botbonnie mini cdp

BotBonnie จาก Appier เปลี่ยน LINE OA ให้เป็น Mini-CDP และ Customer Engagement สำหรับยุค OMO

ในยุคที่พฤติกรรมของลูกค้าไม่ได้อยู่แค่ “ออนไลน์” หรือ “ออฟไลน์” อีกต่อไป ลูกค้าอาจเห็นสินค้าใน LINE หรือ Social Platform อื่น จากนั้น ไปลองที่ร้าน แล้วกลับมาซื้อผ่านออนไลน์นี่คือโลกของ OMO (Online-Merge-Offline) ซึ่งแบรนด์ที่สามารถ เชื่อมโยงประสบการณ์ของลูกค้าในทุกช่องทางจะเป็นผู้ชนะในยุคใหม่ของการตลาด แต่ความท้าทายคือ — LINE OA ที่หลายแบรนด์ใช้อยู่ทุกวันนี้ ยังไม่เพียงพอที่จะ “เข้าใจลูกค้า” และ “สร้างการมีส่วนร่วม (Engagement)” ได้ลึกพอ นี่คือเหตุผลที่แบรนด์ชั้นนำ เช่น Xiaomi Samsung Gogoro Heineken Audi ฯลฯ เลือกใช้ BotBonnie จาก Appier BotBonnie คืออะไร หลายคนรู้จัก BotBonnie ในฐานะ “Chatbot Platform” ที่ทำงานร่วมกับ LINE OA ได้ดีที่สุดกว่าทุกโซลูชั่นส์ โดยได้รับความนิยมสูงสุดในไต้หวัน (เป็นสังคม LINE เหมือนไทย) ในต้นทุนที่จับต้องได้ แต่จริงๆ แล้ว BotBonnie ทำได้มากกว่านั้น นั่นคือ BotBonnie เป็นแพลตฟอร์ม Conversational Marketing & Engagement Platform ที่ช่วยให้แบรนด์สามารถสร้าง บทสนทนาอัตโนมัติ (Smart Chatbot) กิจกรรมการตลาด (Engagement Campaigns) การสื่อสารแบบเฉพาะบุคคล (Personalized Automation) และ การเก็บข้อมูลลูกค้า (Customer Data) บน LINE OA, Facebook, Instagram, Whatsapp หรือเว็บไซต์ — โดยไม่ต้องเขียนโค้ด ดังนั้น BotBonnie ไม่ได้เป็นแค่ “บอทตอบแชท” แต่เป็น “ศูนย์กลางของข้อมูลและการสื่อสารกับลูกค้า” สำหรับแบรนด์ที่ต้องการขับเคลื่อนการตลาดในยุค...

Continue reading
omo

OMO คืออะไร? แนวคิดการผสานโลกออนไลน์–ออฟไลน์ (O2O) และกลยุทธ์การตลาดแบบ LINE OMO

OMO คืออะไร? แนวคิดการผสานโลกออนไลน์–ออฟไลน์ (O2O) และกลยุทธ์การตลาดแบบ LINE OMO ในยุค “New Retail” การหลอมรวมระหว่างโลกออนไลน์และออฟไลน์ หรือที่เราเรียกว่า OMO (Online-Merge-Offline) ได้กลายเป็นหัวใจสำคัญของการแข่งขันทางธุรกิจยุคใหม่ รายงาน State of the Consumer 2025 (ตีพิมพ์ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2025) โดยบริษัทที่ปรึกษาระดับโลกอย่าง McKinsey สะท้อนภาพที่น่าสนใจของผู้บริโภคทั่วโลก ที่ผู้บริโภคทั่วโลกไม่ได้เป็นเพียงแค่ “นักช็อปดิจิทัล” อีกต่อไปแล้ว แต่เป็นกลุ่มคนที่มีพฤติกรรมซับซ้อนกว่าที่เคยเป็นมา เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน สิ่งที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจนคือ “ความอ่อนไหวต่อราคา” ที่ยังคงสูง ขณะที่ “ความภักดีต่อแบรนด์” กลับลดลงอย่างเห็นได้ชัด ผู้บริโภควันนี้เดินข้ามเข้าถึงไปมาระหว่างช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ได้อย่างเป็นเรื่องปกติ เพื่อค้นหาทั้ง “ความคุ้มค่า” และ “ประสบการณ์ที่เป็นของตนเอง” ดังนั้นสถานการณ์ตอนนี้จึงไม่ใช่เพียงยุคของการขายสินค้า แต่เป็นยุคที่แบรนด์ต้องเข้าใจพฤติกรรมมนุษย์ที่ผสานระหว่างข้อมูล เทคโนโลยี และอารมณ์อย่างแท้จริง ในตลาดที่ผู้บริโภคเป็นศูนย์กลางตามพฤติกรรมข้างต้น คำถามจึงมีว่าแบรนด์และธุรกิจต้องทำอย่างไรเพื่อเอาชนะใจลูกค้าอย่างยั่งยืน คำตอบของหลายแบรนด์ได้ชี้ไปที่กลยุทธ์ที่มีนักการตลาดพูดถึงมากที่สุดอันหนึ่งนั่นก็คือกลยุทธ์ OMO (Online-Merge-Offline) หรือการผสานโลกออนไลน์–ออฟไลน์ บทความนี้จะพาคุณผู้อ่านเจาะลึก โมเดลธุรกิจ OMO ปี 2025 เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง OMO และ O2O ในแต่ละด้าน และอธิบายว่า กลยุทธ์ในการใช้ LINE สำหรับ OMO จะช่วยแบรนด์เชื่อมต่อข้อมูลสมาชิกและจัดการฐานข้อมูลลูกค้าอย่างไร พร้อมแบ่งปันกรณีศึกษา Zenyum X Appier BotBonnie ที่ประสบความสำเร็จในไต้หวัน เพื่อให้ทุกท่านเข้าใจ “รูปแบบการปฏิสัมพันธ์ของลูกค้า” ในยุค OMO อีกด้วย อ่านเพิ่มเติม Appier คืออะไร? OMO คืออะไร? ไม่ใช่แค่ O2O แต่เป็นการผสานโลกจริง–โลกดิจิทัลแบบ “ยึดผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง” OMO (Online-Merge-Offline) คือแนวคิดการผสานช่องทางออนไลน์และออฟไลน์อย่างแนบสนิท แตกต่างจาก O2O ที่เป็นเพียงการนำลูกค้าออนไลน์มาที่หน้าร้าน OMO คือการ ทำลายกำแพงระหว่างออนไลน์กับออฟไลน์...

Continue reading

สรุปกลยุทธ์ทำการตลาดผ่าน WeChat ตอนที่ 3

WeChat Channel WeChat Channel เป็นฟีเจอร์ใหม่ภายในระบบนิเวศน์ของ WeChat ที่อนุญาตให้ผู้ใช้ (Users) อินฟลูเอนเซอร์ (Influencers) และแบรนด์ต่างๆ (Brands) สร้างและโพสต์คอนเทนต์วิดีโอสั้นๆ และเผยแพร่ผ่านฟีดสื่อ WeChat Channels ซึ่งเป็นทางเลือกสำหรับเทรนด์ความนิยมที่เพิ่มขึ้นของแพลตฟอร์มวิดีโอสั้น เช่น Douyin (Tiktok) และ Kuaishou ผู้ใช้ WeChat สามารถเลื่อนดูฟีดได้ตลอดเพื่อค้นหาสิ่งที่เพื่อนๆ และแบรนด์โปรดที่โพสต์ รวมถึงคอนเทนต์จากผู้ใช้ อินฟลูเอนเซอร์ และบัญชีสาธารณะอื่นๆ จาก Channels ผู้ใช้ WeChat สามารถสำรวจคอนเทนต์และติดตามผู้ใช้ที่ไม่ได้อยู่ในรายชื่อติดต่อ และบัญชี WeChat Official Account ที่ผู้ใช้งานไม่ได้ติดตาม การโฆษณาแบบเสียเงินบน WeChat แคมเปญโฆษณาสามารถเพิ่มการรับรู้ถึงแบรนด์ได้อย่างยอดเยี่ยม แต่แบรนด์ต้องมีความคิดสร้างสรรค์เพื่อดึงดูดความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย เช่น การเชิญชวนให้โหวต เล่นเกม หรือตอบคำถาม ซึ่งควรจะดึงดูดใจ สนุกสนาน และให้รางวัล แคมเปญที่สร้างสรรค์มักจะสามารถดึงดูดผู้ติดตามมายังบัญชีของเราได้เสมอ ซึ่งการโฆษณาแบบเสียเงินบน WeChat มี 3 รูปแบบหลัก: WeChat Banner Advertisements WeChat Moments Advertisements Key Opinion Leader (KOL) Promotion WeChat Campaigns โฆษณาแบนเนอร์ใน WeChat จะถูกวางไว้ในบทความของบัญชี WeChat Official Account และมีลักษณะแบบคลาสสิกคล้ายกับโฆษณาบนเว็บไซต์อื่น จุดเด่นคือมีการตั้งราคาแบบขึ้นอยู่กับผลลัพธ์ (Performance-based Pricing) และทำให้ผู้ใช้เข้าสู่เว็บไซต์ของเราได้ง่ายขึ้น โฆษณา WeChat Moments ช่วยให้ผู้ลงโฆษณาสามารถโฆษณาในส่วน Moments ซึ่งเปรียบได้กับ Newsfeed ของ Facebook ข้อดีคือ WeChat Moments ช่วยให้โฆษณาได้ง่ายขึ้นและคุ้มค่า: ส่วนกราฟิก: ใช้ภาพสูงสุด 6 ภาพหรือวิดีโอความยาวไม่เกิน 15 วินาที...

Continue reading

สรุปกลยุทธ์ทำการตลาดผ่าน WeChat ตอนที่ 2

โปรโมตบัญชี WeChat Official Account ด้วยการตลาดผ่านกลุ่ม WeChat (WeChat Group) กลุ่ม WeChat หรือ WeChat Group เป็นวิธีที่รวดเร็วและง่ายที่สุดในการเผยแพร่เนื้อหาไปยังผู้ใช้ WeChat ที่สนใจในประเภทสินค้าหรือบริการของเรา หากแบรนด์ของเราได้รับการแนะนำโดยผู้ใช้ในกลุ่ม ความเชื่อมั่นในแบรนด์จะเพิ่มขึ้น และสามารถดึงดูดความสนใจของผู้ใช้อื่นได้ ดังนั้น กลุ่ม WeChat จึงสามารถเข้าถึงชุมชนที่ใหญ่ขึ้นและเพิ่มการมองเห็นได้ดียิ่งขึ้น ตัวอย่างของการทำการตลาดผ่านกลุ่ม WeChat โบรชัวร์ WeChat H5: โซลูชันส์ที่คุ้มค่าสำหรับการกระจายเนื้อหา โบรชัวร์ WeChat ในฟอร์แมตแบบ H5 เป็นโบรชัวร์แบบโต้ตอบ (Interactive) ที่สร้างขึ้นในรูปแบบโปรแกรมขนาดเล็กของ WeChat ทำหน้าที่คล้ายกับ PDF ที่แนะนำแบรนด์และผลิตภัณฑ์ โบรชัวร์เหล่านี้มีความสามารถในการโต้ตอบและแชร์ได้ง่าย ทำให้เป็นเครื่องมือการตลาดที่ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณต้องการทำงานร่วมกับตัวแทนจำหน่ายในจีน โบรชัวร์ WeChat มีประโยชน์ทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ เพราะสามารถส่งและแจกจ่ายได้ง่าย เหมาะสำหรับการแสดงรายการสินค้าและแนะนำบริษัท ธุรกิจควรพิจารณาใช้กลุ่ม WeChat เป็นพื้นที่สำหรับให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์และสร้างความสัมพันธ์กับกลุ่มเป้าหมาย และควรโพสต์เนื้อหาเป็นประจำในช่วงเวลาที่มีผู้ใช้งานมากที่สุด ข้อดีของโบรชัวร์ WeChat H5: แชร์ง่ายและมีน้ำหนักเบา โต้ตอบได้และมีความน่าสนใจ พกพา QR Code ไปทุกที่แทนการพิมพ์ใบปลิว ประหยัดต้นทุน เป็นทางเลือกแทนการส่งอีเมลพร้อม PDF ที่ใหญ่และไม่มีประสิทธิภาพ แสดงให้พันธมิตรทางธุรกิจในจีนเห็นว่าคุณเข้าใจตลาด ตัวอย่าง H5 Brochure WeChat CRM & เมนูสำหรับบัญชีทางการ ตั้งค่าและใช้งาน WeChat CRM ในแอป เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการสื่อสารกับผู้ติดตาม/ลูกค้าของคุณ และสามารถใช้แทนจดหมายข่าวได้ ซึ่งตอบโจทย์ที่การตลาดผ่านอีเมลไม่เหมาะกับการทำการตลาดในประเทศจีน เพราะคนจีนไม่ค่อยอ่านอีเมล ด้วย WeChat CRM ที่ตั้งค่าอย่างดี จะทำให้เราสามารถตอบคำถามผู้ติดตามได้อัตโนมัติ ต้อนรับผู้ติดตามใหม่ มอบส่วนลดพิเศษ และอื่น ๆ ซึ่งช่วยประหยัดเวลาและเพิ่มระดับความไว้วางใจจากผู้ติดตาม WeChat OA Menu โปรแกรมขนาดเล็กของ WeChat (WeChat Mini-programs) ในปี...

Continue reading
3M Udesk

3M ปรับปรุงการบริการลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพด้วยระบบ Udesk

ที่มาของการปรับเปลี่ยน ในยุคของคลื่นเทคโนโลยีใหม่ อุตสาหกรรมการผลิตแบบดั้งเดิมทั่วโลกกำลังเผชิญกับความท้าทายในการเติบโตและเปลี่ยนแปลง ท่ามกลางช่วงเวลาสำคัญนี้ บริษัทต่างๆ กำลังมองหาวิธีการรับมือกับภูมิทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงไป 3M ได้มีแนวคิดในการยกระดับการบริการลูกค้า และได้เลือกโซลูชั่นส์ของ Udesk ในการปรับเปลี่ยนรูปแบบการบริการ ซึ่ง 3M เลือกโซลูชั่นส์ของ Udesk เนื่องจากโซลูชั่นส์ของ Udesk สามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงการบริการโดยเฉพาะในภาคธุรกิจการผลิต ซึ่งเทรนด์ของการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการบริการในภาคการผลิตมีดังต่อไปนี้ 1. การยกระดับการบริการด้วยเทคโนโลยีอุตสาหกรรมการผลิตแบบดั้งเดิมมีแนวโน้มในการนำเอาเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้เพื่อสร้างมาตรฐานการทำงานและการเติบโตที่ยั่งยืน 2. ประสิทธิภาพของการโทรออกมีความจำเป็นเร่งด่วนในการเพิ่มประสิทธิภาพของการโทรออก โดยเฉพาะในกรณีของการคัดกรองซัพพลายเออร์ผลิตภัณฑ์ การคัดกรองลูกค้าที่มีศักยภาพ และการแจ้งเตือนเกี่ยวกับกิจกรรมต่างๆ 3. มาตรฐานของสคริปต์การโทรการกำหนดมาตรฐานของสคริปต์การโทรออกเป็นสิ่งสำคัญเพื่อความสม่ำเสมอและประสิทธิภาพในการสื่อสาร ความต้องการของภาคธุรกิจคือโซลูชันที่ช่วยลดภาระของการฝึกอบรมการใช้งานสคริปต์ โซลูชันส์ของ Udesk ในการยกระดับกระบวนการให้บริการ 1. สคริปต์การโทรออกอัตโนมัติUdesk ได้รวบรวมสคริปต์การโทรออกกว่า 30 ชุด โดยปรับให้เหมาะสมกับแต่ละกรณี เช่น การคัดกรองซัพพลายเออร์ผลิตภัณฑ์ การคัดกรองลูกค้าที่มีศักยภาพ และการแจ้งเตือนกิจกรรม จุดเด่นคือการใช้ Voicebot แบบอัตโนมัติในการโทรออกที่กำหนดเฉพาะสำหรับแต่ละสถานการณ์ ซึ่งช่วยให้กระบวนการเป็นอัตโนมัติและลดภาระงานของพนักงานลงอย่างมาก 2. ประสิทธิภาพจากระบบ Voicebotการใช้ Voicebot โทรออกของ Udesk ทำให้ปริมาณงานที่ต้องใช้คนลดลงถึง 70% ผู้ใช้งานสามารถ ‘กำกับดูแล’ หุ่นยนต์ได้ ทำให้กระบวนการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและช่วยให้ทรัพยากรบุคคลสามารถมุ่งเน้นไปที่งานเชิงกลยุทธ์ได้ ผลลัพธ์ที่ได้ อัตราการโทรออกสำเร็จ: มากกว่า 65% ซึ่งแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของสคริปต์อัตโนมัติในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย อัตราลูกค้าที่มีความสนใจ: สูงถึง 20% ซึ่งบ่งชี้ว่าสคริปต์อัตโนมัติสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ สรุป โซลูชั่นส์ของ Udesk ในการให้บริการสคริปต์การโทรออกอัตโนมัติ ไม่เพียงตอบสนองความต้องการของอุตสาหกรรมการผลิตแบบดั้งเดิมในทันที แต่ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และสร้างผลลัพธ์เชิงบวกในการมีส่วนร่วมกับลูกค้าอีกด้วย ทดลองใช้ Udesk ฟรี สอบถาม ราคา Udesk ติดต่อบริษัท ดีมีเตอร์ ไอซีที จำกัด ผู้ให้บริการระบบ Udesk ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ – Udesk Thailand Partner ซอฟต์แวร์เพื่อการบริการ ขาย และเชื่อมต่อข้อมูลสำหรับทุกธุรกิจ บริษัท ดีมีเตอร์ ไอซีที จำกัด – Your Business Transformation Partner ผู้ให้บริการ...

Continue reading

Zendesk ได้รับรางวัล THAILAND MARTECH AWARDS 2025 ประเภท Customer Service

Zendesk ได้รับรางวัล THAILAND’s MARTECH AWARDS 2025 ในประเภท Customer Service ที่ได้รับการโหวตในกลุ่มธุรกิจว่าเป็นโซลูชันที่รองรับการเติบโตได้ดีที่สุด และประเภท Customer Service ในการโหวตสำหรับกลุ่ม SMEs ว่าเป็นโซลูชันที่ดีที่สุด ในการสำรวจและวิจัยครั้งนี้จัดทำโดยความร่วมมือขององค์กรวิจัยการตลาดชั้นแนวหน้าของไทยคือ Content Shifu และ Hummingbirds ที่ทำการสำรวจผู้บริหารระดับ CEO และ Chief Marketing Officer ในกลุ่มธุรกิจชั้นนำในระดับต่างๆ ในประเทศไทย มากกว่า 500 องค์กร ในการรับมอบรางวัลนี้ บริษัท ดีมีเตอร์ ไอซีที จำกัด ในฐานะ Premier Partner อันดับ 1 ของ Zendesk ในประเทศไทย ได้เป็นตัวแทนรับมอบรางวัลดังกล่าว เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2568...

shell udesk

Shell เพิ่มประสิทธิภาพการบริการลูกค้าแบบดิจิทัลและ AI Chatbot ด้วย Udesk

Royal Dutch Shell ก่อตั้งขึ้นในปี 1907  เป็นหนึ่งในบริษัทพลังงานที่ใหญ่ที่สุดของโลก โดยมีพนักงานกว่า 82,000 คน และดำเนินงานในกว่า 70 ประเทศ ในฐานะกลุ่มบริษัทพลังงานและปิโตรเคมีชั้นนำระดับโลกที่ติดอันดับ Fortune 500 Shell ช่วยตอบสนองความต้องการด้านพลังงานของโลกในรูปแบบที่รับผิดชอบต่อเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคม ปัจจุบัน ธุรกิจหลักทั้งหมดของ Shell ได้แก่ Upstream, Integrated Gas and New Energies, Downstream และ Projects & Technology มีการดำเนินงานในประเทศจีน แต่ก่อนที่จะพัฒนากระบวนการทำงานโดยใช้โซลูชั่นส์ของ Udesk ทาง Shell ยังไม่มีระบบบริการลูกค้าที่สมบูรณ์ในประเทศจีน และการติดตั้ง การก่อสร้าง และการบำรุงรักษาในประเทศจีนไม่สามารถรองรับการทำงานได้ ปัญหาที่ Shell ต้องการแก้ไข ก่อนหน้านี้ การติดตามลูกค้าและการบำรุงรักษาบริการถูกบันทึกไว้แบบออฟไลน์ ทำให้กระบวนการขาดการติดตามและการเข้าถึงที่ไม่สะดวก การให้บริการพึ่งพาการทำงานของคนเป็นส่วนใหญ่โดยมีการใช้งานระบบอัตโนมัติมราน้อย ซึ่งไม่สอดคล้องกับแนวคิดของการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัล (Digital Transformation) ขาดการวิเคราะห์ข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ เครื่องมือวิเคราะห์รายงานที่ปรับแต่งเฉพาะ และการแสดงผลข้อมูลที่เปลี่ยนแปลงแบบเรียลไทม์ โซลูชั่นส์ของ Udesk ในการแก้ปัญหา Udesk มอบช่องทางการสื่อสารที่หลากหลาย (Omnichannel) ให้กับลูกค้าของ Shell เช่น เว็บไซต์ โทรศัพท์ โซเชียลมีเดีย และอื่นๆ เพื่อรับและจัดการข้อความของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเป็นแพลตฟอร์มที่นำเสนอระบบการจัดการบริการลูกค้าสำหรับศูนย์บริการทางโทรศัพท์ Live Chat และการแสดงรายงานระบบ Ticket เพื่อให้มั่นใจว่าจะแก้ไขปัญหาลูกค้าได้อย่างแม่นยำ นอกจากนี้ยังมีระบบ CRM ที่บันทึกข้อมูลลูกค้าตั้งแต่ต้นจนจบ ดำเนินการติดตามผลแบบอิเล็กทรอนิกส์ และเพิ่มประสิทธิภาพของบุคลากรและการวิเคราะห์ข้อมูล ซึ่ง Udesk มีเครื่องมือ Insight Big Data ในการสร้างรายงานรายสัปดาห์และรายเดือน รวมถึงติดตามผลการปฏิบัติงานของพนักงาน นอกจากนี้ ยังผสานรวมแชทบอท (AI Chatbot) ที่ใช้ข้อความในแชทแบบ Live Chat สำหรับการให้บริการตนเองของลูกค้า โดยให้การสนับสนุนตลอด 24 ชั่วโมง ผลที่ได้รับจากการใช้...

Continue reading