ช่วงนี้จะสังเกตได้ว่าหลายๆบริษัท ให้พนักงานทำงานที่บ้านได้แล้ว ซึ่งการทำงานที่บ้านอาจจะเป็นสิ่งดีๆสิ่งหนึ่งในตอนนี้ที่พอจะทำได้ในช่วงที่ทุกคนเครียดกับเจ้า Covid-19 จนถึงขั้นประสาทแดกไปแล้วทั่วประเทศเพราะถามตัวเองตลอดเวลาว่าติดรึยัง? แต่หารู้ไม่ว่าการทำงานที่บ้านมันก็มีข้อเสียเช่นกัน ซึ่งหนึ่งในข้อเสียของการทำงานที่บ้าน หรือ Work From Home นั้นมันก็คือ ก่อให้เกิดความเครียดและความเครียดสะสม เพราะว่ามันค่อนข้างที่จะผิดธรรมชาติของมนุษย์เกินไปสักหน่อย เพราะว่ามนุษย์เรานั้นเป็นสัตว์สังคม ชอบเจอผู้คน หรือการมีปฏิสัมพันธ์ ซึ่งการที่เราทำงานที่บ้านเป็นระยะเวลานานๆ ไม่ได้เจอเพื่อน ไม่ได้เจอคนอื่นๆ อาจจะก่อให้เกิดความเครียดสะสม และทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานน้อยลงได้ ดังนั้นเราจึงควรจะหากิจกรรมอื่นๆที่เราชอบทำควบคู่ไปกับการอยู่บ้านด้วย เพื่อเป็นสิ่งที่จะทำให้เราคลายความเครียดลง และยังเป็นการพักผ่อน บรรเทาความคิดเกี่ยวกับเรื่อง Covid-19 ให้น้อยลง มาดูกันดีกว่าว่ามีกิจกรรมอะไรบ้าง? ดูหนัง/ดูซีรี่ส์ เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ยอดฮิตในตอนนี้มากๆ ไม่ว่าจะเป็น Youtube, Netflix, LineTV, หรือ จะเป็นโทรทัศน์ หรือ ไลฟ์โชว์ต่างๆ เหมือนที่ตอนนี้เวลาเลื่อนดูไอจีสตอรี่ของใคร ก็ถ่ายรูปจอทีวีที่กำลังดู Netflix อยู่ อ่านหนังสือ สำหรับเหล่านักอ่านที่อยู่บ้านตอนนี้ ซึ่งการอ่านหนังสือก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ช่วยให้เราผ่อนคลายได้มากขึ้น ซึ่งก็มีหลากหลายแนวแล้วแต่คนจะชอบหรือสิ่งที่ตัวเองสนใจ เล่นเกม ก็เป็นอีกสิ่งนึงที่คลายเครียดได้ดีในช่วงนี้ แล้วธุรกิจ Streaming ในตอนนี้ก็เป็นที่นิยมมากๆพอกับ หนังหรือซีรี่ส์เลยด้วย แต่สำหรับบางคนอาจจะเครียดกว่าเดิม เพราะเล่นเกมแพ้ทำให้หัวร้อนมากขึ้น ออกกำลังกาย กิจกรรมนี้สำหรับสาย Healthy ที่ช่วงนี้ห้ามออกไปข้างนอก ซึ่ง Fitness ก็เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่เสี่ยงเพราะมีคนรวมตัวกกันเป็นจำนวนมาก ถึงแม้การออกกำลังกายที่บ้านอาจจะได้ไม่เท่า Fitness แต่ก็สามารถช่วยได้บางส่วนแล้วยังช่วยลดความเครียดได้อีกด้วย ทำความสะอาดบ้าน จัดของ กิจกรรมนี้สำหรับชาวพ่อบ้านหรือแม่บ้าน เวลานี้เป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่จะทำความสะอาดบ้านหรือจัดของภายในบ้านที่เราอาจจะไม่ได้ทำมันมานานหรืออันนี้ยังไม่มีเวลา ตอนนี้เราต้องอยู่บ้านเราควรจัดพื้นที่ในการทำงาน และ ความสะอาด ให้ผ่อนคลายและสบายที่สุด ทำอาหาร กิจกรรมนี้สำหรับคนที่ชอบทำอาหารและคนที่ซื้อของมากักตุนในช่วงนี้ ก็เป็นช่วงเวลาอันดีเช่นกัน ที่จะได้ฝึกฝีมือการทำอาหาร และยังเป็นกิจกรรมที่ช่วยคลายเครียดได้ดี อีกหนึ่งกิจกรรมเลย แต่สำหรับคนที่ไม่ชอบทำจริงๆ การอยู่บ้านแบบนี้ก็แนะนำเป็น Food Delivery ต่างๆ ช้อปปิ้งออนไลน์ กิจกรรมนี้สำหรับนักช้อปตัวยง ที่ตอนนี้เหล่าเว็บไซด์ช้อปปิ้งออนไลน์ มีโปรโมชั่นมากมายและแข่งขันกันสูงมากในช่วงนี้ ไม่ว่าจะเป็น Lazada หรือ Shopee ที่จะช่วยผ่อนคลายเหล่านักช้อปให้คลายความเครียดนี้ไปได้ ซึ่งตัวช่วยที่จะ Support คุณ และ ลดความเครียดในการทำงานที่บ้านได้ดียิ่งขึ้น เหมือนทำงานอยู่ที่บริษัท...
Continue reading6 วิธีใช้ G Suite ร่วมกับค่ายอื่น
ทริคการใช้ G Suite ร่วมกับ Non G Suite หลายคนอาจจะยังสงสัยว่า ถ้าใช้ G Suite แล้ว จะสามารถทำงานร่วมกับผู้ที่ไม่ได้ใช้ G Suite อย่าง Microsfoft Office ได้อยู่หรือไม่ เนื่องจากมีเคสที่ต้องส่ง-รับไฟล์ ที่นอกเหนือจาก Google files กับลูกค้าหรือผู้ร่วมงานอื่น คำตอบก็คือ ได้แน่นอนครับเนื่องจากเป็นการทำงานรูปแบบ cross ค่ายกัน ซึ่งต้องรู้วิธีการใช้หลักๆ เพื่อให้การใช้งาน G Suite กับ non G Suite เป็นไปอย่างลื่นไหล ซึ่งผมหยิบวิธีการใช้งาน G Suite กับ Microsoft มาประมาณ 6 หัวข้อที่ใช้งานกันบ่อยที่สุดมาฝากกัน จะบอกว่าถ้าทำเป็นแล้ว ครั้งต่อไปก็จะเร็วขึ้นกว่าเดิมแน่นอนครับ 1. นัดหมายและประชุมวิดิโอคอลข้ามค่ายได้เลย หากต้องการนัดหมายและประชุมวิดิโอคอลกับผู้ที่ไม่ได้ใช้ G Suite หรือ นอกเหนือจาก @gmail.com ก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยใช้ Calendar เพื่อสร้างอีเว้นท์และทำการเชิญเข้าร่วมประชุม โดยให้ผู้ใช้ G Suite เป็นคนสร้างการนัดหมายประชุม และเชิญผู้ที่ไม่ใช่ G Suite เข้าร่วม จะเห็นได้ว่าวิธีการนัดประชุมกับวิดิโอคอลก็ทำได้ปกติเลยครับ โดยเฉพาะ Hangouts Meet ที่ถ้าผู้ไม่ได้ใช้ G Suite ก็สามารถเข้าร่วมได้ แค่กดผ่านลิ้งค์เท่านั้นเอง เหมือนปกติทุกอย่างเลยครับ 2. เปลี่ยนไฟล์ Microsoft Office ให้เป็น Google files ผู้ที่ใช้งาน G Suite ก็ยังสามารถใช้งาน Office ไฟล์ ได้เช่นกัน แม้จะไม่มีโปรแกรม Office ในเครื่อง PC โดยที่คุณสามารถเปิดไฟล์นั้นบน Chrome browser เพื่อดู...
Continue reading6 เคล็ดลับ Video Conference อย่างไรให้ราบรื่น
ในช่วงที่ประสบปัญหาวิกฤติ COVID-19 อยู่ในตอนนี้ หลายคนเลือก Video Conference หรือการประชุมผ่านวิดีโอเป็นตัวหลักในการทำงานแบบ Work from home แต่การประชุมผ่านวิดีโอนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับทุกคนเสมอไป โดยเฉพาะบ้านที่มีเด็กๆ หรือสัตว์เลี้ยง ซึ่งอาจมีเสียงรบกวนเล็ดลอดเข้ามาขณะประชุมได้ วันนี้เรามี 6 เคล็ดลับดีๆ จาก Google ที่จะช่วยให้คุณสามารถประชุมทางวิดีโอได้อย่างราบรื่นขณะอยู่ที่บ้าน อ่านบทความเพิ่มเติม: 6 เคล็ดลับจาก Google | Work from home อย่างไรให้เวิร์ค เคล็ดลับที่ 1: เลือกบรรยากาศที่เหมาะสม การพูดคุยเกี่ยวกับปัญหาที่ซับซ้อน หรือระดมความคิด วิดีโอคอนเฟอเรนซ์จึงเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากกว่าการพิมพ์แชทหรืออีเมล แต่ก็ควรนึกถึงสภาพแวดล้อมรอบตัวคุณด้วย เช่น พยายามเลือกฉากหลังเป็นกำแพงธรรมดาและหลีกเลี่ยงหน้าต่างที่อาจะทำให้เกิดการย้อนแสง หรือหากคุณวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ด้วยแล็ปท็อป ไม่ควรวางแล็ปท็อปไว้บนตัก หรือขยับหน้าจอไปมาบ่อยๆ เพราะการส่ายหน้าจอเพียงเล็กน้อยนั้นอาจะทำให้ผู้เข้าร่วมคนอื่นเสียสมาธิได้ เคล็ดลับที่ 2: นัดประชุมง่ายๆ เพียงไม่กี่คลิก สามารถตั้งค่าการประชุมและเชิญผู้เข้าร่วมได้ทั้งภายในและภายนอกองค์กรได้อย่างง่ายดายจาก Google Calendar ที่ซิงค์เข้ากับ Hangouts Meet โดยระบบจะสร้างลิงก์สำหรับเข้าร่วมประชุมให้คุณโดยอัตโนมัติ เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าร่วมได้จากทุกที่ เคล็ดลับที่ 3: ได้ยินไม่ถนัด? ลองเปิดโหมดคำบรรยายใต้ภาพ หากคุณอยู่ในสถานการณ์ที่มีเสียงดังรบกวน แถมยังไม่มีหูฟังด้วย คุณสามารถเปิดใช้ฟีเจอร์คำบรรยายใต้ภาพหรือโหมด Caption ได้ใน Hangouts Meet เพื่อแสดงคำบรรยายใต้ภาพแบบเรียลไทม์ (เช่นเดียวกับคำบรรยายในทีวี) แต่ปัจจุบันฟีเจอร์นี้รองรับเฉพาะภาษาอังกฤษเท่านั้น เคล็ดลับที่ 4: แชร์หน้าจอเฉพาะสิ่งที่ต้องการนำเสนอ ในระหว่างการนำเสนอผ่านการแชร์หน้าจอ แล้วทุกคนที่เข้าร่วมประชุมเห็นทุกอย่างบนหน้าจอของคุณ ไม่ว่าจะเป็นหน้าอีเมลที่อาจมีอีเมลสำคัญ หรือหน้าเพจโซเชียลมีเดียที่กำลังเปิดค้างอยู่ ก็อาจจะดูไม่เหมาะสมเท่าไหร่ ให้ลองเลือกแชร์หน้าจอแบบหน้าต่างเดียว (A window) แทนการแชร์หน้าจอทั้งหมด (Your entire screen) เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะแชร์หน้าจอเฉพาะสิ่งที่ต้องการนำเสนอเท่านั้น เคล็ดลับที่ 5: เปลี่ยนเลย์เอาท์ของหน้าจอให้เหมาะสม ใน Hangouts Meet สามารถปรับเปลี่ยนเลย์เอาท์ของวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ได้ ลองปรับเลย์เอาท์ให้เหมาะสมกับการพูดคุยภายในทีมของคุณ เช่น ตั้งค่าให้เห็นเฉพาะหน้าจอที่เพื่อนในทีมแชร์ หรือจะให้สามารถเห็นผู้พูดขณะแชร์หน้าจอด้วยก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่าต้องการมุ่งเน้นไปที่ผู้พูดหรือหน้าจอการนำเสนอ เคล็ดลับที่ 6: ปล่อยตัวตามสบาย...
Continue readingถอดบทเรียน รับมืออย่างไร เมื่อพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนในวิกฤต COVID-19
ถอดบทเรียน เมื่อพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป แบรนด์ดังต่างๆ รับมือกับวิกฤตครั้งนี้อย่างไร ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อนในยุคที่อินเตอร์เนตและค้าขายออนไลน์ยังไม่เฟื่องฟู ผู้บริโภคไม่มีทางเลือกนอกจากไปเลือกซื้อของที่หน้าร้านค้า เป็น Customer Journey แบบ Single Channel ที่ครบจบในที่เดียว กระทั่งหลายปีต่อมากระแสออนไลน์มาแรง ทำให้ผู้บริโภคมีช่องทางสั่งซื้อที่หลากหลายมากขึ้น จนถึงช่องทางแบบ Omnichannel รวมทุกช่องทางเข้าไว้ด้วยกัน หลายองค์กรต่างต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การตลาดกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้าง Journey ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคและสร้างประสบการณ์ที่ดีให้มากที่สุด ใครเล่าจะคาดคิดว่าในอีกเพียงไม่นานจะเกิดวิกฤตครั้งใหญ่ เมื่อพฤติกรรมผู้บริโภคจำต้องเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เพราะไวรัส COVID-19 ธุรกิจที่คาดว่าได้รับผลกระทบเชิงลบจาก COVID-19 ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว หมวดช๊อปปิ้ง ธุรกิจประเภทพักผ่อนหย่อนใจ ร้านเครื่องดื่ม คาเฟ่ สินค้าหมวดฟุ่มเฟือย / ไม่จำเป็นขั้นพื้นฐาน สินค้าแบรนด์เนม สุรา ไวน์ เราลองมาดูกันว่าในภาวะวิกฤตอย่างนี้ หลายแบรนด์ดังในธุรกิจประเภทที่ได้รับผลกระทบออกมาตรการรับมืออย่างไร ธุรกิจท่องเที่ยวทรุดหนัก หมวดการท่องเที่ยวถือว่ากระทบหนักที่สุด เป็นเหตุให้แม้แต่เครือโรงแรมยักษ์ใหญ่อย่างแอสเสท เวิรล์ คอร์ป จำกัด หรือ AWC ผู้นำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของไทย ประกาศปิดโรงแรม 5 แห่งในกรุงเทพชั่วคราว และกำหนดให้พนักงาน Work From Home โดย AWC จะพิจารณาสถานการณ์เป็นรายสัปดาห์ ลดความเสี่ยงจากการเดินทาง และการรวมกลุ่มคนจำนวนมากในการประชุมต่างๆ รวมถึงได้ทำประกันโรคโควิด-19 โดยเลือกแผนประกันที่ดีที่สุดให้กับพนักงานทั้งหมดกว่า 6,000 คน ทั้งส่วนของบริษัทเองและพนักงานโรงแรมทั้งหมดในกลุ่ม AWC และพนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่ในโครงการต่าง ๆ ของ AWC นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ของ AWC กล่าวว่า พนักงานของโรงแรมทั้ง 5 แห่งที่ปิดให้บริการชั่วคราวนั้นมีจำนวน 2,000 คนนั้น จะยังคงได้รับค่าจ้าง เงินเดือน และสวัสดิการพนักงานตามปกติในระหว่างการหยุดงาน โดยบริษัทมีข้อกำหนดให้พนักงานทั้งหมดพักอยู่ที่บ้าน เลี่ยงเดินทางเคลื่อนย้ายไปยังจังหวัดอื่น ๆ โดยเด็ดขาด เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโควิด-19 ตามนโยบายของภาครัฐ พร้อมทั้งมีการจัดแผนปรับปรุง รวมทั้งการทำความสะอาดใหญ่ทั่วทั้งบริเวณ (Big Cleaning) ในทั้ง 5 โรงแรมระหว่างปิดดำเนินการ...
Continue reading6 เคล็ดลับจาก Google Work from home อย่างไรให้เวิร์ค
เมื่อทำงานจากที่บ้าน กลยุทธ์ในการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานจึงมีความสำคัญมากขึ้น เพราะโครงสร้างในการทำงานเปลี่ยนไป เช่น การเดินทางเข้าออฟฟิศ หรือเดินเข้าไปประชุมในห้องร่วมกัน เมื่อในตอนนี้บ้านของเรากลายเป็นออฟฟิศ เราจึงต้องปรับตัวและเรียนรู้กิจวัตรในการทำงานแบบใหม่ทั้งหมด หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่า การ Work from home หรือการทำงานนอกเหนือจากอยู่ในออฟฟิศ เป็นสิ่งที่คนจาก Google คุ้นเคยกันดี และทำเป็นปกติกันอยู่แล้ว ครั้งนี้เราเลยมีเคล็ดลับดีๆ จาก Google ในการ Work from home ให้มีประสิทธิภาพมาฝากกัน ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Work from home ด้วย Google G Suite 1. กำหนด “จุด” ที่คุณทำงาน (และไม่ทำงาน) การหยิบโน้ตบุคขึ้นมาทำงานบนโซฟาแล้วเริ่มทำงานก็ง่ายดี แต่การจัดสถานที่ให้สอดคล้องกับสถานที่ทำงานที่คุณเคยไปอยู่ทุกวัน จะช่วยให้สมองของคุณเชื่อมโยงจุดนั้นกับการทำงานให้เสร็จลุล่วงได้ ลองจัดโต๊ะให้คล้ายกับโต๊ะที่ออฟฟิศ เช่น วางกระถางไม้ประดับจิ๋วๆ กล่องเครื่องเขียน หรือสต็อกขนมต่างๆ ไว้บนชั้นวางของเล็กๆ และที่สำคัญเช่นเดียวกับการสร้าง “จุดทำงาน” ของคุณคือการกำหนดพื้นที่ที่คุณจะไม่ทำงาน เช่น ไม่ทำงานในห้องนอน จะช่วยสร้างระยะห่างทางจิตใจ และช่วยให้คุณผ่อนคลายมากขึ้น 2. ลองใช้ Hangouts Meet แน่นอนว่า การ Work from home ต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการประชุมออนไลน์ Hangouts Meet คืออีกหนึ่งตัวช่วยที่ดี ใช้งานง่าย เพียงแค่ตั้งค่าการประชุมแล้วแชร์ลิงก์ก็เป็นอันเสร็จ รองรับการใช้งานผ่านทุกแพล็ตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็นแล็บท็อป โทรศัพท์มือถือ หรือแท็บเล็ต 3. ทำกิจวัตรให้เป็นปกติ การเริ่มทำงานบนเตียงหลังจากตื่นนอนเลย ไม่ได้ช่วยให้สมองของคุณมีอารมณ์ในการสร้างผลงาน การอยู่ในชุดนอนจะทำให้คุณรู้สึกเหมือนเป็นวันทำงานปกติน้อยลง พยายามปฏิบัติตามกิจวัตรประจำวันของคุณตามปกติ เช่น ตื่นนอน อาบน้ำแต่งตัว กินอาหารเช้า แล้วเดินไปยังพื้นที่ทำงานของคุณ จะช่วยให้สามารถทำสิ่งต่างๆ ได้ง่ายขึ้น 4. Work from home ไม่ใช่การทำงานตลอดเวลา หนึ่งในสิ่งที่ยากที่สุดเกี่ยวกับการทำงานจากที่บ้านคือการกำหนดขอบเขต วางแล็บท็อปไว้ในพื้นที่ทำงานและทำงานเฉพาะเมื่อคุณอยู่ในจุดนั้น อาจตั้งเวลาทำงานใน Google Calendar ด้วย เพื่อให้เพื่อนร่วมทีมรู้ว่าเวลาไหนที่คุณพร้อมทำงาน...
Continue readingG Suite ทำอะไรได้บ้าง
G Suite คืออะไร? “G Suite” คือ บริการอีกอย่างหนึ่งจาก Google ซึ่งปัจจุบันได้ทำการรีแบรนด์เป็น Google Workspace มีการเปลี่ยนดีไซน์ของไอคอน แต่การทำงานยังคงเหมือนเดิม เป็นชุดแอปพลิเคชันที่ใช้สำหรับบริหารจัดการองค์กร เหมาะกับธุรกิจทุกขนาด ไม่ว่าจะขนาดเล็ก ขนาดกลาง หรือแม้แต่ขนาดใหญ่ โดยจะมีแอปพลิเคชันเหมาะสำหรับการทำงานต่างๆ มากมายให้เลือกใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น Gmail – ที่อยู่อีเมลภายใต้ชื่อโดเมนบริษัท (เช่น you@yourcompany.com)Google Calendar – การนัดหมาย และปฏิทินออนไลน์Google Drive – พื้นที่ในการจัดเก็บไฟล์ และข้อมูลบน Cloud ได้มากกว่า Free Gmail ถึง 2 เท่าDocs, Sheets, Slides, Forms – เครื่องมือสำหรับทำงานร่วมกันแบบเรียลไทม์Google Meet – Video Conference สำหรับองค์กรAdmin – ตัวควบคุม และจัดการบัญชีผู้ใช้ทั้งหมดในองค์กร และอื่นๆ อีกมากมายใน แอปพลิเคชันทั้งหมดของ G Suite ด้วยการทำงานทั้งหมดของ G Suite จะอยู่บนระบบคลาวด์ (Cloud) เพียงแค่เชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ต ก็สามารถทำงานจากที่ไหนก็ได้ นอกจากนี้ยังรองรับการใช้งานผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ได้อีกด้วย แพ็กเกจและราคา G Suite G Suite แบ่งการให้บริการเป็น 3 แพ็กเกจ คือ G Suite Basic G Suite Business G Suite Enterprise ดูแพ็กเกจและราคา เหตุผลที่ควรใช้ G Suite เทคโนโลยี Could Computing ทำให้ข้อมูลของผู้ใช้สามารถเก็บได้นาน ไม่ต้องกลัวข้อมูลสูญหาย และไม่ต้องเสียเวลากับการลงโปรแกรม หรืออัปเดตเวอร์ชัน ระบบจะอัปเดตเวอร์ชันเองโดยอัตโนมัติ ลดภาระให้กับแผนก IT หรือหากบริษัทไม่มีแผนก IT ก็สามารถใช้งานได้อย่างง่ายดาย พื้นที่อีเมลและ Google...
Continue readingพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส จัดงานสัมมนาออนไลน์ด้วย YouTube Live ห่างไกล COVID-19
แชร์ประสบการณ์ จัดงานสัมมนาออนไลน์ด้วย YouTube Live สำหรับสถานการณ์แห่งปี 2020 ที่เราทุกคนกำลังประสบอยู่ในขณะนี้และคงจะเป็นที่จดจำไปอีกนานคงหนีไม่พ้นเรื่องของการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของชาวมนุษย์เงินเดือนเป็นอย่างมาก เรามาถึงยุคที่เรารู้สึกระแวงกันเอง การเดินทางไปยังที่ต่าง ๆ ก็ต้องมีการป้องกันตัวเองให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ธุรกิจหลายประเภทหยุดชะงัก ทำให้หลาย ๆ บริษัทต้องหามาตรการและทางออกที่ดีที่สุดเพื่อให้ธุรกิจยังคงดำเนินอยู่ได้แม้ในสถานการณ์ที่ไม่เป็นใจเช่นนี้ สำหรับผมที่มีหน้าที่ในการจัดงานสัมมนาให้กับลูกค้าของทางบริษัท Demeter ICT ก็เป็นอีกคนที่ต้องหาทางออกเช่นกัน เนื่องจากงานสัมมนาสำหรับลูกค้าเป็นบริการหลังการขายที่ทางบริษัทประสงค์ที่จะให้ลูกค้าได้ใช้งานผลิตภัณฑ์ G Suite ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ปรึกษาหารือเพื่อแก้ไขปัญหาการจัดงานสัมมนา เนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 ในส่วนของความคิดเห็นที่มาจากการปรึกษาหารือทั้งนอกและในองค์กรแตกออกเป็นหลายแบบ บางกลุ่มเห็นว่าควรจะ “เลื่อนงานออกไปก่อน” ในขณะที่บางกลุ่มเห็นว่าควร “ยกเลิกไปเลย” แต่ด้วยความที่การสัมมนาที่ผมจะจัดขึ้น เป็นสิ่งที่ผมได้สื่อสารและสัญญากับลูกค้าไปแล้วว่าจะมีการจัดสัมมนาให้กับลูกค้าในทุกไตรมาส การตัดสินใจของผมซึ่งเป็นผู้จัดงานจึงอาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นขององค์กร ผมจึงตัดสินใจที่จะจัดงานสัมมนาตามเดิม แต่ได้นำเทคโนโลยีใกล้ตัวเข้ามาช่วยในการจัดสัมมนาในครั้งนี้ ในที่ประชุมผมได้บอกกับทีมงานว่า “ผมไม่รู้เหมือนกันว่าลูกค้าจะให้ความสนใจในการสัมมนาออนไลน์มากน้อยแค่ไหน แต่ผมอยากจัดงานสัมมนาให้ลูกค้าตามสัญญา และอยากทดลองเหมือนกันว่าจะเป็นอย่างไร ในเมื่อเรามีเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ที่เราได้ให้บริการเองอยู่แล้ว เราต้องแสดงให้ลูกค้าเห็นว่ามันมีประโยชน์และใช้ได้จริง เราต้องเริ่มใช้ก่อนจึงจะบอกลูกค้าได้อย่างเต็มปากว่าของเราดีจริง” ด้วยเหตุนี้เองจึงเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนจากงานสัมมนาที่จัดแบบ Workshop มาเป็นรูปแบบออนไลน์แทน ด้วยระยะเวลาการเตรียมตัวไม่ถึงสัปดาห์ ตัดสินใจจัดงานสัมมนาออนไลน์กับ YouTube Live โดยในการจัดงานสัมมนาออนไลน์ในครั้งนี้เราได้ใช้เครื่องมือที่เรียกว่า “YouTube Live” ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ของ Google เช่นกัน หลาย ๆ ท่านถามผมว่าทำไมไม่ใช้ Live Streaming ใน Hangouts Meet ที่ Google ให้ใช้ฟรีโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย แต่เนื่องจาก Live Streaming ใน Hangouts Meet รองรับเฉพาะอีเมลผู้ใช้งานภายในองค์กรเดียวกันเท่านั้น จึงเป็นที่เห็นพ้องต้องกันว่า YouTube Live ตอบโจทย์กับการใช้งานและกลุ่มเป้าหมายของเราที่สุด Google Hangouts คืออะไร เตรียมความพร้อมให้เป๊ะก่อนวัน Live จริง ในการเตรียมความพร้อมของการจัดงานสัมมนาออนไลน์ในครั้งนี้แบ่งออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ ๆ คือ ความพร้อมด้านเครื่องมือ ความพร้อมด้านเนื้อหา และความพร้อมด้านผู้บรรยาย ความพร้อมด้านเครื่องมือ หลังจากตัดสินใจใช้ YouTube Live...
Continue readingWork From Home มีข้อดี ข้อเสียอย่างไร?
เนื่องจากสถานการณ์ตอนนี้ที่ Covid-19 หรือไวรัสโคโรน่า ได้แพร่ระบาดไปแล้ว 30 กว่าจังหวัดทั่วประเทศ ทำให้บางที่ทำงานหรือบริษัท ได้มีมาตรการเพื่อช่วยเหลือพนักงานโดยการที่ให้พนักงานทำงานที่บ้าน หรือ การ Work From Home ซึ่งมีที่มา จากฝั่งอเมริกาและยุโรป ก่อนที่จะมีสถานการณ์ Covid-19 ซะอีก เพราะพวกเขาเชื่อมั่นว่าการที่พนักงานได้ผ่อนคลายหรือมีความสุข มันก็จะส่งผลถึงงานที่ทำซึ่งมันก็จะทำให้งานออกมาดีไปด้วย ซึ่งถ้าพูดถึงบริษัทในไทยก็มีบางบริษัทที่เริ่มนำนโยบายนี้มาลองปรับใช้ในบริษัท ตัวอย่าง เช่น บริษัท ดีมีเตอร์ ไอซีที จำกัด ของเรานั่นแหละ ที่มีนโยบายให้ พนักงาน Work From Home ที่บ้านได้อาทิตย์ละ 1 วัน แต่ในช่วงนี้สถานการณ์ไม่ค่อยดี ก็เลย Work From Home ไปยาวๆ มาดูข้อดี ข้อเสีย ของการ Work From Home กันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง ข้อดี ปลอดภัยทั้งต่อตนเองและผู้อื่น เพราะ เราไม่ได้ไปพบผู้คนด้านนอก หรือพบน้อยที่สุดซึ่งตอนนี้เราไม่รู้ว่าใครเป็นใคร สามารถจัดการเวลาการทำงานตามเวลาที่ตัวเองต้องการได้ ผ่อนคลายและมีความกดดันน้อยกว่าทำงานอยู่ที่บริษัท ประหยัดค่าเดินทางและประหยัดเวลาในการเดินทางทำให้เรามีเวลาในการทำอย่างอื่นมากขึ้น สุขภาพอาจจะดีขึ้นเพราะไม่ต้องมาเจอมลพิษด้านนอก แต่ก็ต้องอย่าลืมออกกำลังกายด้วย ได้ศึกษาทดลองใช้ฟีเจอร์หรือระบบใหม่ๆที่เกี่ยวกับการทำงานแบบ Work From Home เพราะเวลาที่อยู่บริษัทไม่ได้ใช้ระบบเหล่านี้ ข้อเสีย เวลาอยู่บ้านสิ่งเร้ามีมากมาย เช่น เตียง คอม เกม หรือจะเป็นสัตว์เลี้ยง ทำให้คุณต้องมีสมาธิและจิตใจที่แข็งแกร่งมากพอ ความขี้เกียจ เพราะไม่มีใครมากดดันหรือสั่งให้เราทำเหมือนตอนที่อยู่ในบริษัท เวลาอยู่บ้านคุณจะหยิบนู่นหยิบนี่กินตลอดเวลา อาจจะทำให้คุณอ้วนขึ้นได้ บางบริษัทยังไม่มีระบบการทำงานที่จะทำให้พนักงานสามารถทำงานที่บ้านได้ จึงอาจทำให้เกิดความผิดพลาดในการสื่อสารในการทำงาน และในสถานการณ์ปัจจุบันยิ่งเป็นสถานการณ์ที่ควรหลีกเลี่ยงเพื่อความปลอดภัยของพนักงานและลดการแพร่เชื้อภายในประเทศ ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าไม่ใช่ทุกๆบริษัทที่จะเหมาะสมกับการทำงานแบบ Work From Home แต่ว่าถ้าหากคุณลองเปลี่ยนแปลงหรือปรับเปลี่ยนการทำงานบางอย่าง คุณอาจจะเจอวิธีการทำงานที่สะดวกและดีกว่า อย่างเช่นระบบของ Zendesk ที่ไม่ได้ช่วยแค่ด้าน Customer Service อย่างเดียวเท่านั้น แต่คุณสามารถปรับเปลี่ยนไปใช้ในองค์กร เช่น การเก็บข้อมูลหรือการสื่อสารภายในองค์กรที่ทำให้ช่วยประหยัดเวลา และง่ายต่อการใช้งานมากขึ้นไปอีกด้วย ตัวอย่างเช่น ถ้าลูกค้าติดต่อมาหา Customer Service...
Continue readingGoogle Meet คืออะไร
Google Meet อยู่ใกล้หรือไกล การสื่อสารก็ไม่เอ้าท์! หากพูดถึงโปรแกรมสำหรับการ video conference หรือ ระบบแชทคุยกันในองค์กร แน่นอนว่ามีหลายผลิตภัณฑ์มากมายให้เลือกใช้ รวมทั้ง Google Meet (เดิมชื่อ Hangouts Meet) ซึ่งเป็นหนึ่งในฟีเจอร์ของ Google Workspace Google Meet คือ หนึ่งใน ฟีเจอร์มาแรงของ Google Workspace ที่เรียกได้ว่าฮิตมากกับรูปแบบการทำงานในปัจจุบัน โดยเฉพาะการทำงานแบบ Work From Home ซึ่งเป็นที่นิยมมาก ในสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 หรือ COVID-19 Google Meet มีไว้สำหรับการสื่อสารโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นการแชท หรือ video conference ประชุมออนไลน์ ทั้งภายในและนอกองค์กร เพราะสะดวกมากแค่เข้าผ่านอุปกรณ์ที่เชื่อมอินเทอร์เน็ต ก็สามารถใช้งานได้เลยทันที หากท่านใดใช้ account อีเมลเป็น @gmail อยู่แล้ว สามารถใช้ได้เลยฟรีๆ หรือจะเป็น Google Workspace Package สำหรับองค์กร ก็จะได้สิทธิการใช้งานแตกต่างกันออกไปแล้วแต่ Package ที่ใช้ ซึ่งมีตั้งแต่ Basic Business และ Enterprise ดูฟีเจอร์ Google Workspace ทั้งหมด ดาวน์โหลดคู่มือการใช้งาน Googl Meet&Chat : PDF รู้จัก Google Meet และ Google Chat Google Chat Google Chat (เดิมชื่อ Hangouts Chat) ฟีเจอร์นี้ไว้สำหรับการคุยแชทกัน ซึ่งได้ทั้งภายในและภายนอกองค์กร สามารถสร้างแชทรายบุคคล รายกลุ่มหรือสร้างเป็นห้อง Room Chat เลยก็ได้ ถ้าถามว่าทำไมต้องใช้ ฟีเจอร์ Google Chat ตัวนี้...
Continue reading