หากพูดถึง CRM (Customer Relationship Management) หลายคนอาจนึกไปถึงซอฟตแวร์หรือเครื่องมือสักอย่างที่ช่วยในการบริหารและพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น ทว่าแม้แต่ CRM เองก็สามารถแบ่งแยกออกไปได้อีกหลายประเภท ขึ้นอยู่กับว่าต้องการใช้ CRM กับเนื้องานใด ทีมซัพพอร์ตอาจใช้ CRM ในการจัดการ Tickets หรือคำร้องที่ถูกส่งเข้ามา ฝ่ายการตลาดอาจใช้ CRM ในการวิเคราะห์ผลตอบรับจากแคมเปญออนไลน์ ขณะที่ฝ่ายขายหรือ Sales มักใช้ CRM ในการปรับปรุง Sales Pipeline (ระบบการวางแผนการขาย) เรามาดู 5 เหตุผลว่าทำไมถึงต้องใช้ Sales CRM กัน 1. ลดความซ้ำซ้อน Sales CRM เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้บริหาร Touchpoint ของลูกค้าผ่านกระบวนการขาย ซึ่ง Touchpoint ในที่นี้ อาจจะเป็นทั้งการมีปฏิสัมพันธ์ทางตรงหรือทางอ้อมกับลูกค้าก็เป็นได้ เครื่องมือ Sales CRM จะช่วยติดตามทุกการสื่อสารต่างๆ นำข้อมูลมาจัดเรียงให้โดยอัตโนมัติ ทั้งส่งแจ้งเตือนกำหนดการในการ follow up leads และอีกมากมาย Sales CRM ยังช่วยลดความยุ่งยากในส่วนของการดูแลลูกค้าเป้าหมาย เมื่อไม่ต้องมานั่งเสียเวลาเรื่องการกรอกเก็บข้อมูลพนักงาน ฝ่ายขายก็สามารถโฟกัสไปที่การสร้างความสัมพันธ์อันดีกับกลุ่มผู้ที่สนใจผลิตภัณฑ์ได้ง่ายขึ้น 2. ระบบการขายแบบรวมศูนย์กลาง พนักงานแผนกขายใช้เวลาเป็นวันในการทำทุกอย่างตั้งแต่รีเสิรช์ยันติดต่อเพื่อดีลกับฝ่ายจัดสรรและฝ่ายขายหน้าร้าน ทางเมเนเจอร์เองก็ยุ่งวุ่นวายกับการมอนิเตอร์เพอฟอแมนซ์ บริหารคลังสินค้า ไหนจะต้องให้คำแนะนำทีมอีก เมื่อไม่มีระบบศูนย์รวมที่ช่วยจัดการงานแต่ละงาน อะไรที่อาจถูกมองว่าเล็กน้อยก็กลายเป็นเรื่องยุ่งยากในแผนกที่นำไปสู่ความไม่มีระเบียบแบบแผนได้ Sales CRM จึงมักถูกออกแบบขึ้นมาในรูปแบบของ one-stop solution ให้รองรับกับการทำงานในแต่ละวัน สามารถบูรณะเข้ากับเครื่องมืออื่นที่กำลังใช้งานอยู่ตลอดจนช่องทางสื่อสารต่างๆ มากมาย ให้การจัดการงานทั้งหมดสามารถทำครบจบในแพลตฟอร์มเดียว การมีระบบที่รวมศูนย์กลางนี้ยังช่วยให้องค์กรมีรากฐานที่น่าเชื่อถือ พนักงานฝ่ายขายสามารถหาข้อมูล Lead ได้แม่นยำและง่ายดายยิ่งขึ้น ทั้งข้อมูลเก่าต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้ในการติดตามหรือปิดดีลลูกค้า และยังสามารถเข้าถึงช่องทางสื่อสารอื่นขององค์กรไม่ว่าจะเป็นอีเมล โทรศัพท์ กระทั่งกล่องแชทบนเว็บไซต์ ไม่ต้องยุ่งยากสลับหน้าจอไปมาให้น่าเวียนหัวอีกต่อไป 3. ปรับปรุงข้อมูลลูกค้าให้แม่นยำยิ่งขึ้น หลายครั้งที่การกรอกข้อมูลที่ซ้ำซ้อนไปมามากๆ นำไปสู่ความผิดพลาดได้ Sales CRM ช่วยลดข้อผิดพลาดเหล้านั้นด้วยระบบที่บันทึกทุก action ของพนักงานแบบอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็นการพูดคุยหรือส่งอีเมลก็บันทึกไว้ได้หมด โดยเฉพาะถ้าใช้ Zendesk...
Continue readingขับเคลื่อนธุรกิจสู่การทำงานแบบ Work From Home ด้วย Google Workspace
อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่า ขณะนี้วิกฤติการระบาดของ COVID-19 ระลอกใหม่ได้กลับมาอีกครั้ง จากปีที่แล้ว เทรนด์ Work From Home นี้เพิ่งเริ่มเป็นที่รู้จัก ปัจจุบันการ Work From Home เข้ามามีบทบาทกับการทำงานในองค์กรอย่างมาก หลายองค์กรมองหาโซลูชันที่ให้พนักงานสามารถทำงานจากที่บ้านได้โดยต้องไม่กระทบกับการดำเนินธุรกิจ ดังนั้นสิ่งสำคัญคือการมุ่งเน้นไปที่การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนสำหรับอนาคต การทำงานแบบดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ จึงสามารถลดข้อจำกัดในการติดต่อสื่อสาร และการทำงานร่วมกัน ให้พนักงานสามารถทำงานได้จากทุกที่ ทุกเวลา โดยใช้เครื่องมือเทคโนโลยีเข้ามาช่วย บริษัท ดีมีเตอร์ ไอซีที จำกัด จึงจัดงานสัมมนาออนไลน์นี้ เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และแนวทางการบริหาร การจัดการ และการวางแผนธุรกิจระยะยาวสำหรับองค์กร เพื่อลดความเสี่ยงในการลงทุนด้านทรัพยากร พัฒนา และปรับเปลี่ยนสู่องค์กรดิจิทัล เตรียมพร้อมรับมือกับการทำงานแบบ Work From Home อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยเครื่องมือการทำงานบนคลาวด์อย่าง Google Workspace ลงทะเบียน สิ่งที่คุณจะได้รับจากการเข้าร่วม • ไอเดียเชิงธุรกิจในการเปลี่ยนแปลงองค์กรให้เท่าทันการแข่งขันในช่วงวิกฤติ COVID-19 อย่างมีประสิทธิภาพ • ทำความรู้จักกับ Google Workspace เครื่องมือสำหรับการทำงานร่วมกันขององค์กรยุคดิจิทัล ที่มีผู้ใช้งานมากกว่าพันล้านคนทั่วโลก • การบริหารกระบวนการทำงาน ลดขั้นตอนการทำงานที่ซ้ำซ้อน และการจัดการทรัพยากรบุคคลตามนโยบาย Work From Home • แนวทางการลดความเสี่ยงในการลงทุนด้านทรัพยากรในองค์กร • ผลลัพธ์จากการพัฒนา และปรับเปลี่ยน (Transform) ในการเตรียมความพร้อมสู่องค์กรดิจิทัล Agenda 14:00 – 14:05 Greeting กล่าวต้อนรับ 14:05 – 14:25 องค์กรชั้นนำเปลี่ยนแปลงการทำงานอย่างไรให้พร้อมกับสถานการณ์เสี่ยงต่อโควิด-19 How leading businesses transform its collaboration in COVID-19 crisis. 14:25 – 15:00 Work From Home ให้ประสบความสำเร็จด้วย Google Workspace What can...
Continue readingอยากรวมช่องทาง Facebook, Line และอื่นๆ ต้องทำอย่างไร?
อยากรวมช่องทาง Facebook, Line และอื่นๆ ต้องทำอย่างไร? หากคุณกำลังมองหาเครื่องมือที่จะมาช่วยในการรวบรวมช่องทางการติดต่อของลูกค้าจากช่องทางต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Line, Facebook, Email, Twitter, Whatsapp, WeChat และอื่นๆอีกมากมายนั้น คุณมาถูกที่แล้ว วันนี้ Demeter ICT จะมาแนะนำเครื่องมือที่จะช่วยให้คุณรวบรวมช่องทางเหล่านั้นให้ง่ายขึ้น โดยเครื่องมือที่เรากำลังพูดนั้น มีชื่อว่า Zendesk เจ้า Zendesk คือ Customer Service Software หรือก็คือ ซอฟต์แวร์ที่จะมาช่วยในเรื่องของการบริการของลูกค้าให้ดีและมีประสิทธิมากยิ่งขึ้น โดยที่จุดเด่นของ Zendesk นั้น คือ การรวบรวมช่องทางการติดต่อของลูกค้าจากช่องทางต่าง ๆ หรือ ที่หลาย ๆ คนอาจจะเคยได้ยินคำว่า Omnichannel ซึ่ง Pain Points หลัก ๆ ของบริษัทที่ใช้ Zendesk ยกตัวอย่างเช่น ต้องการผสานช่องทางต่าง ๆ ของลูกค้าไว้ในที่เดียว หรือที่เรียกว่า Omnichannel ต้องการเก็บรวบรวมข้อมูลของลูกค้าที่ติดต่อเข้ามาไว้ในระบบ โดยที่เวลาลูกค้าติดต่อมาอีกในครั้งหน้าจะได้ไม่ต้องสอบถามข้อมูลลูกค้าอีกรอบให้เสียเวลา และสามารถนำข้อมูลของลูกค้าไปต่อยอดทางธุรกิจได้ มี Admin หรือ Agent ในการตอบลูกค้าหลายคน จึงต้องการ track ข้อมูลให้ชัดเจนเพื่อให้เช็คได้ว่าใครคุยถึงไหนแล้ว ใครเป็นคนตอบลูกค้า เพื่อให้ง่ายต่อการเช็คและตรวจสอบ (ซึ่งบางบริษัทก็ใช้เอาไว้ติดต่อกันภายในองค์กรก็สามารถทำได้เช่นกัน เช่น เวลาส่งเรื่องไปให้ทีมต่าง ๆ ก็จะง่ายและสะดวกในการติดตามมากยิ่งขึ้น) ต้องการที่จะวัดผล ประเมินผลของพนักงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะ Zendesk มีการวัดผลของผู้ที่ใช้ระบบ และสามารถสร้างเป็น Report ให้ดูได้แบบง่ายดาย ต้องการดู Report ของลูกค้าที่ติดต่อเข้ามาได้อย่าง Real-time เพื่อปรับกลยุทธ์ให้เข้ากับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับบริษัทได้อย่างรวดเร็วและทันที หากคุณมี Pain Points บางข้อหรือหลายๆข้อที่ตรงกับผู้ที่ใช้ Zendesk ด้านบน ก็บอกได้เลยว่า วันนี้พวกคุณเจอทางออกแล้ว เพราะ Zendesk จะมาช่วยแก้ Pain Points...
Continue reading5 กลยุทธ์การขายบน WeChat
Wechat เป็นแพลตฟอร์มโซเชียลที่มีคนใช้มากที่สุดในจีน เป็นแอปที่แม้แต่ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางก็สามารถใช้เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคชาวจีนได้ แต่บริษัทเหล่านี้สามารถขายมากขึ้นบนแพลตฟอร์มนี้ได้อย่างไร? ในบทความนี้เราจะแนะนำ 5 เคล็ดลับ และกลยุทธ์ที่เป็นประโยชน์ในการขายสินค้าบน Wechat WeChat มีความสำคัญในการเข้าสู่ตลาดจีนในปี 2020 ปัจจุบัน Wechat กลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ไม่เพียงแต่สำหรับบุคคลทั่วไปเท่านั้น แต่ยังรวมถึง บริษัทขนาดเล็ก กลาง และใหญ่ที่ตั้งใจสร้างกลยุทธ์ทางการตลาดที่มีประสิทธิภาพโดยมุ่งเป้าไปที่ตลาดจีน ในความเป็นจริง Wechat ยังคงเป็นเครื่องมือเดียวในการเชื่อมต่อโดยตรงกับลูกค้าชาวจีน การใช้ Wechat ทำให้บริษัทต่างๆมีโอกาสเข้าถึงผู้ใช้ชาวจีนจำนวนมาก ซึ่งมีผู้ใช้งานต่อเดือนถึง 1.2 พันล้านคน ทำไม WeChat จึงมีความสำคัญต่อผู้ใช้งานสำหรับแบรนด์ขนาดกลาง และขนาดเล็กในจีน WeChat เป็นแพลตฟอร์มการส่งข้อความในช่วงหลายปีที่ผ่านมา Wechat มีวัตกรรมหลายอย่างที่เป็นมากกว่าการแชทออนไลน์ธรรมดา ๆ WeChat อนุญาตให้ผู้ใช้: สร้างแวดวงผู้ติดต่อ และสนทนา โพสต์เนื้อหา หรือ กิจกรรมบนหน้า WeChat Moment ลงข่าวสารต่างๆได้ สามารถทำการจอง (แท็กซี่ ร้านอาหาร เที่ยวบิน และอื่น ๆ) ใช้ WeChat Wallet เพื่อซื้อสินค้าออนไลน์ ดูยอดเงิน การโอนเงินไปยังรายชื่อติดต่ออื่น ๆ โดยชำระเงินผ่านมือถือ ใช้สเเกน QR Code สามารถเชื่อมต่อโลกดิจิทัลภายในโทรศัพท์ของเรากับผู้คน และสถานที่ได้ นอกจากนี้ก็ยังสามารถเพิ่มเพื่อน เเละจ่ายเงินผ่านการสเเกน WECHAT ยังช่วยให้บริษัทต่างๆสามารถทำ Customer Relationship Management (CRM) ได้อย่างสมบูรณ์ผ่าน สามารถสร้างบัญชีอย่างเป็นทางการของ Wechat โต้ตอบกับผู้ติดตาม และอัปเดตข่าวสารของแบรนด์อยู่เสมอ มี WeChat Mini Program ภายในระบบ WeChat ที่ครอบคลุมฟังก์ชันต่างๆ เช่น อีคอมเมิร์ซ เกม และอื่น ๆ Wechat pay มีผู้ใช้ที่ใช้งานอยู่ 900 ล้านรายต่อเดือน โดยมีธุรกรรม 1 พันล้านรายการต่อวันจากการเชื่อมต่อ O2O...
Continue readingรวบรวมแอปจาก Google Workspace ที่ใช้สำหรับ Work From Home
วันนี้ Demeter ICT ได้รวบรวมแอปจาก Google Workspace ที่ใช้สำหรับ Work From Home ซึ่งแอปเหล่านี้จะช่วยให้คุณทำงานได้ทุกที่อย่างสะดวกสบายและตอบสนองการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ 1. ประชุมออนไลน์ Google Meet เป็นแอปที่ใช้สำหรับประชุมทางวิดีโอสำหรับองค์กร (Video Conference) สามารถเข้าร่วมประชุมทางวิดีโอได้โดยตรงจากแอป Google Meet, Calendar และ Gmail มีอินเทอร์เฟซที่เรียบง่ายและรวดเร็ว ดูตารางการประชุมประจำในแต่ละวันได้อย่างง่ายดาย เข้าร่วมการประชุมด้วยการคลิกลิงก์เพียงครั้งเดียว 2. นัดหมายและติดตามงาน Calendar เป็นปฏิทินออนไลน์ที่แชร์ถึงกัน ออกแบบมาสำหรับทำงานร่วมกัน ที่คุณนั้นสามารถใช้เพื่อวางแผนและกำหนดวันเวลาในการส่งงานร่วมกันกับทีมได้ ซึ่ง Calendar ผสมผสานการทำงานของ Gmail และ Google Meet ที่คุณสามารถสร้างนัดหมายการประชุมและส่งคำเชิญพร้อมรายละเอียดไปยังอีเมลได้ง่ายและรวดเร็ว รวมถึงสามารถดูตารางเพื่อนร่วมงานได้แบบออนไลน์ 3. คุยงานภายในองค์กร Google Chat เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ใช้ติดต่อสื่อสารในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถสร้างแชทได้ทั้งส่วนตัวและกลุ่ม ซึ่งการใช้งานเหมือนกับการส่งข้อความในไลน์ ต่างแค่ใช้ที่อยู่อีเมลของเพื่อนร่วมงานคุณในการติดต่อ ที่สำคัญคือ ข้อความที่รับส่งและไฟล์ที่แชร์ในแชทจะไม่หายและซิงค์ไว้ทั้งหมด ไม่ว่าคุณจะเข้าด้วยอุปกรณ์ไหนก็สามารถค้นหาข้อความเดิมได้อยู่ 4. ส่งงานและแชร์ไฟล์ Google Drive เป็นบริการที่คุณสามารถจัดเก็บ เข้าถึง และแชร์ไฟล์ขององค์กรอย่างปลอดภัยได้เนื่องจากอมูลของคุณถูกเก็บไว้บน Cloud เพียงแค่มีอินเทอร์เน็ต คุณก็สามารถเปิดดูไฟล์ได้ทุกที่ ทุกเวลา ไม่ว่าจะเป็นเดสก์ท็อป หรือโทรศัพท์มือถือ และสามารถแชร์ไฟล์ให้กับทีมได้ทันทีเมื่อต้องทำงานร่วมกัน 5. Brainstorm ร่วมกัน Docs, Sheets, Slides ทั้ง 3 นี้คือ เครื่องมือที่ใช้สำหรับการสร้างเอกสารแบบออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นสเปรดชีตหรือสไลด์ คุณสามารถทำงานร่วมกัน ดู แก้ไข และแสดงความคิดเห็นได้แบบเรียลไทม์ และงานทั้งหมดที่ทำจะถูกบันทึกอัตโนมัติ Docs เอกสารออนไลน์ สร้างและแก้ไขเอกสารร่วมกันสูงสุด 100 คน รองรับไฟล์ Microsoft และไฟล์อื่น ๆ อย่าง .docx, .pdf, .odt, .rtf, .txt หรือ...
Continue readingประชุมออนไลน์ด้วย Google Meet
กลับมาอีกครั้งกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 ที่ทำให้หลายองค์กรต้องกลับมา Work From Home อีกครั้งและคงหนีไม่พ้นกับการประชุมออนไลน์ ซึ่งวันนี้ Demeter ICT จะสรุปจุดเด่นหลัก ๆ ของ Google Meet ที่มีการใช้งานง่ายและฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่น่าสนใจ มาดูกันเลย 1. สามารถเข้าประชุมออนไลน์ได้ง่าย ทุกอุปกรณ์ เข้าผ่านเว็บ https://meet.google.com ได้โดยตรง และเข้าผ่านเว็บเบราว์เซอร์ที่ทุกท่านใช้งานกันเป็นประจำอย่าง Google Chrome ผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ทุกอุปกรณ์ โดยการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Google Meet ซึ่งรองรับทั้ง IOS และ Android ผ่าน Gmail สามารถเข้า Google Meet ได้ทันทีโดยที่ไม่ต้องสลับหน้าต่าง ซึ่งแถบเมนู Google Meet จะอยู่ด้านซ้าย และในแอปพลิเคชันเมนูจะด้านล่างโดยที่ไม่ต้องสลับไปแอป Google Meet เช่นกัน ผ่าน Calendar วิธีนี้เป็นวิธีที่ฮอตฮิตที่สุด เนื่องจากผู้ใช้งานส่วนใหญ่จะนัดหมายการประชุมพร้อมกับประชุมออนไลน์ ซึ่งคุณสามารถดูหรือสร้างการนัดหมายและคลิกเข้าการประชุมออนไลน์ได้ง่าย ๆ ดูเพิ่มเติมวิธีการเข้าประชุมออนไลน์ Google Meet 2. เข้าร่วมการประชุมออนไลน์ได้สูงสุด 250 คน* ในตอนนี้ใครก็ตามที่มีบัญชี Google สามารถเข้าร่วมหรือสร้างการประชุมออนไลน์ได้มากสุด 100 คน แต่หากเป็นระดับธุรกิจสามารถสร้างและเข้าร่วมได้มากสุด 250 คน พร้อมบันทึกวิดีโอระหว่างประชุม 3. แชร์หน้าจอนำเสนองาน คุณสามารถนำเสนองานหรือแชร์หน้าจอได้ง่าย ๆ โดย Google Meet จะมีให้เลือก Your entire screen คือ นำเสนอทั้งหน้าจอ A window คือ เลือกหน้าจอโปรแกรมที่ต้องการนำเสนอ และ A Chrome Tab คือ เลือกนำเสนอ แท็บใดแท็บหนึ่งที่เปิดใน Google Chrome โดยในส่วนของคุณภาพของเสียงยังเป็นแบบ...
Continue readingDigital Transformation คืออะไร สำคัญแค่ไหนต่อการทำธุรกิจ?
เมื่อคำว่า ‘ดิจิทัล’ ไม่ใช่เรื่องใหม่อีกต่อไป ธุรกิจก็ต้องหาหนทางปรับตัวตาม ในยุคที่เศรษฐกิจดิจิทัลมีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และความคาดหวังของลูกค้าเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง Digital Transformation เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจเอาตัวรอดจากความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ไปได้ ล่าสุด Gartner เผยว่า ไวรัสโควิด-19 ที่ระบาดหนักในปี 2020 ได้ทำให้หลายองค์กรหันมาสนใจการทำ Business Transformation มากขึ้นเป็นประวัติการณ์ แตกต่างจากการคาดการณ์ไทมไลน์เดิมซึ่งใช้ระยะเวลาเป็นปีเหลือเพียงหลักสัปดาห์ แล้ว Digital Transformation คืออะไร? Digital Transformation (DX) คือ การนำเทคโนโลยีและกลยุทธ์ทางดิจิทัลเข้ามาใช้ในการวางรากฐาน เป้าหมาย การดำเนินธุรกิจ ตลอดจนขั้นตอนการทำงานและวัฒนธรรมขององค์กร ตัวอย่างของ Digital Transformation IT modernization หรือ การใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น Cloud Computing การ Reskill พนักงาน การนำเครื่องมือดิจิทัลเข้ามาปรับใช้ เช่น ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) เข้ามาช่วยทำงาน เพื่อที่พนักงานจะสามารถโฟกัสกับงานที่เน้นใช้ความคิดสร้างสรรค์ ทักษะการแก้ปัญหา อื่นๆ ได้มากขึ้น การใช้กระบวนการคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking) ในการค้นคว้าหาวิธีแก้ Pain Points ของลูกค้า การปรับปรุงกระบวนการทำงานเพื่อให้รับกับความต้องการของลูกค้าให้มากขึ้น การปรับสภาพองค์กรให้รองรับการทำงานแบบ Remote-Working 3 เสาหลักในการทำ Digital Transformation 1. คน (People) Digital Transformation เริ่มต้นจากผู้คน เพราะประสบการณ์ของพนักงานและประสบการณ์ที่ลูกค้าจะได้รับมีส่วนที่เชื่อมโยงเกี่ยวข้องกัน ดังนั้นในขั้นตอนแรก เราจึงต้องรู้ก่อนว่าในสิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง และความรู้สึกของพนักงานที่มีต่อการเปลี่ยนแปลงนั้น ยกตัวอย่างเช่น หากว่าคุณจะนำเทคโนโลยีเอไอเข้ามาช่วยในแผนก Customer Service ทำให้พนักงานรู้สึกกังวลว่าตนจะตกงาน ผู้เป็นหัวหน้าก็ควรสื่อสารให้เข้าใจตรงกัน “ถ้าเราสามารถขจัดความกังวลของคนอื่น ให้พวกเขารู้สึกได้ว่าเสียงของพวกเขามีค่า ก็จะช่วยให้เขาพร้อมจะก้าวรับความเปลี่ยนแปลงได้ง่ายขึ้น” – Dana Otto, Senior Manager, Change Management, Zendesk กล่าว 2. กระบวนการ...
Continue readingZendesk Agent Workspace คืออะไร?
Zendesk Agent Workspace คือ ฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดของ Zendesk ที่ช่วยเปลี่ยนการรับเรื่องจากลูกค้าที่มาจากหลากหลายช่องทาง ให้ง่ายยิ่งขึ้น โดยเป็นการปรับหน้าจอการทำงานที่จะช่วยให้ Agent (ผู้ดูแลระบบ หรือ Admin) สามารถทำงานข้ามช่องทางต่างๆ ที่ลูกค้าติดต่อเข้ามาบน Zendesk ได้อย่างง่ายดาย โดยที่การทำงานทั้งหมดจะอยู่บนแค่ Ticket เพียง Ticket เดียวเท่านั้น และยังสามารถใช้ช่องทางที่เหมาะสมกับลูกค้าที่ติดต่อเข้ามาได้อย่างไม่จำกัด เมื่อเริ่มเปิดใช้งาน Agent หรือที่ทุกคนรู้จักในชื่อของ Admin สามารถจัดระเบียบการสนทนาต่างๆทาง Support, Chat หรือ Talk ของลูกค้าได้ใน Ticket เดียวกัน โดยที่ไม่ต้องสลับ Ticket ไปมา ซึ่งอาจจะส่งผลให้เกิดความผิดพลาด และเสียเวลาอีกต่อไป พร้อมทั้งใน Ticket เดียวนั้นก็ยังตอบกลับลูกค้า ไปทางช้องทางที่เป็น Social Media ได้ทันทีอีกด้วย ตัวอย่างหน้า Ticket ของ Zendesk Agent Workspace องค์ประกอบของหน้า Ticket ใน Ticket เดียวสามารถสนทนาในทุกช่องทางได้ ไม่ว่าจะเป็น Support, Chat, Talk หรือจะเป็นช่องทาง Social Media ต่างๆที่ลูกค้าติดต่อเข้ามา สถานะของ Agent (Online, Away, Invisible) และการแชทที่กำลังให้บริการจะปรากฏขึ้นบนหน้าเพจ Agent สามารถสร้างตั้งค่าสถานะการ Talk ที่ด้านบนขวาสุดของหน้าแดชบอร์ด เพื่อที่สามารถทำการโทรได้บนพื้นที่การทำงานได้เลย ข้อมูลการสนทนาทั้งหมดระหว่าง Agent กับ ลูกค้าจะปรากฏอยู่ทางด้านขวา Agent สามารถสลับช่องทางการติดต่อได้ตลอดเวลา บทสนทนาจะเรียงตามลำดับความเก่าไปใหม่ตามลำดับ เพื่อให้การคุยเป็นธรรมชาติและต่อเนื่องที่สุด ทางด้านขวามือจะแสดงเส้นทางของผู้ที่ติดต่อเข้ามา เป็นประวัติเพื่อให้ช่วยในการสนับสนุนลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น Social Messaging ตัวซัพพอร์ตการสื่อสารใน Zendesk Agent Workspace เครื่องมือที่จะช่วยรองรับการส่งข้อความทาง Social Media ต่างๆ ใน Zendesk...
Continue readingGCash + Zendesk เปลี่ยนแปลงประสบการณ์สังคมไร้เงินสดให้กับลูกค้ากว่า 20 ล้านคน
ขึ้นชื่อว่าผู้ให้บริการทางการเงิน ระบบบริหารจัดการทั้งมาตรการรักษาความปลอดภัยต้องรัดกุมให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ ไม่เพียงแค่นั้นด้านการบริการลูกค้าเองก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะบริษัทที่รับผิดชอบเงินเหล่านั้้นต้องทำให้มั่นใจว่าจะมีผู้ให้ความช่วยเหลือในเวลาที่ลูกค้าต้องการเสมอ GCash ผู้ให้บริการ E-Wallet ชั้นนำของฟิลิปปินส์เล็งเห็นความสำคัญตรงจุดนี้ จับมือกับ Zendesk พัฒนาประสบการณ์ที่เหนือชั้นให้กับลูกค้ากว่า 20 ล้านคนและพาร์ทเนอร์กว่า 70,000 รายทั่วประเทศ “บริการที่เราจะมอบให้กับลูกค้าสำคัญมากจริงๆ เพราะมันก็คือเงินที่ลูกค้าเชื่อมั่นในระบบของเรา” Joanne Avendano, GCash vice president of customer experience กล่าว “เราต้องทำให้แน่ใจไม่เพียงแต่แพลตฟอร์มที่มีเสถียรภาพ แต่ยังต้องมีประสบการณ์และโครงสร้างการซัพพอร์ตที่พวกเขาจะสามารถพึ่งพาเราได้จริงๆ ดังนั้นการได้รู้ว่ามีคนที่ต้องการความช่วยเหลือจากเราอยู่ จึงสำคัญต่อบริการของเราอย่างมาก” Avendano อยู่กับ GCash มาตั้งแต่เริ่มก่อตั้งในปี 2004 ในฐานะผู้ให้บริการโอนและชำระเงินผ่านโทรศัพท์มือถือจาก Globe Telecom บริษัทผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือที่ใหญ่ที่สุดในฟิลิปปินส์ ภายใน 6 ปีที่ผ่านมา GCash ได้เติบโตจากเส้นทางธรรมดาอย่างแค่การส่งเงินไปสู่การเป็นแอปพลิเคชันที่เข้าถึงไลฟ์สไตล์มากขึ้น และการเปลี่ยนแปลงนั้นก็นำไปสู่ผู้ใช้งานที่เพิ่มขึ้นมหาศาลและความต้องการด้าน Customer Service ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ในปี 2017 GCash ก็ได้มองหาเครื่องมือที่จะช่วยบูรณาการช่องทางซัพพอร์ตต่างๆ เข้าด้วยกันเพื่อเตรียมความพร้อมให้กับการเติบโตของธุรกิจในอนาคต แรกเริ่มที่สนใจคือ Freshworks กับ Salesforce อย่างไรก็ตามเมื่อ Avendano ได้ลองใช้ Zendesk เธอรู้ว่าเธอเจอพาร์ทเนอร์ที่ใช่ในด้านความปลอดภัย การให้บริการและความยืดหยุ่นคล่องตัวแล้ว “หนึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนั้นก็คือเรื่องของความปลอดภัย” Avendano กล่าว “เพราะว่าเราให้บริการด้านการเงิน มาตรการรักษาความปลอดภัยของเราจึงต้องสำคัญเป็นอันดับหนึ่งอยู่เสมอ มีแค่ Zendesk ที่ตอบรับเราในเรื่องนี้ได้ในตอนนั้น” หลังจากได้นำ Zendesk Support มาปรับใช้ในการบริการลูกค้า หนึ่งปีผ่านไปในปี 2018 GCash ก็ได้เพิ่ม Zendesk Talk, Chat และ Guide ตามมา “เราค้นพบอะไรหลายๆ อย่างเกี่ยวกับ Zendesk” Avendano กล่าว “ไม่เพียงแต่ช่วยให้เราทำอะไรได้อย่างเป็นขั้นเป็นตอนมากขึ้น แต่จากประโยชน์ที่ได้รับในตอนนี้ Zendesk ตอบโจทย์ในสิ่งที่เราต้องการและสมควรทำงานร่วมกันกับเรา” เดิมที GCash มีระยะเวลาการตอบกลับลูกค้าที่ค่อนข้างนานถึง 24 ชั่วโมง...
Continue reading