ในช่วงที่ประสบปัญหาวิกฤติ COVID-19 อยู่ในตอนนี้ หลายบริษัทต้องปรับตัวและประกาศใช้นโยบาย Work from home อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และเราก็ไม่สามารถรู้ได้เลยว่าจะต้องอยู่ในสถานการณ์นี้ไปอีกนานเท่าไหร่ คราวที่แล้วใน 10 การทำงานร่วมกันด้วย Google G Suite ที่ทำได้แม้อยู่ที่บ้าน (ตอนที่1) เราได้พูดถึงเคล็ดลับในการทำงานร่วมกัน 5 ข้อแรกไป วันนี้เรามีอีก 5 ข้อที่เหลือ ที่จะช่วยให้คุณสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่นด้วย Google G Suite แม้อยู่กันคนละที่ อ่านบทความเพิ่มเติม: G Suite คืออะไร? ทำอะไรได้บ้าง?อ่านบทความเพิ่มเติม: 6 เคล็ดลับจาก Google | Work from home อย่างไรให้เวิร์ค 6. การส่งอีเมลให้ทุกคนในคราวเดียวด้วย Google Group เมื่อคุณต้องการส่งอีเมลทีละหลายๆ คน ในคราวเดียว ไม่ว่าจะเป็นส่งให้พนักงานในบริษัท หรือลูกค้า ลองสร้างกรุ๊ปอีเมล แล้วใส่ที่อยู่อีเมลของทุกคนที่ต้องการลงไป แทนการส่งแบบรายคน ตัวอย่างลักษณะของกรุ๊ปอีเมลจะเป็น customers@dmit.co.th, all-employee@dmit.co.th ฯลฯ เมื่อใช้ที่อยู่อีเมลนี้ในการส่งอีเมล ทุกคนที่อยู่ในกลุ่มนั้นๆ ก็จะได้รับอีเมลด้วย 7. การวางแผนโครงการ และประสานงาน Google Sheets การติดตามโครงการของทีม และกำหนดเวลาโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการเปลี่ยนแปลงกำหนดการแบบกะทันหัน เป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างมากในการทำงานแบบ Work from home ดังนั้น Google Sheets จะช่วยจัดระเบียบงาน และติดตามแผนโครงการให้เสร็จสมบูรณ์ได้ สมาชิกทีมแต่ละคนสามารถอัปเดตความคืบหน้าของงานได้พร้อมกันบนไฟล์เดียวแบบเรียลไทม์ โดยไม่ต้องส่งไฟล์ผ่านอีเมลหากันไปมา 8. การจัดสรรตารางเวลาด้วย Google Calendar เมื่อเพื่อนร่วมทีมกำลังทำงานอยู่กันคนละที่ การจัดสรรเวลาให้สามารถประชุมพร้อมกันได้ก็เป็นเรื่องที่ค่อนข้างท้าทายอีกเรื่องหนึ่งเช่นกัน ด้วย Google Calendar คุณสามารถตรวจสอบวันและเวลาว่างของแต่ละคนในทีมได้ เพื่อให้ง่ายต่อการจัดกิจกรรมที่คุณต้องการ ไม่ว่าจะเป็นประชุมทางวิดีโอ จัดเทรนนิ่ง และอื่นๆ 9. การติดต่อสื่อสารด้วยแชทสำหรับองค์กร เชื่อมต่อสมาชิกทีมแต่ละคนเข้าไว้ด้วยกัน ด้วย Hangouts Chat สามารถสร้างห้องแชทเฉพาะภายในองค์กร หรือเฉพาะทีม...
Continue readingทำธุรกิจให้ปังด้วยการใช้ KOL
Key Opinion leader หรือ KOL คืออะไร? การทำ Key Opinion Leader(KOL) หรือ KOL Influencer สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้ดีกว่าการโฆษณาแบบอื่นๆไม่ว่าจะเป็นทางทีวี วิทยุ หรือในเว็บไซต์ซึ่งคนส่วนใหญ่เริ่มไม่เชื่อกับโฆษณาเเบบมีสคริปอีกเเล้ว ดังนั้นจึงให้ KOL influencerหรือ บุคคลที่มีอิทธิพลทางความคิดต่อผู้อื่นมานำเสนอให้ข้อมูลสินค้า เพื่อเป็นการโน้มน้าวใจผู้บริโภคได้ดีกว่าสื่ออื่นๆ การให้ KOL มารีวิวทำให้ผู้บริโภครู้สึกเชื่อใจมากกว่าพราะว่าเป็นบุคคลสาธารณะที่คนรู้จักในวงกว้าง ดังนั้นการทำ KOL หรือ Opinion leader คือทำให้เเบรนด์ให้มีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างการทำ KOL Marketing ไปจีนคือการให้ Bloggerคนดังในจีนมารีวิวสินคาต่างๆให้ ไม่ว่าจะเป็นรีวิวโรงเเรม ร้านอาหาร สปา เพื่อให้ผู้บริโภครู้จักเเละสนใจสินค้าของแบรนด์นั้นๆ ผู้ติดตามKOLส่วนใหญ่มักเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ตั้งแต่เด็ก วัยรุ่นไปจนถึงวัยทำงาน และมักคล้อยตามเนื้อหาหรือสิ่งที่ KOL Influencer พูดโน้มน้าว เพราะรู้สึกถึงความใกล้ชิดและจริงใจกว่าสื่อโฆษณา อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันผู้บริโภคสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ เมื่อสงสัย หรือสนใจอะไรก็ใช้ไป่ตู้ (เรียกได้ว่าเป็นกูเกิ้ลที่จีน)เพราะที่จีนไม่สามารถใช้googleได้ จึงใช้ไป่ตู้ในการหาข้อมูลต่างๆนอกจากนี้ก็ต้องให้ความสำคัญกับการเลือก KOL ด้วย เพราะว่าไม่ใช่เเค่ดูยอดฟอลโล่เเล้ว influencer คนนั้นจะสามารถโปรโมทเเละเพิ่มยอดขายได้ เเต่ต้องดูด้วยว่าผู้ที่ติดตามKOL Influencer คนนั้นใช่กลุ่มเป้าหมายของเราหรือไม่? ภาพลักษณ์และคอนเทนต์ของ KOL ของคนๆนั้นตรงกับการนำเสนอหรือไม่? จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะเลือก KOL Influencer สักคน เพราะKOL แต่ละคนต่างก็มีสไตล์เฉพาะเป็นของตัวเอง ข้อดีของการทำ Key Opinion leader หรือ KOL Influencer 1. สื่อสารได้ตรงกลุ่ม : คือการเลือก KOL ที่เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์และภาพลักษณ์ของแบรนด์ เช่น ร้านอาหาร ก็ต้องเลือก Blogger หรือ KOL Influencer ที่ชอบไปกินเเละรีวิวร้านอาหารต่างๆ ซึ่งคนที่ Follow ก็ย่อมเป็นคนที่สนใจในการกินอาหาร คนที่ชอบหาของอร่อย 2. วัดและประเมินผลได้ : คือสามารถดูกระแสตอบรับได้จากยอดการเข้าถึง เเละยอดผู้เข้าชมได้ซึ่งสามารถตรวจสอบและวัดผลลัพธ์ยอดการกดไลค์ กดแชร์ หรือ การคอมเมนต์ ...
Continue reading10 การทำงานร่วมกันด้วย G Suite ที่ทำได้แม้อยู่ที่บ้าน (ตอนที่1)
ในช่วงที่ประสบปัญหาวิกฤติ COVID-19 อยู่ในตอนนี้ หลายบริษัทต้องปรับตัวและประกาศใช้นโยบาย Work from home อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และเราก็ไม่สามารถรู้ได้เลยว่าจะต้องอยู่ในสถานการณ์นี้ไปอีกนานเท่าไหร่ วันนี้เรามีไอเดียในการทำงานร่วมกัน 10 อย่าง ที่สามารถทำได้แม้อยู่ที่บ้านโดยไม่ต้องเดินทางเข้าออฟฟิศเลย ช่วยให้คุณสามารถทำงานร่วมกันกับเพื่อนร่วมงานได้อย่างราบรื่นแม้อยู่กันคนละที่ อ่านบทความเพิ่มเติม: G Suite คืออะไร? ทำอะไรได้บ้าง?อ่านบทความเพิ่มเติม: 6 เคล็ดลับจาก Google | Work from home อย่างไรให้เวิร์ค 1. การประชุมทางวิดีโอกับเพื่อนร่วมทีม เมื่อเพื่อนในทีมแต่ละคนต้องทำงานจากที่บ้าน ต่างคนก็อยู่คนละสถานที่ Hangouts Meet จะช่วยให้ทุกคนในทีมสามารถติดต่อกันได้ทุกที่ ทุกเวลา ได้จากทุกแพล็ตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็นแล็บท็อป หรือโทรศัพท์มือถือ สามารถใช้ Hangouts Meet ในการประชุม วางแผนโปรเจ็คต์ จัดกิจกรรมเสมือนจริง และอื่นๆ ได้อีกมากมาย ข้อดีคือทุกคนสามารถสื่อสารกันแบบเห็นหน้ากัน (Face-to-face) ได้แม้ขณะอยู่ที่บ้าน 2. การนำเสนองานออนไลน์ เมื่อเราไม่สามารถเดินทางไปพบเพื่อนร่วมทีมได้แบบตัวต่อตัว ลองใช้ Hangouts Meet ในการนำเสนองานผ่านเครื่องมือต่างๆ อย่าง Google Slides, Google Docs หรือไฟล์อื่นๆ สามารถบันทึกวิดีโอการประชุม เพื่อดูย้อนหลังได้อีกด้วย โดยไฟล์จะถูกเก็บไว้ใน Google Drive อัตโนมัติ นอกจากนี้ยังสามารถเปิดใช้ฟังก์ชันคำบรรยายใต้ภาพ (Caption) ในกรณีที่ไม่ต้องการเปิดเสียงวิดีโอ หรือได้ยินเสียงไม่ชัด (ปัจจุบันโหมดคำบรรยายใต้ภาพรองรับเฉพาะภาษาอังกฤษ) 3. การแก้ไขไฟล์เอกสารร่วมกันแบบเรียลไทม์ คุณสามารถทำงานร่วมกันกับเพื่อนในทีม และแก้ไขข้อมูลบนไฟล์เดียวกันแบบเรียลไทม์ด้วย Docs, Sheets, Slides และอื่นๆ โดยไม่จำเป็นต้องส่งไฟล์ผ่านอีเมลไปมาให้สับสนวุ่นวาย นอกจากนี้ทุกการเปลี่ยนแปลงบนไฟล์เอกสารจะถูกบันทึกโดยอัตโนมัติ ดังนั้นสมาชิกในทีมจึงสามารถเข้าถึงไฟล์ที่เป็นข้อมูลล่าสุดสุดเสมอ 4. การเก็บ / แชร์ / และเข้าถึงข้อมูลไฟล์ต่างๆ ภายในทีมได้จากทุกที่ เก็บไฟล์ต่างๆ ของทุกคนในทีมไว้ใน Google Drive หรือ Shared Drive แล้วกำหนดสิทธิ์ในการเข้าถึงไฟล์ของแต่ละคน เมื่อมีการเปลี่ยนแปลง Drive...
Continue reading5 เหตุผลที่ธุรกิจคุณควรใช้ Google Sheets
หากพูดถึงโปรแกรมที่ช่วยจัดการและวิเคราะห์ข้อมูล แน่นอนว่าหนึ่งในสุดยอดโปรแกรมนั้นก็คือ Google Sheets ในค่ายของ G Suite by Google ที่เป็นตัวช่วยดีๆกับการจัดการข้อมูลมหาศาล ที่มาพร้อมกับ AI ที่เป็นอีกหนึ่งแรงที่ช่วยคุณวิเคราะห์ข้อมูลได้รวดเร็วขึ้นกว่าเดิม หลายท่านจะพอเห็นหน้าตามาผ่านๆบ้าง หรือถ้าไม่เคย มาทำความรู้จักกันก่อน ที่ >> Google Sheets คืออะไร หากทำความรู้จักแล้ว เราไปดูเหตุผลว่าทำไมธุรกิจของคุณควรใช้ Google Sheets กันเลย 1. ข้อมูลของคุณจะเป็นข้อมูลล่าสุดเสมอ แน่นอนว่าเมื่อคุณพิมพ์หรือใส่ข้อมูลอะไรลงไปใน Google Sheets แล้ว ข้อมูลนั้นจะถูกบันทึกให้เป็นล่าสุดเสมอ เพราะ Google Sheets จะทำการ Save งานให้เลยอัตโนมัติ แบบพิมพ์ปุ๊บเซฟปั๊บ (auto save) ไม่ต้องกังวลว่าปิดเครื่องคอมพ์แล้วลืม save งาน หรือ โน้ตบุ๊คแบตหมดก็ดับไปเลยดื้อๆ นอกจากนี้เราสามารถเลือกได้ว่า ต้องการใช้งานในรูปแบบออนไลน์หรือออฟไลน์ก็ได้เช่นกัน 2. ใช้ระบบอัจริยะ AI เพื่อช่วยให้การวิเคราะห์ข้อมูลรวดเร็วมากขึ้น Google Sheets ช่วยคุณได้มากในการวิเคราะห์ข้อมูล ด้วยระบบอัจริยะ (AI) คุณสามารถกรอกคำถามเกี่ยวกับข้อมูลที่คุณอยากรู้ AI จะตอบกลับเป็นภาษาที่เข้าใจง่าย และคำนวณผลการวิเคราะก์ให้คุณอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ AI ใน Google Sheets ยังสามารถสร้างแผนภูมิรูปแบบต่างๆ หรือตารางสำเร็จรูปให้คุณ เพื่อนำไปทำรายงานผลต่อได้ โดยที่คุณไม่ต้องมานั่งทำเองเลย 3. ปกป้องการแชร์ข้อมูลของคุณให้ปลอดภัย Google ก็มีฟีเจอร์ที่ช่วยรักษาความปลอดภัยของข้อมูลเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแชร์ไฟล์ข้อมูลต่างๆ ซึ่งใน Google Sheets คุณก็สามารถกำหนดสิทธิ์ของผู้ที่เราจะแชร์ไปว่า ต้องการให้เขาดูได้อย่างเดียว (View only) แก้ไขได้ (Edit) หรือแสดงความคิดเห็น (Comment) โดยสามารถเลือกกดได้ในปุ่ม Share ที่อยู่ด้านบนขวามือของหน้าต่าง Google Sheets 4. ทำงานในแบบที่คุณคุ้นเคย Google Sheets หน้าตาคล้ายๆกับ Microsoft Excel ที่คุณคุ้นเคย เพราะฉะนั้นจึงมั่นใจได้ว่าการใช้งานจะคล้ายๆกัยหมด...
Continue readingเก็บข้อมูลเวลาเข้า-ออกของพนักงานด้วยเครื่องมือ G Suite
ระบบเช็คชื่อในช่วงเวลา Work from Home สวัสดีท่านผู้อ่านที่เคารพรัก ใน ณ สถานการณ์ปัจจุบันนี้ผมเชื่อว่าหลายๆ องค์กรได้นำแผนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง (Business Continuity Plan) หรือ BCP นำมาใช้กันอย่างจริงจัง ก่อนหน้านี้หลายๆ องค์กรอาจจะมองว่า BCP ก็เพียงแผนการทำงานตัวหนึ่งที่วางแผนไว้เพื่อให้ผ่านตามข้อบังคับ หรือเทรนด์ของธุรกิจที่พึงจะมี แต่วันนี้คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าแผนที่เกิดขึ้นนั้นได้นำมาใช้กันอย่างกว้างขวาง สำหรับองค์กรใดที่ได้วางแผนอย่างรอบคอบก็จะทำให้องค์กรสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง เพียงการปรับพฤติกรรมของบุคลากรอีกไม่มากนัก แต่สำหรับองค์กรใดที่ไม่ได้วางแผนไว้อย่างรอบคอบ คราวที่ก็เป็นอีกเหตุการณ์หนึ่งที่จะทำให้เราได้ตั้งใจวางแผนกันมากขึ้นละคราวนี้ BCP ตัวช่วยคือ เทคโนโลยี สำหรับ BCP ในความเข้าใจที่เรามองกันกว้างๆ ก็น่าจะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ ได้แก่ แผนการดำเนินธุรกิจขององค์กรที่ช่วยให้ดำเนินได้อย่างต่อเนื่อง หรือให้เข้าใจง่ายๆ คือ เทคโนโลยีที่ใช้สำหรับกระบวนภายในองค์กร รวมถึงการเก็บข้อมูลสำคัญขององค์กรไว้ สำหรับแผนนี้เกือบทุกองค์กรมีการวางรากฐานไว้ให้ดีอยู่แล้ว เพราะมันคือสมองของการทำงาน แต่อีกกลุ่มหนึ่งที่หลายๆ องค์กรคาดไม่ถึงคือ แผนการทำงานของพนักงานในองค์กรเพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะต้องเผชิญกับอุปสรรคใดๆ นับว่าเป็นส่วนน้อยที่องค์กรจะได้วางแผนการดำเนินงานส่วนนี้ไว้ ในบทความนี้จะกล่าวถึงประสบการณ์ที่เราสามารถนำเครื่องมือไปประยุกต์เพื่อตอบโจทย์ของการวางแผนการทำงานของพนักงานภายในองค์กรเพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง ต้องยอมรับโดยปริยายครับ ว่าทุกวันนี้การทำงานจากที่บ้าน หรือ Work from Home (บทความ: ตัวอยู่บ้าน แต่งานไปต่อได้ ) เป็นที่ได้รับการกล่าวถึงกันมาก จนติดเทรนด์ของ Google เลยทีเดียว Work from Home with G Suite Tools Q: “เราจะรู้ได้อย่างไรว่าพนักงานของเราทำงานจริงหรือเปล่า? เราจะวัดผลอย่างไรว่าพนักงานของเราพร้อมทำงานในแต่ละวันไหม? ทำงานที่บ้านนี่เราจะไม่เสียค่าจ้างฟรีใช่ไหม?” คงเป็นคำถามยอดฮิตที่ทำให้ผู้บริหารหลายๆ ท่านลังเลใจ แต่ต้องบอกว่าเมื่อใดเกิดสถานการณ์บังคับ เราก็จำเป็นที่ต้องยอมรับกับสิ่งที่ตามมา สำหรับคำถามยอดฮิตข้างต้นคงไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าถ้าเอาคำถามทั้งหมดมาตั้งแล้วหาคำตอบ คำตอบที่ได้นั้นมันไม่ได้เกิดขึ้นสมบูรณ์ 100% อยู่แล้ว แต่เราต้องยอมปล่อยวางบางอย่าง เพื่อให้งานส่วนใหญ่ของเราได้ผลลัพธ์มาดีมากขึ้น และสิ่งสำคัญของการตอบโจทย์แบบ Work from Home คือ “ความเชื่อใจ” Q: “เราจะวัดผลอย่างไรว่าพนักงานของเราพร้อมทำงานในแต่ละวันไหม?” คำถามนี้น่าจะเป็นคำถามที่ง่ายที่สุดที่จะหาทางออก แต่ผลลัพธ์ที่เข้ามาก็ไม่ต่างอะไรกับ คุณให้พนักงานมาทำงานตามเวลางาน แล้วปล่อยให้เขาทำอะไรก็ได้ตามอำเภอใจ สำหรับเครื่องมือปัจจุบันที่เราจะนำมาตอบโจทย์ของการเช็คความพร้อมของการทำงานก็มีมากมายหลายรูปแบบ อย่าง Google ก็มีเครื่องมือที่ใช้เวลาสร้างไม่ถึง 5...
Continue readingแชร์วิธีแก้เครียดเวลาต้อง Work From Home ในช่วง COVID-19
ช่วงนี้จะสังเกตได้ว่าหลายๆบริษัท ให้พนักงานทำงานที่บ้านได้แล้ว ซึ่งการทำงานที่บ้านอาจจะเป็นสิ่งดีๆสิ่งหนึ่งในตอนนี้ที่พอจะทำได้ในช่วงที่ทุกคนเครียดกับเจ้า Covid-19 จนถึงขั้นประสาทแดกไปแล้วทั่วประเทศเพราะถามตัวเองตลอดเวลาว่าติดรึยัง? แต่หารู้ไม่ว่าการทำงานที่บ้านมันก็มีข้อเสียเช่นกัน ซึ่งหนึ่งในข้อเสียของการทำงานที่บ้าน หรือ Work From Home นั้นมันก็คือ ก่อให้เกิดความเครียดและความเครียดสะสม เพราะว่ามันค่อนข้างที่จะผิดธรรมชาติของมนุษย์เกินไปสักหน่อย เพราะว่ามนุษย์เรานั้นเป็นสัตว์สังคม ชอบเจอผู้คน หรือการมีปฏิสัมพันธ์ ซึ่งการที่เราทำงานที่บ้านเป็นระยะเวลานานๆ ไม่ได้เจอเพื่อน ไม่ได้เจอคนอื่นๆ อาจจะก่อให้เกิดความเครียดสะสม และทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานน้อยลงได้ ดังนั้นเราจึงควรจะหากิจกรรมอื่นๆที่เราชอบทำควบคู่ไปกับการอยู่บ้านด้วย เพื่อเป็นสิ่งที่จะทำให้เราคลายความเครียดลง และยังเป็นการพักผ่อน บรรเทาความคิดเกี่ยวกับเรื่อง Covid-19 ให้น้อยลง มาดูกันดีกว่าว่ามีกิจกรรมอะไรบ้าง? ดูหนัง/ดูซีรี่ส์ เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ยอดฮิตในตอนนี้มากๆ ไม่ว่าจะเป็น Youtube, Netflix, LineTV, หรือ จะเป็นโทรทัศน์ หรือ ไลฟ์โชว์ต่างๆ เหมือนที่ตอนนี้เวลาเลื่อนดูไอจีสตอรี่ของใคร ก็ถ่ายรูปจอทีวีที่กำลังดู Netflix อยู่ อ่านหนังสือ สำหรับเหล่านักอ่านที่อยู่บ้านตอนนี้ ซึ่งการอ่านหนังสือก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ช่วยให้เราผ่อนคลายได้มากขึ้น ซึ่งก็มีหลากหลายแนวแล้วแต่คนจะชอบหรือสิ่งที่ตัวเองสนใจ เล่นเกม ก็เป็นอีกสิ่งนึงที่คลายเครียดได้ดีในช่วงนี้ แล้วธุรกิจ Streaming ในตอนนี้ก็เป็นที่นิยมมากๆพอกับ หนังหรือซีรี่ส์เลยด้วย แต่สำหรับบางคนอาจจะเครียดกว่าเดิม เพราะเล่นเกมแพ้ทำให้หัวร้อนมากขึ้น ออกกำลังกาย กิจกรรมนี้สำหรับสาย Healthy ที่ช่วงนี้ห้ามออกไปข้างนอก ซึ่ง Fitness ก็เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่เสี่ยงเพราะมีคนรวมตัวกกันเป็นจำนวนมาก ถึงแม้การออกกำลังกายที่บ้านอาจจะได้ไม่เท่า Fitness แต่ก็สามารถช่วยได้บางส่วนแล้วยังช่วยลดความเครียดได้อีกด้วย ทำความสะอาดบ้าน จัดของ กิจกรรมนี้สำหรับชาวพ่อบ้านหรือแม่บ้าน เวลานี้เป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่จะทำความสะอาดบ้านหรือจัดของภายในบ้านที่เราอาจจะไม่ได้ทำมันมานานหรืออันนี้ยังไม่มีเวลา ตอนนี้เราต้องอยู่บ้านเราควรจัดพื้นที่ในการทำงาน และ ความสะอาด ให้ผ่อนคลายและสบายที่สุด ทำอาหาร กิจกรรมนี้สำหรับคนที่ชอบทำอาหารและคนที่ซื้อของมากักตุนในช่วงนี้ ก็เป็นช่วงเวลาอันดีเช่นกัน ที่จะได้ฝึกฝีมือการทำอาหาร และยังเป็นกิจกรรมที่ช่วยคลายเครียดได้ดี อีกหนึ่งกิจกรรมเลย แต่สำหรับคนที่ไม่ชอบทำจริงๆ การอยู่บ้านแบบนี้ก็แนะนำเป็น Food Delivery ต่างๆ ช้อปปิ้งออนไลน์ กิจกรรมนี้สำหรับนักช้อปตัวยง ที่ตอนนี้เหล่าเว็บไซด์ช้อปปิ้งออนไลน์ มีโปรโมชั่นมากมายและแข่งขันกันสูงมากในช่วงนี้ ไม่ว่าจะเป็น Lazada หรือ Shopee ที่จะช่วยผ่อนคลายเหล่านักช้อปให้คลายความเครียดนี้ไปได้ ซึ่งตัวช่วยที่จะ Support คุณ และ ลดความเครียดในการทำงานที่บ้านได้ดียิ่งขึ้น เหมือนทำงานอยู่ที่บริษัท...
Continue reading6 วิธีใช้ G Suite ร่วมกับค่ายอื่น
ทริคการใช้ G Suite ร่วมกับ Non G Suite หลายคนอาจจะยังสงสัยว่า ถ้าใช้ G Suite แล้ว จะสามารถทำงานร่วมกับผู้ที่ไม่ได้ใช้ G Suite อย่าง Microsfoft Office ได้อยู่หรือไม่ เนื่องจากมีเคสที่ต้องส่ง-รับไฟล์ ที่นอกเหนือจาก Google files กับลูกค้าหรือผู้ร่วมงานอื่น คำตอบก็คือ ได้แน่นอนครับเนื่องจากเป็นการทำงานรูปแบบ cross ค่ายกัน ซึ่งต้องรู้วิธีการใช้หลักๆ เพื่อให้การใช้งาน G Suite กับ non G Suite เป็นไปอย่างลื่นไหล ซึ่งผมหยิบวิธีการใช้งาน G Suite กับ Microsoft มาประมาณ 6 หัวข้อที่ใช้งานกันบ่อยที่สุดมาฝากกัน จะบอกว่าถ้าทำเป็นแล้ว ครั้งต่อไปก็จะเร็วขึ้นกว่าเดิมแน่นอนครับ 1. นัดหมายและประชุมวิดิโอคอลข้ามค่ายได้เลย หากต้องการนัดหมายและประชุมวิดิโอคอลกับผู้ที่ไม่ได้ใช้ G Suite หรือ นอกเหนือจาก @gmail.com ก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยใช้ Calendar เพื่อสร้างอีเว้นท์และทำการเชิญเข้าร่วมประชุม โดยให้ผู้ใช้ G Suite เป็นคนสร้างการนัดหมายประชุม และเชิญผู้ที่ไม่ใช่ G Suite เข้าร่วม จะเห็นได้ว่าวิธีการนัดประชุมกับวิดิโอคอลก็ทำได้ปกติเลยครับ โดยเฉพาะ Hangouts Meet ที่ถ้าผู้ไม่ได้ใช้ G Suite ก็สามารถเข้าร่วมได้ แค่กดผ่านลิ้งค์เท่านั้นเอง เหมือนปกติทุกอย่างเลยครับ 2. เปลี่ยนไฟล์ Microsoft Office ให้เป็น Google files ผู้ที่ใช้งาน G Suite ก็ยังสามารถใช้งาน Office ไฟล์ ได้เช่นกัน แม้จะไม่มีโปรแกรม Office ในเครื่อง PC โดยที่คุณสามารถเปิดไฟล์นั้นบน Chrome browser เพื่อดู...
Continue reading6 เคล็ดลับ Video Conference อย่างไรให้ราบรื่น
ในช่วงที่ประสบปัญหาวิกฤติ COVID-19 อยู่ในตอนนี้ หลายคนเลือก Video Conference หรือการประชุมผ่านวิดีโอเป็นตัวหลักในการทำงานแบบ Work from home แต่การประชุมผ่านวิดีโอนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับทุกคนเสมอไป โดยเฉพาะบ้านที่มีเด็กๆ หรือสัตว์เลี้ยง ซึ่งอาจมีเสียงรบกวนเล็ดลอดเข้ามาขณะประชุมได้ วันนี้เรามี 6 เคล็ดลับดีๆ จาก Google ที่จะช่วยให้คุณสามารถประชุมทางวิดีโอได้อย่างราบรื่นขณะอยู่ที่บ้าน อ่านบทความเพิ่มเติม: 6 เคล็ดลับจาก Google | Work from home อย่างไรให้เวิร์ค เคล็ดลับที่ 1: เลือกบรรยากาศที่เหมาะสม การพูดคุยเกี่ยวกับปัญหาที่ซับซ้อน หรือระดมความคิด วิดีโอคอนเฟอเรนซ์จึงเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากกว่าการพิมพ์แชทหรืออีเมล แต่ก็ควรนึกถึงสภาพแวดล้อมรอบตัวคุณด้วย เช่น พยายามเลือกฉากหลังเป็นกำแพงธรรมดาและหลีกเลี่ยงหน้าต่างที่อาจะทำให้เกิดการย้อนแสง หรือหากคุณวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ด้วยแล็ปท็อป ไม่ควรวางแล็ปท็อปไว้บนตัก หรือขยับหน้าจอไปมาบ่อยๆ เพราะการส่ายหน้าจอเพียงเล็กน้อยนั้นอาจะทำให้ผู้เข้าร่วมคนอื่นเสียสมาธิได้ เคล็ดลับที่ 2: นัดประชุมง่ายๆ เพียงไม่กี่คลิก สามารถตั้งค่าการประชุมและเชิญผู้เข้าร่วมได้ทั้งภายในและภายนอกองค์กรได้อย่างง่ายดายจาก Google Calendar ที่ซิงค์เข้ากับ Hangouts Meet โดยระบบจะสร้างลิงก์สำหรับเข้าร่วมประชุมให้คุณโดยอัตโนมัติ เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าร่วมได้จากทุกที่ เคล็ดลับที่ 3: ได้ยินไม่ถนัด? ลองเปิดโหมดคำบรรยายใต้ภาพ หากคุณอยู่ในสถานการณ์ที่มีเสียงดังรบกวน แถมยังไม่มีหูฟังด้วย คุณสามารถเปิดใช้ฟีเจอร์คำบรรยายใต้ภาพหรือโหมด Caption ได้ใน Hangouts Meet เพื่อแสดงคำบรรยายใต้ภาพแบบเรียลไทม์ (เช่นเดียวกับคำบรรยายในทีวี) แต่ปัจจุบันฟีเจอร์นี้รองรับเฉพาะภาษาอังกฤษเท่านั้น เคล็ดลับที่ 4: แชร์หน้าจอเฉพาะสิ่งที่ต้องการนำเสนอ ในระหว่างการนำเสนอผ่านการแชร์หน้าจอ แล้วทุกคนที่เข้าร่วมประชุมเห็นทุกอย่างบนหน้าจอของคุณ ไม่ว่าจะเป็นหน้าอีเมลที่อาจมีอีเมลสำคัญ หรือหน้าเพจโซเชียลมีเดียที่กำลังเปิดค้างอยู่ ก็อาจจะดูไม่เหมาะสมเท่าไหร่ ให้ลองเลือกแชร์หน้าจอแบบหน้าต่างเดียว (A window) แทนการแชร์หน้าจอทั้งหมด (Your entire screen) เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะแชร์หน้าจอเฉพาะสิ่งที่ต้องการนำเสนอเท่านั้น เคล็ดลับที่ 5: เปลี่ยนเลย์เอาท์ของหน้าจอให้เหมาะสม ใน Hangouts Meet สามารถปรับเปลี่ยนเลย์เอาท์ของวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ได้ ลองปรับเลย์เอาท์ให้เหมาะสมกับการพูดคุยภายในทีมของคุณ เช่น ตั้งค่าให้เห็นเฉพาะหน้าจอที่เพื่อนในทีมแชร์ หรือจะให้สามารถเห็นผู้พูดขณะแชร์หน้าจอด้วยก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่าต้องการมุ่งเน้นไปที่ผู้พูดหรือหน้าจอการนำเสนอ เคล็ดลับที่ 6: ปล่อยตัวตามสบาย...
Continue readingถอดบทเรียน รับมืออย่างไร เมื่อพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนในวิกฤต COVID-19
ถอดบทเรียน เมื่อพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป แบรนด์ดังต่างๆ รับมือกับวิกฤตครั้งนี้อย่างไร ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อนในยุคที่อินเตอร์เนตและค้าขายออนไลน์ยังไม่เฟื่องฟู ผู้บริโภคไม่มีทางเลือกนอกจากไปเลือกซื้อของที่หน้าร้านค้า เป็น Customer Journey แบบ Single Channel ที่ครบจบในที่เดียว กระทั่งหลายปีต่อมากระแสออนไลน์มาแรง ทำให้ผู้บริโภคมีช่องทางสั่งซื้อที่หลากหลายมากขึ้น จนถึงช่องทางแบบ Omnichannel รวมทุกช่องทางเข้าไว้ด้วยกัน หลายองค์กรต่างต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การตลาดกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้าง Journey ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคและสร้างประสบการณ์ที่ดีให้มากที่สุด ใครเล่าจะคาดคิดว่าในอีกเพียงไม่นานจะเกิดวิกฤตครั้งใหญ่ เมื่อพฤติกรรมผู้บริโภคจำต้องเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เพราะไวรัส COVID-19 ธุรกิจที่คาดว่าได้รับผลกระทบเชิงลบจาก COVID-19 ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว หมวดช๊อปปิ้ง ธุรกิจประเภทพักผ่อนหย่อนใจ ร้านเครื่องดื่ม คาเฟ่ สินค้าหมวดฟุ่มเฟือย / ไม่จำเป็นขั้นพื้นฐาน สินค้าแบรนด์เนม สุรา ไวน์ เราลองมาดูกันว่าในภาวะวิกฤตอย่างนี้ หลายแบรนด์ดังในธุรกิจประเภทที่ได้รับผลกระทบออกมาตรการรับมืออย่างไร ธุรกิจท่องเที่ยวทรุดหนัก หมวดการท่องเที่ยวถือว่ากระทบหนักที่สุด เป็นเหตุให้แม้แต่เครือโรงแรมยักษ์ใหญ่อย่างแอสเสท เวิรล์ คอร์ป จำกัด หรือ AWC ผู้นำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของไทย ประกาศปิดโรงแรม 5 แห่งในกรุงเทพชั่วคราว และกำหนดให้พนักงาน Work From Home โดย AWC จะพิจารณาสถานการณ์เป็นรายสัปดาห์ ลดความเสี่ยงจากการเดินทาง และการรวมกลุ่มคนจำนวนมากในการประชุมต่างๆ รวมถึงได้ทำประกันโรคโควิด-19 โดยเลือกแผนประกันที่ดีที่สุดให้กับพนักงานทั้งหมดกว่า 6,000 คน ทั้งส่วนของบริษัทเองและพนักงานโรงแรมทั้งหมดในกลุ่ม AWC และพนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่ในโครงการต่าง ๆ ของ AWC นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ของ AWC กล่าวว่า พนักงานของโรงแรมทั้ง 5 แห่งที่ปิดให้บริการชั่วคราวนั้นมีจำนวน 2,000 คนนั้น จะยังคงได้รับค่าจ้าง เงินเดือน และสวัสดิการพนักงานตามปกติในระหว่างการหยุดงาน โดยบริษัทมีข้อกำหนดให้พนักงานทั้งหมดพักอยู่ที่บ้าน เลี่ยงเดินทางเคลื่อนย้ายไปยังจังหวัดอื่น ๆ โดยเด็ดขาด เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโควิด-19 ตามนโยบายของภาครัฐ พร้อมทั้งมีการจัดแผนปรับปรุง รวมทั้งการทำความสะอาดใหญ่ทั่วทั้งบริเวณ (Big Cleaning) ในทั้ง 5 โรงแรมระหว่างปิดดำเนินการ...
Continue reading