6 เคล็ดลับจาก Google Work from home อย่างไรให้เวิร์ค

เมื่อทำงานจากที่บ้าน กลยุทธ์ในการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานจึงมีความสำคัญมากขึ้น เพราะโครงสร้างในการทำงานเปลี่ยนไป เช่น การเดินทางเข้าออฟฟิศ หรือเดินเข้าไปประชุมในห้องร่วมกัน เมื่อในตอนนี้บ้านของเรากลายเป็นออฟฟิศ เราจึงต้องปรับตัวและเรียนรู้กิจวัตรในการทำงานแบบใหม่ทั้งหมด หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่า การ Work from home หรือการทำงานนอกเหนือจากอยู่ในออฟฟิศ เป็นสิ่งที่คนจาก Google คุ้นเคยกันดี และทำเป็นปกติกันอยู่แล้ว ครั้งนี้เราเลยมีเคล็ดลับดีๆ จาก Google ในการ Work from home ให้มีประสิทธิภาพมาฝากกัน ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Work from home ด้วย Google G Suite 1. กำหนด “จุด” ที่คุณทำงาน (และไม่ทำงาน) การหยิบโน้ตบุคขึ้นมาทำงานบนโซฟาแล้วเริ่มทำงานก็ง่ายดี แต่การจัดสถานที่ให้สอดคล้องกับสถานที่ทำงานที่คุณเคยไปอยู่ทุกวัน จะช่วยให้สมองของคุณเชื่อมโยงจุดนั้นกับการทำงานให้เสร็จลุล่วงได้ ลองจัดโต๊ะให้คล้ายกับโต๊ะที่ออฟฟิศ เช่น วางกระถางไม้ประดับจิ๋วๆ กล่องเครื่องเขียน หรือสต็อกขนมต่างๆ ไว้บนชั้นวางของเล็กๆ และที่สำคัญเช่นเดียวกับการสร้าง “จุดทำงาน” ของคุณคือการกำหนดพื้นที่ที่คุณจะไม่ทำงาน เช่น ไม่ทำงานในห้องนอน จะช่วยสร้างระยะห่างทางจิตใจ และช่วยให้คุณผ่อนคลายมากขึ้น 2. ลองใช้ Hangouts Meet แน่นอนว่า การ Work from home ต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการประชุมออนไลน์ Hangouts Meet คืออีกหนึ่งตัวช่วยที่ดี ใช้งานง่าย เพียงแค่ตั้งค่าการประชุมแล้วแชร์ลิงก์ก็เป็นอันเสร็จ รองรับการใช้งานผ่านทุกแพล็ตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็นแล็บท็อป โทรศัพท์มือถือ หรือแท็บเล็ต 3. ทำกิจวัตรให้เป็นปกติ การเริ่มทำงานบนเตียงหลังจากตื่นนอนเลย ไม่ได้ช่วยให้สมองของคุณมีอารมณ์ในการสร้างผลงาน การอยู่ในชุดนอนจะทำให้คุณรู้สึกเหมือนเป็นวันทำงานปกติน้อยลง พยายามปฏิบัติตามกิจวัตรประจำวันของคุณตามปกติ เช่น ตื่นนอน อาบน้ำแต่งตัว กินอาหารเช้า แล้วเดินไปยังพื้นที่ทำงานของคุณ จะช่วยให้สามารถทำสิ่งต่างๆ ได้ง่ายขึ้น 4. Work from home ไม่ใช่การทำงานตลอดเวลา หนึ่งในสิ่งที่ยากที่สุดเกี่ยวกับการทำงานจากที่บ้านคือการกำหนดขอบเขต วางแล็บท็อปไว้ในพื้นที่ทำงานและทำงานเฉพาะเมื่อคุณอยู่ในจุดนั้น อาจตั้งเวลาทำงานใน Google Calendar ด้วย เพื่อให้เพื่อนร่วมทีมรู้ว่าเวลาไหนที่คุณพร้อมทำงาน...

Continue reading

G Suite ทำอะไรได้บ้าง

G Suite คืออะไร? “G Suite” คือ บริการอีกอย่างหนึ่งจาก Google ซึ่งปัจจุบันได้ทำการรีแบรนด์เป็น Google Workspace มีการเปลี่ยนดีไซน์ของไอคอน แต่การทำงานยังคงเหมือนเดิม เป็นชุดแอปพลิเคชันที่ใช้สำหรับบริหารจัดการองค์กร เหมาะกับธุรกิจทุกขนาด ไม่ว่าจะขนาดเล็ก ขนาดกลาง หรือแม้แต่ขนาดใหญ่ โดยจะมีแอปพลิเคชันเหมาะสำหรับการทำงานต่างๆ มากมายให้เลือกใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น Gmail – ที่อยู่อีเมลภายใต้ชื่อโดเมนบริษัท (เช่น you@yourcompany.com)Google Calendar – การนัดหมาย และปฏิทินออนไลน์Google Drive – พื้นที่ในการจัดเก็บไฟล์ และข้อมูลบน Cloud ได้มากกว่า Free Gmail ถึง 2 เท่าDocs, Sheets, Slides, Forms – เครื่องมือสำหรับทำงานร่วมกันแบบเรียลไทม์Google Meet – Video Conference สำหรับองค์กรAdmin – ตัวควบคุม และจัดการบัญชีผู้ใช้ทั้งหมดในองค์กร และอื่นๆ อีกมากมายใน แอปพลิเคชันทั้งหมดของ G Suite ด้วยการทำงานทั้งหมดของ G Suite จะอยู่บนระบบคลาวด์ (Cloud) เพียงแค่เชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ต ก็สามารถทำงานจากที่ไหนก็ได้ นอกจากนี้ยังรองรับการใช้งานผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ได้อีกด้วย แพ็กเกจและราคา G Suite G Suite แบ่งการให้บริการเป็น 3 แพ็กเกจ คือ G Suite Basic G Suite Business G Suite Enterprise ดูแพ็กเกจและราคา เหตุผลที่ควรใช้ G Suite เทคโนโลยี Could Computing ทำให้ข้อมูลของผู้ใช้สามารถเก็บได้นาน ไม่ต้องกลัวข้อมูลสูญหาย และไม่ต้องเสียเวลากับการลงโปรแกรม หรืออัปเดตเวอร์ชัน ระบบจะอัปเดตเวอร์ชันเองโดยอัตโนมัติ ลดภาระให้กับแผนก IT หรือหากบริษัทไม่มีแผนก IT ก็สามารถใช้งานได้อย่างง่ายดาย พื้นที่อีเมลและ Google...

Continue reading

พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส จัดงานสัมมนาออนไลน์ด้วย YouTube Live ห่างไกล COVID-19

แชร์ประสบการณ์ จัดงานสัมมนาออนไลน์ด้วย YouTube Live สำหรับสถานการณ์แห่งปี 2020 ที่เราทุกคนกำลังประสบอยู่ในขณะนี้และคงจะเป็นที่จดจำไปอีกนานคงหนีไม่พ้นเรื่องของการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของชาวมนุษย์เงินเดือนเป็นอย่างมาก เรามาถึงยุคที่เรารู้สึกระแวงกันเอง การเดินทางไปยังที่ต่าง ๆ ก็ต้องมีการป้องกันตัวเองให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ธุรกิจหลายประเภทหยุดชะงัก ทำให้หลาย ๆ บริษัทต้องหามาตรการและทางออกที่ดีที่สุดเพื่อให้ธุรกิจยังคงดำเนินอยู่ได้แม้ในสถานการณ์ที่ไม่เป็นใจเช่นนี้ สำหรับผมที่มีหน้าที่ในการจัดงานสัมมนาให้กับลูกค้าของทางบริษัท Demeter ICT ก็เป็นอีกคนที่ต้องหาทางออกเช่นกัน เนื่องจากงานสัมมนาสำหรับลูกค้าเป็นบริการหลังการขายที่ทางบริษัทประสงค์ที่จะให้ลูกค้าได้ใช้งานผลิตภัณฑ์ G Suite ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ปรึกษาหารือเพื่อแก้ไขปัญหาการจัดงานสัมมนา เนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 ในส่วนของความคิดเห็นที่มาจากการปรึกษาหารือทั้งนอกและในองค์กรแตกออกเป็นหลายแบบ บางกลุ่มเห็นว่าควรจะ “เลื่อนงานออกไปก่อน” ในขณะที่บางกลุ่มเห็นว่าควร “ยกเลิกไปเลย” แต่ด้วยความที่การสัมมนาที่ผมจะจัดขึ้น เป็นสิ่งที่ผมได้สื่อสารและสัญญากับลูกค้าไปแล้วว่าจะมีการจัดสัมมนาให้กับลูกค้าในทุกไตรมาส การตัดสินใจของผมซึ่งเป็นผู้จัดงานจึงอาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นขององค์กร ผมจึงตัดสินใจที่จะจัดงานสัมมนาตามเดิม แต่ได้นำเทคโนโลยีใกล้ตัวเข้ามาช่วยในการจัดสัมมนาในครั้งนี้ ในที่ประชุมผมได้บอกกับทีมงานว่า “ผมไม่รู้เหมือนกันว่าลูกค้าจะให้ความสนใจในการสัมมนาออนไลน์มากน้อยแค่ไหน แต่ผมอยากจัดงานสัมมนาให้ลูกค้าตามสัญญา และอยากทดลองเหมือนกันว่าจะเป็นอย่างไร ในเมื่อเรามีเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ที่เราได้ให้บริการเองอยู่แล้ว เราต้องแสดงให้ลูกค้าเห็นว่ามันมีประโยชน์และใช้ได้จริง เราต้องเริ่มใช้ก่อนจึงจะบอกลูกค้าได้อย่างเต็มปากว่าของเราดีจริง” ด้วยเหตุนี้เองจึงเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนจากงานสัมมนาที่จัดแบบ Workshop มาเป็นรูปแบบออนไลน์แทน ด้วยระยะเวลาการเตรียมตัวไม่ถึงสัปดาห์ ตัดสินใจจัดงานสัมมนาออนไลน์กับ YouTube Live โดยในการจัดงานสัมมนาออนไลน์ในครั้งนี้เราได้ใช้เครื่องมือที่เรียกว่า “YouTube Live” ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ของ Google เช่นกัน หลาย ๆ ท่านถามผมว่าทำไมไม่ใช้ Live Streaming ใน Hangouts Meet ที่ Google ให้ใช้ฟรีโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย แต่เนื่องจาก Live Streaming ใน Hangouts Meet รองรับเฉพาะอีเมลผู้ใช้งานภายในองค์กรเดียวกันเท่านั้น จึงเป็นที่เห็นพ้องต้องกันว่า YouTube Live ตอบโจทย์กับการใช้งานและกลุ่มเป้าหมายของเราที่สุด Google Hangouts คืออะไร เตรียมความพร้อมให้เป๊ะก่อนวัน Live จริง ในการเตรียมความพร้อมของการจัดงานสัมมนาออนไลน์ในครั้งนี้แบ่งออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ ๆ คือ ความพร้อมด้านเครื่องมือ ความพร้อมด้านเนื้อหา และความพร้อมด้านผู้บรรยาย ความพร้อมด้านเครื่องมือ หลังจากตัดสินใจใช้ YouTube Live...

Continue reading

Work From Home มีข้อดี ข้อเสียอย่างไร?

เนื่องจากสถานการณ์ตอนนี้ที่ Covid-19 หรือไวรัสโคโรน่า ได้แพร่ระบาดไปแล้ว 30 กว่าจังหวัดทั่วประเทศ ทำให้บางที่ทำงานหรือบริษัท ได้มีมาตรการเพื่อช่วยเหลือพนักงานโดยการที่ให้พนักงานทำงานที่บ้าน หรือ การ Work From Home ซึ่งมีที่มา จากฝั่งอเมริกาและยุโรป ก่อนที่จะมีสถานการณ์ Covid-19 ซะอีก เพราะพวกเขาเชื่อมั่นว่าการที่พนักงานได้ผ่อนคลายหรือมีความสุข มันก็จะส่งผลถึงงานที่ทำซึ่งมันก็จะทำให้งานออกมาดีไปด้วย ซึ่งถ้าพูดถึงบริษัทในไทยก็มีบางบริษัทที่เริ่มนำนโยบายนี้มาลองปรับใช้ในบริษัท ตัวอย่าง เช่น บริษัท ดีมีเตอร์ ไอซีที จำกัด ของเรานั่นแหละ ที่มีนโยบายให้ พนักงาน Work From Home ที่บ้านได้อาทิตย์ละ 1 วัน แต่ในช่วงนี้สถานการณ์ไม่ค่อยดี ก็เลย Work From Home ไปยาวๆ มาดูข้อดี  ข้อเสีย ของการ Work From Home กันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง ข้อดี ปลอดภัยทั้งต่อตนเองและผู้อื่น เพราะ เราไม่ได้ไปพบผู้คนด้านนอก หรือพบน้อยที่สุดซึ่งตอนนี้เราไม่รู้ว่าใครเป็นใคร สามารถจัดการเวลาการทำงานตามเวลาที่ตัวเองต้องการได้ ผ่อนคลายและมีความกดดันน้อยกว่าทำงานอยู่ที่บริษัท ประหยัดค่าเดินทางและประหยัดเวลาในการเดินทางทำให้เรามีเวลาในการทำอย่างอื่นมากขึ้น สุขภาพอาจจะดีขึ้นเพราะไม่ต้องมาเจอมลพิษด้านนอก แต่ก็ต้องอย่าลืมออกกำลังกายด้วย ได้ศึกษาทดลองใช้ฟีเจอร์หรือระบบใหม่ๆที่เกี่ยวกับการทำงานแบบ Work From Home เพราะเวลาที่อยู่บริษัทไม่ได้ใช้ระบบเหล่านี้ ข้อเสีย เวลาอยู่บ้านสิ่งเร้ามีมากมาย เช่น เตียง คอม เกม หรือจะเป็นสัตว์เลี้ยง ทำให้คุณต้องมีสมาธิและจิตใจที่แข็งแกร่งมากพอ ความขี้เกียจ เพราะไม่มีใครมากดดันหรือสั่งให้เราทำเหมือนตอนที่อยู่ในบริษัท เวลาอยู่บ้านคุณจะหยิบนู่นหยิบนี่กินตลอดเวลา อาจจะทำให้คุณอ้วนขึ้นได้ บางบริษัทยังไม่มีระบบการทำงานที่จะทำให้พนักงานสามารถทำงานที่บ้านได้ จึงอาจทำให้เกิดความผิดพลาดในการสื่อสารในการทำงาน และในสถานการณ์ปัจจุบันยิ่งเป็นสถานการณ์ที่ควรหลีกเลี่ยงเพื่อความปลอดภัยของพนักงานและลดการแพร่เชื้อภายในประเทศ ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าไม่ใช่ทุกๆบริษัทที่จะเหมาะสมกับการทำงานแบบ Work From Home แต่ว่าถ้าหากคุณลองเปลี่ยนแปลงหรือปรับเปลี่ยนการทำงานบางอย่าง คุณอาจจะเจอวิธีการทำงานที่สะดวกและดีกว่า อย่างเช่นระบบของ Zendesk ที่ไม่ได้ช่วยแค่ด้าน Customer Service อย่างเดียวเท่านั้น แต่คุณสามารถปรับเปลี่ยนไปใช้ในองค์กร เช่น การเก็บข้อมูลหรือการสื่อสารภายในองค์กรที่ทำให้ช่วยประหยัดเวลา และง่ายต่อการใช้งานมากขึ้นไปอีกด้วย ตัวอย่างเช่น ถ้าลูกค้าติดต่อมาหา Customer Service...

Continue reading

Google Meet คืออะไร

Google Meet อยู่ใกล้หรือไกล การสื่อสารก็ไม่เอ้าท์! หากพูดถึงโปรแกรมสำหรับการ video conference หรือ ระบบแชทคุยกันในองค์กร  แน่นอนว่ามีหลายผลิตภัณฑ์มากมายให้เลือกใช้ รวมทั้ง Google Meet (เดิมชื่อ Hangouts Meet) ซึ่งเป็นหนึ่งในฟีเจอร์ของ  Google Workspace  Google Meet คือ หนึ่งใน ฟีเจอร์มาแรงของ Google Workspace ที่เรียกได้ว่าฮิตมากกับรูปแบบการทำงานในปัจจุบัน โดยเฉพาะการทำงานแบบ Work From Home ซึ่งเป็นที่นิยมมาก ในสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 หรือ COVID-19   Google Meet มีไว้สำหรับการสื่อสารโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นการแชท หรือ video conference ประชุมออนไลน์ ทั้งภายในและนอกองค์กร  เพราะสะดวกมากแค่เข้าผ่านอุปกรณ์ที่เชื่อมอินเทอร์เน็ต ก็สามารถใช้งานได้เลยทันที  หากท่านใดใช้ account อีเมลเป็น @gmail อยู่แล้ว สามารถใช้ได้เลยฟรีๆ หรือจะเป็น Google Workspace Package สำหรับองค์กร ก็จะได้สิทธิการใช้งานแตกต่างกันออกไปแล้วแต่ Package ที่ใช้ ซึ่งมีตั้งแต่ Basic Business และ Enterprise   ดูฟีเจอร์ Google Workspace ทั้งหมด  ดาวน์โหลดคู่มือการใช้งาน Googl Meet&Chat : PDF รู้จัก Google Meet และ Google Chat Google Chat Google Chat (เดิมชื่อ Hangouts Chat) ฟีเจอร์นี้ไว้สำหรับการคุยแชทกัน ซึ่งได้ทั้งภายในและภายนอกองค์กร สามารถสร้างแชทรายบุคคล รายกลุ่มหรือสร้างเป็นห้อง  Room Chat เลยก็ได้ ถ้าถามว่าทำไมต้องใช้ ฟีเจอร์ Google Chat ตัวนี้...

Continue reading

กู้วิกฤตเป็นโอกาส COVID-19 ดันกระแส E-commerce เฟื่องฟู

พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส COVID-19 ดันยอดขายออนไลน์ไทยโต 80% นาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ หรือ COVID-19 ที่กำลังแพร่ระบาดไปทั่วโลก จนหลายประเทศต้องออกมาตรการคุมเข้ม ยกเลิกกิจกรรมที่มีคนมารวมตัวกันจำนวนมาก ให้ประชาชนหลีกเลี่ยงสถานที่แออัด แม้กระทั่งขอให้ประชาชนอย่าออกจากบ้านโดยไม่จำเป็น เป็นเหตุให้ธุรกิจในหลายภาคส่วน ทั้งภาครัฐและเอกชน ต่างกระทบกันไปตามๆ กัน  พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน แต่ภายใต้วิกฤตก็ยังมีอีกช่องทางธุรกิจที่ได้รับความสนใจมากขึ้นอย่างชัดเจน เมื่อผู้บริโภคส่วนใหญ่เลือกที่จะหลีกเลี่ยงแหล่งการชอปปิ้งที่มีผู้คนแออัด และหันมาสั่งซื้อของผ่านออนไลน์แทน “ผู้บริโภคเปลี่ยนจากการซื้อของแบบออฟไลน์เป็นออนไลน์ และต่อให้วิกฤตครั้งนี้สิ้นสุดลงพฤติกรรมนี้ก็จะไม่เปลี่ยนไป” “ถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับอุตสาหกรรมธุรกิจอีคอมเมิรซ์” -Zhong Zhenshan, Vice-president of emerging technology research, IDC. นอสตร้า โลจิสติกส์ เผยสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ “โควิด-19” ดันยอดสั่งสินค้าออนไลน์ในประเทศโตสวนกระแสถึง 80% ด้วยพฤติกรรมผู้บริโภคหลีกเลี่ยงแหล่งช้อปปิ้งแออัด หันไปเลือกสั่งสินค้าออนไลน์แทน ที่มา : Bangkokbiznews “ภายใต้วิกฤตดังกล่าวที่เกิดขึ้น ส่งผลต่อปัจจัยบวกที่ถือว่าเป็นโอกาสต่อวงการโลจิสติกส์และการขนส่ง จากพฤติกรรมผู้บริโภคหันไปเลือกสั่งซื้อสินค้าผ่านระบบออนไลน์ การบริการจัดส่งด่วนมีแนวโน้มกลายเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคสูงขึ้นมาก นับเป็นโอกาสและความท้าทายของทั้งผู้ค้ารายใหญ่ รายย่อย และธุรกิจขนส่งที่จะเตรียมความพร้อมรับมือทั้งในเรื่องปริมาณการจัดส่งสินค้าจากระบบออนไลน์ที่เพิ่มมากขึ้น สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคในการรับบริการที่รวดเร็ว ถูกต้อง และปลอดภัย ทั้งนี้ ผู้ประกอบการธุรกิจขนส่งสินค้าจำเป็นจะต้องมีเครื่องมือในการจัดการและวางแผนการจัดส่งสินค้าที่ดี เพื่อให้การกระจายสินค้าในแต่ละวันเป็นไปอย่างราบรื่น” -นางวรินทร สีสุขดี ผู้อำนวยการส่วนผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ บริษัท จีไอเอส จำกัด กล่าว สิ่งที่เกิดขึ้นสอดคล้องกับผลสำรวจของ กสทช. ซึ่งเปิดเผยว่า จากการสำรวจกลุ่มตัวอย่างจากผู้ใช้งาน แอปพลิเคชันของสำนักงานกสทช. จำนวน 2,554 คน พบว่า เดือนกุมภาพันธ์ 2563 ประชาชนมีการสั่งซื้อสินค้าผ่านออนไลน์เพิ่มสูงขึ้นจากเดือนมกราคม 2563 เกินกว่า 80% โดยสัดส่วนที่โตขึ้นมาจากพฤติกรรมการใช้จ่ายผ่านช่องทางออนไลน์ของผู้บริโภคที่มีมากขึ้น ตลาดอีคอมเมิรซ์เติบโตหนักในวิกฤต ซึ่งก็ไม่เพียงแต่ที่ไทยเท่านั้น ที่ COVID-19 ทำคนแห่ช๊อปออนไลน์ ล่าสุด Amazon เร่งจ้างพนักงานส่งของเพิ่มหนึ่งแสนอัตรา พร้อมเพิ่มค่าแรงพิเศษ อเมซอน บริษัทเว็บไซต์ขายของอีคอมเมิรซ์ที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา ประกาศจ้างงานพนักงานส่งของและพนักงานดูแลคลังสินค้าเพิ่มอีกราว 1 แสนอัตรา เพื่อให้สามารถปฏิบัติหน้าที่รองรับปริมาณคำสั่งซื้อขนาดมหาศาลของผู้บริโภคในประเทศ ในขณะที่สาขาภูมิภาคอื่นก็มีการปรับเพิ่มค่าแรงพิเศษให้แก่พนักงานเช่นกัน หากแต่สำหรับธุรกิจที่เน้นค้าปลีกก็ต้องปรับระบบยกใหญ่ ย้อนกลับไปในช่วงที่ COVID-19 แพร่ระบาดอย่างหนักในจีน ผู้ประกอบการทั้งเอกชน...

Continue reading

เริ่มใช้ G Suite กับ Demeter ICT ง่ายๆ เพียง 3 ขั้นตอน

Google G Suite นั้นได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ด้วยความคล่องตัว และเหมาะกับธุรกิจทุกขนาด จึงถูกนำไปใช้ภายในองค์กรอย่างแพร่หลาย ส่วนที่สำคัญคือการเลือกพาร์ทเนอร์ หรือผู้ให้บริการ นอกจากคำนึงถึงเรื่องราคาแล้ว ยังต้องคำนึงถึงความน่าเชื่อถือ ประสบการณ์การใช้งานจากลูกค้า และที่สำคัญที่สุดต้องมีบริการซัพพอร์ต เมื่อลูกค้าต้องการสอบถามข้อมูล หรือแจ้งปัญหาการใช้งาน จะต้องมั่นใจได้ว่าสามารถติดต่อพาร์ทเนอร์เพื่อขอความช่วยเหลือได้ สำหรับลูกค้าที่เริ่มสนใจที่จะนำ G Suite ไปใช้ภายในองค์กร แต่ยังติดปัญหาว่าต้องทำอย่างไร ใช้ข้อมูลอะไรบ้าง เรามีคำตอบให้ ขั้นตอนที่ 1: เตรียมข้อมูล ลูกค้าจะต้องเตรียมข้อมูลต่างๆ และแจ้งกับเจ้าหน้าที่ ดังนี้ โดเมน – ลูกค้าไม่จำเป็นต้องมีเว็บไซต์ แต่จะต้องมีโดเมนบริษัท หากยังไม่มีสามารถจดโดเมนกับเราได้ โดยจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ในกรณีที่จดโดเมนมาแล้วจากที่อื่นก็สามารถทำได้ เจ้าหน้าที่จะขอข้อมูลจัดการ dns เพื่อชี้ค่ามาที่เรา  จำนวน user ที่ต้องการใช้งาน – G Suite จะคิดราคาเป็นรายปีตามจำนวนผู้ใช้งาน ในส่วนของอีเมลซึ่งเป็นการสมัครใช้งานใหม่ เพียงแจ้งที่อยู่อีเมลสำหรับ Admin และ user อื่นๆ ที่ต้องการใช้งานทั้งหมด สามารถเริ่มต้นใช้งานได้ที่ 1 user รวมทั้งระบุวันที่ที่ต้องการขึ้นระบบพร้อมใช้งาน ข้อมูลที่ติดต่อได้ – แจ้งชื่อ อีเมล และเบอร์โทรศัพท์ของลูกค้าที่ติดต่อได้สะดวก เพื่อให้ฝ่ายขายออกใบเสนอราคา หรือเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ข้อมูลอื่นๆ – หากมีข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ลูกค้าจะต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ เช่น ต้องการโอนย้ายข้อมูลจากระบบเดิม (Migration) หรือต้องการคอร์สอบรมการใช้งาน G Suite ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ขั้นตอนที่ 2: ติดต่อฝ่ายขาย และชำระเงิน เมื่อลูกค้าเตรียมข้อมูลดังกล่าวครบถ้วนแล้ว ติดต่อกับฝ่ายขายเพื่อแจ้งข้อมูลผ่านช่องทางที่ลูกค้าสะดวก ดังนี้ • Tel. 02-030-0066• Email: sales@dmit.co.th• Line: @dmit (มี@) เมื่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายได้รับข้อมูลเรียบร้อยแล้ว จะออกใบเสนอราคาตามข้อมูลที่ได้ แล้วส่งกลับไปให้ทางอีเมลของลูกค้าที่แจ้งไว้ หลังจากนั้นให้ลูกค้าพิจารณา และตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลในใบเสนอราคาก่อนที่จะยืนยันสั่งซื้อ ขั้นตอนที่ 3:...

Continue reading

พลิกวิกฤต covid19 ให้เป็นโอกาสทำธุรกิจที่จีน

ในเดือนมกราคม 2020 ที่ผ่านมาเกิดการระบาดของโรคไวรัสโคโรนา หรือโควิด-19 ได้เเพร่กระจ่ายไปทั่วเมืองจีน ทำให้ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตการทำงาน และการดำเนินธุรกิจต่างๆดังนั้นการค้าขายเเบบออฟไลน์ในจีนเกือบทั้งหมดเเทบหยุดชะงักไปเลยทีเดียว เเต่อย่างไรก็ตามปัจจุบันประเทศจีนมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยอย่างอีคอมเมิร์ซ เแพลตฟอร์ม Ecommerce platform ทำให้เข้าถึงลูกค้าได้กว้างขวางและในช่วงนี้ที่มีโควิด-19 ยิ่งทำให้คนจีนส่วนมากนิยมการซื้อของผ่านออนไลน์มากยิ่งขึ้นไปอีก เเละเหตุการณ์ครั้งนี้เเสดงให้เห็นว่าการทำธุรกิจออนไลน์ หรือ ขายของผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซนี้เป็นโอกาสที่ดีมากสำหรับคนที่เริ่มมีช่องทางออนไลน์เป็นของตัวเอง การใช้ชีวิตท่ามกลางการระบาดของไวรัสโควิด-19 แน่นอนว่า COVID-19 สร้างผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันเเละการใช้ชีวิตของคนจีนเป็นอย่างมาก ตอนนี้ส่วนมากคนจีนจะอยู่เเต่บ้านเเละไม่ค่อยเดินทางไปไหนถ้าไม่จำเป็นจริงๆเพราะมีการระบาดของโรคไวรัสโคโรนาอย่างต่อเนื่องจึงทำให้บริษัทหลายเเห่งให้พนักงานทำงานที่บ้าน หรือ (Work from home) โดยทำงานผ่านการใช้ช่องทางออนไลน์ซึ่งทางบริษัทต่างๆหลายเเห่งได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆเข้ามาช่วยเหลือในการทำงานมากขึ้น เช่นใช้ WeChat Work and Meeting ของเท็นเซ็นต์ WeLink ของหัวเว่ย เเละ DingTalk ของอาลีบาบา ซึ่งเครื่องมือเหล่านี้สามารถใช้ทำงานการโทรวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ แชทและการทำงานร่วมกันทางออนไลน์ได้ง่ายขึ้น ช่วยให้คนจีนสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ เเค่เหมือนเปลี่ยนสถานที่มาทำที่บ้าน ซึ่งไม่ต้องเสียค่าโดยสารเเละเสียเวลาเเต่งตัวเพื่อออกไปทำงาน ซึ่งทำให้ทำงานสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นผ่านเครื่องมือ WeChat Workจะเห็นได้ว่าท่ามกลางวิกฤตที่เกิดขึ้น ก็มี กลุ่มธุรกิจบางประเภทที่เติบโต โดยเฉพาะธุรกิจที่ใช้แพลตฟอร์มดิจิทัล ที่ให้บริการต่างๆ  ไม่ว่าจะเป็น อีคอมเมิร์ซ การตรวจสุขภาพออนไลน์ ความบันเทิงออนไลน์ หรือ สั่งอาหารออนไลน์ ตัวอย่างเช่น  “Louis Vuitton” และ “Chanel” เเบรนด์กระเป๋าชื่อดังระดับโลก เปิดบริการให้ลูกค้าสามารถสั่งซื้อสินค้าผ่าน WeChat ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกดูสินค้าที่ชอบ สี ไซร์ เเละขนาดกระเป๋า จากนั้นกดสั่งออเดอร์ เเละจ่ายเงินผ่านช่องทางวีเเชทได้ทันที และมีสินค้าจะจัดส่งอย่างดีให้ถึงมือลูกค้า ซึ่งง่ายเเละรวดเร็วมากเรยไม่ต้องเสี่ยงออกมาเจอโรคโควิค19 นอกจากจะได้ช้อปคลายเครียดเเล้วก็ไม่ต้องต่อเเถวซื้อกระเป๋ากันเหมือนเเต่ก่อนอีกต่อไป ร้านกาเเฟทีมีชื่อเสียงอย่าง Starbucksในจีนปิดสาขาชั่วคราวกว่า 2,000 สาขา และเปลี่ยนการให้บริการเป็นการสั่งซื้อเครื่องดื่มเเละอาหาร บนช่องออนไลน์เเทนผ่านแพลตฟอร์ม “WeChat” ซึ่งสามารถดูสินค้า สั่งออเดอร์ จ่ายเงินได้ในช่องทางเดียว เเละทางสตาบัคจะจัดส่งสินค้าให้ถึงบ้านลูกค้าเลย  คาดว่าว่าเหตุการไวรัส Covid19ที่ระบาดอยู่ในตอนนี้จะดีขึ้นในเร็ววัน ในช่วงเวลานี้เจ้าของเเบรนด์ควรเตรียมตัวรับลูกค้าคนจีนหลังกลับมาเมื่อเข้าสู่สภาวะปกติ เช่น การทำโปรโมชั่นต่างๆ การวางเเผนการทำ KOL (Key Opinion Leader) บนแพลตฟอร์มที่นักท่องเที่ยวจีนนิยมใช้ เช่น Meituan dianping ที่เป็นเเอปรีวิวสถานที่ท่องท่อง ร้านอาหารโรงเเรมเพื่อเตรียมไว้ ซึ่งตอนนี้การระบาดในจีนเริ่มลดน้อยลง...

Continue reading

ผู้บริหารสบายใจ ห่างไกล COVID-19 ประชุมผู้ถือหุ้นออนไลน์ ด้วย G Suite

สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ขณะนี้ เริ่มเข้าสู่ภาวะวิกฤติเป็นที่เรียบร้อย บริษัทต่างๆ เริ่มให้พนักงานทำงานที่บ้าน (Work from home) เพื่อหลีกเลี่ยงการเดินทางที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ รวมถึงในบางกรณี พนักงานที่ต้องมีการกักตัวก็จะยังสามารถทำงานจากที่บ้านได้ เพื่อให้ธุรกิจสามารถดำเนินต่อไป อ่านบทความเพิ่มเติม: ตัวอยู่บ้าน แต่งานไปต่อได้ Work from home with G Suite แน่นอนว่าในสถานการณ์วิกฤติเช่นนี้ย่อมส่งผลกระทบต่อหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะการจัดงานที่ต้องมีการชุมนุมกัน รวมถึงการจัดประชุมผู้ถือหุ้นประจำปีสำหรับบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจเลยทีเดียว ทางทีมงานของเรามีโอกาสได้พูดคุยกับผู้บริหารจากบริษัทแห่งหนึ่ง เกี่ยวกับปัญหาในการจัดประชุมผู้ถือหุ้นบริษัทประจำปีที่กำลังจะใกล้เข้ามาในช่วงวิกฤติ COVID-19 เช่นนี้ โดยปัญหาหลักที่พบคือ มีวิธีใดบ้างที่ทำให้สามารถจัดประชุมผู้ถือหุ้นประจำปีได้ โดยไม่ต้องให้ผู้เข้าร่วมเดินทางเข้ามาประชุมที่บริษัท จะตรวจสอบผู้เข้าร่วมประชุมทั้งหมดได้อย่างไร ลงคะแนนเสียงในที่ประชุมอย่างไร และต้องสามารถตรวจสอบได้ เราจึงมีไอเดียในการจัดประชุมผู้ถือหุ้นออนไลน์ด้วย Google G Suite ซึ่งเป็นชุดแอปพลิเคชันที่ Google ออกแบบมาเพื่อให้สามารถทำงานได้ทุกที่ ทุกเวลา จึงสามารถตอบโจทย์ปัญหาที่ได้กล่าวมาข้างต้น G Suite คืออะไร? 1. สร้างบัญชี Gmail ที่ตรวจสอบได้ ความพิเศษของ Gmail ใน G Suite คือ ความปลอดภัย สามารถใช้ชื่ออีเมลที่เป็นชื่อโดเมนบริษัทได้ (เช่น you@yourcompany.com) ความสามารถในการตรวจสอบ และจัดการบัญชีทั้งหมดภายในโดเมน ไม่ว่าจะเป็นเพิ่ม ลบ และอื่นๆ ก็สามารถทำได้จาก Admin Console  โดยการให้ทางบริษัทที่จัดประชุมผู้ถือหุ้นสร้างที่อยู่อีเมล และส่งพาสเวิร์ดผ่าน OTP ให้กับผู้เข้าร่วมประชุมทุกคน และใช้ที่อยู่อีเมลนี้ในการลงทะเบียน ล็อกอินเข้าชมการประชุมออนไลน์ และลงคะแนนเสียงต่อไป ซึ่งสามารถตอบโจทย์ปัญหาในการตรวจสอบผู้เข้าร่วมประชุมทั้งหมดได้ 2. เข้าร่วมประชุมออนไลน์ด้วย Youtube Live/ Hangouts Meet G Suite มีเครื่องมือที่ช่วยให้การประชุมเป็นเรื่องง่ายขึ้น ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็สามารถร่วมประชุมได้ด้วย Youtube Live ผู้เข้าร่วมประชุมสามารถแสดงความคิดเห็นได้แบบเรียลไทม์ สามารถใช้ API เพื่อดึงสไลด์นำเสนอขึ้นสู่หน้าจอ และเมื่อการประชุมจบลงก็ยังสามารถรับชมย้อนหลังได้ อีกวิธีหนึ่งคือใช้ Hangouts Meet ซึ่งรองรับผู้เข้าร่วมประชุมได้สูงสุดถึง 250 บัญชี ในแพ็คเกจ...

Continue reading