Zendesk Sell เปิดให้บริการที่แรกในไทยแล้ว วันนี้!

บริษัท Demeter ICT ผู้ให้บริการ Zendesk อันดับ 1 ในไทย มีบริการ Zendesk Sell แล้ววันนี้        ก่อนอื่นเราต้องมาทำความรู้จักกันก่อนว่า Zendesk Sell คืออะไร Zendesk Sell คือ Platform นึงที่จะเป็นตัวช่วยในการทำงานให้กับทีม Sales มีประสิทธิภาพและยอดขายที่มากขึ้น ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนก็ตาม ตามสไตล์ New Normal ที่ทุกคนจะต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต และการทำงานเพื่อให้เข้ากับสถานการณ์มากขึ้น แต่คุณก็ยังสามารถติดต่อลูกค้าและจัดการการติดต่อระหว่าง Sales กับลูกค้าได้ เพราะทาง Zendesk ได้ออกแบบ Software มาให้ใช้ได้กับ Devices ที่คุณใช้อยู่ในชีวิตประจำวันได้อย่างสะดวกสบาย        และต่อมา เรา Demeter ICT จะมาอธิบายฟีเจอร์คร่าวๆ ของ Zendesk Sell ที่จะมาช่วยในการทำงานของคุณว่ามันสามารถช่วยคุณยังไงได้บ้าง ทั้งทางด้านสื่อสารกับลูกค้า การเก็บรวบรวมข้อมูล การปิดดีลกับลูกค้ารายนั้นๆ รวมไปถึงการให้คำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญทั่วโลก ซึ่งทาง Zendesk ได้ออกแบบระบบมาให้สะดวกต่อการใช้งานและลดเวลาและขั้นตอนการทำงานได้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้ตรงกับ Goal ที่ Sales ทุกคนตั้งไว้คือเพิ่มยอดขาย ซึ่งการเพิ่มยอดขายได้นั้น ก็ต้องมีการติดต่อลูกค้าที่เพิ่มขึ้น ฟีเจอร์หลักๆ ที่ทาง Zendesk Sell มีนั้น มีอะไรบ้าง มาดูกัน! Stay on top of things – สามารถทำงานทุกอย่างด้วยระบบอีเมล์อัจฉริยะ ที่จะมีการแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์ ไม่ว่าลูกค้าจะติดต่อหรือเราจะนัดติดต่อการขายกับลูกค้า ก็สามารถจัดการได้อย่างสะดวก และยังมีระบบที่จะช่วยจัดเก็บเอกสารหรือการติดต่อทุกอย่าง เพื่อนำข้อมูลมาหาแนวทางในการเพิ่มยอดขายของบริษัท รวมถึงการสร้าง Template แบบไร้ข้อจำกัด เพื่อลดเวลาและภาระในการทำงาน เพื่อนำเวลามาใช้ในส่วนที่ต้องทำมากขึ้นเพื่อเพิ่ม Performance ในตัวคุณได้ Make the right call – จะเป็นฟีเจอร์ต่างๆที่ช่วยให้คุณติดต่อลูกค้าได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น...

Continue reading

ทำความรู้จักให้มากขึ้นกับข้อความอัตโนมัติใน Google Search

ข้อความอัตโนมัติ (Autocomplete) เป็นฟีเจอร์หนึ่งใน Google Search ที่ออกแบบมาเพื่อให้การค้นหารวดเร็วขึ้น ในโพสต์นี้เราจะมาทำความรู้จักฟีเจอร์นี้ให้มากขึ้น และดูกันว่าข้อความอัตโนมัติที่ว่านี้ทำงานอย่างไร ข้อความอัตโนมัติ หรือ Autocomplete ข้อความอัตโนมัติมีให้บริการเกือบทุกที่ที่คุณพบช่องค้นหาของ Google อย่างหน้าโฮมเพจของ Google แอป Google เช่น Youtube สำหรับ iOS และ Android ช่องค้นหาภายใน Android และ Chrome เมื่อลองพิมพ์ลงไปก็จะเห็นคีย์เวิร์ดมากมายปรากฏขึ้น หรือบางครั้ง Google จะช่วยเติมคำ และวลีให้สมบูรณ์ขณะที่เรากำลังพิมพ์อยู่ การเติมข้อความอัตโนมัติมีประโยชน์อย่างมากทั้งสำหรับผู้ที่ใช้ Google บนเดสก์ท็อปและโทรศัพท์มือถือ ที่ทำให้การค้นหาบนหน้าจอขนาดเล็กๆ เป็นเรื่องง่ายขึ้น รวมถึงช่วยประหยัดเวลาได้ดีทีเดียว โดยเฉลี่ยจะลดการพิมพ์ลงประมาณ 25 เปอร์เซ็นต์ Google คาดการณ์ว่าจะช่วยประหยัดเวลาในการพิมพ์ได้มากกว่า 200 ปีต่อวัน “การคาดคะเน” ไม่ใช่ “คำแนะนำ” ข้อความอัตโนมัติถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้ทำการค้นหาคำที่ต้องการได้เร็วขึ้น ไม่ใช่การแนะนำคำใหม่ให้ ซึ่งนั่นจะทำให้ความหมายเปลี่ยนไปจากเดิม เป็นการคาดคะเนคีย์เวิร์ดที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้ Google กำหนดการคาดการณ์เหล่านี้ได้อย่างไร? คำตอบคือ Google ดูการค้นหาจริงที่เกิดขึ้นใน Google และแสดงรายการทั่วไป และรายการที่มีแนวโน้มที่เกี่ยวข้องกับตัวอักษรที่ป้อน นอกจากนี้ยังเกี่ยวข้องกับตำแหน่งที่คุณอยู่ และการค้นหาก่อนหน้า ทำไมการคาดคะเนบางคำจึงถูกลบ? Google มีระบบที่ออกแบบมาเพื่อตรวจจับคำที่ไม่เหมาะสมโดยอัตโนมัติเพื่อไม่แสดงให้ผู้ใช้เห็น มีการประมวลผลการค้นหาหลายพันล้านครั้งต่อวัน ซึ่งอาจมีคำที่ไม่เหมาะสมบางคำเล็ดลอดเข้าไปในระบบได้ จึงต้องอาศัยการแจ้งรายงานคำที่ไม่เหมาะสม เพื่อให้ Google สามารถลบออกอย่างรวดเร็ว Google จะลบการคาดคะเนที่ขัดต่อนโยบายการเติมข้อความอัตโนมัติ ซึ่งมีดังนี้ เกี่ยวกับเรื่องเพศที่ส่อไปในทางลามกอนาจาร ไม่เกี่ยวข้องกับหัวข้อทางการแพทย์ วิทยาศาสตร์ หรือเรื่องเพศศึกษา การแสดงความเกลียดชังต่อกลุ่มและบุคคลบนพื้นฐานของเชื้อชาติ ศาสนา หรือประชากรอื่นๆ ความรุนแรง กิจกรรมที่เป็นอันตราย การคาดการณ์ที่ Google พิจารณาว่าเป็นสแปมที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดลิขสิทธิ์ หรือเพื่อตอบสนองต่อคำขอทางกฎหมาย ซึ่งก็เป็นสาเหตุที่ทำให้การค้นหายอดนิยมตามที่วัดในเครื่องมือ Google Trends อาจไม่ปรากฏในการเติมข้อความอัตโนมัติ Google Trends ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ทุกคนสามารถดูความนิยมของหัวข้อการค้นหาได้ตลอดเวลา นโยบายลบการเติมข้อความอัตโนมัติจึงไม่ได้ใช้สำหรับ Google Trends วิธีแจ้งรายงานเมื่อพบคำจากการคาดคะเนที่ไม่เหมาะสม ด้วยการคาดการณ์หลายพันล้านครั้งที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน...

Continue reading

Customer Service from Home แผนปรับ ‘บริการออนไลน์’ ท้าวิกฤตโควิด-19

เมื่อวิกฤตโควิด-19 ส่งผลกระทบให้รูปแบบการทำงานของธุรกิจในหลายองค์กรต้องเปลี่ยนแปลงไป การทำงานรูปแบบเดิมๆ ถูกทดแทนด้วยเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทมากยิ่งขึ้น หลายบริษัทมีนโยบาย Work From Home มารองรับ แต่ก็พบว่ายังไม่สามารถทำงานได้เต็มรูปแบบเท่าที่ควร เนื่องจากติดข้อจำกัดของช่องทางที่ให้บริการลูกค้า อย่างเช่น ช่องทางโทรศัพท์ ที่ยังจำเป็นต้องให้พนักงานสลับกันเข้ามาทำงาน ความยากลำบากในการบริหารช่องทางการบริการลูกค้า หรือการซัพพอร์ตลูกค้าที่เป็นไปอย่างไม่ราบรื่น การติดตามและวัดผลที่เป็นไปอย่างติดขัด เมื่อพนักงานต้องทำงานที่บ้านและอยู่แยกกัน Customer Service From Home แผนปรับ “บริการออนไลน์” ท้าวิกฤตโควิด-19 เป็นงานสัมนาออนไลน์ที่ถูกจัดขึ้นเพื่อช่วยเหลือและร่วมแลกเปลี่ยนความรู้ โดยในงานสัมนานี้คุณจะได้ทำความเข้าใจถึงผลกระทบของโควิด-19ที่เกิดขึ้นกับธุรกิจ แนวโน้มการสร้างประสบการณ์ให้ลูกค้าในปี 2020 ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนาธุรกิจให้ก้าวหน้าต่อไป และผสมผสานความเข้าใจเข้ากับการบริการลูกค้าจากทุกช่องทางในรูปแบบ “ออนไลน์” อย่างมีประสิทธิภาพ  นอกจากแผนดำเนินงานที่ดีแล้ว การมีเครื่องมือที่ช่วยสนับสนุนการทำงานในยุคดิจิตัลก็สำคัญไม่แพ้กัน คุณจะได้รู้จักกับ Zendesk – Omnichannel Customer Service ซอฟต์แวร์อันดับต้นของโลกที่โดดเด่นในการสร้างประสบการณ์ลูกค้า ให้การบริการลูกค้าทางออนไลน์มีประสิทธิภาพ ไร้รอยต่อในทุกๆ ช่องทาง สามารถติดตามและวัดผลได้ และให้คุณร่วมถามคำถาม คลายทุกข้อสงสัยสำหรับการเปลี่ยนแปลงวิกฤตให้เป็นโอกาสในสภาวะปัจจุบันนี้ ลงทะเบียน Agenda 14:10 – 14:50 Covid-19 and its impact on your business  Customer Experience Trends 2020 14:50 – 15:40 Zendesk Introduction Seamless Communication How Zendesk empower agents and satisfied customers? 15:40 – 16:00 Q&A Speakers ดร. วรัญญู สุจิวรพันธ์พงศ์ CEO & Founder of Demeter ICT ชนัส สาธรกิจ Technical Consulting and Support Unit...

Continue reading

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยที่ใช้ง่ายยิ่งขึ้นใน Chrome

การรักษาความปลอดภัยทางออนไลน์ให้ผู้ใช้งานนับว่าเป็นหัวใจหลักของของ Google Chrome นอกเหนือจากค่าเริ่มต้นที่ Chrome เซ็ตมาให้แล้ว ทาง Google ให้คุณสามารถเข้าถึงการควบคุมได้ง่ายขึ้นเพื่อให้คุณสามารถเลือกตัวเลือกที่เหมาะสมเพิ่มเติมได้ วันนี้ Google เปิดตัวเครื่องมือใหม่และการออกแบบการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของ Chrome บนเดสก์ท็อป เพื่อช่วยให้คุณควบคุมความปลอดภัยบนเว็บเบราวเซอร์ได้ดียิ่งขึ้น การควบคุมที่ง่ายดายยิ่งขึ้น ด้วยการออกแบบใหม่นี้ Google ทำให้การค้นหาตัวเลือกต่างๆ ง่ายยิ่งขึ้นในการตั้งค่าการควบคุม และยังใช้ภาษาและภาพที่เข้าใจง่ายมากขึ้นด้วย: คุกกี้ (Cookies) คือ โค้ดที่ฝังอยู่บนเว็บไซต์ ทำให้เจ้าของเว็บไซต์สามารถจัดเก็บข้อมูลบางอย่างไว้ที่เว็บบราวเซอร์ของผู้ใช้งาน เช่น ข้อมูลแบบฟอร์มที่เคยกรอก ข้อมูลที่บันทึกว่าเคยมีการเข้ามาที่เว็บแห่งนี้ ฯลฯ ซึ่งหลายคนมองว่าไม่ปลอดภัยต่อความเป็นส่วนตัว ฟีเจอร์ใหม่นี้ทำให้จัดการคุกกี้ได้ง่ายขึ้น สามารถเลือกว่าจะใช้คุกกี้อย่างไรในเว็บไซต์ที่คุณเข้าชม มีตัวเลือกในการบล็อกคุกกี้ third-party ทั้งในเบราวเซอร์ปกติ และแบบไม่ระบุตัวตน (Incognito mode) ในการตั้งค่าเว็บไซต์ มีการจัดระเบียบการควบคุมเป็นสองส่วนที่แตกต่างกันเพื่อให้ง่ายต่อการค้นหา อย่างการเข้าถึงตำแหน่งที่ตั้งของคุณ กล้องถ่ายรูป หรือไมโครโฟน และการแจ้งเตือนต่างๆ ที่ด้านบนของการตั้งค่า Chrome คุณจะเห็น “You and Google” (ก่อนหน้านี้เป็นคำว่า “People”) ซึ่งคุณสามารถค้นหาตัวควบคุมการซิงค์ การตั้งค่าเหล่านี้ทำให้คุณจัดการข้อมูลที่แชร์กับ Google เพื่อจัดเก็บในบัญชี Google ของคุณและทำให้สามารถใช้งานได้ในทุกอุปกรณ์ เนื่องจากมีหลายคนมีการลบประวัติการเข้าชมเว็บไซต์เป็นประจำ การตั้งค่า “Clear browsing data” จะย้ายไปด้านบนในส่วนของ ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย (Privacy & Security) ตรวจสอบความปลอดภัยใน Chrome  การตั้งค่าการตรวจสอบความปลอดภัยแบบใหม่ คุณสามารถยืนยันความปลอดภัยของประสบการณ์การใช้งาน Chrome ได้อย่างรวดเร็ว เครื่องมือใหม่นี้จะบอกคุณว่ารหัสผ่านที่คุณขอให้ Chrome จดจำนั้น กำลังถูกบุกรุกหรือไม่ พร้อมบอกคำแนะนำในการแก้ไข แสดงสถานะ Safe Browsing ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเฉพาะของ Google ที่จะเตือนก่อนที่คุณจะเข้าชมเว็บไซต์ หรือดาวน์โหลดแอปหรือ extension ที่ดูเป็นอันตราย เครื่องมือตรวจสอบความปลอดภัยยังมีวิธีเพิ่มเติมในการดูว่า Chrome ของคุณเป็นรุ่นล่าสุดหรือไม่ หากมีการติดตั้ง extensions ที่เป็นอันตรายไว้ ระบบจะแจ้งให้ทราบว่าควรจะลบออกที่ไหนอย่างไร การควบคุมคุกกี้ Third-party ในเบราวเซอร์แบบไม่ระบุตัวตน...

Continue reading

Customer Experience ในโลกยุคใหม่ ที่ต่างไปจากเดิม

Customer Experience ในโลกยุคใหม่ ที่ต่างไปจากเดิม ในวันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา Zendesk บริษัท Customer Service Software ผู้เชี่ยวชาญด้าน Customer Experience จากสหรัฐอเมริกาได้มีการจัด Webinar ในหัวข้อ CX In The New World โดยผู้เชี่ยวชาญ Tom Blackman Senior Director ภาคพื้นที่ Asia ของ Zendesk เป็นหนึ่งในผู้บรรยาย Tom Blackman กล่าวว่า ในช่วงไม่กี่เดือนมานี้ตัวเขาได้ร่วมงานกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายซัพพอรต์ของหลายๆ ประเทศ ได้เรียนรู้ว่าพวกเขาปรับตัวให้เข้ากับโลกใหม่นี้อย่างไร ทำงานอย่างไร รับมือกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างไร และเราจะทำอย่างไรได้บ้างให้ตอบโจทย์ความคาดหวังของลูกค้า ซึ่ง Tom Blackman ได้สรุปข้อมูลจากการศึกษาถึงการสร้างประสบการณ์ลูกค้าท่ามกลางวิกฤตนี้ไว้อย่างน่าสนใจ  โควิด19 ส่งผลกระทบต่อซัพพอรต์ทุกที่ จากการศึกษาพบว่าลูกค้าต้องใช้เวลารอมากขึ้น เนื่องจากมีคนจำนวนมากที่เข้ามาในเวลาเดียวกัน จนมีปริมาณ ticket เพิ่มขึ้นในหลายช่องทาง โดยระยะเวลาที่ใช้ในการตอบกลับนั้นเพิ่มสูงถึง 34% วิกฤตโรคระบาด เศรษฐกิจทั่วโลกที่ถดถอยลง เป็นเหตุให้การปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าเป็นไปอย่างเคร่งเครียดมากขึ้นถึงสองเท่า เมื่อหลายสิ่งหลายอย่างรับมือยากขึ้น ทำให้หลายต่อหลายครั้งที่ไม่สามารถแก้ปัญหาได้จบภายในช่องทางเดียว เป็นค่าเฉลี่ยถึง 68% ที่ลูกค้าต้องใช้ช่องทางอื่นต่อในการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ ถึงอย่างนั้นแม้ปริมาณคำร้องจะพุ่งทะยานขึ้น ในช่วงวิกฤตนี้ CSAT หรือ Customer Satisfaction Score ดัชนีวัดความพึงพอใจของลูกค้าก็ยังคงอยู่ในภาวะคงที่ เมื่อลูกค้าเองก็มีความเข้าอกเข้าใจในเจ้าหน้าที่ด้วยเช่นกัน มีความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดในธุรกิจสายการบินที่ดัชนีติดลบ 3% ธุรกิจส่งอาหารเดลิเวรี 0% ในขณะที่ธุรกิจที่ส่งเสริมการทำงานทางไกลดัชนีเพิ่มขึ้น 2% และธุรกิจร่วมเดินทางที่มีดัชนีเพิ่มมากที่สุดคือ 7% ปริมาณ Tickets ทะยานขึ้นสูงในช่องทางแชทและโซเชียลมีเดีย ตรงข้ามกับช่องทางการโทรที่ติดลบลง Self Service เข้ามามีบทบาทสำคัญอย่างมากเมื่อลูกค้าให้ความสำคัญในการหาคำตอบด้วยตัวเองมากกว่าพึ่งพาเจ้าหน้าที่ 3 ประเด็นใหญ่ที่ควรให้สำคัญ ด้านลูกค้า ปรับใช้ Self Service ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น แสดงถึงความเอาใจใส่ในตัวลูกค้า ต้องระวังถึงภาษาที่ใช้ในการสื่อสารให้ดี ระลึกไว้ว่าลูกค้าคือศูนย์กลาง ด้านองค์กร บริหารจัดการองค์ความรู้...

Continue reading

จีนต้นแบบ Digital Infrastructure ปี2020

ในปี2020 จีนได้มุ่งเน้นเเละพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลใหม่ เพื่อที่จะป้องกันการชะลอตัวของการเติบโตทางเศรษฐกิจในยุคดิจิทัล เเละยิ่งในช่วงของการเกิดวิกฤติโควิด19นี้ ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ประเทศจีนรีบเร่งในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานใหม่เร็วขึ้น นั้นก็คือการมีเครือข่าย 5G  อย่างไรก็ตาม ในภาคธุรกิจของจีน สามารถเริ่มกลับมาทำงานได้ปกติเเล้วถึง 98% เเต่พฤติกรรม เเละวิถีการดำรงชีวิตผู้คนไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เพราะถึงเเม้จีนจะคลายล็อกดาวเเล้ว ตั้งแต่วันที่ 23 มกราคม และสิ้นสุดในวันที่ 8 เมษายน โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 2 เดือนครึ่ง จะเห็นได้ว่าถึงประชาชนจะออกมาทำงานตามปกติเเล้ว แต่พฤติกรรมของผู้บริโภคได้เปลี่ยนไปจากเดิม ซึ่งได้ทำการสำรวจเเล้วพบว่า สถานีรถไฟใต้ดิน ที่ปกติเป็นที่ที่คนหนาเเน่น เเต่ตอนนี้กับโหรงเหรงคนน้อยลงอย่างเห็นได้ชัดกว่าเเต่ก่อนเป็นอย่างมาก ดังนั้น ถึงแม้จีนจะคลาย lockdown แล้ว แต่ผู้บริโภคยังไม่กล้าออกมาจับจ่ายใช้สอยหรือใช้ชีวิตในรูปแบบเดิม ดังนั้นการมีโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลจึงยิ่งตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนจีนในยุคปัจจุบัน สรุปภาพรวมการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมคนจีน  ทำกิจกรรมนอกบ้านน้อยลง ดูเเลเเละรักษาสุขภาพมากขึ้น พฤติกรรมการบริโภคสื่อเปลี่ยนไป จากดูทีวี,อ่านหนังสือพิมพ์ เปลี่ยนมาเป็นติดตามข่าวสารผ่านออนไลน์เเทน ใช้ชีวิตอยู่บนออนไลน์ (สั่งของออนไลน์เเทนออกไปซื้อนอกบ้าน เช่น อาหาร ของใช้ในบ้านต่างๆ) ใส่ใจในการซื้อผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อทำความสะอาดมากขึ้น เช่น หน้ากากอนามัย ถุงมืออนามัย ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดบ้าน  ในปัจจุบันจีนมี Digital Infrastructure ที่พัฒนาไปไกล เช่น การรับข้อมูลข่าวสารซึ่งก่อนหน้านี้ในช่วงเวลา 10-20 ปีที่แล้ว เป็นการรับข่าวสารจากวิทยุ และทีวี แต่ปัจจุบันช่องทางรับข่าวสารหลักของจีนก็คือ WeChat เพราะสามารถส่งข่าวได้เร็วกว่าทุกช่องทาง นอกจากนี้คนจีนใช้ WeChat ในชีวิตประจำวันทุกๆวันในการ ชื้อของต่างๆผ่านการสเเกนคิวอาร์โค้ด ไม่ว่าจะซื้อตามข้างทางหรือในห้างใหญ่ๆ ก็ใช้เเค่ เเอป WeChat เพียงเเอปเดียวก็ตอบโจทย์ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการเเชทกับเพื่อน ประชุมกับหัวหน้าหรือที่ทำงาน เเละการจับจ่ายซื้อของต่างๆ ยิ่งในช่วง lockdown ที่ผ่านมาจากสถานการณ์โควิด19 ทำให้เห็นได้ชัดว่ากลุ่มเเบรนด์ที่ทันเทคโนโลยีสามารถสร้างรายได้ เเละ 5 กลุ่มธุรกิจที่นำเทคโนโลยีดิจิทัล ฟิตเนสออนไลน์ การเรียนการสอนออนไลน์ ความบันเทิง และเกมออนไลน์ สร้างประสบการณ์ผ่าน Cloud Service เช่น ดูบ้านตัวอย่าง หรือ ท่องเที่ยวด้วย virtual  แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ เช่น ขายของผ่านช่องทางออนไลน์ รถส่งAutomaticจัดส่งสินค้าตามบ้าน...

Continue reading

แชทกับบุคคลนอกโดเมนด้วย Google Chat ได้แล้ว

อัพเดตจาก Google Workspace! ประมาณต้นเดือนมิถุนยน 2563 เป็นต้นไป คุณจะสามารถคุยแชทกับบุคคลที่อยู่นอกองค์กรหรือนอกโดเมนได้เเล้ว ด้วย Google Chat (เดิมคือ Hangote Chat)  โดยที่คุณสามารถใช้ Google Chat ประสานงานกับผู้ขาย คุยกับลูกค้า  หรือสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้ปกครองของนักเรียน เป็นต้น เรียกได้ว่าเปิดโอกาสให้คุณได้สนทนากับบุคคลนอกองค์กรได้สะดวกยิ่งขึ้นและจัดเก็บบทสนทนาทั้งหมดไว้ใน Google Chat ที่เดียว อย่างไรก็ตาม หากบุคคลที่อยู่นอกองค์กรหรือโดเมนคุณ ใช้ Google account ระบบจึงจะแสดง Bage “External” ไว้ที่ Chat ให้คุณมั่นใจความปลอดภัยในการยืนยันตัวตนของคู่สนทนา หากคุณเคยสนสนากับบุคคล external ใน Hangout Classic มาก่อน จากนี้บุคคลนั้นก็จะปรากฎใน Google Chat ด้วย ก็ต่อเมื่อมีการเริ่มบทสนทนาอีกครั้ง G Suite เพื่อการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ บริษัท ดีมีเตอร์ ไอซีที จำกัด พาร์ทเนอร์ Google ในประเทศไทย อย่างเป็นทางการ รายละเอียดแพ็กเกจ 02 030 0066...

ฝ่าวิกฤตธุรกิจด้วย BCP และ Collaboration Tools

ในช่วงสภาวะวิกฤติ โดยเฉพาะการแพร่ระบาดของโรคอุบัติใหม่ “COVID-19” ในหลายประเทศทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย แน่นอนว่าเป็นเรื่องที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดขึ้น แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้ว คำถามสำคัญ คือ นอกจากนโยบายจากภาครัฐแล้ว แต่ละบริษัทจะมีแผนรองรับการดำเนินการทางธุรกิจเพื่อเตรียมรับมือต่อสถานการณ์เหล่านี้อย่างไรบ้าง? แผนบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ หรือแผนสำรองการทำงานในภาวะฉุกเฉิน (Business Continuity Planning: BCP) คือการวางแผนการบริหารจัดการธุรกิจ เพื่อให้ธุรกิจสามารถดำเนินได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่หยุดชะงัก ในภาวะที่ธุรกิจต้องประสบกับสถานการณ์ไม่ปกติ ไม่ว่าจะเป็นภัยคุกคามจากภายนอกหรือภายใน ซึ่งนอกจากจะช่วยป้องกันหรือบรรเทาความเสียหายต่อทรัพย์สิน ข้อมูลภายในองค์กร โอกาสในการสร้างรายได้ และผลกระทบต่าง ๆ ต่อองค์กรแล้ว ยังมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างภาพลักษณ์ขององค์กรในด้านของการบริหารจัดการที่ดี ซึ่งจะสร้างความมั่นใจต่อนักลงทุนและลูกค้าได้ เนื่องจากธุรกิจสามารถดำเนินได้อย่างต่อเนื่องแม้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน พร้อมทั้งสามารถบ่งบอกถึงสาเหตุของผลกระทบและความเสียหาย ทำให้สามารถแก้ไขปัญหาได้ถูกต้องและรวดเร็ว เหมาะสมกับสถานการณ์ นอกจากมีแผนบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจที่ดีแล้ว การมีเครื่องมือที่ช่วยสนับสนุนการทำงานในยุคดิจิตัลที่ตอบโจทย์สถานการณ์โรคระบาดในปัจจุบันมาผสมผสานและประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด จะช่วยสนับสนุนให้แผนการบริหารจัดการธุรกิจสำเร็จและดำเนินต่อเนื่องไปได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน ลงทะเบียน Agenda 13:30 – 13:50 Why Business Continuity Planning (BCP) is important? (20 นาที) 13:50 – 14:20 Replace Business Continuity Planning (BCP) with Business Transformation (30 นาที) 14:20 – 15:00 The Success of Business Transformation with collaboration tool (40 นาที) 15:00 – 15:45 How to manage data security (45 นาที) 15:45 – 16:15 What is G Suite? (30 นาที) 16:15 – 16:30 Q&A (15...

Continue reading

How to ขับเคลื่อนธุรกิจ ให้พร้อมรับ New Normal หลังโควิด-19

ขับเคลื่อนธุรกิจอย่างไร? ให้พร้อมรับ New Normal หลังโควิด-19 เมื่อวิกฤตโควิด-19 บีบให้พฤติกรรมผู้บริโภคทั่วโลกต้องปรับตัว จนเกิดเป็น ‘New Normal’ หรือวิถีชีวิตรูปแบบใหม่ขึ้นมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเว้นระยะห่างทางสังคม การซื้อขายออนไลน์ที่เติบโตขึ้นมหาศาล นโยบาย Work From Home ทำงานที่บ้านที่กลายเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ โลกกำลังขับเคลื่อนไปด้วยเทคโนโลยีที่ Disrupt ธุรกิจรูปแบบเดิมๆ การปรับเปลี่ยนให้เข้ากับยุคสมัยจึงเป็นสิ่งจำเป็น ให้ธุรกิจของเราอยู่รอดต่อไป ล่าสุด Super Poll สถาบันวิจัยความสุขชุมชนและความเป็นผู้นำได้เปิดผลสำรวจภาคสนามในหัวข้อ ‘จริตใหม่ประชาชนหลังพ้นโควิด-19’ กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ ทั้งหมด 1,255 ตัวอย่าง สรุปผลบางส่วนออกมาได้ดังนี้  ร้อยละ 86.2 มีพฤติกรรมสั่งซื้อเดลิเวอรี่มากยิ่งขึ้น ร้อยละ 83.7 ติดโลกโซเชียล ร้อยละ 81.5 ใช้เทคโนโลยีสื่อสารมากยิ่งขึ้น ร้อยละ 79.8 คุ้นชินกับการลงทะเบียนแอปพลิเคชัน ร้อยละ 79.1 ใส่ใจดูแลสุขภาพตนเองมากกว่าเดิม ร้อยละ 64.2 ใส่ใจดูแลสุขภาพของส่วนรวม ร้อยละ 62.6 เรียนออนไลน์ ร้อยละ 60.6 ใส่หน้ากากอนามัยเป็นแฟชันให้ดูดีมีสไตล์มากขึ้น ร้อยละ 55.2 ทำงานจากที่บ้านหรือ Work From Home เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจและองค์กร การที่ต้องรับมือกับวิถีชีวิตแบบใหม่ทำให้หลายองค์กรจำต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานแบบเดิมๆ จากที่เดิมทีเก็บข้อมูลด้วยเอกสารหนาเตอะ ก็เปลี่ยนเป็นระบบคลาวด์ อีกทั้งการนำเทคโนโลยีเข้ามาปรับใช้ในการทำงาน ทำให้การประชุมทางไกล และการทำงานร่วมกันจากที่บ้าน Work From Home สามารถเป็นไปได้ “วิกฤติโควิด-19 ครั้งนี้ คือสนามดิสรัปชั่นลูกใหม่ซึ่งผลักดันให้ทุกภาคส่วนเห็นความสำคัญของการใช้เทคโนโลยี” -นาถ ลิ่วเจริญ ประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัทซีดีจีผู้ให้บริการด้านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศแบบครบวงจร ดังนั้นถึงเวลาหรือยัง ที่เราจะเตรียมธุรกิจให้พร้อมรับ New Normal เหล่านี้? ในด้านธุรกิจ สิ่งที่ขาดไม่ได้ยังคงเป็นการเน้นโฟกัสที่ลูกค้า เราต้องรู้ว่าลูกค้าต้องการอะไร โดยเฉพาะในช่วงวิกฤตนี้ที่ทุกคนต่างได้รับผลกระทบ ทั้งทางตรงและทางอ้อม หรือแม้แต่บางธุรกิจที่อาจได้ประโยชน์และบางธุรกิจที่สูญเสียรายได้มหาศาล การเข้าอกเข้าใจลูกค้าจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากในการทำธุรกิจ และการรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างกันเอาไว้ ในด้านองค์กร ไม่เพียงแต่ลูกค้าที่เราต้องดูแล แต่ความเป็นอยู่ของพนักงานในบริษัทก็สำคัญไม่แพ้กัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาวะ Work From...

Continue reading