เมื่อคุณต้องการที่จะทรานส์ฟอร์มองค์กร หนึ่งในสิ่งที่คุณขาดไปไม่ได้เลยก็คือเครื่องมือที่จะช่วยให้การทรานส์ฟอร์มองค์กรเป็นไปได้อย่างง่ายที่สุด ซึ่งเครื่องมือเทคโนโลยีเพื่อการทำงานที่กำลังมาแรงมากที่สุดในขณะนี้ คือ AppSheet แพลตฟอร์มสร้างแอปพลิเคชันที่ตอบโจทย์การทำงานของคุณได้มากที่สุด “แอปเดียวที่ครอบคลุมได้ทุกการใช้งานตั้งแต่ขั้นต้นไปจนถึงขั้นสูง” มาดูกันว่าทำไม AppSheet จึงเป็นแพลตฟอร์มที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการทรานส์ฟอร์มองค์กรตั้งแต่ขั้นเริ่มต้น ! 3 เหตุผลหลักที่ AppSheet เหมาะสำหรับการเริ่มต้นทรานส์ฟอร์มองค์กร การเริ่มต้นทรานส์ฟอร์มองค์กรในขั้นแรกจะต้องเริ่มด้วยอะไรที่ง่ายที่สุด ซึ่ง AppSheet ถูกพัฒนามาให้ใช้งานง่ายอยู่แล้ว เพราะคุณสามารถสร้างแอปพลิเคชันได้เองโดยที่ไม่ต้องเขียนโค้ดเลย การให้บุคลากรในองค์กรออกแบบแอปพลิเคชันที่ตอบโจทย์การทำงานของทีมด้วยตัวเอง จะช่วยให้พนักงานเข้าใจการทำงานขององค์กรมากขึ้น ทำให้สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่นและยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของงานได้อีกด้วย คุณสามารถเริ่มสร้างจากแอปพลิเคชันเดียวแล้วจึงค่อยทยอยสร้างแอปพลิเคชันสำหรับการทำงานในส่วนอื่นได้ ซึ่งคุณสามารถสร้างได้แบบไม่จำกัดจำนวนแอปโดยที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมแต่อย่างใด เหมาะมาก ๆ สำหรับองค์กรที่กำลังเริ่มต้นทรานส์ฟอร์มกระบวนการทำงาน (หลักสูตรสร้าง AppSheet คลิกที่นี่) AppSheet แตกต่างจากแอปอื่นอย่างไร ? 1. AppSheet รวมทุกอย่างไว้ในแอปเดียว ปกติแล้วในหนึ่งแอปพลิเคชันคุณจะสามารถใช้ได้สำหรับฝ่ายเดียวเท่านั้น เช่น แอปที่ 1 สำหรับฝ่าย HR, แอปที่ 2 สำหรับฝ่าย Sales และแอปที่ 3 สำหรับฝ่าย IT ซึ่งหากคุณใช้วิธีการซื้อ Outsource แบบนี้ คุณจำเป็นที่จะต้องซื้อแอปเพิ่มในทุก ๆ การใช้งาน แต่สำหรับ AppSheet นั้น อย่างที่ได้กล่าวไปด้านบนแล้วว่า เพียงแค่มี AppSheet ก็สามารถสร้างได้หลายแอปพลิเคชัน ตอบโจทย์ทุกการใช้งานแน่นอน ! 2. ใน AppSheet คุณสามารถกำหนดรูปแบบการทำงานของแอปเองได้ สำหรับการใช้งาน AppSheet คุณจะสามารถกำหนดฟังก์ชันการทำงานของแอปพลิเคชันเองได้ เช่น คุณต้องการออกแบบให้แอปทำงานตาม Work Process ของคุณโดยกำหนด Action ต่าง ๆ เอง รูปแบบนี้ก็สามารถทำได้ เรียกว่าไม่มีข้อจำกัดในเรื่องของการใช้งานเลย ซึ่งจะแตกต่างจากการที่คุณใช้งานแอปจาก Outsource เพราะแอปเหล่านั้นจะมีการดีไซน์ฟังก์ชันไว้อยู่แล้ว ซึ่งคุณก็จะต้องใช้งานตามฟังก์ชันของแอปนั้นเท่านั้น จะไม่สามารถปรับเปลี่ยนให้ตอบโจทย์ต่อการใช้งานของคุณแบบ 100% ได้ 3. คุณสามารถใช้งาน AppSheet ร่วมกับ Google Workspace ได้ เนื่องจาก...
Continue readingเจาะลึก Framework ของ Braze ซอฟต์แวร์ Martech หนึ่งเดียวที่ได้อยู่ใน Nasdaq
Braze แพลตฟอร์มการตลาด (Martech) แบบครบวงจรที่ช่วยให้ธุรกิจของคุณสามารถสร้างประสบการณ์การมีส่วนร่วมของลูกค้า รวมถึงสร้างแคมเปญการตลาดแบบไร้รอยต่อได้ในทุกช่องทาง ไม่ว่าจะบนมือถือ (แอป) เว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย อีเมล ข้อความและอื่น ๆ ด้วยเครื่องมือและฟีเจอร์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ทีมการตลาดโดยเฉพาะ ดังนั้นแคมเปญการตลาดของคุณจะมีประสิทธิภาพและเพิ่มการมีส่วนร่วมกับลูกค้าของคุณได้ดียิ่งขึ้น โดยในบทความนี้เราจะพาทุกท่านมาเจาะลึกถึงกระบวนการทำงาน Marketing Journey Framework ของ Braze ว่ามีกระบวนการทำงานอย่างไร? และจะช่วยตอบโจทย์การทำงานของทีมการตลาดอย่างไรได้บ้างแบบ Step by step แพลตฟอร์ม Braze จะแบ่ง Marketing Journey ของลูกค้าเป็น 3 ส่วน ด้วยกัน ได้แก่ https://www.dmit.co.th/wp-content/uploads/2022/11/Screen-Recording-2565-11-23-at-09.56.56-1.mov 1. Listen (รับฟังข้อมูลลูกค้า) รับฟังข้อมูลลูกค้าพร้อมสร้างฐานข้อมูล First Party Data ที่มาจากธุรกิจของคุณเองโดยตรง ซึ่งสามารถติดตามและเก็บข้อมูลของลูกค้าได้จากทุกช่องทาง ไม่ว่าจะบนมือถือ (แอป) เว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย อีเมล และอื่น ๆ เพื่อใช้ในการวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้าแต่ละคนได้แบบเรียลไทม์ Integrations : ผสานฐานข้อมูลของลูกค้าจากแหล่งต่าง ๆ ที่คุณมารวมไว้ในที่เดียวและสามารถแชร์ข้อมูลระหว่างแพลตฟอร์มกันได้อย่างอิสระ APIs และ SDKs : ช่วยในการติดตามและรวบรวมข้อมูลของลูกค้าขณะเวลาใช้งานแบบเรียลไทม์และเชื่อมต่อข้อมูลลูกค้ากับแพลตฟอร์มที่ใช้งานอยู่ 2. Understand (ทำความเข้าใจลูกค้า) นำข้อมูลจากฐานข้อมูล First Party Data ที่เราเก็บมาวิเคราะห์เพื่อทำความเข้าใจลูกค้าและความต้องการของลูกค้าแต่ละราย ด้วยฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ทีมการตลาดสามารถสร้างแคมเปญการตลาดที่ใช่และตรงใจลูกค้ามากที่สุด Dynamic Segmentation : สามารถแบ่งและจัดกลุ่มลูกค้าอัตโนมัติโดยอิงจากฐานข้อมูล เพื่อสร้างกลุ่มลูกค้าที่มีคุณสมบัติหรือพฤติกรรมที่เหมือนกัน โดยใช้เกณฑ์ต่าง ๆ ที่คุณสามารถกำหนดได้เอง Journey Orchestration (Canvas Flow) : ฟีเจอร์ที่ช่วยให้ทีมการตลาดสร้างและออกแบบแคมเปญการตลาดแบบอัตโนมัติตาม Customer Journey ได้แบบง่าย ๆ ใน ในรูปแบบของ Multi-Channel Campaign พร้อมทั้งยังมีฟีเจอร์ที่ทีมการตลาดต้องการอย่าง A/B Testing...
Continue readingITSM 2024: Modernizing Seamless & Effortless Experience with Freshservice
ไขเคล็ดลับ ตามเทรนด์ให้ทัน เปลี่ยนแปลงการให้บริการด้านไอทีของคุณให้ดีขึ้นกว่าที่เคย เตรียมความพร้อมก้าวสู่ปี 2024 อย่างมี Strategy กับงานสัมมนาครบจบเพื่อ IT Leader โดยเฉพาะ ITSM 2024: Modernizing Seamless & Effortless Experience with Freshservice วันศุกร์ที่ 17 พฤศจิกายน 2023 l เวลา 13.00 – 17.00 น. SPEAKERS Chaitavat Yaopromsiri Vice President of CX Solutions Sales, Demeter ICT Peerachat Koonvirarak Country Channel Sales Manager, Freshworks Chanus Sathornkit Vice President of CX Solutions Consulting, Demeter ICT นับถอยหลังอีกเพียงไม่กี่วันปีนี้ก็จะสิ้นสุดลง ก้าวสู่ปี 2024 อย่างเต็มตัว ในยุคที่ทุกองค์กรต่างนำเทคโนโลยีมาปรับใช้และคนไอทีต้องรับศึกหนัก ถึงเวลาหรือยังที่จะปรับปรุงการจัดการบริการด้านไอทีของคุณให้ทันสมัย ราบรื่น และดีต่อใจพนักงานเสียที? Demeter ICT ร่วมกับ Freshworks ขอเชิญชาวไอทีและผู้ที่สนใจอัปเกรด ITSM ทุกท่านมาพบกับงานสัมมนาสุดพิเศษส่งท้ายปี กับงาน ‘ITSM 2024: Modernizing Seamless & Effortless Experience with Freshservice’ อัดแน่นเนื้อหาทุกเรื่องที่ควรรู้เพื่อให้คุณเตรียมพร้อมรับมือปี 2024 อย่างมั่นใจ ไม่ว่าจะเป็น ✅ รู้เท่าทัน ITSM Trends 2024 มีแนวโน้มอะไรที่น่าสนใจบ้าง? ✅ แชร์กลยุทธ์ในการปรับใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้างเสริม Employee Experience ซึ่งนำไปสู่การเติบโตขององค์กร...
Continue readingวิธีส่ง Appointment Schedule จองตารางนัดหมายให้ทันใจด้วย Gmail
เมื่อ Demeter ICT ได้พาทุกท่านไปสร้าง Appointment Schedule ใน Google Calendar กันเรียบร้อยแล้ว บทความนี้เรียกได้ว่าเป็นส่วนเพิ่มเติมสำหรับใครที่ต้องการต่อยอด Appointment Schedule ให้สามารถทำงานร่วมกับ Gmail ได้ ซึ่งคุณจะสามารถแนบตารางนัดหมายส่งให้ผู้รับได้เลยทันที ไม่ต้องเข้า-ออกหลายแอปพลิเคชัน รับรองว่านัดหมายได้รวดเร็วทันใจอย่างแน่นอน วิธีการส่ง Appointment Schedule ด้วย Gmail มี 2 วิธี คือ 1. Offer times you are free วิธีนี้คือการที่คุณนำตาราง Appointment Schedule ที่คุณสร้างขึ้นมาวางลงบนอีเมลที่คุณกำลังเขียนอยู่ ซึ่งผู้รับจะสามารถกดเลือกเวลานัดหมายที่ต้องการผ่านอีเมลที่คุณส่งไปได้เลยทันที ตัวอย่าง Appointment Schedule ที่จะปรากฏบน Gmail การส่ง Appointment Schedule ด้วยวิธีการ Offer times you are free ไปที่หน้า Gmail แล้วกด Compose เมื่อมีหน้าต่าง Gmail ปรากฏขึ้นมา ให้ไปที่แท็บเมนูด้านล่างแล้วกด Set up a time to meet เลือก Offer times you are free จากนั้นเลือกวันที่ เวลา และสถานที่ที่คุณต้องการเสนอนัดหมายให้กับผู้รับ เมื่อเรียบร้อยแล้ว กดส่งได้เลย เมื่อผู้รับได้กดเลือกเวลาใดเวลาหนึ่งจากที่คุณเสนอไปแล้ว คุณจะได้รับอีเมล Event Confirmed เพื่อยืนยันการนัดหมาย แล้วการนัดหมายนั้นจะเข้าไปอยู่ใน Google Calendar ของคุณและผู้รับโดยอัตโนมัติเลยทันที 2. Create an event ตัวเลือกนี้จะเป็นการสร้าง Event ใหม่จากหน้า Google Calendar ซึ่งรายละเอียดการสร้าง Event ก็จะเหมือนกับการสร้างประชุมปกติดังรูปภาพด้านล่าง...
Continue readingพิมพ์งานเอกสารให้รวดเร็วยิ่งขึ้นด้วย Building Block ใน Google Docs
อัปเดตล่าสุดจาก Google เมื่อคุณลองคลิกสร้าง (Create) เอกสารใหม่ใน Google Docs คุณจะเห็นความเปลี่ยนแปลงด้านบนหัวกระดาษที่จะปรากฎเป็นแถบ 3 แถบขึ้นมาที่หน้าตาแปลกไปจากเดิม นั่นก็คือ Meeting Notes, Email Drafts และ More ตามภาพด้านล่าง โดยฟีเจอร์ดังกล่าวมีจุดประสงค์เพื่อให้ผู้ใช้งาน Docs สามารถเข้าถึง Building Blocks ซึ่งเป็นเทมเพลตการสร้างกิจกรรมต่างๆบน Docs เพื่อช่วยให้การพิมพ์งานเอกสารของคุณง่ายและรวดเร็วขึ้น หรืออีกวิธีคือคุณสามารถเข้าถึง Building Blocks ได้ด้วยการพิมพ์ @ หากใครยังไม่รู้วิธีการใช้งาน บทความนี้เราจะพาไปรู้จักกัน Building Blocks ใน Docs คืออะไร? Building Blocks คือหนึ่งเครื่องมือใน Smart Canvas ที่มีอยู่ใน Google Docs ให้คุณสามารถเลือกใช้เทมเพลตกิจกรรมที่ Google Docs มีให้ หรือคุณสามารถสร้างเทมเพลตเอกสารของคุณไว้ใช้เองก็ได้เช่นกัน ซึ่งข้อดีก็คือ Building Blocks จะช่วยให้คุณสามารถใช้งานเอกสารได้รวดเร็วและสะดวกยิ่งขึ้น นอกจากนี้ เราได้มีบทความแนะนำการใช้ Smart Chips ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือใน Building Blocks เช่นกัน >> บทความ: รวม Smart Chips ที่น่าสนใจบน Google Docs Building Blocks มีอะไรน่าสนใจให้ใช้งานกันบ้าง? Meeting Notes เพิ่มเติมรายละเอียดโน้ต (Notes) และการมอบหมายงาน (Action Items) สำหรับ Meeting นั้นๆ อีกทั้งสามารถแก้ไขรายละเอียดวันและเวลา ลงใน Meeting Notes โดยการเพิ่มเติมหรือแก้ไขนี้จะไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงใน Google Calendar วิธีการใช้เทมเพลต Meeting Notes 1. ไปที่งานเอกสาร Google Docs 2....
Continue reading8 ขั้นตอนสร้าง Appointment Schedule ใน Google Calendar
การสร้างตารางนัดหมาย (Appointment Schedule) ใน Google Calendar ถือเป็นอีกฟังก์ชันหนึ่งที่น่าสนใจมาก ๆ ไม่แพ้ฟังก์ชันอื่นเลยทีเดียว เพราะนอกจากการนัดประชุมด้วยการใช้ Finding Time แล้ว ฟังก์ชัน Appointment Schedule นี้จะช่วยให้คุณใช้งาน Google Calendar ได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เพราะคุณจะสามารถส่งตารางนัดหมายผ่านอีเมลของคุณให้ผู้รับได้เลือกเวลานัดที่ต้องการและทำการนัดหมายได้เลยทันทีนั่นเอง หากคุณต้องการใช้งาน Appointment Schedule อันดับแรกให้คุณสำรวจ Google Calendar ของคุณก่อนว่าฟังก์ชันนี้ได้แสดงอยู่บนปฏิทินอยู่แล้วหรือไม่ โดยคลิกไปที่ Create เลื่อนหาเมนู Appointment Schedule หากคุณยังไม่มี ให้คุณทำตามนี้ เปิด Google Calendar แล้วกดที่รูปฟันเฟืองด้านขวาบน เลือกตั้งค่า (Setting) จากนั้นแท็บด้านซ้ายจะปรากฏขึ้น ให้คุณเลือก Appointment Schedules(ในตั้งค่าจะมีS) กดเครื่องหมายถูกที่หัวข้อ Create appointment schedules instead of appointment slots เพียงแค่นี้คุณก็จะมีฟังก์ชัน Appointment Schedule แสดงอยู่บนหน้า Google Calendar ของคุณแล้ว ขั้นตอนต่อไปคุณจะต้องทำการสร้างตารางนัดหมายของคุณ มาดูวิธีกัน! วิธีสร้างตารางนัดหมาย (Appointment Schedule) ใน Google Calendar เมื่อคุณทำตามขั้นตอนด้านบนเรียบร้อยแล้ว ให้คุณกลับไปที่ Google Calendar หน้าหลัก จากนั้นกดวันที่วันใดก็ได้ เลือก Apppointment Schedule แล้วกด Set up the schedule หรืออีกวิธีหนึ่งคือกดปุ่ม Create ที่ด้านซ้ายบนจากหน้าหลักแล้วเลือกเมนู Appointment Schedule ก็ทำได้เช่นกัน จากนั้นคุณจะต้องตั้งค่า Appointment Schedule ซึ่งคุณสามารถดูรายละเอียดตามด้านล่างนี้ได้เลย สัญลักษณ์และฟังก์ชัน กดเครื่องหมาย ‘ห้าม’ เพื่อลบ Time slots ทั้งหมดสำหรับการนัดหมายในวันนั้น...
Continue readingรวม SMART CHIPs ที่น่าสนใจบน Google Docs
หากใครที่ใช้งาน Google Docs อยู่เป็นประจำ อาจจะเคยใช้งานฟีเจอร์ Smart Chips กันบ้างแล้ว แต่สำหรับใครที่ไม่รู้จักหรือไม่เคยสังเกตเห็น บทความนี้เราจะพาไปรู้จักกัน Smart Chips หรือชิปอัจฉริยะ ที่คอยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้งาน เพื่อแทรกข้อมูลหรือสร้างกิจกรรมต่างๆลงในเอกสารได้ หากสงสัยว่าหน้าตา Smart Chips เป็นอย่างไร วันนี้ Demeter ICT ได้รวบรวม Smart Chips ใน Google Docs ทั้งหมด ว่ามีอะไรน่าสนใจและสามารถนำมาใช้กับงานเอกสารของคุณได้อย่างไรบ้าง วิธีการแทรก Smart Chips ก่อนอื่น เรามาดูกันว่า Smart Chips นั้นอยู่ตรงไหนของ Google Docs… วิธีการเรียกใช้ Smart Chips ทำได้โดยการพิมพ์เครื่องหมาย “@” จากนั้นจะปรากฎดังภาพด้านล่าง Smart Chips มีอะไรบ้าง? ทีนี้เราจะมาดูกันว่าใน Smart Chips มีอะไรที่น่าสนใจในการนำมาใช้งานบ้าง… Date หรือ ชิปวันที่ เมื่อคุณใส่ชิปวันที่และเวลาแล้ว ผู้ร่วมงานจะสามารถเห็นวันที่และเวลาตรงกับที่คุณตั้งเอาไว้แม้จะอยู่กันคนละเขตเวลาก็ตาม หากต้องการรู้ว่าเวลาแตกต่างกันเพียงใด สามารถดูได้จากการนำเม้าส์วางบนชิปวันที่นั้น นอกจากนี้ ยังสามารถแทรกชิปวันที่ได้ดังนี้ – @today– @tomorrow– @yesterday– @date– วันที่ที่ต้องการ เช่น @Jan หรือ @1/1/2021– วันที่แบบสัมพัทธ์ เช่น @monday,@next tuesday หรือ @last wednesday วิธีการแทรกชิปวันที่ 1. พิมพ์เครื่องหมาย @ และเลือก Date 2. เลือกวันที่และเวลา 3. กด OK Dropdown หรือชิปเมนูแบบเลื่อนลง ขอแนะนำชิป Dropdown บอกเลยว่าเป็นตัวช่วยที่ดีทีเดียวในเวลาที่คุณต้องการสร้างตัวเลือกแบบหลายรายการ วิธีการแทรกชิปเมนูแบบเลื่อนลง1. พิมพ์เครื่องหมาย @ และเลือก Dropdown2. เลือก Dropdown ที่ต้องการได้เลย ...
Continue readingสำเร็จ! แพลตฟอร์ม Braze ได้อันดับ 1 ในหมวดการสร้าง Push Notification จาก G2
G2 เว็บไซต์ Software Marketplace ชื่อดังที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยจำนวนผู้เข้าชมกว่า 80 ล้านคนต่อปี ไม่ว่าจะเป็นพนักงานจากบริษัทชั้นนำในลิสต์ Fortune Global 500 หรือผู้ที่กำลังมองหาซอฟต์แวร์ที่จะมาทรานสฟอร์มกระบวนการทำงานในองค์กรส่วนใหญ่มักจะเลือกเว็บไซต์ G2 ในการดูรีวิวประกอบการตัดสินใจ ภาพจาก www.G2.com แพลตฟอร์ม Braze ได้ถูกเสนอชื่อในรายการ Grid® Report for Push Notification Software | Fall 2023 และได้รับอันดับที่ 1 จาก 42 แพลตฟอร์ม ให้เป็นผู้นำของแพลตฟอร์มด้านการสร้าง Push Notification จากรายการดังนี้ ได้รับคะแนนความพึงพอใจของลูกค้า 100/100 ในการสร้าง Push Notification สูง มีส่วนแบ่งตลาดขนาดใหญ่ที่สุด ผู้ใช้งานกว่า 97% ในคะแนนแพลตฟอร์ม Braze 4 หรือ 5 ดาวขึ้นไป ผู้ใช้งานกว่า 93% เชื่อว่าแพลตฟอร์ม Braze มาถูกทางแล้ว ผู้ใช้งานกว่า 90% มีแนวโน้มที่จะแนะนำแพลตฟอร์ม Braze ให้กับผู้อื่น นอกจากนี้แพลตฟอร์ม Braze ยังอยู่ในหมวดการสร้างการตลาดบนมือถือ (Mobile Marketing), การตลาดอัตโนมัติ (Marketing Automation) และ เครื่องมือปรับแต่งเฉพาะบุคคล (Personalization) ภาพจาก www.G2.com มองหา Braze นึกถึง Demeter ICT Demeter ICT พาร์ทเนอร์ผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม Braze อย่างเป็นทางการในประเทศไทยและเอเชียแปซิฟิก (APAC) เราไม่เพียงแต่จะให้บริการ License ของตัวระบบกับคุณเพียงเท่านั้น เรายังมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการ Training และมีใบ Certificate ในการให้คำปรึกษา ช่วยออกแบบกลยุทธ์ ตั้งค่าระบบ อบรมการใช้งาน รวมถึงการออกใบกำกับภาษีและส่วนของบัญชีต่าง...
Continue readingอัปเดต Google Chat ใหม่ล่าสุด! ฟีเจอร์ใหม่ทำอะไรได้บ้าง?
Google Chat เป็นหนึ่งเครื่องมือแชทที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ใช้เป็นช่องทางสื่อสารทั้งในและนอกองค์กร โดยจุดเด่นคือสามารถเก็บรายละเอียดข้อความแชทได้ไม่มีวันหมดอายุ แม้จะมีการเปลี่ยนเครื่องลงชื่อเข้าใช้ก็ตาม โดยที่ผ่านมา Google ก็ได้ทำการพัฒนาและปรับปรุงให้ตอบโจทย์การใช้งานของ user อยู่เสมอๆ มาดูกันว่า Google Chat ในเวอร์ชันปัจจุบันสามารถทำอะไรเพิ่มเติมจากเดิมได้บ้าง 1. Google Chat ปรับลุคแผงชุดข้อความใหม่ สำหรับใครที่ใช้ Google Chat บน Desktop อยู่เป็นประจำ จะสังเกตได้ว่า หน้าตา Interface แผงชุดข้อความ ของ Google Chat มีลักษณะดูแปลกตาจากเดิม นั่นก็คือฝั่ง Message ของผู้ตอบกลับ (reply) ที่ย้ายจากฝั่งซ้ายมาอยู่ฝั่งขวานั่นเอง ซึ่งหน้าตาดูเหมือนจะเป็นรูปแบบข้อความในแอปพลิเคชันโซเชียลมีเดียที่เราคุ้นเคยกันมากยิ่งขึ้น และข้อดีคือทำให้ง่ายต่อการมองเห็นและการแยกข้อความของผู้ส่งและผู้รับ สำหรับใครที่ยังไม่เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงก็อดใจรอสักนิด เพราะ Google จะทยอยอัปเดตให้ได้ครบทุก user อย่างแน่นอน หรือไม่ก็ลอง Update เวอร์ชัน Chrome ดูนะ! 2. จะแก้ไขหรือลบข้อความก็ทำได้ ไม่ว่าใครก็คงเคยพิมพ์ข้อความผิดพลาดหรือเกิดเปลี่ยนใจอยากจะยกเลิกข้อความที่ส่งไป แน่นอนว่าคุณสามารถแก้ไขข้อความเหล่านั้นให้เป็นข้อความที่ถูกต้อง รวมถึงสามารถลบข้อความที่ส่งออกไปได้แล้ว โดยมีวิธีการดังนี้ วิธีแก้ไขข้อความ1. การใช้งาน Google Chat บน Mobile ให้แตะที่ข้อความที่ต้องการ / บนคอมพิวเตอร์ให้วางเมาส์บนข้อความที่ต้องการ2. เลือก Edit3. แก้ไขข้อความตามต้องการ4. คลิก Update เพื่อบันทึก วิธีลบข้อความ1. การใช้งาน Google Chat บน Mobile ให้แตะที่ข้อความที่ต้องการ / บนคอมพิวเตอร์ให้วางเมาส์บนข้อความที่ต้องการ 2. เลือก Delete3. คลิก Delete เพื่อยืนยัน 3. เลือกตอบกลับเฉพาะข้อความที่ต้องการ หากในแชทนั้นมีการพูดคุยกันหลายคน หลายข้อความ หลายไอเดีย อาจจะก่อให้เกิดความสับสนหรือความเข้าใจในการตอบกลับที่คลาดเคลื่อนได้ บอกเลยว่ามีประโยชน์มาก คุณสามารถเลือกยกข้อความที่ต้องการเพื่อตอบกลับได้เลย โดยฟีเจอร์นี้สามารถใช้ได้ทั้งในส่วนของ Direct message, Group...
Continue reading