Covid-19 ส่งผลกระทบต่อ Customer Experience อย่างไร?

Covid-19 ส่งผลกระทบต่อ Customer Experience อย่างไร? สืบเนื่องจากวิกฤต COVID-19 ทำให้ทีมดูแลประสบการณ์ลูกค้าจากทั่วโลกต่างก็ต้องเร่งปรับตัว ทั้งจากจำนวน Ticket พฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภค และตลาดการเงินที่ผันผวน โลกเปลี่ยนไปในทุกสัปดาห์ และการทำธุรกิจก็ไม่เรียบง่ายดั่งที่เคยเป็นมาอีกแล้ว ทีมโต้ตอบลูกค้าส่วนใหญ่เองก็ได้เปลี่ยนสภาพแวดล้อมการทำงานให้เป็นแบบ Work From Home ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยเสริมทำให้การโต้ตอบลูกค้าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เรียนรู้และปรับตัวไปอย่างที่มันควรจะเป็น มาดูสรุปข้อมูลจาก 23,000 บริษัทที่ซัพพอรต์ลูกค้าด้วย Zendesk กันว่า ได้รับกระทบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้อย่างไรกันบ้าง? คำร้องของลูกค้าเพิ่มสูงมากขึ้น ในธุรกิจทุกประเภท จากทั่วทุกมุมโลก ต่างประสบกับปริมาณคำร้องซัพพอรต์ของลูกค้าที่เปลี่ยนไปตลอดเวลา โดยรายงานข้อมูลแสดงผลว่าปริมาณ Ticket ของบริษัทเพิ่มขึ้น 11% จากค่าเฉลี่ยรายสัปดาห์ ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ Covid-19 ที่แพร่ระบาดไปทั่วโลกกับคำร้องที่ผันผวนของลูกค้ามีจุดเชื่อมโยงที่สัมพันธ์กัน มีจุดเชื่อมโยงที่แข็งแกร่งระหว่าง COVID-19 ที่แพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง กับอัตราคำร้องที่พุ่งทะยานขึ้น เมื่อผู้บริโภคต้องปรับตัวให้เข้ากับวิกฤต ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ถึงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนเมษายน จะเห็นได้ว่าปริมาณ Tickets เทียบกับปีที่แล้วทะยานขึ้นสูงในแถบละตินอเมริกา 32% ในขณะที่อเมริกาเหนือพุ่งขึ้น 21%  จากรูปแสดงถึงปริมาณคำร้องโดยเฉลี่ยที่บริษัทต้องบริหารจัดการในแต่ละประเทศ เราจะเห็นได้ว่าบริษัทที่อิตาลีเผชิญหน้ากับปริมาณ Tickets ที่ทะยานสูงที่สุดเทียบกับค่าเฉลี่ยจากประเทศอื่น ด้วยปริมาณคำร้องที่พุ่งขึ้นในสามสัปดาห์แรกของเดือนมีนาคม ซัพพอรต์ทีมในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และเยอะมันก็มีปริมาณ Tickets เพิ่มสูงขึ้นในเดือนมีนาคม ในช่วงการแพร่ระบาดนี้เช่นเดียวกัน บริษัทที่ให้บริการด้านการทำงานทางไกล สายการบิน บริษัทด้านอาหาร และบริษัทด้านการบริการร่วมเดินทางได้รับผลกระทบมากที่สุด บริษัทที่ให้บริการด้านการทำงานอิสระมีปริมาณคำร้องซัพพอรต์พุ่งขึ้นสูงมากที่สุด โดยปริมาณคำร้องต่อสัปดาห์เพิ่มสูงขึ้นถึงสามเท่าในเดือนมีนาคม บริษัทที่จัดสรรอาหารในช่วงวิกฤตก็มีจำนวนคำร้องสูงขึ้นเช่นเดียวกัน จากปริมาณคำร้องซัพพอรต์ที่ทะยานขึ้น 76% สำหรับบริษัทประเภทอุปโภคบริโภค 57% สำหรับร้านอาหารในเดือนมีนาคม ในขณะที่ธุรกิจสายการบินได้รับการสอบถามข้อมูลจากลูกค้าเพิ่มขึ้น 60% ธุรกิจบริการร่วมเดินทางกับด้านอสังหาริมทรัพย์ก็ได้รับผลกระทบ แม้ว่าปริมาณคำร้องที่จะผันไปตรงข้ามสืบเนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป โดยบริษัทด้านบริการร่วมเดินทางมียอด Tickets ดิ่งฮวบลง 57% ในเดือนมีนาคม ผู้บริโภคหันไปใช้ WhatsApp, Chat, และ Self-Service เพิ่มมากขึ้นในวิกฤต การต่อสายคุยกับเจ้าหน้าที่ในบางบริษัทใช้ระยะเวลาที่ยาวนานมากขึ้น ผู้บริโภคได้เปลี่ยนไปใช้ช่องทางสื่อสารที่รวดเร็วและสะดวกในการมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนและครอบครัว อาทิ WhatsApp แชท และช่องส่งข้อความทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ในช่วงกลางของเดือนเมษายน พบว่าคำร้องของลูกค้าทะยานขึ้นสูงในช่องทางเหล่านี้ ด้วยจำนวน Tickets ทั้งหมดทะยานขึ้น...

Continue reading

Mini Programs ดีต่อธุรกิจE-Commerce ยังไง?

 E-Commerce คือการทำธุรกิจโดยการซื้อขายสินค้า และการให้บริการผ่านระบบอินเทอร์เน็ตซึ่งสามารถอัปโหลดข้อความ เสียง ภาพ และวิดีโอลงเว็บไซร์บนอีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์มของตัวเองในการทำธุรกิจได้ ดังนั้นการทำธุรกิจแบบ E-commerce สามารถเข้าถึงลูกค้าได้ง่ายมากยิ่งขึ้น เเละลดค่าใช้จ่ายต่างๆ ในปัจจุบันมีการพัฒนาเทคโนโลยีที่ทันสมัยออกมาอยู่เรื่อยๆ เเละยุคDigitalนี้ ก็ต้องยกให้กับประเทศจีน เพราะเค้าพัฒนาเทคโนโลยีได้อย่างรวดเร็ว ทางรัฐบาลจีนเองก็ให้ความสำคัญกับการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตของประชากรในประเทศเป็นอย่างมาก ซึ่งในปีที่ผ่านๆมาจีนก็มีGDPเเบบก้าวกระโดดมาอย่างต่อเนื่อง จะเห็นได้ว่าทุกวันนี้จีนสามารถกระจายอินเตอร์เน็ตได้ครอบคลุมทั่วประเทศจีนเป็นที่เรียบร้อย เพราะการใช้งานอินเตอร์เน็ตเป็นกิจกรรมหลักในชีวิตประจำวันของประชากรส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการ ค้นหาข้อมูล เช็คอีเมล ดูข่าวสาร ฟังเพลง เล่นเกม หรือสั่งอาหารทางออนไลน์  ดังนั้นนักธุรกิจเเละผู้ประกอบการจึงให้ความสนใจในการทำ E-Commerce กันมากขึ้นเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ง่าย เเละสิ่งเหล่านี้ทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลง ทุกคนหันมาใช้ช่องทางออนไลน์สั่งสินค้ากันมากขึ้น  เข้าสู่ยุค Lazy economyหรือ เศรษฐกิจขี้เกียจ ผู้บริโภคพร้อมจ่ายเงินเพื่อให้ได้รับความสะดวกสบาย เช่นฟู้ดเดลิเวอรี่ ธุรกิจจองคิว ขายสินค้าออนไลน์  ซึ่งเป็นเทรนด์ที่ยังมีแนวโน้มเติบโตในปัจจุบันทำให้คนจีนนิยมซื้อสินค้าผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซมากกว่าจะออกไปซื้อตามห้างเเละซุปเปอร์มาเก็ตต่างๆ เพราะว่าการสั่งของผ่านช่องทางE-Commerce (อีคอมเมิร์ซ) ใน WeChat Mini Program สามารถ หาสินค้าได้ง่าย เเละประหยัดเวลาในการเดินทาง จึงทำให้ ปี2020 มียอดขายออนไลน์เติบโตมากกว่า80%  นี้เป็นโอกาสที่ดีเเละข้อได้เปรียบมากสำหรับผู้ประกอบการคนที่รู้ก่อนเเละเข้าไปทำธุรกิจในอีคอมเมิร์ซในจีน นี่จึงเป็นช่องทางสำหรับนักธุรกิจไทยในการเข้าไปทำธุรกิจกับจีน ซึ่งทุกคนก็อยากเข้าไปในตลาดจีน เพราะคนจีนมีประชากรที่มีกำลังซื้อสินค้าอยู่อย่างมหาศาล เเละตอนนี้ก้สามารถเข้าถึงตลาดจีนได้อย่างไร้พรมแดนด้วยอีคอมเมิร์ซ ดังนั้นโอกาสย่อมเป็นของผู้ที่มีความพร้อมก่อนเสมอ การหาข้อมูลและทำความเข้าใจตลาดจีนจึงเป็นอาวุธสำคัญในการเข้าไปแข่งขันในตลาด E-Commerceที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างจีนได้ ข้อดีของการใช้ E-Commerce ในเเอพของWeChat Mini Program  สามารถชื้อของเเละจ่ายเงินได้ในช่องทางเดียว ซึ่ง WeChat ของ Tencent ได้พัฒนาระบบการจ่ายเงินผ่านช่องทาง WeChat Pay ทำให้กระบวนการซื้อขายง่ายและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น เพราะลูกค้าไม่ต้องเสียเวลาลงชื่อเข้าใช้งาน หรือสมัครบัญชีธนาคารใหม่เพื่อทำการชำระเงิน WeChat มีระบบลิ้งค์ข้อมูลไว้เเล้ว ทำให้ผู้บริโภคเลือกชื้อของ เเละจ่ายเงินได้อย่างสะดวก สบายเเละปลอดภัยมาก WeChat Mini Program เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการบุกตลาดจีนที่ใช่ง่ายเเละสามารถเข้าถึงคนจีนได้กว่า1600 ล้านคน เป็นแอปที่คนจีนแทบทุกคนใช้อยู่ในชีวิตประจำวัน ดังนั้นการที่ธุรกิจมีแพลตฟอร์มบน Mini Program จะมอบประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้าชาวจีน และเจ้าของธุรกิจเองก็จะมีช่องทางในการเข้าถึงลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น  ข้อดีของการทำธุรกิจ E-Commerce  》 ไม่ต้องมีหน้าร้าน (สามารถถ่ายรูปสินค้าหรือ วีดีโอบนเว็บไซต์ได้) 》 ไม่ต้องจ้างพนักงาน (สามารถเเชทคุยกับลูกค้าเองได้)...

Continue reading

มาดูกัน Google Meet ช่วยให้การวิดีโอคอลปลอดภัยได้อย่างไร

ในช่วงที่เราต้อง Work from home หลายคนที่ใช้ Video conference ในการทำงานร่วมกันเริ่มมีความกังวลใจในเรื่องความปลอดภัยไม่น้อย วิดีโอจะหลุดมั้ย? จะมีคนแฮ็คหรือเปล่า? Google Meet นับว่าเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือดีๆ ที่ให้คุณสามารถวิดีโอคอลได้อย่างปลอดภัย อ่านบทความเพิ่มเติม: 6 เคล็ดลับ Video Conference อย่างไรให้ราบรื่น รู้หรือไม่? Google Meet ถูกออกแบบมาให้มีการป้องกันในตัว มีโครงสร้างพื้นฐานที่ปลอดภัยตามมาตรฐานเดียวกับที่ Google ใช้เพื่อรักษาความปลอดภัยของข้อมูล รวมถึงการปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน: Meet นั้นมีมาตรฐานความปลอดภัย IETF สำหรับ Datagram Transport Layer Security (DTLS) และ Secure Real-time Transport Protocol (SRTP) ตามปกติแล้วใน Meet ข้อมูลทั้งหมดจะถูกเข้ารหัส (encrypted) ระหว่างผู้ใช้งานและ Google ทั้งการประชุมทางวิดีโอบนเว็บเบราว์เซอร์ และในแอปพลิเคชันบน Android และ iOS รหัสที่ใช้สำหรับการเข้าร่วมประชุม หรือ Meeting ID แต่ละอันมีความยาว 10 ตัวอักษร โดยมีตัวอักษรถึง 25 ตัวในรหัส 1 ชุด ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากหน่อยหากจะมีใครสักคนพยายามแฮ็คเข้ามาด้วยการเดารหัส เพื่อลดความยุ่งยากซับซ้อนในการอัปเดตแพ็ตช์ด้านความปลอดภัย Meet จะทำงานเองบนเว็บเบราวเซอร์ ไม่ว่าจะเป็น Chrome, Firefox, Safari, หรือ Microsoft Edge ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องติดตั้งปลั๊กอิน หรือซอฟต์แวร์ใดๆ เพิ่มเติม ส่วนอุปกรณ์เคลื่อนที่แนะนำให้ติดตั้งแอปพลิเคชัน Meet แทนการใช้งานผ่านเบราวเซอร์ เพื่อการใช้งานที่เสถียรมากยิ่งขึ้น สนับสนุนข้อกำหนดการปฏิบัติตามกฎระเบียบซึ่งรวมถึง COPPA, FERPA, GDPR และ HIPAA ฟีเจอร์ใหม่ใน Google Meet ที่ช่วยให้การประชุมปลอดภัยยิ่งขึ้น Google ได้พัฒนาฟีเจอร์ใหม่เพิ่มเติมให้กับผู้ใช้ G Suite ทุกคน...

Continue reading

Google Meet แชร์หน้าจอวิดีโอพร้อมเสียง แบบ High-quality ด้วย A Chrome Tab

สำหรับใครที่ต้องใช้คลิปวิดีโอประกอบการพรีเซ้นต์ใน conference ตอนนี้ Google Meet สามารถให้คุณแชร์สกรีนหน้าจอวิดีโอYoutube ใน Chrome พร้อมเสียง audio แบบ High – quality  ได้โดยตรง ด้วย A Chrome Tab   เนื่องจาก Google G Suite เห็นความสำคัญของการพรีเซ้นต์วิดิโอเป็นอย่างมาก เนื่องจากรูปแบบการประชุมองค์กร รวมทั้งการเรียนการสอนในปัจจุบันเริ่มปรับตัวเป็นแบบออนไลน์มากขึ้น ฉะนั้นหากใน conference ต้องมีการนำเสนอคอนเท้นต์วิดีโอนั้น คุณภาพของภาพและเสียงต้องดีที่สุด ให้ผู้ร่วมประชุมด้วย  Google meet มั่นใจได้ว่า conference นั้นจะสมูทมากกว่าเดิม  นอกจากนี้คุณยังสามารถนำเสนอการประชุม โดยเชื่อมต่อด้วยสาย HDMI รวมทั้ง Meet hardware kits ด้วยภาพและเสียงแบบบ High-quality ได้อีกด้วย วิธีนำเสนอหน้าจอด้วย A Chrome Tab เข้าร่วมการประชุมใน Google Meet ที่มุมขวาด้านล่างของจอ Meet ให้เลือก Present now เลือกประเภทการนำเสนอหน้าจอเป็น A Chrome Tab เลือก Tab ที่ต้องการนำเสนอ เพิ่มเติม หากอยากรู้ว่า ตอนนี้กำลังนำเสนอ tab ไหนอยู่ ให้สังเกตว่า จะมีไฮไลต์เป็นกรอบสีฟ้าที่หน้า tab นั้น คุณสามารถเลือกเปลี่ยนนำเสนอเป็น tab อื่นได้ ให้คุณกดเลือก tab ต้องการ แล้วเลือกเป็น Share this tab instead ที่ ด้านบนหน้าต่าง Meet หากกรณีมีคนกำลังนำเสนออยู่ คุณก็สามารถเปลี่ยนมานำเสนอเองได้ เพียงแค่คลิกยืนยันว่าคุณต้องการนำเสนอแทน หากกล้องคุณเปิดอยู่ระหว่างที่คุณกำลังนำเสนอหน้าจอ ผู้ร่วมประชุมจะสามารถเห็นได้ทั้งการนำเสนอหน้าจอของคุณ และกล้องของคุณ วิธีนำเสนอแทนเมื่อผู้อื่นกำลังนำเสนออยู่ คลิก Present Now ที่มุมขวาล่าง เลือกรูปแบบการนำเสนอ Your...

Continue reading

อัพเดต layout ใหม่ ใน Google Meet

Google Meet อัพเดต tiled layout ได้สูงสุด 16 ช่องแล้ว! มาแล้วจ้า สำหรับใครที่รอคอยว่าเมื่อไหร่ Google Meet จะมี layout แบบ gallery view สักที จะได้เห็นหน้าตาผู้ร่วมประชุมแบบจุใจหน่อย และแล้ววันนี้ Google G Suite ก็ อัพเดต หน้าตา  tiled layout ใน Google Meet ใหม่ให้เป็น 16 gallery view  เรียกได้ว่ามาช้าแต่มาชัวร์ เอาใจสาวก Google Meet กันถ้วนหน้า จุดประสงค์ของการอัพเดต tiled layout นั่นก็คือ จะได้เห็นหน้าค่าตาผู้เข้าประชุมได้อย่างพร้อมเพรียงกัน และสามารถดู react ของแต่ละคนได้มากขึ้น  โดยหน้าจอสามารถแสดงผลได้ถึง 16 ผู้เข้าร่วมเลยทีเดียว แบบ 4×4 (ซึ่งปกติจะแสดงผลได้สูงสุดแค่ 4 คนเท่านั้น)  ใช้เม้าส์วางที่หน้าตาผู้เข้าร่วมประชุมเพื่อดูรายชื่อของคนนั้นได้เลย  ส่วน meeting ไหนที่มีจำนวนผู้เข้าร่วมมากกว่า 16 คน tiled layout ก็จะแสดงโชว์หน้าผู้เข้าร่วมประชุมที่กำลังพูดอยู่เท่านั้น (active speaker)  วิธีเปิดใช้งาน tiled layout เลื่อนเม้าส์ชี้ผู้เข้าร่วมที่แสดงอยู่บน tiled layout เพื่อดูรายชื่อ หากมีผู้เข้าร่วมประชุมเข้าร่วมเพิ่มเติม ระบบจะเพิ่มบุคคลนั้นไปที่ด้านล่างของจอ การนำเสนอหน้าจอ จะแสดงเป็นหน้าจอเต็ม และจะแสดงผู้ร่วมประชุมที่กำลังพูดอยู่เท่านั้น (active speaker) ที่ด้านขวามือ การใช้งาน tiled layout เข้าร่วมการประชุม Google Meet บนหน้าเว็บ  ที่มุมขวาด้านล่างของหน้าจอ Meet ให้เลือก More > Change layout  เลือก Tiled layout...

Continue reading

Customer Service สำคัญต่อธุรกิจอย่างไร?

ต้องยอมรับว่าปัจจุบันในโลกหรือประเทศของเรานั้น มีพ่อค้าแม่ค้ามากมายทั้งทางออฟไลน์ และทางออนไลน์ และยิ่งตอนนี้ที่ทุกคนเจอวิกฤต Covid-19 ไป บางคนถูกพักงานหรือโดนไล่ออกจากงาน ยิ่งทำให้คนหาลู่ทางใหม่ๆในการทำธุรกิจมากขึ้นเพื่อความอยู่รอด ใครทำอะไรเป็นก็ต่างคนต่างทำสิ่งนั้นออกมาขายกันมากมาย ซึ่งสินค้าของแต่ละคนก็อาจจะแตกต่างกันออกไปไม่มากก็น้อย เพราะถ้าเรามีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองก็รอดไป แต่ถ้าสินค้าเราไม่แตกต่างจากคนอื่นละ อะไรจะเป็นปัจจัยที่ทำให้ลูกค้ามาซื้อและมาบริโภคของเรา คุณภาพสินค้า? ราคา? หรืออะไร.. แต่จริง ๆ แล้วปัจจัยนึงที่สำคัญมากๆเลยคือ บทบาทหน้าที่ของ Customer Service หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า CS ที่แต่ละที่จะไม่มีทางเหมือนกันอย่างแน่นอน เพราะต้องยอมรับว่าผู้บริโภคสมัยนี้ เขาไม่ได้มองที่ราคาและคุณภาพของสินค้าเพียงเท่านั้น เพราะถ้าสินค้าราคาถูกกว่า คุณภาพดีกว่า แต่พนักงานหรือเจ้าของร้านพูดจาไม่ดีหรือบริการไม่ดี ลูกค้าก็พร้อมที่จะไม่ซื้อ และเปลี่ยนไปซื้อร้านที่แพงกว่านิดหน่อย แต่ได้รับบริการและการดูแลที่ดีกว่า แล้ว Customer Service แบบไหนล่ะถึงเรียกว่าดี? มาดูไปพร้อมๆกัน ตอบลูกค้าไว รวดเร็ว ข้อนี้ทุกคนคงรู้กันดีอยู่แล้ว นึกถึงถ้าเราเป็นลูกค้า เวลาที่เราสื่อสารกับพนักงานในช่องทางต่าง ๆ เราก็อยากที่จะรู้ข้อมูลตอนนั้นเลยเพื่อการตัดสินใจ แต่ถ้าเราเจอ Customer Service ที่ไม่ตอบเราสักที รอนาน ทำให้เราเสียเวลา เราก็เลิกที่จะรอแล้วไปดูสินค้าตัวอื่นหรือสินค้าร้านอื่นแทนได้ ดูแลลูกค้าด้วยความจริงใจและทัศนคติที่ดี ไม่อคติต่อลูกค้า ข้อนี้จะขึ้นอยู่กับตัวพนักงานเป็นหลัก ว่าทางบริษัทรับคนแบบไหนเข้ามาทำงาน และมีการสอนงานให้รับมือกับลูกค้าที่มีหลากหลายประเภทอย่างไรบ้าง เพราะงานบริการลูกค้าต้องมีใจและพร้อมที่จะบริการลูกค้าด้วยความเต็มใจ ถ้าเราเจอคนที่หน้าเหวี่ยงใส่ น้ำเสียงกระแทกกระทั้น พูดห้วน ๆ ใส่เรา เราก็จะเริ่มรู้สึกว่า คน ๆ นี้ไม่อยากดูแลและบริการเราจริง ๆ แก้ปัญหาหรือตอบคำถามของลูกค้าให้ตรงจุด ข้อนี้สำคัญมากในเรื่องของการตัดสินใจซื้อของลูกค้า เพราะว่า ถ้าลูกค้าถามแล้ว พนักงานตอบแบบส่ง ๆ พนักงานไม่รู้ข้อมูลที่แท้จริง อาจทำให้ลูกค้าและบริษัทเสียหายได้ ดังนั้น ถ้าเราต้องติดต่อฝ่ายอื่น หรือคนที่ดูแลส่วนนั้นที่ลูกค้าถามจริง ๆ เราก็สามารถส่งไปให้ฝ่ายที่ดูแลตอบคำถามลูกค้าดีกว่า ดูแลลูกค้าหลังการขาย หรือ ให้คำปรึกษาหากลูกค้ามีการสอบถามเพิ่มเติมหลังจากที่ซื้อสินค้าหรือบริการไปแล้ว เพราะระหว่างนั้นลูกค้าอาจเจอปัญหาได้ ข้อนี้ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจของลูกค้าเช่นกัน ซึ่งทาง Zendesk ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของ Customer Service สำหรับธุรกิจในอนาคต จึงได้พัฒนาระบบ Customer Service Software ขึ้นมาเพื่อที่จะมาช่วยเหล่าทีม...

Continue reading

พบกับ Google Meet ใน Gmail ได้แล้ววันนี้

พบกับ Google Meet ใน Gmail ได้แล้ววันนี้! ในที่สุด Google G Suite ก็ได้นำ Google Meet หรือ Hangouts Meet (ชื่อเดิม) มาไว้ใน Gmail แล้วเป็นที่เรียบร้อย  เพื่อเอื้อให้ผู้ใช้งาน conference เป็นประจำ ได้ใช้งานสะดวกยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในช่วง work หรือ study from home ที่การสื่อสารสำคัญมากที่สุด อ่านเพิ่มเติม:  รู้จัก Google Meet  อ่านเพิ่มเติม: เครื่องมือ Work from Home by G Suite  โดยฟีเจอร์  Meet ที่เพิ่มมาใหม่นั้น จะปรากฎที่แถบด้านซ้ายมือของหน้าต่าง Gmail มีให้เลือกใช้งาน 2 หัวข้อด้วยกัน นั่นก็คือ Start a Meeting สำหรับสร้างห้องประชุม หรือ Join a meeting เพื่อเข้าร่วมการประชุม  Start a meeting – สร้างห้องประชุม เมื่อคุณเลือกที่ Start a Meeting จะปรากฎเป็นหน้าต่าง Meet ขึ้นมา จากนั้นคุณก็สามารถห้องประชุมได้เลย โดยเลือก +Join or start a Meeting > ตั้งชื่อการประชุม > Continue เพื่อเริ่มการประชุม  หากต้องการเชิญผู้อื่นเข้าร่วมประชุมก็ทำได้ง่ายๆ แค่ส่งชื่อห้องประชุมหรือ nickname ที่เราตั้งขึ้นมาให้ผู้เข้าร่วมนำไปใส่ที่  +Join or start a meeting  แต่ในกรณีที่ส่งเป็น nickname จะสามารถใช้ได้ภายในโดเมนเดียวกันเท่านั้นดังในวงเล็บในภาพตัวอย่างด้านล่าง หากต้องการเชิญผู้เข้าร่วมที่อยู่คนละองค์กรหรือคนละโดเมน สามารถส่งเป็นลิ้งค์...

Continue reading

Customer Support ทางออนไลน์ อีกหนึ่งโอกาสในวิกฤต

ในทุกวิกฤต ย่อมมีโอกาส ท่ามกลางวิกฤตโควิด-19 ที่ทำให้หลายธุรกิจต้องหยุดชะงัก หลายกิจการต้องปิดตัวลง ปรับลดเงินเดือน ปลดพนักงาน ถึงอย่างนั้นทราบหรือไม่ เมื่อพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ทำให้อีกด้านฝั่งธุรกิจออนไลน์ตอนนี้เติบโตขึ้นกว่า 80% สำคัญคือเราต้องก้าวตามโลกให้ทัน และหาวิธีพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสฝ่าไปให้ได้ Customer Support คืออะไร? หากพูดถึงคำว่า Customer Support เชื่อว่าหลายคนคงคุ้นชินกับ คำว่า Customer Service มากกว่า ซึ่งการสนับสนุนลูกค้า และการบริการลูกค้า ก็ต่างล้วนมีจดมุ่งหมายเดียวกันคือการรักษาความพึงพอใจของลูกค้า หากว่าลูกค้ามีความพึงพอใจในระดับสูง ย่อมต้องส่งผลดีต่อแบรนด์ ลดการพูดถึงในแง่ลบ และสามารถเพิ่มโอกาสในการขายได้อย่างต่อเนื่อง แต่ทั้ง 2 คำนี้ก็มีความแตกต่างกัน Customer Service เป็นคำที่บ่งบอกถึงการมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า มุ่งเสริมสร้างประสบการณ์และความสัมพันธ์อันดีให้บริษัท ในขณะที่ Customer Support จะเป็นการโต้ตอบกับลูกค้า จัดการปัญหาและเหตุขัดข้องต่างๆ ให้กับลูกค้ามากกว่าการบริการ รวมถึงติดตามลูกค้าและมุ่งเสริมสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า ในสถานการณ์ปัจจุบันที่ผู้คนส่วนใหญ่เก็บตัวอยู่บ้าน แม้แต่พนักงานบริษัทที่ต่าง Work From Home จึงไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าการมีปฏิสัมพันธ์ทางออนไลน์ได้เข้ามามีบทบาทอย่างสูง แต่การจะซัพพอรต์ลูกค้าทางออนไลน์ให้มีประสิทธิภาพนั้นก็ต้องอาศัยเครื่องมือที่ดีตามไปด้วย  รู้จักกับ 4 ฟีเจอร์ของ Zendesk Customer Support Software อัจฉริยะ อีกหนึ่งตัวช่วยซัพพอรต์ลูกค้าทางออนไลน์ สร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้ลูกค้ากัน 01 รวมทุกช่องทางเข้าไว้ด้วยกัน จะช่องทางไหนเราเชื่อมได้หมด บอกลาปัญหาปวดหัวกับระบบทำงานที่ไซโล ไหนจะลูกค้าที่เข้ามาจากหลายช่องทางด้วย Zendesk Support ซอฟต์แวร์ Ticketing System ที่เชื่อมทุกช่องทางโซเชียลมีเดียไว้ด้วยกัน จะเป็นเฟสบุค ไลน์ ไอจี Zendesk Support เชื่อมได้ทั้งหมด และยังเพิ่มพูนประสิทธิภาพการทำงานร่วมกันได้อีกด้วย 02 Live Chat แชทกับลูกค้าแบบเรียลไทม์ ลูกค้าแฮปปี้ เราก็แฮปปี้ นาทีนี้เวลาเป็นเงินเป็นทอง จะปล่อยให้ลูกค้าต้องรอไม่ได้เด็ดขาด มารู้จัก Zendesk Live Chat ระบบแชทเรียลไทม์ที่ติดตั้งหน้าเว็บหรือที่ไหนก็ได้ จะเก็บข้อมูลเป็น Ticket หรือแค่ไว้แชทคุยก็บันทึกข้อความให้อัตโนมัติ  03 เพราะการพูดคือการสื่อสารที่ดีที่สุด Talk...

Continue reading

Brainstorm อย่างไรให้ปิ๊งไอเดีย ด้วย G Suite

ใครทำงานแล้วต้องมีการแชร์ไอเดียระหว่างทีม หรือ ใครที่กำลังหาเครื่องมือที่ช่วยซัพพอร์ตการแชร์ไอเดียร่วมกันดีๆสักชิ้น วันนี้ Google G Suite มีไอเดียมาแชร์ให้ทุกๆท่าน บอกได้เลยว่า G Suite มีตัวช่วยมากมายที่ทำให้การ brainstorm ของคุณกับทีมเป็นไปได้อย่างราบรื่นไม่มีสะดุด และยิ่งช่วงนี้ที่หลายบริษัท ได้มีนโยบาย Work from Home บอกเลยว่า G Suite ช่วยการทำงานของคุณได้เยอะมาก เพราะแต่ละผลิตภัณฑ์ของ Google G Suite ได้รับการออกแบบเพื่อการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ สะดวกและรวดเร็ว brainstorm กับ Google G Suite เมื่อไหร่ ไอเดียพุ่งกระฉูดแน่นอน บทความนี้มีไอเดียดีๆถึง 9 เทคนิคด้วยกัน ที่ให้คุณได้เลือกหยิบใช้ได้ตามความต้องการและความเหมาะสมเลย  1. สร้าง email group สำหรับทีมให้ง่ายต่อการแชร์งานร่วมกัน หากต้องทำงานร่วมกันเป็นทีม แนะนำว่า ให้สร้าง email group และตั้งชื่อ email group นั้นไปเลย เพื่อให้ง่ายต่อการแชร์งานที่สะดวกและเร็วขึ้น ไม่ต้องมาคอยพิมพ์อีเมลทีละคนสองคน ป้องกันการตกหล่นอีกด้วย นอกจากนี้ให้ง่ายต่อการนัดหมายใน Calendar ด้วยเช่นกัน 2. เตรียมความพร้อมสมาชิกในทีมด้วยการประชุม การเลือกวันที่และเวลาประชุมที่ดี แน่นอนว่าต้องเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับสมาชิกทีมทุกคน หากพูกถึงการนัดหมาย แน่นอนว่าเราสามารถใช้ Calendar เป็นตัวช่วยได้ดีทีเดียว โดยเฉพาะตรวจสอบช่วงเวลาว่างที่ตรงกันของสมาชิกในทีมได้ นอกจากนั้นยังสามารถแนบไฟล์ต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการประชุมให้สมาชิกทุกคน preview ก่อนถึงวันเข้าประชุมได้อีกด้วย  ดูเพิ่มเติม >> Google Calendar 3. ลงมือ brainstorm ในไฟล์เอกสารที่แชร์ร่วมกัน การ brainstorm ให้ง่ายขึ้นนั่นก็คือการแชร์ไอเดียในไฟล์เอกสารไฟล์เดียว อย่าง Google Docs ที่สามารถแชร์ให้สมาชิกในกรุ๊ปมาร่วมจุดประกายไอเดียกันได้ และ ไม่ว่าใครจะพิมพ์หรือแก้ไขข้อมูลใดๆ ทุกๆคนในกรุ๊ปอีเมลที่ถูกแชร์ Google Docs ไว้ ก็จะสามารถเห็นได้อย่าง Real-time แสดงความคิดเห็น feedback ก็ได้ จะคุย...

Continue reading