Zendesk แจ้งปรับแพ็กเกจใหม่ ไฉไลกว่าเดิม!

Zendesk ปรับแพ็กเกจใหม่ นำเสนอโซลูชันการบริการแบบครบวงจร รวมทุกอย่างที่ต้องใช้ในการมอบประสบการณ์สนทนากับลูกค้า โดยจำแนกเป็น Zendesk สำหรับบริการและ Zendesk สำหรับการขาย ซึ่งแพ็กเกจดังกล่าวจะมีผลสามารถใช้ได้ทันทีนับตั้งแต่วันนี้ แล้วแพ็กเกจใหม่มีอะไรที่น่าสนใจบ้าง มาดูกัน Zendesk สำหรับการบริการหรือ Zendesk Suite Zendesk Suite เป็นแพ็กเกจที่รวมทุกสิ่งที่ธุรกิจต้องการเพื่อการบริการลูกค้าไม่ว่าจะเป็น Messaging, Analytics, Community forums, Collaboration และอย่างอื่นอีกมากมาย รวมครบจบไว้ในแพ็กเกจเดียว Zendesk Suite เป็นแพ็กเกจที่ผ่านกระบวนการออกแบบด้วยแนวคิดถึงความเรียบง่าย และให้ความมั่นใจว่าธุรกิจจะสามารถส่งมอบประสบการณ์ด้วยเทคโนโลยีเพื่อตอบรับความคาดหวังของลูกค้าได้อย่างดีที่สุด Zendesk Suite แบ่งออกเป็นทั้งหมด 4 แผนตามระดับการใช้งาน ได้แก่ Suite Team Suite Growth Suite Professional Suite Enterprise คลิกเพื่อดูรายละเอียดเปรียบเทียบแผนต่าง ๆ ได้ที่นี่ Zendesk สำหรับการขายหรือ Zendesk Sell แพ็กเกจ Zendesk ที่รวบรวมฟังก์ชันระบบ Sales CRM เพิ่มประสิทธิภาพให้กระบวนการขาย ติดตาม Pipeline และดีลของลูกค้าได้ง่าย ไม่สะดุด ตอบโจทย์สำหรับฝ่ายขายโดยเฉพาะ Zendesk สำหรับการขายมีทั้งหมด 4 แผน ได้แก่ Sell Team Sell Professional Sell Enterprise Sell Elite สามารถดูรายละเอียดเพื่อเปรียบเทียบแผนต่าง ๆ ได้ที่นี่เลย FAQs รวมคำถามที่พบบ่อยพร้อมคำตอบ 1. แพ็กเกจใหม่นี้ส่งผลอย่างไรต่อลูกค้าปัจจุบันบ้าง? Ans ไม่ส่งผลอะไรต่อลูกค้าปัจจุบัน แพ็กเกจและราคาที่ลูกค้าปัจจุบันใช้อยู่จะยังคงเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยน ทว่าหากลูกค้าต้องการจะยกระดับการบริการให้มากขึ้นก็สามารถดูรายละเอียดแพ็กเกจ Zendesk Suite อันใหม่นี้และโทร 02 030 0066 เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกับฝ่ายขายของเราได้ 2. หากต่อสัญญาจะยังคงอยู่ในแผนเดิมได้อยู่หรือไม่? Ans ได้ 3....

Continue reading

Google Workspace เครื่องมือทุ่นแรงระดับโลก

บริษัทของคุณเคยเจอกับปัญหาเหล่านี้มั้ย… พนักงานทำงานล่าช้า เพราะเอกสารไม่อัพเดต ? ต้องรอไฟล์เอกสารนาน อีเมลล่ม ไม่ได้รับอีเมล ?  พนักงานทำงานซ้ำช้อน คุยกันไม่รู้เรื่อง ? เบื่อมั้ยกับการที่ข้อมูลหาย ลืมเซฟงาน ? ร้ายที่สุดคือพนักงานขโมยข้อมูล….. วันนี้เเอดมีความลับมาบอกเป็นเครื่องมือวิเศษที่จะช่วยให้ระบบการทำงานทันสมัย มีความมั่นคง และสร้างความแตกต่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งมาพร้อมกับการจัดเก็บข้อมูลได้เเบบไม่จำกัด รวมถึงการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลในบริษัทไม่ให้รั่วไหลได้ดีที่สุดในโลก อ่านมาถึงตรงนี้อยากรู้กันรึยังว่าคือเครื่องมืออะไรกันเเน่… วันนี้เเอดจะมาบอกความลับที่บริษัทยักษ์ใหญ่หลายๆเเห่งทั่วโลกใช้กันเพื่อลดปัญหาต่างๆเหล่านี้ด้วยเครื่องมือ Google Workspace ของ Google ที่บริษัททั่วโลกให้การยอมรับว่าเป็นเครื่องมือที่ช่วยทุ่นเเรงการทำงานแบบครบวงจร พร้อมด้วยเวอร์ชั่นที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการในยุคดิจิตอล2021  นี่คือการสิ้นสุดการทำงานของ “ออฟฟิศ” ในแบบฉบับเก่า ๆ ที่เราคุ้นเคย จากนี้ไปบริษัทสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่จำเป็นต้องอยู่ในที่เดียวกันอีกต่อไป พนักงานทุกคนสามารถจัดเวลาการทำงานของตนให้ดีขึ้นได้ด้วยการใช้ Calendar เพื่อวางเเผนตารางงานในเเต่ละวัน นอกจากนี้ยังสร้างความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานในรูปแบบใหม่ ๆ ด้วย Google Workspace ที่จะช่วยให้การทำงานง่ายขึ้น ไม่ว่าพวกเขาจะทำงานอยู่ที่ออฟฟิศ ทำงานจากบ้าน จากภาคสนาม หรือกับลูกค้า ประโยชน์หลักที่ลูกค้าจะได้รับจาก Google Workspace 1. ช่วยประหยัดต้นทุน และลดเวลาการทำงาน Google Workspace เซฟข้อมูลอัตโนมัติเเละมีพื้นที่เก็บข้อมูลได้ไม่จำกัด พร้อมรับกับการใช้งานที่สูงได้โดยไม่ต้องจ่ายตังค์เพิ่มทุกปีสำหรับการบริการสำรองข้อมูลบน Cloud ยิ่งไปกว่านั้นยังมีให้ใช้ทั้ง Google Docs, Google Sheets, Google Slides ฯลฯ โดยสามารถเเชร์ไฟล์เเบบเรียลไทม์ให้เพื่อนต่างเเผนกเพื่อทำงานพร้อมกันทันที  เช่น มีหลายแผนกทำงาน Project เดียวกันก็ไม่ต้องทำงานแยกไฟล์แล้วนำมารวมกัน ทำให้ลดเวลาการทำงานลงไปได้อีก  2. สามารถใช้ Microsoft Outlook เป็น Email Client ได้ ในบางบริษัทพนักงานอาจจะคุ้นเคยกับการใช้ Microsoft Outlook ในการใช้งานอีเมล เรื่องนี้ก็ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะ Google ได้จัดเตรียม Google Apps Sync for Microsoft Outlook ซึ่งจะช่วยทำการ Sync Email, Calendar และ...

Continue reading

เจาะลึก Customer Experience ให้อะไรกับธุรกิจคุณได้บ้าง?

คุณเคยเดินเข้าร้านสะดวกซื้อแล้วเจอ ‘ชื่อ’ ของตัวเองอยู่บนขวด Coca-Cola ไหม? วันอาทิตย์ที่ผ่านมาคุณอาจกดเข้า Netflix สังเกตไหมคะว่าทำไมหน้าจอของคุณกับเพื่อนถึงได้แสดงผลไม่เหมือนกันเลย? วันดีคืนดีเดินเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่ Ikea แต่ไป ๆ มา ๆ กลับมาเจอตู้กดไอศกรีมเสียอย่างนั้น? แน่นอนว่ามันคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญทั้งหมดเป็นแน่ เพราะหนึ่งสิ่งที่สามแบรนด์ชั้นนำมองเห็นตรงกัน ก็คือ Customer Experience หรือประสบการณ์ของลูกค้า เมื่อพูดถึง Customer Experience ในไทยเองถือว่าไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไรนัก ทว่าก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเรื่อง ‘ประสบการณ์ของลูกค้า’ ยังคงเป็นเรื่องที่หลายธุรกิจให้ความสำคัญน้อยหรือเป็นรองลงมา ทั้งที่ในความเป็นจริงประสบการณ์ลูกค้านี่แหละ ที่ทำให้แม้แต่สินค้าที่มีฟีเจอร์คล้ายคลึงกัน ก็สามารถเอาชนะคู่แข่งได้ ดังนั้นในบทความนี้ เราจะมาเจาะลึกให้รู้แจ้ง รู้ชัดกันว่า Customer Experience ให้อะไรกับธุรกิจของคุณได้บ้าง เริ่มจากแคมเปญการตลาดอันเป็นไวรัลโด่งดังเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งกรณีศึกษาห้ามพลาดอย่าง “Share a Coke” ของ Coca-Cola  ย้อนกลับไปปี 2011 โค้กได้ทำการสำรวจชื่อที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดในแต่ละพื้นที่ และตัดสินใจนำชื่อเหล่านั้นมาสกรีนลงในกระป๋อง แรกเริ่มเดิมทีมีทั้งหมด 150 ชื่อในออสเตรเลียเท่านั้นที่ถูกเลือก ก่อนจะเริ่มขยับขยายสเกลไปทั่วโลกในเวลาต่อมา ผลที่ได้คือรูปภาพพร้อมแฮชแทค Share a Coke ถูกแชร์ไปในโซเชียลมีเดียกว่า 500,000 ครั้ง เพียงในปีเดียวที่ทำแคมเปญนี้โค้กได้ผู้ติดตามใน Facebook เพิ่มขึ้นถึง 25 ล้านคน แม้จะเป็นแคมเปญที่มีมานานทว่าก็ยังคงใช้ได้ผลดีเยี่ยม ไม่กี่เดือนที่ผ่านมานี้ Coca-Cola ก็ได้นำแคมเปญนี้มาปรับใช้ในธีม “Holiday Heroes” เพื่ออุทิศให้แก่เจ้าหน้าที่ที่ทำงานอย่างหนักในภาวะโรคระบาดโควิด-19 สำหรับในไทยเองก็มีการเพิ่มชื่อยอดฮิตขึ้นมาอีกกว่า 400 แบบ ใครบ้างจะไม่ชอบความรู้สึกที่ว่า ‘นี่มันชื่อของฉันบนกระป๋องโค้ก’ หรือ ‘กระป๋องนี้มันถูกสร้างมาเพื่อฉัน’ บ้างล่ะ จริงไหม? แนวคิดแบบ Personalized หรือการตลาดแบบรู้ใจได้ถูกนำมาปรับใช้ใน Netflix Netflix ใช้เทคโนโลยี Deep Learning เพื่อแนะนำซีรีส์ที่ระบบเอไอวิเคราะห์แล้วว่าลูกค้ามีโอกาสชื่นชอบสูง ดังที่เราสังเกตได้ว่ากดเข้า Netflix ไปที่ไร ก็มักจะเจอหนังหรือซีรีส์แนวที่คุ้นตาเต็มไปหมด การจะทำเช่นนั้นได้ไม่เพียงแต่ต้องผ่านการออกแบบประสบการณ์ลูกค้าที่ดีพอ ทว่ายังต้องมีระบบฐานข้อมูลที่ใหญ่พอด้วยเช่นกัน เพราะให้ความสำคัญกับข้อมูลของลูกค้า และการออกแบบประสบการณ์รับชมแบบ Online Streaming นี้เอง...

Continue reading

อีเมลที่ใช้สำหรับธุรกิจให้ดี ต้องฟรีหรือจ่าย?

ในยุคนี้ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าทุกธุรกิจจะต้องใช้อีเมลในการติดต่องาน อย่างอีเมลแบบแมส ๆ ที่เรารู้จักกันทั่วไปก็คงหนีไม่พ้น Gmail หรือ Hotmail และองค์กรของคุณก็น่าจะคุ้นชินกับการใช้งานพวกนี้อยู่แล้ว คงเริ่มคิดกันแล้วว่าจะต้องเสียเงินให้กับระบบอีเมลองค์กรไปทำไมในเมื่อของฟรีก็ดีอยู่แล้ว ซึ่งบางอย่างที่จ่ายไปย่อมดีกว่าของฟรีจริงไหมล่ะ  คุณลองนึกภาพตามถ้าบริษัท A ใช้อีเมล aa@gmail.com กับบริษัท B ใช้อีเมล aa@goodbrand.co.th ติดต่องาน เริ่มมองเห็นความต่างหรือเอ๊ะ? ขึ้นมาในใจกันบ้างหรือยัง ตรงข้างหลัง @ หรือที่เราเรียกกว่าโดเมนเนี่ยแหละที่ต่างกัน บริษัท B สามารถมีโดเมนเป็นชื่อองค์กรตัวเอง ต่างจาก A ที่เป็นบริษัทอะไรก็ไม่รู้ จำไม่ได้ และคุณเริ่มรู้สึกไหมว่าการมีโดเมนเป็นชื่อองค์กรตัวเองเนี่ยเจ๋งขนาดไหน  แต่มันยังไม่จบแค่นี้ ระบบอีเมลองค์กรหรือที่หลายคนเรียกว่าอีเมลแบบเสียเงินเนี่ยมันดียังไง เราจะค่อย ๆ เริ่มกันทีละข้อ  องค์กรมีตัวตนและมีความน่าเชื่อถือ แน่นอนว่าเปรียบเทียบบริษัท A และ B ข้างตนขึ้นมา สิ่งแรกที่อยากจะบอกก็คือ การมีระบบอีเมลองค์กรจะสามารถกำหนดชื่อโดเมนเองได้ เช่น sales@yourcompany.co.th ซึ่งการมีโดเมนเป็นชื่อองค์กรจะทำให้ภาพลักษณ์ขององค์กรมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น และองค์กรที่คุณจะต้องส่งอีเมลติดต่องานก็สามารถจดจำคุณได้ง่ายขึ้น เป็นเหมือนการตลาดไปในตัวที่จะทำให้คนอื่นจดจำโดยไม่ต้องเสียเงินเยอะ ๆ เพื่อสร้าง Awareness เลย ความปลอดภัยอีเมลด้วยมาตรฐานระดับโลก มาตรฐานระดับโลกอาจะดูเวอร์วังอลังการ แต่ Server ที่ให้บริการอย่าง Google Workspace มีใบรับรองมาตรฐานระดับโลกมากมาย และมี Server ที่มีความเสถียรสูง เก็บข้อมูลได้อย่างปลอดภัย ป้องกันการโจมตี อีเมลขยะ สแปม ได้ถึง 99% ถ้าหากอีเมลที่คุณใช้ยังเจอสแปมหรือยังล่มอยู่บ่อย ๆ ละก็ขอให้คิดใหม่อีกทีว่าควรหันมาใช้ระบบอีเมลองค์กรได้หรือยัง จัดการหลังบ้านง่าย ๆ พนักงานลาออกข้อมูลไม่ออกตาม หลังบ้านที่ว่าก็คือ พนักงานในองค์กรนั่นเอง ส่วน Admin องค์กรสามารถตั้งให้ฝ่าย IT เป็นคนดูแลที่สามารถจัดการ ลบ แก้ไข เพิ่มบัญชีพนักงาน และคอยเป็นเหมือนกล้องวงจรปิด มอนิเตอร์ให้องค์กรคุณดูว่าใครกำลังจะขโมยความลับขององค์กรส่งไปให้คู่แข่งของคุณ ฟังดูน่ากลัว แต่ถ้าหากมีจริง ๆ ขึ้นมา ระบบอีเมลองค์กรสามารถตรวจสอบได้ และถ้ามีพนักงานลาออกไป โปรเจคสำคัญ ๆ ที่อยู่ในอีเมลก็ไม่สามารถเอาไปด้วยได้  หรือถ้าลืมรหัสผ่านอีก...

Continue reading

เก็บ Feedback ลูกค้าง่าย ๆ ด้วย Google Forms

ในช่วงที่หลาย ๆ ธุรกิจกำลังให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นหลัก การมี Feedback หรืออินไซด์บางอย่างของลูกค้า จะนำไปสู่การสื่อสาร หรือการนำเสนอสินค้าและสร้างสิ่งที่ลูกค้าต้องการได้ดียิ่งขึ้น การเก็บข้อมูลเหล่านั้นจะไม่ยาก หากคุณรู้จักกับ Google Forms  เครื่องมือที่เรียกว่า Google Forms เป็นหนึ่งเครื่องมือการทำงานใน Google Workspace ที่สามารถทำเป็นแบบสอบถามออนไลน์ได้ ซึ่งจุดเด่นหลัก ๆ ใน Form มีดังนี้  ง่ายต่อการออกแบบหรือเปลี่ยน Theme สีสันให้เข้ากับโปรเจคนั้น ๆ การสร้างคำถามมีตัวเลือกครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็น Checkbox, Short Answer, Multiple Choice  แบบสอบถามสามารถส่งให้กับลูกค้าได้ทุกช่องทางไม่ว่าจะเป็นอีเมล โซเชียลมีเดีย หรือเว็บไซต์ คำตอบของลูกค้าจะบันทึกลงใน Spreadsheets อัตโนมัติแบบเรียลไทม์  Form จะสรุปข้อมูลเป็นกราฟและแผนภูมิวงกลมอัตโนมัติ ทีมสามารถสร้างแบบสอบถามร่วมกันและสามารถดูข้อมูลได้เหมือนกัน  ตัวอย่างของบริษัที่ประสบความสำเร็จในการเก็บ Feedback ลูกค้าด้วย Google Form บริษัท Tech Company สามารถรวบรวม Feedback สินค้าจากลูกค้าทั่วโลกได้อย่างรวดเร็ว Tech Company เป็นบริษัทที่เกี่ยวกับการสร้างคอมพิวเตอร์ที่ทุกคนสามารถสร้างและเขียนโค้ดได้เอง บริษัทเติบโตไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว โดยจัดส่งสินค้าไปยัง 87 ประเทศ จากนั้นบริษัทก็ได้ตระหนักว่าพวกเขาไม่มีวิธีที่มีประสิทธิภาพในการรวบรวมข้อมูลเชิงลึกของลูกค้า เพื่อช่วยให้บริษัทเติบโตมากขึ้น บริษัทเลยตัดสินใจส่งแบบสำรวจข้อมูลเชิงลึกของลูกค้าโดยใช้ Google Forms ทีมงานในโปรเจคนี้ทำงานร่วมกันเพื่อสร้างแบบฟอร์มใน 45 นาที จากนั้นพวกเขาก็ส่งอีเมลแบบสำรวจไปยังลูกค้า 13,000 ราย ภายใน 12 ชั่วโมง พวกเขาได้รับคำตอบ 1,000 รายการใน Spreadsheet ชีตเดียว ซึ่งทางทีมงานสามารถตรวจสอบและสรุปข้อมูลอัตโนมัติได้แบบรวดเร็ว ผลลัพธ์ ทีมสามารถสร้างและส่งแบบสำรวจได้อย่างรวดเร็วและราบรื่นโดยได้รับคำตอบกลับ 7% ในวันแรก บริษัท สามารถเข้าใจได้อย่างรวดเร็วว่าลูกค้ารับรู้ผลิตภัณฑ์ของตนอย่างไร ผลลัพธ์ของการใช้ Google Forms ไม่เพียงแต่ได้ข้อมูลของลูกค้า ยังลดเวลาและขั้นตอนการทำงานที่จากเดิมจะต้องส่งแบบสำรวจทางจดหมาย หรือยืนคอยลูกค้าเพื่อถามข้อมูล การมีเครื่องมืออย่าง Google Forms สามารถเก็บข้อมูลของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว สามารถนำไปสู่การทำงานเพื่อการวิเคราะห์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ...

Continue reading

เช็คเสียงกับกล้องให้พร้อม! ก่อนเข้า Meet

Google Meet ได้ออกฟีเจอร์มาใหม่ ที่คุณสามารถเช็คคุณภาพเสียงหรือกล้องเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับเข้าห้องประชุมออนไลน์อย่างมั่นใจใน Google Meet  โดยที่คุณสามารถดูได้ว่าไมค์ตัวไหนกำลังใช้งาน หรือกล้องกำลังเปิดอยู่หรือไม่ และหากพบปัญหา Google Meet จะขึ้นเตือนพร้อมคำแนะนำทันที ทั้งหมดนี้เป็นเทคโนโลยีที่ Google Meet พัฒนาขึ้นเพื่อให้ทุกแพ็กเกจของ Google Workspace ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดูวิธีใช้งานกันเลย คลิกเข้าร่วมประชุมออนไลน์ใน Google Meet คลิกข้างล่างซ้ายที่มีคำว่า Check your audio and video เมื่อคลิกเข้ามาแล้วจะพบ 3 สิ่งที่ต้องเช็คให้พร้อม คือ ไมโครโฟน ลำโพง และกล้อง  4. จากนั้นคลิก Next และ Start 5. เข้าประชุมออนไลน์ใน Google Meet เรียบร้อย Google Workspace เพื่อการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ บริษัท ดีมีเตอร์ ไอซีที จำกัด ตัวแทนจำหน่าย Google Workspace ในประเทศไทย อย่างเป็นทางการ รายละเอียดแพ็กเกจ 02 030 0066...

จับตา CX Trends 2021 ที่ต้องรู้ พร้อมรับมือ The Next Normal

“I’m not a cat” ทนายความคนหนึ่งกล่าวในไลฟ์สดการพิจารณาคดี เมื่อบังเอิญกดเปิดฟิลเตอร์หน้าแมวอย่างลืมตัวและหาทางปิดไม่ได้ “I can see that” ผู้พิพากษาตอบกลับ หลังจากเผลอนิ่งไปสักพักหนึ่ง ว่ากันว่าอะไรที่ไม่คิดว่าจะได้เห็น ก็จะได้เห็นในยุคนี้ ในระยะเวลาปีกว่าที่ผ่านมานับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของ COVID-19 เราได้เห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้มากมาย พวกเราถูกบีบให้ต้องมีการปรับเปลี่ยน ปรับตัว และต้องยอมรับว่าวิถีชีวิตใหม่หรือความปกติถัดไป (Next Normal) ที่จะเกิดขึ้นนี้ จะทำให้การตลาดและการบริการลูกค้าไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป หมดยุคของการขายที่มุ่งเน้นเรื่องสรรพคุณเพียงอย่างเดียว เมื่อในตลาดเต็มไปด้วยคู่แข่งที่มีสินค้าคล้ายคลึงกัน หมดยุคของการบริการที่ล่าช้าและต้องบอกข้อมูลเดิม ๆ ซ้ำ ๆ ที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกเสียอารมณ์ได้ หมดยุคที่จะมีช่องทางขายเพียงช่องทางเดียว และแค่มีสินค้าขายในออนไลน์ ก็อาจไม่เพียงพออีกต่อไป เพราะสิ่งที่สำคัญและเข้ามามีบทบาทต่อการทำธุรกิจยุคนี้ ก็คือ “Customer Experience (CX)” หรือประสบการณ์ของลูกค้า มาร่วมหาคำตอบถึงการสร้างประสบการณ์ให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ด้วยกันกับเรา กับงานสัมมนา “จับตา CX Trends 2021 พร้อมรับมือ The Next Normal” โดยในงานสัมมนานี้ Demeter ICT จะขอพาคุณอัปเดตเทรนด์สร้างประสบการณ์ลูกค้าให้เท่าทันก่อนใคร เผยแนวทางการบริการให้ตอบโจทย์โลกในยุค Next Normal พร้อมแนะนำเครื่องมือสร้างประสบการณ์ลูกค้าระดับโลกอย่าง Zendesk ให้ธุรกิจของคุณพร้อมรับมือความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ชนะใจลูกค้า และดำเนินต่อไปได้อย่างมั่นคง ลงทะเบียน สิ่งที่คุณจะได้รับจากการเข้าร่วม อัปเดตเทรนด์สร้าง ‘ประสบการณ์ลูกค้า’ ก่อนใคร ปรับอย่างไร ให้ธุรกิจอยู่รอด ระบุปัญหาที่ธุรกิจต้องเผชิญในปัจจุบัน เผยแนวทางการบริการลูกค้ายุคใหม่ วิธีการในการพัฒนากระบวนการบริการลูกค้าของบริษัท การวัดผล ควรจะวัดจากอะไรบ้าง คำแนะนำในการเลือกเครื่องมือและตัวช่วยที่เหมาะสม Agenda 14:00 – 14:10 Opening & Welcoming Speech 14:10 – 14:30 Customer Experience Trends 2021 อัปเดตเทรนด์สร้าง ‘ประสบการณ์ลูกค้า’ ก่อนใคร ปรับอย่างไร ให้ธุรกิจอยู่รอด 14:30 – 14:40 Way...

Continue reading

4 เคล็ด(ไม่)ลับเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานผ่าน Google Meet

คุณนึงถึงเครื่องมืออะไรในการประชุม เมื่อไม่สามารถเข้าออฟฟิตได้? อยากรู้หรือไม่… เครื่องมือที่ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็สามารถประชุม เเละพรีเซต์งานได้ผ่านเเค่สมาร์ทโฟนเพียงเครื่องเดียว ?? คิดออกมั้ยคะ… วันนี้เเอดขอเฉลย 4 ฟีเจอร์ที่ Google ได้ทำขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการของทุกคน ณ เวลานี้ เพื่อให้ทุกคนได้มีประสบการณ์ที่ดี เเละทำงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดในช่วง Work from Home (WFH) ซึ่งทุกคนสามารถเข้าประชุมได้ง่ายๆผ่านออนไลน์ที่บ้าน หรือเเม้จะอยู่ที่ไหนบนโลกนี้ขอเพียงเเค่คุณมีอินเตอร์เน็ตก็เข้าประชุมได้ การประชุมผ่าน Google Meet คุณสามารถคุยได้ทั้งเเบบปกติ หรือเเบบวีดีโอ จากนั้นเเชร์สไลด์พรีเซนต์ได้โดยการกด Present Now >>  Your entire screen Google Meet สามารถทำการประชุม พรีเซ้นต์งาน เเละจัดการอบรมพนักงานได้โดยใช้ 4 ฟีเจอร์ดังนี้ 1. Breakout room(การแบ่งเป็นกลุ่มๆ) ไม่ต้องหาสถานที่จัดประชุมให้วุ่นวายอีกต่อไปด้วยฟีเจอร์ Breakout room ที่ทำให้จัดกิจกรรมหรืออบรมสมาชิกภายในองค์กรได้เป็นห้องๆ ซึ่งผู้ดูเเลสามารถเเบ่งห้องย่อยได้เป็นกลุ่มๆ(Breakout) เป็นการเเบ่งห้องเเบบระบบสุ่มสมาชิกห้องนั้นๆให้เท่ากันแบบอัตโนมัติ หรือจะทำการจัดกลุ่มกันเองก็ได้เหมือนกัน การเเบ่งห้องย่อยสามารถทำได้สูงสุดที่ 100 ห้อง ต่อการ Call 1 ครั้งเลยทีเดียว ซึ่งการเข้าร่วม Meeting นี้ สามารถเข้าผ่านคอมพิวเตอร์ หรือ สมาร์ทโฟนที่เป็นระบบ  Android และ iOS เท่านั้น 2. Polls ฟีเจอร์ Polls บน Google Meet สามารถทำเเบบสอบถาม(Survey) หรือทำการประเมินในห้องประชุมออนไลน์ได้ง่ายๆ โดยไม่จำเป็นต้องปริ๊นซ์เเบบสอบถาม เเละเดินเเจกตามโต๊ะให้ยุ่งยาก ทุกคนสามารถทำเเบบสอบถามในระหว่างการประชุมได้เลย เพื่อให้ทุกคนในทีมได้เเสดงความคิดเห็นขอตัวเอง หลังจากทำเสร็จ ระบบยังสามารถสรุปผลการโหวตได้ทันที โดยผลโหวตนี้จะถูกจัดเก็บบนไฟล์ Google Sheets ใน Google Drive ของผู้ดูเเลห้อง เพื่อนำข้อมูลไปวิเคราะห์ เเละตัดสินใจโปรเจ็คได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้ดูแลห้องสามารถเลือกได้ว่าต้องการแสดงผลการโหวตแก่ผู้เข้าร่วมประชุมหรือไม่ 3. Raised Hand Raised Hand...

Continue reading

Work From Home The Series ตอน สร้างระบบเช็คชื่อออนไลน์ ด้วย Google Workspace

ด้วยสถานการณ์ในปัจจุบันที่หลายองค์กรมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานเพื่อรับมือกับสถานการณ์ Covid-19 ที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจทั่วโลก ทำให้การทำงานแบบ Work From Home เป็นที่นิยม และนำไปใช้ในธุรกิจต่างๆ อย่างแพร่หลาย ระบบเช็คชื่อพนักงานเป็นกระบวนการหนึ่งที่หลายองค์กรกำลังค้นหา ซึ่งการเช็คชื่อการทำงานแบบเดิมจะถูกประยุกต์ไปสู่การเช็คชื่อแบบออนไลน์ที่พนักงานสามารถเช็คชื่อได้แม้ทำงานอยู่ที่บ้าน และในขณะเดียวกันฝ่าย HR ก็สามารถตรวจสอบและติดตามเวลาเข้าออกได้เหมือนเดิม ในการจัดสัมมนาออนไลน์ในครั้งนี้ ทางบริษัท ดีมีเตอร์ ไอซีที จำกัด มุ่งเน้นในการถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับ การสร้างระบบเช็คชื่อการทำงานแบบออนไลน์ด้วย Google Workspace ที่สามารถประยุกต์ใช้เพื่อรองรับนโยบายและเป็นประโยชน์ต่อการทำงานแบบ Work From Home ขององค์กรอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ลงทะเบียน สิ่งที่คุณจะได้รับจากการเข้าร่วม กระบวนการสร้างระบบเช็คชื่อการทำงานออนไลน์ ด้วย Google Workspace พร้อมแสดงผลข้อมูลแบบ Dashboard ผ่าน Data Studio ผลลัพธ์ของการขับเคลื่อนธุรกิจด้วย Google Workspace อัปเดตฟีเจอร์ต่าง ๆ ใน Google Workspace เครื่องมือที่องค์กรใช้ในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ Agenda 14:00 – 14:05 ปฐมบทสู่ Work From Home The Series 14:05 – 14:20 ฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดของ Google Workspace  14:20 – 14:30 ประโยชน์ที่จะได้รับจากการใช้ Google Workspace ในการขับเคลื่อนธุรกิจ 14:30 – 15:45 สร้างระบบเช็คชื่อออนไลน์ ด้วย Google Workspace พร้อม Dashboard แสดงผลข้อมูลผ่าน Google Data Studio (75 min) 15.45 – 16.00 น. Q&A (15 min) 15:45 – 16:00 Q&A 14:00...

Continue reading