ด้วยความที่อยากประหยัดเวลา เราเลยลองใช้ฟังก์ชัน Audio จาก NotebookLM ค่ะ เราใช้ NotebookLM สร้างสรุปให้ในรูปแบบเสียงเป็นเวลา 12 นาที เรารู้สึกชอบมาก ๆ ค่ะ เหมือนเสียงคนที่คุยกันจริง...

Continue reading

รวมอัปเดตฟีเจอร์เด็ดใน Gemini for Google Workspace ประจำเดือนพฤษภาคม 2568

หลังจากการเปิดตัว Google I/O 2025 ที่ผ่านมา กระแสความฮือฮาถึงความสามารถอันน่าทึ่งของ Gemini-AI จาก Google ก็สร้างความตื่นตาตื่นใจไปทั่วโลก ด้วยฟีเจอร์ AI ใหม่ๆ ที่จะทยอยเปิดให้สาวก Google ได้สัมผัสประสบการณ์สุดล้ำจาก Gemini ในปี 2025 นี้ มาดูกันว่าตลอดเดือนพฤษภาคมนี้ได้มีฟีเจอร์ AI อะไรที่ผู้ใช้งาน Google Workspace ได้ลองใช้กันแล้วบ้าง AI summaries: สรุปเนื้อหา จับประเด็นในแอป Gmail, Google Chat และ Google Docs Gmail: เข้าใจเนื้อหาอีเมลได้เร็วขึ้นด้วย “การ์ดสรุป Gemini” บนมือถือ ที่ปรากฏด้านบนสุดของอีเมล มีประโยชน์มากหากอีเมลนั้นเป็นชุดข้อความยาวๆ ซึ่งจะช่วยสรุปประเด็นสำคัญเพื่อให้คุณเห็นภาพรวมคร่าวๆ โดยไม่ต้องอ่านรายละเอียดทั้งหมด Google Chat: จะแชทยาวหรือเยอะขนาดไหน ไม่ต้องเสียเวลาไล่อ่านทีละแชทอีกแล้ว เพราะ Gemini จะช่วยให้คุณตามทันบทสนทนาใน Chat ได้ไวขึ้น ช่วยลิสต์ประเด็นสำคัญ รวมถึงระบุไฟล์ที่มีการแชร์ในแต่ละแชท Google Docs: ฟีเจอร์ “สรุป (Summary building block)” จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถทำความเข้าใจเนื้อหาหลักทั้งหมดของเอกสารนั้นๆได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นเอกสารงานวิจัย แผนงานโครงการ คู่มือการใช้งาน บทความหรือข่าวสาร เป็นต้น โดยที่คุณสามารถอัปเดตสรุปให้เป็นปัจจุบันได้ตลอดเวลา แค่กดรีเฟรชเมื่อมีการแก้ไขเนื้อหาในเอกสาร  NotebookLM: เชื่อมโยงและค้นพบแหล่งข้อมูลต่างๆ พร้อมให้ผลลัพธ์ภาษาที่หลากหลาย NotebookLM เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้คุณเข้าใจข้อมูลที่ซับซ้อนได้รวดเร็วขึ้น ด้วย AI ที่มีความแม่นยำสูง ไม่ว่าแหล่งข้อมูลคุณจะอยู่ในรูปแบบ ไฟล์ PDF, URL ของเว็บไซต์, YouTube, ไฟล์เสียง, ข้อความ, และอื่น ๆ ก็สามารถนำมารวบรวมให้ NotebookLM ช่วยวิเคราะห์ได้ในที่เดียว ปัจจุบันได้มีการอัปเดตความสามารถเพิ่มเติม เช่น Mind Maps สร้างแผนผังอัจฉริยะ: แปลงข้อมูลให้อยู่ในรูปแบบแผนผังความคิดหรือแผนภาพ ให้คุณดูภาพรวมและทำความเข้าใจประเด็นสำคัญของข้อมูลทั้งหมดได้อย่างรวดเร็ว...

Continue reading

SME ต้องรู้ ! 5 วิธีใช้ Google Drive ช่วยค้นหาและจัดการเอกสารธุรกิจแบบมือโปร

Google Drive เครื่องมือจัดการไฟล์ยอดนิยมของธุรกิจทั่วโลก เพราะนอกจากความสามารถในการจัดเก็บข้อมูลบน Cloud แล้ว ยังช่วยให้ผู้ใช้งานทุกคนสามารถเข้าถึงไฟล์ต่าง ๆ และทำงานได้อย่างสะดวกจากทุกที่ทุกเวลา  หากคุณเป็น SME ที่มีการใช้งาน Google Drive อยู่แล้ว แต่เพียงใช้ Google Drive เพื่อจัดเก็บไฟล์เท่านั้น ไม่มีการใช้ฟังก์ชันอื่นเลย วันนี้ Demeter ICT จะพาคุณมาทำความรู้จักฟังก์ชันต่าง ๆ บน Google Drive เพื่อนำไปสร้างประโยชน์และจัดการธุรกิจได้อย่างมืออาชีพ ใช้แล้วชีวิตการทำงานของคุณจะดีขึ้นอย่างแน่นอน ! 1. สรุปโฟลเดอร์และไฟล์ด้วย Gemini ใน Google Drive เมื่อคุณจัดเก็บข้อมูลใน Google Drive คุณจำได้หรือไม่ว่าในแต่ละโฟลเดอร์นั้นเกี่ยวข้องกับอะไรบ้าง ? ข้อมูลที่คุณต้องการอยู่ในไฟล์ไหน ? ตอนนี้คุณกำลังเปิดทีละไฟล์เพื่ออ่านข้อมูลทั้งหมดอยู่หรือไม่ ? และใช้เวลานานกี่ชั่วโมง ? ด้วย Gemini ใน Google Drive คุณจะไม่ต้องเสียเวลาแบบนั้นอีกต่อไป เพียงแค่คุณคลิก Summarize this folder เพื่อสรุปข้อมูลคร่าว ๆ ให้คุณเห็นภาพรวมของข้อมูลทั้งหมดและรู้ว่าในโฟลเดอร์มีข้อมูลที่คุณต้องการจะค้นหาหรือไม่  และหากคุณรู้แล้วว่าในโฟลเดอร์มีข้อมูลที่คุณต้องการ ให้คุณคลิกไปที่ไฟล์นั้นเพื่อค้นหาแบบเจาะลึกมากขึ้น จากนั้นพิมพ์ Prompt ที่ Gemini ใน Side Panel เพื่อค้นหาข้อมูล เช่น “ค้นหาและสรุปข้อมูลค่าใช้จ่ายของทีมจัดซื้อในเดือนเมษายน ปี 2025” เป็นต้น ซึ่งการใช้ฟังก์ชันนี้จะช่วยให้คุณประหยัดเวลาในการสรุปข้อมูลได้เยอะมากเลยทีเดียว https://www.youtube.com/watch?v=qMYZZPlM0Ok 2. ค้นหาไฟล์ที่ต้องการด้วย Gemini ใน Google Drive หากคุณต้องการค้นหาไฟล์จากข้อมูลทั้งหมดที่มีใน Google Drive แต่คุณดันจำชื่อไฟล์ไม่ได้ คุณสามารถค้นหาไฟล์ที่ต้องการได้ง่าย ๆ ด้วย Gemini ที่ Side Panel จากนั้นพิมพ์ Keywords หรือข้อมูลสำคัญที่คุณพอจะนึกออกลงไป เช่น...

Continue reading

คลิกเดียวจบ! สร้าง Mind Map จากข้อมูลมหาศาลง่าย ๆ ด้วย NotebookLM

พบกับฟีเจอร์ใหม่จาก NotebookLM ที่จะทำให้การวิเคราะห์ข้อมูลธุรกิจนั้นง่ายยิ่งขึ้น ไม่ต้องเสียเวลาอ่านเอกสาร ไม่ต้องนั่งทำความเข้าใจข้อมูลทั้งหมดด้วยตัวเอง เพียงแค่ใช้ฟีเจอร์ Mind Map ก็สามารถค้นหาข้อมูลที่ต้องการและทำความเข้าใจภาพรวมของเนื้อหาได้ภายในพริบตา  วิธีการใช้ฟีเจอร์ Mind Map ใน NotebookLM อัปโหลดไฟล์ 2. คลิกเครื่องหมายถูกเพื่อเลือกไฟล์ที่ต้องการใช้ในการวิเคราะห์ที่แท็บด้านซ้าย 3. กดปุ่มสร้าง Mind Map 4. ไปที่หน้าต่างด้านขวาล่างเพื่อเรียกดู Mind Map ที่สร้างเสร็จแล้ว 5. กดหัวข้อที่ต้องการดูข้อมูล 6. หากต้องการบันทึกเป็นรูปภาพ คลิกที่มุมบนด้านขวา นอกจากนี้ NotebookLM ยังสามารถวิเคราะห์ข้อมูลออกมาในรูปแบบต่าง ๆ ได้อีกมากมาย เช่น ข้อความ ไทม์ไลน์ และเสียง (Interactive Mode) เป็นต้น  คุณสามารถทำความรู้จัก NotebookLM เพิ่มเติมได้ที่บทความด้านล่างนี้ หรือหากคุณต้องการใช้ NotebookLM Pro เพื่อเข้าถึงฟีเจอร์แบบเต็มรูปแบบมากขึ้น ติดต่อ Demeter ICT ได้ที่Email: sales@dmitco.th  Facebook: Demeter ICT และ Line: @dmit (มี@) ต้องการทดลองใช้งาน NotebookLM คลิก...

Google Vids ขยายการใช้งานสู่แพ็กเกจ Business Starter, Enterprise Starter และ Nonprofit แล้ว

หลังจากเปิดตัว Google Vids แอปสร้างวิดีโออัจฉริยะพลัง AI กับกลุ่มผู้ใช้งาน Google Worskspace แพ็คเกจ Standard ขึ้นไป ก็ได้รับกระแสและความนิยมอย่างต่อเนื่อง ด้วยพลังของ Gemini AI ที่ฝังอยู่ในแอป ทำให้แม้แต่ผู้ที่ไม่เคยมีประสบการณ์สร้างวิดีโอมาก่อน ก็สามารถสร้างสรรค์วิดีโอที่น่าสนใจและดึงดูดได้ง่ายๆ เพียงไม่กี่คลิก Google Vids คืออะไร? และเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา Google ประกาศข่าวดีขยายการให้บริการ Google Vids ไปยังผู้ใช้งาน Business Starter, Enterprise Starter และ Nonprofit พร้อมกับโอกาสทองในการรับสิทธิ์ใช้งาน AI ใน Google Vids อย่างเต็มรูปแบบโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเป็นระยะเวลา 12 เดือนนับจากวันที่ประกาศ (หลังจากนั้นจะสามารถใช้ Vids ได้ แต่จะไม่มีฟีเจอร์ AI) นอกจากนี้ Google Vids กำลังทยอยอัปเดตฟีเจอร์ Generate a Video ด้วยพลัง AI ของโมเดล Veo 2 ให้ผู้ใช้งานสามารถพิมพ์พร้อมพ์เพื่อสร้างคลิปอย่างที่ต้องการได้หลากหลายสไตล์ และจะเปิดให้ใช้งานในไม่กี่อึดใจรอ https://www.youtube.com/watch?v=ebH-ZfkqIjQ&t=4s สำหรับผู้ใช้งาน Business Starter, Enterprise Starter และ Nonprofit อย่าพลาดที่จะได้สัมผัสประสบการณ์การสร้างวิดีโอด้วย AI แบบไม่มีค่าใช้จ่าย! อย่ารอช้า รีบเข้าไปลองใช้งาน Google Vids กันเลย! เริ่มใช้งาน Google Vids Source: Expanding Google Vids to Business Starter, Enterprise Starter and Nonprofit customers...

วิธียกเลิกการส่งอีเมล Gmail (Undo send) ส่งผิดเรียกกลับคืนได้ทันที

การยกเลิกอีเมลเป็นหนึ่งในฟังก์ชันที่คนส่วนใหญ่ต้องการมากที่สุดเพื่อป้องกันการส่งอีเมลผิดหรือต้องการแก้ไขเพิ่มเติมภายหลัง ดังนั้นในบทความนี้เราจะพาคุณมาเรียนรู้วิธีการตั้งค่าและเปิดใช้งานฟังก์ชันยกเลิกการส่งอีเมลใน Gmail เพื่อป้องกันความผิดพลาดและเพิ่มความมั่นใจในการสื่อสารของคุณให้ดียิ่งขึ้น Step 1: ตั้งค่าเวลาในการยกเลิกอีเมล วิธีการ เปิดหน้า Gmail ไปที่การตั้งค่า (Settings) หรือสัญลักษณ์ฟันเฟืองที่มุมบนด้านขวา คลิก See all settings 4. จากนั้นเลื่อนลงมาที่ Undo Send Step 2: เปิดใช้งานฟังก์ชัน Unsend วิธีการ เปิดและร่างอีเมล (Gmail) ที่คุณต้องการส่ง เมื่อคุณคลิกส่งแล้ว ให้คุณสังเกตที่มุมด้านล่างซ้ายของหน้าจอ จากนั้นจะมีหน้าต่างเล็ก ๆ ปรากฏขึ้นดังภาพ โดยหน้าต่างนี้จะแสดงขึ้นภายในระยะเวลาที่คุณได้ตั้งค่าไว้ใน Step 1 3. เมื่อคุณกด Undo อีเมลจะถูกส่งกลับเข้ามาอยู่ในขั้นตอนการเขียนอีเมลโดยอัตโนมัติ หรือหากคุณไม่ได้กดฟังก์ชันใด อีเมลก็จะถูกส่งไปยังผู้รับทันทีโดยที่คุณไม่สามารถยกเลิกได้แล้วนั่นเอง เราหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณสามารถยกระดับการสื่อสารผ่าน Gmail ให้ดูมืออาชีพมากยิ่งขึ้น รวมถึงการตั้งค่าต่าง ๆ ให้คุณสามารถใช้อีเมลให้เหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด Demeter ICT – Google Cloud Premier Partner สนับสนุนการทำงานร่วมกันแบบออนไลน์ให้มีประสิทธิภาพจากการทรานส์ฟอร์มธุรกิจด้วยเทคโนโลยีที่เชื่อถือได้ ...

Gemini มีกี่ประเภท? ทำความรู้จัก Gemini สำหรับธุรกิจและการใช้ส่วนตัว

Gemini หนึ่งในผลิตภัณฑ์ Generative AI จาก Google ได้ถูกแบ่งออกเป็นหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น Gemini App, Gemini for Google Workspace, หรือ Gemini ที่มาพร้อมกับอุปกรณ์สื่อสารต่าง ๆ  ซึ่ง Demeter ICT ก็ได้รับคำถามเข้ามาอย่างล้นหลามเกี่ยวกับความแตกต่างของแต่ละผลิตภัณฑ์ ดังนั้นเราจะพาทุกคนมาไขข้อสงสัยกันในบทความนี้ Gemini สำหรับธุรกิจ แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ  1. Gemini: Chat with Google AI (https://gemini.google.com/app) คือ Gemini สำหรับการสนทนาและตอบคำถามทั่วไปโดยอ้างอิงข้อมูลการค้นหาจากเว็บไซต์ของ Google  โดยผู้ที่มีบัญชีองค์กรของ Google Workspace แพ็กเกจ Business Standard ขึ้นไปจะได้รับ Gemini เวอร์ชัน Pro ซึ่งจะสามารถเข้าใจคำถามที่ซับซ้อนได้ดีกว่า คิดวิเคราะห์ได้มากกว่า (แพ็กเกจ Starter จะได้รับเวอร์ชันธรรมดา) และล่าสุดยังมีฟีเจอร์ Deep Research ที่สามารถเจาะลึกคำค้นหาและสร้างเป็นรายงานได้อีกด้วย ตัวอย่างการใช้งาน การค้นหาข้อมูลบนเว็บไซต์ การเปรียบเทียบข้อมูล การขอคำแนะนำทางธุรกิจ การวิเคราะห์ไฟล์หรือรูปภาพ การสรุปไฟล์เอกสาร การสร้างรูปภาพ เป็นต้น 2. Gemini for Google Workspace คือ Generative AI ที่ถูกฝังการทำงานอยู่ในแอปพลิเคชันต่าง ๆ บน Google Workspace โดยมีการแบ่งแยกความเชี่ยวชาญตามการใช้งานในแต่ละแอปพลิเคชัน เช่น Gmail: ช่วยเขียน ตอบ และสรุปอีเมล Google Docs: ช่วยร่างเอกสารต่าง ๆ  Google Slides: ช่วยสร้างสไลด์และรูปภาพ  Google Sheets: ช่วยติดตามโปรเจกต์ งานตาราง และสูตรคำนวณ Google Meet:...

Continue reading

รู้จัก Gemini Deep Research ผู้ช่วยวิจัย AI ส่วนตัว ที่พร้อมค้นหาคำตอบในทุกข้อคำถาม และวิธีการใช้งาน 

“หมดปัญหากับการค้นคว้าข้อมูลที่ซับซ้อน Gemin Deep Research จะช่วยคุณลงสำรวจหัวข้อที่ต้องการ และสรุปผลในรูปแบบรายงานที่อ่านง่าย”  การค้นคว้าข้อมูลในเรื่องที่ซับซ้อนนั้นเต็มไปด้วยเรื่องที่ท้าทาย เริ่มตั้งแต่การวางแผนเพื่อคัดกรองข้อมูลมหาศาล การตรวจสอบความน่าเชื่อถือ การเปรียบเทียบเนื้อหา รวมไปจนถึงการรวบรวมข้อมูลและสรุปออกมาเป็นรายงาน ที่ล้วนแล้วแต่ต้องใช้เวลาเป็นอย่างมาก แต่ทั้งหมดทั้งมวลนี้ Gemini Deep Research สามารถช่วยคุณได้ในเวลาไม่กี่นาทีเท่านั้น! Gemini Deep Research คืออะไร? Gemini Deep Research คือผู้ช่วยวิจัยส่วนตัวที่ใช้ AI ขั้นสูงที่อยู่ใน Gemini Advanced (Chat with Gemini) มีความสามารถในการวางแผนการวิจัย ค้นหาและวิเคราะห์ข้อมูลจากเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือและสรุปผลเป็นรายงานที่เข้าใจง่ายบน Google Docs ซึ่งช่วยให้คุณประหยัดเวลา เพิ่มประสิทธิภาพ และสัมผัสประสบการณ์การเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกได้อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน  Dave Citron (Senior Director, Product Management, Gemini app) ได้กล่าวไว้ในบทความว่า Deep Research เป็นก้าวสำคัญในวิสัยทัศน์ของ Google ที่ต้องการพัฒนา AI ให้มีความสามารถในการดำเนินการและตัดสินใจได้ด้วยตนเองมากขึ้น (Agentic AI) จึงกลายเป็น Gemini Deep Research ที่สามารถค้นคว้าข้อมูลได้เองเหมือนนักวิจัยมืออาชีพ ที่อาศัยการประมวลผลข้อมูลจำนวนมหาศาลมากถึง 1 ล้านโทเค็นให้ออกมาเป็นรายงานที่ละเอียดและเข้าใจได้ง่าย ข้อแตกต่างระหว่าง Gemini Deep Research และ Gemini Flash หลายท่านอาจสงสัยว่าทำไมการวิเคราะห์ข้อมูลต้องใช้ Gemini Deep Research แล้ว Gemini Flash ใช้แทนไม่ได้หรือ? เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนมากยิ่งขึ้น มาดูตัวอย่างที่เข้าใจง่ายกันเลย  ลองนึกภาพว่าคุณต้องการวิเคราะห์เทรนด์ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย คุณอาจมีคำถามที่ซับซ้อนมากมาย เช่น – “แนวโน้มการเติบโตของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยเป็นอย่างไร?”– “ปัจจัยอะไรบ้างที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค?”– “คู่แข่งรายสำคัญในตลาดนี้มีใครบ้าง และมีกลยุทธ์อย่างไร?” เมื่อใช้ Gemini Flash Gemini Flash จะให้คำตอบที่รวดเร็วและกระชับ แต่ข้อมูลอาจจะไม่ละเอียดพอสำหรับการวิเคราะห์เชิงลึก เช่น อาจจะได้ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า...

Continue reading

เปิดผลสำรวจ ROI ของ Generative AI ธุรกิจควรมี AI จริงหรือไม่? 

องค์กรหลายแห่งในยุคนี้คงจะหลีกเลี่ยงไม่ได้กับการลงทุนใน Generative AI สำหรับภาคธุรกิจ และหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยให้ธุรกิจตัดสินใจลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ คือ ROI (Return On Investment) หรือความคุ้มค่าในการลงทุน  ซึ่งในปัจจุบันพบว่ายังมีธุรกิจอีกมากมายที่ยังไม่มีการนำ Generative AI มาใช้พัฒนาและเพิ่มศักยภาพของธุรกิจอย่างจริงจัง ดังนั้นวันนี้เราจะมาเปิดผลลัพธ์ ROI ของ Generative AI ที่ได้มีการเก็บข้อมูลเมื่อปี 2024 เพื่อช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจนำ AI มาใช้งานกับธุรกิจได้อย่างคุ้มค่ามากขึ้น สรุปภาพรวม ROI ของ Generative AI จากผลสำรวจของ Google Cloud และ National Research Group กลุ่มตัวอย่าง: 2,500 ผู้นำองค์กรระดับอาวุโส ระดับธุรกิจ: Enterprise รายได้: $10,000,000 ขึ้นไป องค์กรได้นำ Generative AI มาปรับใช้อย่างราบรื่นและประสบความสำเร็จ 84% องค์กรเห็น ROI ในปีแรก 76% องค์กรใช้ Generative AI ในการผลิตและเห็นการเติบโตของรายได้รวมต่อปีเพิ่มขึ้น 6% หรือมากกว่า 86% ผลคาดการณ์ระยะเวลาในการได้รับ ROI โดยแบ่งตามประเภทการใช้งาน จากผลสำรวจจะเห็นได้ว่าองค์กรส่วนใหญ่จำนวน 30-35% คาดการณ์ว่าจะได้รับ ROI จากการลงทุนใน Generative AI ภายใน 1 ปี ผลลัพธ์จากการใช้ Generative AI ในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้านต่าง ๆ Productivity Generative AI สามารถช่วยปรับปรุงและพัฒนากระบวนการทำงานของฝ่าย IT ได้สูงสุด Business Growth Generative AI ช่วยเพิ่มจำนวน Leads ต่อยอดไปสู่การพัฒนาธุรกิจ สินค้า และบริการต่าง ๆ ในองค์กร Business Growth Generative AI ช่วยเพิ่มจำนวน Leads...

Continue reading