Customer Journey vs. Customer Experience ในยุคปัจจุบันที่ช่องทางเข้าถึงลูกค้ามีมากมายหลายช่องทาง ลูกค้าไม่ได้เริ่ม Customer Journey ที่เดินเข้าไปดู เลือก และซื้อสินค้าเพียงในร้านค้าอีกแล้ว กว่าครึ่งของการตัดสินใจเลือกซื้อทั้งหมดเริ่มต้นที่ออนไลน์ หากแต่เทรนด์การตลาดดิจิตัลทุกวันนี้ไม่ได้หยุดเพียงช่องทางการซื้อที่หลากหลายเท่านั้น แต่เป็น Customer Experience หรือการสร้างประสบการณ์ให้กับลูกค้า เนื่องจากลูกค้าในยุคปัจจุบันไม่ได้ตัดสินใจที่สินค้าหรือบริการเพียงอย่างเดียว แต่ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ที่จะได้รับมากขึ้น แม้จะต้องจ่ายในราคาแพงขึ้น ก็ยินยอม การพัฒนา Customer Experience (CX) จึงเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่มัดใจลูกค้า และนำไปสู่อีกขั้นของความสำเร็จได้ “การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้าจึงเป็นสิ่งที่ควรทำ หากแต่การเข้าใจการเดินทางของลูกค้า ร่วมกับพัฒนาประสบการณ์ใหม่ที่แตกต่าง คือปัจจัยที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกว้าว ประทับใจสุดๆ ได้เลยทีเดียว” มาดูวิธีปรับให้ไม่ตกยุคปี 2020 กัน 1. เพราะโทรศัพท์มือถือคือเครื่องมือสู่ความประทับใจแรกพบ ทราบหรือไม่? 70% ของ Traffic ที่มากที่สุดในโลกมาจากโทรศัพท์มือถือ 61% ของลูกค้าอ่านอีเมลบนมือถือ และกว่า 95% ของผู้ใช้ Facebook ก็กดเข้าเว็บไซต์ด้วยสมาร์ทโฟน นั่นหมายความว่า ไม่ว่าจะเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน โพสต์ในโซเชียลมีเดีย โฆษณา สิ่งที่ควรมุ่งเน้นหลักในปี 2020 ก็คือการปรับปรุง Mobile Experience ที่ๆ ลูกค้ามองเห็น มีส่วนรวม และซื้อสินค้า 2. รู้จักลูกค้าของคุณให้มากที่สุด เมื่อเทคโนโลยีก้าวหน้าขึ้น กลยุทธ์การตลาดแบบ Personalization ก็ทำได้ง่ายขึ้น เราสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าเฉพาะคน ผ่านการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล จัดทำคอนเทนต์ สินค้า บริการ ผ่านช่องทางสื่อสาร ราคาและประสบการณ์ที่เหมาะกับคนๆ นั้น สร้างความแตกต่างในการให้บริการให้ได้มากกว่าคู่แข่ง ทำให้ลูกค้าได้ประสบการณ์ที่ตรงความต้องการมากขึ้น ดังนั้น การมีฐานข้อมูลลูกค้าและเครื่องมือวิเคราะห์ จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก นอกจากนี้ เรายังสามารถนำข้อมูลเหล่านี้มาใช้ในการปรับปรุงช่องทางการเข้าถึงของลูกค้า สำรวจว่าลูกค้าเป้าหมายของเราเข้าถึงเราผ่านช่องทางไหน มีความสนใจเป็นพิเศษด้านใด วิเคราะห์เป็น Customer Journey และปรับปรุงกระบวนการให้ลูกค้าพึงพอใจมากยิ่งขึ้น เช่น หากเราต้องการทราบว่าส่วนไหนในเว็บไซต์ของเราที่ลูกค้ามีความสนใจมากที่สุด รู้พฤติกรรมของลูกค้า เราก็สามารถนำข้อมูลเหล่านั้นมาปรับแต่งหน้าเว็บ เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีขึ้นให้ลูกค้าได้...
Continue readingท่องอวกาศบนมือถือด้วยแอป Google Earth
ทีมพัฒนา Google Earth สำรวจพบว่าคนส่วนใหญ่อยากเห็นดวงดาวในอวกาศมากพอๆ กับการอยากเห็นโลกทั้งใบ ตอนนี้แอปพลิเคชัน Google Earth สามารถนำเสนอภาพกว้างของจักรวาลอันระยิบระยับได้แล้ว เช่นเดียวกับ Google Earth บนเว็บไซต์ ในยุคที่สมาร์ทโฟนมีบทบาทกับชีวิตประจำวันของทุกคน กูเกิ้ลจึงนำคุณสมบัติ Google Earth บนเว็บเบราวเซอร์เข้ามาไว้บนมือถือ ก่อนที่กูเกิ้ลจะเพิ่มภาพถ่ายของดวงดาวท้องรอบๆ มุมมองของลูกโลกใน Google Earth จะเห็นเป็นเพียงแค่พื้นหลังสีดำเรียบๆ ดูไม่สมจริง ตอนนี้คุณสามารถเห็นมุมมองของดวงดาวเมื่อคุณซูมออกจาก ลูกโลก เมื่อหมุนโลกคุณจะเห็นภาพของทางช้างเผือกที่สวยงาม ซึ่งเก็บรวบรวมจากหอดูดาวยุโรปตอนใต้ และได้บันทึกภาพโดยนักสำรวจอวกาศ ซึ่งอยู่ห่างจากโลกประมาณ 30,000 ไมล์ ที่มา – Google Blog บริษัท ดีมีเตอร์ ไอซีที จำกัด ผู้ให้บริการ G Suite ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ (ตัวแทน Google ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ) สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมพร้อมราคา G Suite โปรโมชั่นพิเศษ โทร! 02-030-0066 (Office) 092-262-6390 (Support) 095-896-5507 (Sale) 097-008-6314 (Sale) support@dmit.co.th Official LINE...
WeChat Official Accounts คืออะไร
WeChat Official Account คืออะไร WeChat Official Account เป็นเครื่องมือการสื่อสารทางการตลาดออนไลน์สำหรับธุรกิจที่ต้องการสร้างการเติบโตในจีน ทุกวันนี้จีนกำลังได้รับความสนใจอย่างมากเนื่องจาก WeChat ได้ครองพื้นที่โซเชียลมีเดียของจีน ชึ่งมีจำนวนผู้ใช้ WeChat มีอยู่ราวๆ 963 ล้านคนทั่วโลก โดย 90% ใช้ WeChat ในชีวิตประจำวันทุกวัน และมีถึง 80% ของผู้ใช้ WeChat ที่ติดตาม Official Account (OA) ของแบรนด์ต่างๆ เป็นโอกาสที่ดีเเละเป็นช่องทางสื่อสารไปถึงคนจีนในประเทศจีน (เป็นตัวกลางเชื่อมธุรกิจจากไทยสู่จีน) ปัจจุบันข้อมูลจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. เปิดเผยว่า “ตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังประเทศไทยในปี 2560 มีจำนวนราว 9.5 ล้านคน มีการจับจ่ายเงินในระบบราว 4.5 แสนล้านบาท คิดเป็น 4% ของจีดีพีของประเทศไทย” ดังนั้น WeChat OA หรือ WeChat for Business จึงเป็นช่องทางสื่อสารเเละโปรโมทธุรกิจไปจีนได้อย่างมีประสิทธิภาพ WeChat เป็นแพลตฟอร์มที่รวบรวมความต้องการของผู้ใช้งานในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นโซเชียลมีเดีย (Social Media) หรือ แชต (Chat) ซึ่งเป็นช่องทางสำหรับการติดตามแบรนด์สินค้าและยังเป็นช่องทางการชำระสินค้าและบริการทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ เรียกได้ว่าเป็น “One Stop Service” ก็ว่าได้เลยทีเดียว WeChat Official Account ทำงานอย่างไร? การทำงานของ WeChat OA คล้ายกับ Facebook Page ที่ผู้ใช้สามารถโปรโมทร้านหรือ อัพเดทข่าวสารโปรโมชั่นและเเบรนด์ของตัวเองได้ เเต่เเตกต่างกันตรงที่ Wechat OA สามารถ Broadcast หรือโพสต์คอนเทนต์ได้ 4 ครั้งต่อเดือนเท่านั้น WeChat OA เน้นการโปรโมทเพื่อสร้าง Brand Awareness เเละสามารถทำ Key Opinion...
Continue readingApp Maker เตรียมยุติให้บริการปีหน้า!
สืบเนื่องมาจากอัตราการใช้งานต่ำ Google App Maker จะค่อยๆ ลดการให้บริการลงในช่วงปี 2563 และจะปิดตัวลงอย่างเป็นทางการในวันที่ 19 มกราคม 2564 ก่อน App Maker ปิดตัวลง คุณจะต้องตรวจสอบการใช้งาน App Maker ในโดเมนของคุณและดำเนินการใดๆ ก็ตามที่จำเป็นโดยเร็วที่สุด สำหรับตอนนี้ แอปเดิมที่มีอยู่จะยังคงทำงานต่อไปได้ตามปกติ แม้ว่า App Maker จะไม่มีการพัฒนาต่อ แต่บริการจะยังคงอยู่ต่อไป ตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน 2563 คุณจะไม่สามารถสร้างแอปใหม่จาก App Maker ได้อีกแต่จะยังสามารถแก้ไขและปรับใช้แอปเดิมที่มีอยู่ ตั้งแต่วันที่ 19 มกราคม 2564 แอปจาก App Maker ที่มีอยู่จะหยุดทำงานและคุณจะไม่สามารถเข้าถึงได้อีกต่อไป ข้อมูลแอปที่เก็บไว้ใน Cloud SQL จะยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ตามนโยบายที่กำหนดโดยบัญชี Google Cloud Platform (GCP) ของคุณ เนื่องจากซอร์สโค้ดเฉพาะที่ใช้สำหรับ App Maker คุณจึงไม่สามารถโยกย้ายแอปของคุณไปยังแพลตฟอร์มอื่นได้โดยตรง ทางกูเกิ้ลจึงแนะนำวิธีดังต่อไปนี้: หากคุณใช้ App Maker เพื่อทำให้กระบวนการทางธุรกิจเป็นแบบอัตโนมัติ: ใช้ AppSheet ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันส่วนเสริมใหม่จากกูเกิ้ล ที่มีความสามารถคล้ายกับ App Maker ปกติแล้วข้อมูล App Maker จะถูกเก็บไว้ใน Cloud SQL และ AppSheet สามารถรองรับฐานข้อมูลจาก Cloud SQL ได้ ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถสร้างแอปพลิเคชันบนฐานข้อมูลเดิมที่มีอยู่ซึ่งเชื่อมโยงกับแอป App Maker ของคุณ หากคุณใช้ App Maker เพื่อพัฒนาแอป: ใช้ App Engine เพื่อสร้างและปรับใช้แอปพลิเคชันบนแพลตฟอร์มที่มีการจัดการอย่างสมบูรณ์ ตามปกติข้อมูล App Maker จะถูกเก็บไว้ใน Cloud SQL คุณสามารถสร้างแอปพลิเคชันด้วย...
Continue readingบริษัท พนัส แอสเซมบลีย์ จำกัด ก้าวสู่ความเป็นสากลด้วย Google G Suite
บริษัท พนัส แอสเซมบลีย์ จำกัด – ก้าวสู่ความเป็นสากลด้วย Google G Suite ครั้งนี้ดีมีเตอร์ ไอซีที มีโอกาสได้พูดคุยกับ คุณภณ พรหมสุวรรณ – Intelligent Mobility Business Manager จาก บริษัท พนัส แอสเซมบลีย์ จำกัด ผู้ผลิตอุปกรณ์การขนส่ง ให้บริการด้านขนส่งและโลจิสติกส์ที่มีคุณภาพมาตรฐานสูง คุณภณกล่าวว่าปัจจุบันเทรนด์ของธุรกิจต้องก้าวเข้าสู่ระบบ Cloud base จึงเลือก Google G Suite เข้ามาเป็นตัวช่วย และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานภายในองค์กร ขอเกริ่นเกี่ยวกับพนัสก่อนสักเล็กน้อย ด้วยความสามารถและประสบการณ์กว่า 45 ปี จึงทำให้พนัสเติบโตขึ้นเป็นผู้ผลิตรถพ่วงและรถกึ่งพ่วงที่ใหญ่ติดอันดับในประเทศไทย นอกจากนี้ยังมีการขยายสายผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง รวมถึงรถที่ใช้ในราชการทหาร การย้ายเครื่องจักรและอุปกรณ์สำหรับอุตสาหกรรมการบิน และมีการขยายธุรกิจให้ครอบคลุมในอีกหลายพื้นที่ทั้งในและต่างประเทศ ปัจจุบัน พนัสมีพนักงานประจำสำนักงานมากกว่า 1,000 คน จุดเริ่มต้น แต่เดิม ระบบอีเมลที่พนัสใช้ คือตั้งเซิฟเวอร์อีเมลเองและมีแผนก IT คอยดูแลระบบ ในทุกๆ ปี เมื่อบริษัทมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น ปริมาณงานและการติดต่อกับต่างประเทศ หรือพาร์ทเนอร์ต่างๆ ก็มากขึ้นตามไปด้วย แต่การตั้งเซิฟเวอร์เองมักจะพบกับปัญหาไวรัส สแปม เซิฟเวอร์ล่ม รับ-ส่งอีเมลไม่ได้อยู่บ่อยครั้ง ทำให้สูญเสียโอกาสทางธุรกิจ และความสัมพันธ์กับลูกค้ามากมายมหาศาล นอกจากนี้คุณภณเล่าว่า เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น กว่าทีม IT จะแก้ปัญหาได้ ก็ใช้เวลานาน นั่นจึงทำให้คุณภณตัดสินใจเปลี่ยนระบบอีเมลภายในองค์กร จุดเปลี่ยนแปลง จากปัญหาของระบบอีเมลเดิม บวกกับการที่พนัสต้องก้าวเข้าสู่ความเป็นสากลเต็มรูปแบบ คุณภณมองว่าเทรนด์ของธุรกิจสมัยนี้ต้องก้าวเข้าสู่ Cloud base จึงทำให้คุณภณมองหาโซลูชันใหม่อย่าง Google G Suite ที่จะตอบโจทย์การทำงานในองค์กรมากยิ่งขึ้น คุณภณกล่าวเสริมอีกว่า ในอดีต ปัญหาที่พนัสเจอ คือการใช้งานระบบที่สร้างขึ้นเอง ซึ่งไม่ได้มีความเชี่ยวชาญมากพอ จึงทำให้เกิดปัญหาในการติดต่อสื่อสารกับลูกค้า และสูญเสียโอกาสทางธุรกิจ จนเมื่อพนัสเปลี่ยนมาใช้ G Suite คุณภณจึงมองว่าถ้าอะไรที่เราไม่เชี่ยวชาญ เราควรใช้บริการผู้เชี่ยวชาญดีกว่า เพื่อให้ธุรกิจสามารถไปข้างหน้าได้ การจะแก้ปัญหานั้นต้องมองที่รากฐานเป็นอันดับแรก ซึ่ง...
Continue readingทิศทางการตลาดจีนในปี 2020
Live-streaming, private traffic, and KOC 3 คำนี้คงเป็นคำนิยามเทรนด์การตลาดจีนออนไลน์ในปี 2019 ที่ผ่านมา และยังเป็นแนวโน้มการทำการตลาดจีนออนไลน์ในปี 2020 โดยเฉพาะการ Live-streaming ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในประเทศจีน มี KOL/KOC ที่มีชื่อเสียงมาไลฟ์สดรีวิวสินค้าให้กับแบรนด์ ซึ่งมักจะสร้างเนื้อหาของวีดิโอผ่านแอพพลิเคชัน Douyin หรือที่คนไทยรู้จักกันในนามว่า Tiktok มาดูกันว่าเทรนด์การตลาดจีน 3 ข้อที่กล่าวมาข้างต้นเกี่ยวข้องกับอะไรบ้าง 1. Live-streaming การไลฟ์สดได้ถูกนำมาใช้ในการทำการตลาดจีนเป็นที่เรียบร้อย และกระแสตอบรับการตลาดในรูปแบบนี้ค่อนข้างได้รับความนิยม เพราะพฤติกรรมของคนจีนในปีนี้เน้นจดจำภาพลักษณ์ของแบรนด์มากกว่าการอ่านเนื้อหาจาก content 2. Private traffic (私域流量) Private traffic ผ่านทาง WeChat Groups ได้รับความนิยมมากขึ้น เครื่องมือระบบแชทอัตโนมัติอย่าง WeTool และ Chatbot ถูกนำมาใช้ในการตอบคำถามลูกค้าทำให้แอดมินสามารถจัดการแชทของลูกค้าหลายคนได้ในเวลาเดียวกัน 3. Key Opinion Customers (KOC) หลายแบรนด์ได้เริ่มใช้กลยุทธ์ KOC มาทำการตลาดให้กับสินค้ามากขึ้น โดยผ่านแพลตฟอร์มที่โด่งดังในหมู่คนจีน เช่น Douyin Xiaohongshu และ Weibo China Digital Marketing บุกตลาดจีนครบวงจร Contact Us: Demeter ICT Company Limited บุกตลาดจีนครบวงจรกับ WeChat Partner Official LINE For additional information and special promotion call now!Tel. 02 030 0066 (TH/EN) Tel. +86 14778852841 (CH) Facebook Page : @demeterict support@dmit.co.th...
Customer Support Trends และการรับมือลูกค้าในยุคที่อะไร ๆ ก็เป็น Omnichannel
Zendesk แพลตฟอร์มที่ออกแบบมาเพื่อ “CRM” และ “Customer Support” ตอบโจทย์การให้บริการในยุคที่ผู้บริโภคหรือลูกค้าต่างใช้ชีวิตและติดต่อสื่อสารกันผ่านทางออนไลน์และโซเชียลมีเดีย ทำให้ธุรกิจหรือแบรนด์ต่างก็ต้องเปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงได้หลากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น Call Center, Email, Facebook Messenger, Instagram, LINE, Twitter, Website Web Form และ Live Chat การที่ธุรกิจหรือแบรนด์มีการ support ลูกค้าในทุกช่องทาง ทั้งนี้ก็เพื่อสร้างความสะดวกสบายให้ลูกค้าสามารถติดต่อและเข้าถึงแบรนด์ได้ในช่องทางที่ลูกค้าสะดวกและคุ้นเคย ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี แต่การที่จะบริหารจัดการลูกค้าพร้อมกันในหลาย ๆ ช่องทางนั้นเป็นเรื่องที่น่าปวดหัวและมักสร้างปัญหาในเรื่องของการทำงานที่ซ้ำซ้อนให้กับทีมซัพพอร์ตลูกค้าอยู่ไม่น้อย ทำให้บริษัทในปัจจุบันจำเป็นต้องมี Admin คอยดูแล ตอบคำถามและแก้ไขปัญหาให้กับลูกค้าต่างช่องทางกันตามความเชี่ยวชาญของแต่ละทีม ยกตัวอย่างเช่น Admin ที่ดูแลเนื้อหาบนโซเชียล รวมทั้งคอยตอบคำถามทาง inbox Admin ที่ดูแลเนื้อหาบนเว็บไซต์ รวมทั้งคอยตอบคำถามทาง Email Admin ที่ตอบคำถามและบริการลูกค้าทาง LINE ทีม Call Center ที่รับเรื่อง ตอบคำถามและประสานงานกับทีมอื่น ๆ ให้กับลูกค้า ซึ่งหากอ้างอิงจากลิสด้านบนอย่างคร่าว ๆ ใน 1 องค์กร จำเป็นต้องมี Admin อย่างน้อย 4 คน หรือมากกว่า 2 ทีม ที่ต้องคอยตอบคำถาม แก้ไขปัญหา รับเรื่องร้องเรียนของลูกค้าในแต่ละวัน ในจุด ๆ นี้เองที่จะทำให้เกิดปัญหาความซ้ำซ้อนเกิดขึ้น ทั้งความซ้ำซ้อนของการทำงาน และความซ้ำซ้อนที่ลูกค้าจะได้รับ ดังตัวอย่างต่อไปนี้ ลูกค้าท่านเดียวกัน แต่ติดต่อเข้ามาต่างช่องทาง หากเจ้าหน้าที่ของทั้ง 2 ทีมไม่มีการทำงานร่วมกันจะเกิดการแก้ปัญหาที่ซ้ำซ้อน ลูกค้าแจ้งเรื่องกับเจ้าหน้าที่ Call Center เจ้าหน้าที่ทำการโอนสายให้ทีมที่เกี่ยวข้อง ลูกค้าต้องตอบคำถามและเล่าปัญหาเรื่องเดิมซ้ำ ๆ ปัญหาการทำงานที่ซ้ำซ้อนดังกล่าวก่อให้เกิดการทำงานที่ไม่มีประสิทธิภาพ สิ้นเปลืองเวลาโดยไม่จำเป็น และอาจกลายเป็นการสร้างประสบการณ์ที่ไม่ประทับใจในการรับบริการให้กับลูกค้าได้ Customer Support เทรนด์ของลูกค้าในยุค Seamless และ Omnichannel 60% ของลูกค้า เลือกใช้มากกว่าหนึ่งช่องทางในการติดต่อกับแบรนด์...
Continue readingเรื่องจริงไม่อิงนิยาย มหันตภัยของ man-In-the-middle
คำว่า man-in-the-middle กำลังมาแรงในการสร้างความเสียหายให้กับธุรกิจในยุคปัจจุบัน ฟังชื่อภาษาอังกฤษก็พอจะเดากันได้ครับว่าต้องมีบุคคลที่สามแทรกอยู่ระหว่างกลาง (ถ้าแปลกันตรงตัวเลยครับ) เช่น เป็นบุคคลที่สามระหว่างคนสองคน บุคคลที่สามที่มาสร้างความปั่นป่วนให้กับความสัมพันธ์ ซึ่งในทางธุรกิจ การทำ man-in-the-middle เป็นเทคนิคด้านไอทีที่มีคนเข้ามาแทรกระหว่างกลางของการสื่อสารระหว่างสองบริษัท ซึ่งช่องทางที่ง่ายที่สุดและจับได้ยากที่สุดก็คือช่องทางอีเมล!!! ในการติดต่อสื่อสารระหว่างสองบริษัทโดยเฉพาะการติดต่อคู่ค้าที่อยู่คนละประเทศ ช่องทางอีเมลย่อมเป็นช่องทางที่ได้รับความนิยมสูงสุดเนื่องจากประหยัดและสามารถอธิบายข้อความได้อย่างชัดเจนที่สุด โดยในทางธุรกิจก็จะนิยมใช้อีเมลตามด้วยโดเมนเนมองค์กรตนเอง ซึ่งการใช้อีเมลโดเมนองค์กรตนเองก็มีหลายทางเลือก ทางเลือกที่คนทั่วไปนิยมใช้ที่สุดก็คือใช้ระบบเมลที่แถมมากับการจดโดเมนและเว็บโฮสติ้ง ซึ่งผู้ให้บริการเว็บโฮสติ้งก็มักจะแถมระบบเมลฟรีที่ให้มากับเว็บโฮสติ้ง ที่ใช้งานแบบง่ายๆ อาจจะเปลี่ยนรหัสผ่านไม่ได้ วันดีคืนดีระบบล่ม หรือข้อมูลหาย เนื่องจากระบบอีเมลมักจะเป็นช่องทางที่พวกแสวงหาผลประโยชน์ในทางธุรกิจจับตามองและหาช่องในการยิงข้อความหรือล้วงความลับจากอีเมล แต่เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องจริงไม่อิงนิยายครับ เกิดขึ้นกับผู้ประกอบธุรกิจมาแล้วหลายราย และจะพบว่าการใช้เครื่องมือในทางธุรกิจที่ฟรีแต่มีจุดอ่อนมหาศาลย่อมไม่คุ้มค่ากับมูลค่าทางธุรกิจที่สูญเสียไป หนึ่งในเทคนิคที่มิจฉาชีพยุค 4.0 ใช้กันก็คือที่เราจั่วหัวครับ คือเทคนิคที่เรียกว่า man-in-the-middle วิธีการก็ไม่มีอะไรซับซ้อนครับ ผมขออนุญาตสมมติเหตุการณ์จริงที่เกิดกับผู้ประกอบธุรกิจหลายรายในนามสมมติ หากบังเอิญไปพ้องกับชื่อท่านใด ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ บริษัท AAA เป็นบริษัทที่ทำธุรกิจส่งออกสินค้าจากประเทศไทย โดยมีบริษัท BBB เป็นผู้สั่งสินค้าอยู่ที่ประเทศอูกันดา โดยบริษัท AAA มีเจ้าหน้าที่รับผิดชอบสมมติว่าชื่อ สมชาย โดยสมชายใช้อีเมลว่า somchai@aaa.com และติดต่อกับฝั่งอูกันด้าชื่อว่าไมเคิล สมมติว่าใช้เมลว่า michael@bbb.com โดยที่ผ่านมาก็สั่งสินค้าและโอนเงินกันปกติ เป็นคู่ค้าที่ดีมาหลายปี แม้จะพูดภาษาอังกฤษกันรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง แต่เรื่องเขียนอีเมลสมชายเขียนได้ถูกหลักไวยกรณ์เป๊ะ มีอยู่วันหนึ่งมีบุคคลที่สามสมมติว่ามาจากประเทศบัลแกเรีย ที่เป็นมิจฉาชีพชื่อว่า จอห์น โดยจอห์นกำลังหาเหยื่อที่มีจุดอ่อนทางเทคโนโลยี จอห์นก็ได้ใช้เครื่องมือที่แฮกเกอร์ใช้กันประจำและสแกนเข้าไปเจอพอร์ตว่า โดเมน aaa.com นี่หวานหมูในการเข้าแทรกระหว่างกลางตามคอนเซปของ man-in-the-middle จึงได้แทรกตัวเข้าไประหว่างอีเมล ที่แทรกตัวเข้าไปได้ โดยจอห์นได้สร้างอีเมลขึ้นอันหนึ่งที่ดูแล้วเหมือนกับโดเมนของ AAA มาก โดยใช้ชื่อว่า somchai@aa-a.com มองผ่านๆ โดยไม่ทันได้สังเกต จะมองไม่ออกถึงความแตกต่าง ทำไมชีวิตถึงได้ง่ายดายขนาดนี้ ก็เพราะเหตุผลง่ายๆ คือระหว่างกลางของการส่งข้อความไม่มีการ “encrypt” ข้อมูลเพื่อความปลอดภัย โดยจอห์นได้แทรกเข้าไปในเมลที่โต้ตอบระหว่างกันด้วยเมล somchai@aa-a.com หลังจากแทรกตัวเข้าไปดูข้อมูลสักพัก ก็ทราบได้ว่าบริษัท BBB กำลังจะสั่งสินค้าจากบริษัท AAA อยู่พอดี ซึ่งจอห์นได้เล็งไว้เรียบร้อยแล้วว่า BBB จะสั่งสินค้ากับ AAA เป็นมูลค่าประมาณ 5 ล้านบาท!!! หลังจากตกลงกันเรียบร้อย ถึงขั้นตอนการชำระเงิน สิ่งที่จอห์นทำก็คือ จอห์นก็ได้ส่งอีเมลจาก somchai@aa-a.com...
Continue readingเปลี่ยนแปลงการใส่ชื่อห้องประชุมใน Google Calendar
ทางกูเกิ้ลได้ทำการเปลี่ยนแปลงฟีเจอร์เล็กน้อยเพื่อให้คุณสามารถค้นหาห้องประชุมและแหล่งข้อมูลของอีเว้นท์ใน Google Calendar เมื่อคุณต้องการจองห้องประชุมสำหรับการประชุม หรือทำกิจกรรม เดิมทีข้อมูลเหล่านี้จะอยู่ในช่องสถานที่ (Location) ตอนนี้คุณจะเห็นข้อมูลเหล่านี้ในช่องรายชื่อแทน (Guests) และไม่อยู่ในช่องสถานที่อีกต่อไป การปรับเปลี่ยนครั้งนี้ช่วยให้คุณสามารถชี้แจงที่อยู่ หรือที่ตั้งของการประชุมหรือกิจกรรม เพื่อให้แขกของคุณเข้าใจได้ชัดเจนยิ่งขึ้นว่าจะต้องไปที่ใด บริษัท ดีมีเตอร์ ไอซีที จำกัด ผู้ให้บริการ G Suite ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ(ตัวแทน Google ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ)สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมพร้อมราคา G Suite โปรโมชั่นพิเศษ โทร! 02-030-0066 (Office) 092-262-6390 (Support) 095-896-5507 (Sale) 097-008-6314 (Sale) support@dmit.co.thOfficial LINE...