Integrated Line OA with Braze

Braze x LINE OA ปลดล็อกศักยภาพทางการตลาดไปอีกขั้นผ่าน LINE ด้วย Braze ได้แล้วตอนนี้!

ในฐานะนักการตลาด คงรู้กันดีว่าการเชื่อมต่อกับลูกค้าผ่านช่องทางที่พวกเขาใช้งานบ่อยมีความสำคัญมาก โดยเฉพาะสำหรับแบรนด์ระดับโลกที่ต้องปรับตัวตามช่องทางที่มีความนิยมต่างกันในแต่ละประเทศ ถ้าพูดถึงประเทศในแถบเอเชีย LINE ก็เป็นแอปส่งข้อความยอดนิยมทั้งในประเทศไทยและเอเชีย ซึ่ง LINE ไม่ได้มองแค่ว่าตัวเองนั้นเป็นแค่แอปส่งข้อความ แต่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของผู้ใช้งาน ที่รวมทั้งการช้อปปิ้ง เล่นเกม ชำระเงิน และการติดตามแบรนด์ที่ชื่นชอบ โดย LINE มีเป้าหมายที่จะเป็น   “โครงสร้างพื้นฐานในชีวิต” ที่ให้บริการ 24 ชั่วโมงและตลอด 365 วัน โดย Braze แพลตฟอร์มด้านการสร้าง Customer Engagement ได้มองเห็นถึงความสำคัญในการทำการตลาดผ่านช่องทาง LINE ในประเทศไทยมาโดยตลอด ซึ่งล่าสุด! Braze ได้ออกประกาศอย่างเป็นทางการว่าตอนนี้ Braze สามารถเชื่อมต่อกับ LINE OA ได้แล้ว! การเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าในการส่งข้อความผ่านช่องทางแชทที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ ในไทย มาดูกันว่า Braze และ LINE OA สามารถทำอะไรร่วมกันได้บ้าง? สร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับลูกค้าผ่านมือถือด้วย Braze และ LINE Braze ตั้งใจช่วยให้แบรนด์เติบโตด้วยการเข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้ง เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ตรงใจและมีคุณค่าในทุกการเดินทางของลูกค้า ผ่านช่องทางที่ลูกค้าชื่นชอบ นักการตลาดสามารถใช้ข้อมูลของตัวเองที่เก็บมาในการส่งข้อความที่น่าสนใจและเฉพาะบุคคล (Personalization) พร้อมเชื่อมโยงประสบการณ์ผ่าน LINE เข้ากับช่องทางการตลาดอื่น ๆ ให้ต่อเนื่องและสอดคล้องกัน 1. ตั้งค่าและขยายการตลาดบน LINE ได้ง่ายและรวดเร็ว ด้วยเครื่องมือที่สามารถตั้งค่าได้รวดเร็วและมีอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย Braze ช่วยให้แบรนด์สามารถเชื่อมต่อบัญชีเข้ากับ LINE ได้ทันที และสร้างแคมเปญได้อย่างง่ายดายด้วยการสร้างเทมเพลตพร้อมใส่ข้อความที่ต้องการและปรับแต่งเนื้อหาตามกลุ่มเป้าหมายได้อย่างอิสระ นักการตลาดสามารถจัดการเพื่อนบน LINE ได้สะดวก สามารถอัปเดตและดูสถานะของลูกค้าได้ว่าใครสมัครรับข่าวสารบ้างหรือใครยังไม่ได้ยืนยันการสมัครสมาชิกเป็นต้น 2. สร้างความสัมพันธ์ด้วยการส่งข้อความที่ตรงใจลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าเปลี่ยนใจมาเป็นลูกค้าของแบรนด์ ลูกค้าที่ใช้ LINE คาดหวังให้แบรนด์มีการสื่อสารที่น่าสนใจเหมือนคุยกับเพื่อนหรือครอบครัว ด้วย Braze แบรนด์ต่าง ๆ สามารถใช้ข้อมูลลูกค้าเพื่อส่งข้อความที่ตรงใจผ่านเนื้อหาแบบเฉพาะบุคคล เช่น คำแนะนำสินค้า โปรโมชัน คะแนนสะสม และการแจ้งเตือน และ Braze ยังช่วยกำหนดกลุ่มเป้าหมายตามข้อมูลต่าง ๆ เช่น...

Continue reading

[Webinar] Winning with Brand.com & Marketplaces

คุณพร้อมที่จะยกระดับธุรกิจการขายสินค้าออนไลน์ของคุณไปอีกขั้นแล้วหรือยัง? คุณเคยสงสัยหรือไม่ว่า การขายสินค้าออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์ม E-Commerce ต่าง ๆ อย่างเช่น Shopee Lazada และการมีเว็บไซต์ของตัวเอง แบบไหนให้ประโยชน์และเหมาะกับธุรกิจของคุณมากกว่ากัน? เราขอเรียนเชิญคุณเข้าร่วมงานสัมมนาออนไลน์สุดพิเศษกับงาน “Winning with Brand.com & Marketplaces” ที่ร่วมกันจัดขึ้นระหว่าง Demeter ICT และ Shopify เพื่อไขข้อข้องใจเกี่ยวกับกลยุทธ์การขายสินค้าออนไลน์ที่ใช่สำหรับธุรกิจและลูกค้าของคุณ พร้อมเจาะลึกเทรนด์ล่าสุดและผลสำรวจเชิงลึก ที่จะช่วยให้คุณเข้าใจถึงข้อดีของการมีเว็บไซต์ Brand.com ของตัวเอง! มาร่วมเรียนรู้วิธีสร้างร้านค้าออนไลน์ที่เป็นของตัวเองและควบคุมทุกอย่างได้ด้วยปลายนิ้ว พร้อมเพิ่มยอดขายและสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความแตกต่างและขับเคลื่อนแบรนด์ของคุณให้ก้าวไปข้างหน้าเหนือคู่แข่ง เพราะฉะนั้นคุณไม่ควรพลาดงานนี้ด้วยประการทั้งปวง! งานสัมมนาออนไลน์ “Winning with Brand.com & Marketplaces” วันพุธที่ 30 ตุลาคม 2567 เวลา 14.00 – 15.00 น. บรรยายผ่านช่องทาง Google Meet (*มีทั้งบรรยายภาษาไทยและภาษาอังกฤษ*) ลงทะเบียนเข้าร่วมงาน ลงทะเบียนฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย Highlights ที่คุณจะได้รับจากงานนี้: เรียนรู้กลยุทธ์การขายแบบ Unified Commerce ที่ช่วยเชื่อมต่อช่องทางการขายต่างๆ เข้าด้วยกันอย่างราบรื่น เจาะลึกพฤติกรรมและความต้องการของผู้ซื้อในปัจจุบัน เพื่อให้ธุรกิจของคุณสามารถสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ตรงใจลูกค้า เรียนรู้วิธีเก็บรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า เพื่อใช้ต่อยอดในการสร้างกลยุทธ์การตลาดที่ดียิ่งขึ้น รู้ไว้ไม่ขาดทุน ศึกษาวิธีการคำนวณอัตรากำไร และเทคนิคการเพิ่มกำไรให้กับธุรกิจของคุณ อยากมีเว็บไซต์ให้กับแบรนด์ต้องทำอย่างไร? เรียนรู้ขั้นตอนการเปิดตัวเว็บไซต์แบรนด์อย่างมีประสิทธิภาพ Speaker Varanyu Suchivoraphanpong CEO & Founder of Demeter ICT Soojin Jeong Senior Manager, Channel Partnerships, Shopify Agenda 2.00 – 2.05 PM Welcome Speech 2.05 – 2.50 PM Session1: Unified Commerce...

Continue reading

รู้จัก Kanban Boards คืออะไร? เครื่องมือสร้าง Work Management อย่างมีประสิทธิภาพ

เลือกอ่านหัวข้อที่คุณต้องการได้เลย! Kanban Boards คืออะไร? Kanban Boards คือ เครื่องมือที่ช่วยจัดการงานทั้งหมดของโปรเจกต์หรือของบุคคลนั้น ๆ เป็นเหมือนกระดานที่แบ่งออกเป็นคอลัมน์ เพื่อแสดงขั้นตอนการทำงานของแต่ละงาน โดยแต่ละงานจะถูกแสดงเป็นการ์ด (Card) ที่ระบุรายละเอียดของงาน เช่น ชื่องาน ผู้รับผิดชอบ กำหนดเวลา เป็นต้น ช่วยให้ทีมมองเห็นภาพรวมของงานทั้งหมด ระบุคอขวดที่กำลังเป็นอุปสรรค และจัดลำดับความสำคัญของงาน การ์ดเหล่านี้จะถูกย้ายไปตามคอลัมน์ต่าง ๆ เพื่อแสดงสถานะของงานว่ากำลังอยู่ในขั้นตอนใด เช่น To Do: งานที่ยังไม่ได้ทำ In Progress: งานที่กำลังดำเนินการอยู่ Done: งานที่เสร็จสมบูรณ์แล้ว ที่มาของ Kanban Boards จากสายการผลิตสู่การจัดการโปรเจกต์ Kanban Boards มีต้นกำเนิดมาจากระบบการผลิตของบริษัท Toyota ในช่วงทศวรรษที่ 1940 โดย Taiichi Ohno ซึ่งเป็นวิศวกรชาวญี่ปุ่น ได้คิดค้นระบบนี้ขึ้นมาเพื่อใช้ในการจัดการสายการผลิต เพื่อควบคุมและจัดการงานและสินค้าคงคลังในทุกขั้นตอนของการผลิตอย่างเหมาะสมที่สุด ซึ่ง Kanban (คัมบัง) เป็นภาษาญี่ปุ่น แปลว่าการ์ด (Card) หรือก็คือ Card Board นั่นเอง แนวคิดหลักของ Kanban คือ การใช้บัตร (Card) หรือการ์ดขนาดเล็กเพื่อแสดงถึงปริมาณงานที่แต่ละขั้นตอนของกระบวนการผลิตสามารถดำเนินการได้ เมื่องานหนึ่งเสร็จสิ้น บัตรนั้นจะถูกย้ายไปยังขั้นตอนต่อไป ทำให้ผู้ผลิตสามารถเห็นภาพรวมของกระบวนการผลิตทั้งหมดได้อย่างชัดเจน และช่วยให้สามารถปรับปรุงกระบวนการผลิตได้อย่างต่อเนื่อง ต่อมาแนวคิดของ Kanban ได้ถูกนำมาประยุกต์ใช้ในการจัดการโปรเจกต์ (Project Management) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวงการพัฒนาซอฟต์แวร์ เนื่องจาก Kanban สามารถช่วยให้ทีมงานเห็นภาพรวมของโครงการได้อย่างชัดเจน และช่วยให้ทีมงานสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เครื่องมือ Kanban Boards เหมาะกับใคร? Kanban Boards เป็นเครื่องมือที่ใช้งานได้หลากหลายและมีประโยชน์ต่อบุคคลและทีมงานในหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นองค์กรขนาดใหญ่หรือเล็ก หรือแม้แต่บุคคลทั่วไปที่ต้องการจัดการงานส่วนตัว แต่ถ้าพูดถึง First Priority สำหรับทีมหรือคนที่ต้องมีไว้ใช้งาน เช่น ทีมที่ทำงานแบบ Agile: Kanban เป็นหนึ่งในวิธีการทำงานแบบ Agile...

Continue reading
Marketing trends for Financial Service Business

5 Marketing Trends สำหรับธุรกิจ Financial Services ในปี 2024 ที่น่าจับตามอง

ธุรกิจที่ให้บริการทางด้านการเงินกำลังได้รับประโยชน์จากการใช้กลยุทธ์การตลาดที่มีประสิทธิภาพและประสบความสำเร็จมากขึ้นด้วยกลยุทธ์การตลาดที่เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ซึ่งช่วยให้พวกเขาได้รับผลลัพธ์ที่โดดเด่น พวกเขาใช้การแบ่งกลุ่มลูกค้าที่ละเอียดลึกซึ้งมากขึ้น โดยอาศัยข้อมูลที่เก็บมาจากลูกค้าเองโดยตรง (Zero-Party Data) ในการวางแผนแคมเปญการตลาดที่เฉพาะตัว (Personalized Marketing) นอกจากนี้ธุรกิจเหล่านี้ยังทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดทั่วทั้งองค์กร ไม่ใช่แค่ฝ่ายการตลาดเท่านั้น แต่ทุกแผนกในองค์กรจะร่วมมือกันเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีและเพื่อเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของลูกค้า สำหรับปี 2024 มีแนวโน้มการตลาดในด้านการเงินที่น่าสนใจหลายอย่าง ซึ่งสรุปจากรายงาน Global Customer Engagement Review (CER) ของ Braze เราจะมาดูกันว่าเทรนด์การตลาดที่น่าจับตามองสำหรับธุรกิจที่ให้บริการด้านการเงินเหล่านี้มีอะไรบ้าง? และนักการตลาดสามารถสร้างความล้ำหน้าให้กับองค์กรของคุณให้เติบโตไปข้างหน้าได้อย่างไร? 5 Marketing Trends สำคัญสำหรับธุรกิจ Financial Services 1. จำเป็นต้องมีเครื่องมือและทักษะที่เหมาะสม เพื่อใช้ประโยชน์จากข้อมูลในการเพิ่มการมีส่วนร่วมของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น ธุรกิจด้านการเงินจะได้ประโยชน์จากการที่ทีมการตลาดทำงานร่วมกับทีม Data Scientists และ BI (Business Intelligence) เพราะทีมเหล่านี้จะช่วยให้นักการตลาดเข้าใจข้อมูลลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น และนำข้อมูลไปใช้ในการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การทำโปรโมชันที่ตรงใจลูกค้ามากขึ้นหรือการสื่อสารกับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ การเพิ่มทักษะด้านข้อมูลให้กับนักการตลาดเองก็สำคัญเช่นกัน เพราะจะทำให้นักการตลาดสามารถวิเคราะห์ข้อมูลและตัดสินใจได้เองโดยไม่ต้องพึ่งพาทีมอื่นมากเกินไป การให้เครื่องมือที่ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลและแนะนำการตลาด แก่นักการตลาดก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้นักการตลาดทำงานได้ง่ายขึ้น และลดช่องว่างด้านทักษะในองค์กร 2. ใช้ช่องทางที่หลากหลายและเหมาะสมในการสื่อสารกับลูกค้า จะช่วยให้ลูกค้ามีส่วนร่วมและกลับมาใช้บริการบ่อยขึ้น ข้อมูลจาก Braze บอกว่า การส่งอีเมลหรือแจ้งเตือนผ่านมือถือ (Push notification) นั้นได้ผลดีในการดึงดูดลูกค้าให้กลับมาใช้งานบนแอปพลิเคชัน นอกจากนี้ การใช้หลายช่องทางในการส่งแคมเปญไปพร้อม ๆ กัน ทั้งในแอปพลิเคชันและนอกแอปพลิเคชัน (เช่น อีเมล, SMS) แบบ Cross-Channel Messaging ก็จะยิ่งทำให้ลูกค้ามีส่วนร่วมและอยู่กับเราได้นานขึ้นอีกด้วย 3. เริ่มให้ความสำคัญในด้านของความคิดสร้างสรรค์ของแคมเปญการตลาดที่มากขึ้น ปัญหาหลักของนักการตลาดของธุรกิจด้านการเงิน คือ ขาดเครื่องมือที่ทันสมัย ในการเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์และการออกแบบกลยุทธ์ทางการตลาดให้เป็นไปตามที่ต้องการ นักการตลาดหลายคนในวงการด้านการเงินบอกว่า เครื่องมือที่พวกเขามีอยู่ตอนนี้ ไม่สามารถช่วยให้คิดไอเดียใหม่ ๆ ที่สร้างสรรค์ตามที่ตัวเองต้องการได้อย่างเต็มที่ ซึ่งสิ่งที่เป็นอุปสรรค ก็คือ เน้นผลลัพธ์ตัวเลขมากเกินไป: ธุรกิจประเภทนี้มักจะให้ความสำคัญกับตัวเลขต่าง ๆ เช่น ยอดขาย ยอดดาวน์โหลด มากกว่าที่จะให้ความสำคัญกับไอเดียใหม่ ๆ ที่อาจจะยังวัดผลได้ยากในตอนแรก วัดผลความคุ้มค่าของไอเดียยาก: นักการตลาดไม่สามารถพิสูจน์ได้ชัดเจนว่าไอเดียใหม่ ๆ ที่พวกเขาคิดขึ้นมานั้นจะสร้างผลกำไรให้กับองค์กรได้มากน้อยแค่ไหน...

Continue reading
Prepare organization for AI

5 เคล็ดลับ ปรับองค์กรให้พร้อมรับมือกับยุค AI

“AI จะมาแย่งงานของคนจริงหรือไม่?” เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ทุกคนถกเถียงและสงสัยกันมาอย่างยาวนาน แต่จากที่ข่าวสารและสิ่งที่ทุกท่านเห็นกันมาคงบอกได้แน่ ๆ ว่า AI เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยในปัจจุบัน ทั้งในการใช้ชีวิตประจำวันไปจนถึงการทำงาน แต่ก็ยังมีหลายองค์กร ยิ่งในประเทศไทยเอง ยังไม่ได้มีแผนการรับมือหรือการเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการมาถึงของ AI ขนาดนั้น ซึ่งถ้าองค์กรของคุณกำลังให้ความสนใจเกี่ยวกับเรื่อง AI แต่ยังไม่รู้วิธีว่าต้องเตรียมตัวอย่างไร? บทความนี้ช่วยคุณได้อย่างแน่นอน ในบทความนี้เราได้นำเนื้อหามาจาก Report ของทาง Asana ที่มีชื่อว่า ‘The State of AI at Work’ โดยที่จะมาพูดถึงเคล็ดลับในการเตรียมตัวรับมือกับ AI จากบริษัทชั้นนำด้าน AI กันอย่างเจาะลึก จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย! เลือกอ่านหัวข้อที่คุณต้องการได้เลย! 1. ยกระดับความเข้าใจใน AI ในองค์กร ลงทุนในด้านการศึกษา การฝึกอบรม และการพัฒนาทักษะ เพื่อให้องค์กรของคุณสามารถนำ AI มาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ พนักงานจำเป็นจะต้องมีความรู้ และทักษะในการใช้งานเพื่อดึงศักยภาพและประโยชน์จาก AI ออกมาให้มากที่สุด ซึ่งขั้นตอนนี้ไม่สามารถสำเร็จได้ในครั้งเดียว แต่องค์กรจะต้องให้ความสำคัญในทุกขั้นตอนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เข้าใจถึงความสามารถของ AI ได้อย่างลึกซึ้ง 56% ของพนักงานในองค์กร กำลังเรียนรู้ และทดลองใช้งาน Generative AI ด้วยตนเอง จากการวิจัยของ Asana พบว่า 56% ของพนักงานกำลังเรียนรู้เกี่ยวกับ Generative AI ด้วยตนเอง โดยที่ไม่มีการฝึกอบรมการใช้งานอย่างเป็นทางการ องค์กรควรที่จะต้องสนับสนุนพนักงานที่มีแรงจูงใจด้านนี้ ให้ขึ้นสู่การเป็นผู้นำในการขับเคลื่อน AI มาใช้ภายในองค์กร และยังสามารถช่วยเหลือเพื่อนร่วมงาน พร้อมกับเป็นแรงผลักดันให้ทั่วทั้งองค์กรหันมาสนใจการใช้งาน AI มากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม..การพัฒนาทักษะด้าน AI ไม่ควรตกอยู่ที่พนักงานเพียงฝ่ายเดียว องค์กรควรที่จะต้องสนับสนุนการเรียนรู้ให้กับพนักงานของคุณด้วย เช่น การจัดหาระบบ AI ต่าง ๆ มาให้ใช้งาน การฝึกอบรม (Training) และการออกแบบโครงสร้างหรือกระบวนการทำงานที่สนับสนุนการใช้งาน AI ภายในองค์กรด้วย เมื่อทีมของคุณได้ใช้งาน AI ในหลาย ๆ...

Continue reading
Spotify (Asana Customer Story)

Spotify สตรีมมิ่งเพลงอันดับ 1 ที่ขับเคลื่อนโปรแกรมให้เติบโตด้วย Asana

ผลลัพธ์จากใช้งาน เพิ่มขึ้น 50% การผลิตแคมเปญโฆษณาให้กับลูกค้าทั่วโลก เพิ่มขึ้น 50% ต่อเดือน ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น 2 เท่า ประสิทธิภาพของ Project Manager ในองค์กรเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า ด้วยกระบวนการสร้างแคมเปญโฆษณาที่กระชับมากยิ่งขึ้น ลดการทำงานแบบ Manual ลดการทำงานแบบ Manual ผ่านกระบวนการทำงานแบบอัตโนมัติ การแจ้งเตือน และแบบฟอร์ม บริหาร Asana แบบอัตโนมัติ การบริหารผู้ใช้งาน Asana แบบอัตโนมัติ มอบสิทธิ์การเข้าถึง และการถอนสิทธิ์โดยอิงจากข้อมูลประจำตัวได้ง่าย ๆ Spotify บริษัทสตรีมมิ่งเพลงยักษ์ใหญ่ที่เปิดตัวในปี 2008 (พ.ศ. 2551) ครองอันดับ 1 ในด้านการสร้างรายได้ให้กับอุตสาหกรรมเพลงในปัจจุบัน ด้วยฐานผู้ฟังกว่า 456 ล้านคน ที่ช่วยผลักดันให้มีการจ่ายค่าลิขสิทธิ์ให้กับศิลปินหลายล้านคน บริษัทมุ่งเน้นการสร้างรายได้ผ่านช่องทางหลัก อย่างการร่วมมือกับแบรนด์โฆษณาต่าง ๆ และการสมัครสมาชิก Spotify Premium นอกจากนี้ ยังมีการลงทุนในโปรเจกต์ใหม่ ๆ เช่น แพลตฟอร์มพอดแคสต์ชั้นนำ หนังสือเสียง และคอนเทนต์ต้นฉบับต่าง ๆ มากมาย พนักงานจำนวนมากของ Spotify ใช้ Asana เพื่อจัดการงานต่าง ๆ และเพื่อบรรลุเป้าหมายของบริษัท ซึ่งรวมถึงทีมสร้างรายได้ที่คอยผลิตแคมเปญโฆษณาสำหรับลูกค้าและพัฒนาธุรกิจใหม่ ๆ ไปจนถึงทีมไอทีที่คอยดูแลและมองหาโซลูชันให้พนักงานมีเทคโนโลยีที่จำเป็นต่อการทำงาน ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตาม Asana ช่วยให้พวกเขาทำงานร่วมกับเอเจนซี่ได้ง่ายยิ่งขึ้น ลดขั้นตอนการทำงานที่ยุ่งยาก และช่วยให้ผู้บริหารมองเห็นภาพรวมความคืบหน้าของโปรเจกต์ทั้งหมดเทียบกับเป้าหมายของบริษัท ทั้งนี้ Asana เป็นระบบ Project Management แบบมีศูนย์กลาง ที่มาพร้อมการจัดสรรทรัพยากรบุคคลแบบอัตโนมัติ เพื่อสนับสนุนทีมงานที่ทำงานจากระยะไกลทั่วโลก ในขณะที่พวกเขายังคงปฏิวัติวงการสตรีมมิ่งผ่านเสียงต่อไป “Asana ช่วยให้เราขยายการผลิตแคมเปญโฆษณาสำหรับ Spotify และรายงานผลกระทบของทีมที่นำไปใช้ประเมินผลการทำงานของทีมได้อย่างชัดเจน” Blair Wilson Senior Manager, Project Managment การบริหาร Asana แบบอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็นที่โรงแรมใน Milan...

Continue reading
Email Marketing Strategy

คู่มือฉบับเต็ม! สร้างกลยุทธ์ Email Marketing อย่างไรให้มีประสิทธิภาพ

การตลาดผ่านอีเมล (Email Marketing) เป็นหนึ่งในการส่งข้อความบนช่องทางดิจิทัลแบบดั้งเดิม ที่มีผลตอบแทนจากการลงทุนสูง เนื่องจากมีความน่าเชื่อถือและมีประสิทธิภาพ จึงเป็นวิธีที่มีพลังในการเข้าถึง สร้างการมีส่วนร่วม และเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายให้กลายเป็นลูกค้าได้ พวกเราส่วนใหญ่ส่งอีเมลเป็นประจำทุกวัน แม้ว่าแอปแชท โปรแกรมส่งข้อความบนมือถือรวมถึงโซเชียลมีเดียจะเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่อีเมลยังคงได้รับความนิยมอย่างไม่น่าเชื่อ จากผลสำรวจในปี 2022 มีผู้ใช้อีเมล 4.26 พันล้านคนทั่วโลก และคาดว่าตัวเลขนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 4.73 พันล้านคนภายในปี 2026 แม้ว่าอีเมลจะมีความเรียบง่าย แต่ก็เถียงไม่ได้ว่าอีเมลเป็นช่องทางดิจิทัลที่แข็งแกร่งที่สุด: ที่อยู่ของอีเมลสามารถเข้าถึงผู้คนได้อย่างกว้างขวางและสร้างผลกำไรมหาศาล เนื่องจากมีการแลกเปลี่ยนกันด้วยเหตุผลหลายประการ (เช่น ข้อมูล ข้อเสนอ ชุมชน และการซื้อขาย) ดังนั้นธุรกิจจะใช้อีเมลในการเชื่อมต่อกับลูกค้าให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้อย่างไร? บทความนี้จะกล่าวถึง ความสำคัญของการทำ Email Marketing วิธีการกำหนดกลยุทธ์ให้ประสบความสำเร็จในระยะยาว วิธีวัดประสิทธิภาพและแสดงตัวอย่างแคมเปญเชิงกลยุทธ์ที่ประสบความสำเร็จ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับธุรกิจของคุณ เลือกอ่านหัวข้อที่คุณต้องการได้เลย! กลยุทธ์การตลาดผ่านอีเมล (Email Marketing) คืออะไร? กลยุทธ์การตลาดผ่านอีเมล (Email Marketing) คือ กระบวนการที่ช่วยให้นักการตลาดเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพผ่านช่องทางอีเมล โดยกลยุทธ์นี้จะระบุรายละเอียดเกี่ยวกับอีเมลที่จะส่ง จำนวนอีเมลที่จะส่ง ส่งไปหาใครและส่งเมื่อไหร่ เพื่อให้กลยุทธ์นี้มีประสิทธิภาพมากที่สุดจะต้องประกอบไปด้วย 1. การตั้งเป้าหมายและวิธีวัดผล การตั้งเป้าหมายและตัวชี้วัดที่ชัดเจน เป็นจุดเริ่มต้นที่ช่วยให้นักการตลาดรู้ว่าเราจะต้องทำอะไร? และทำเพื่ออะไร? และเราจะวัดผลอย่างไร? เพื่อให้ง่ายต่อการดูว่าแคมเปญหรืออีเมลที่เราส่งไปหาลูกค้านั้นมีประสิทธิภาพหรือไม่ กลยุทธ์แบบใดที่ใช้ได้ผล อะไรที่ไม่ได้ผล ทำให้คุณสามารถสร้างกลยุทธ์ Email Marketing ที่มีประสิทธิภาพและแข็งแกร่งขึ้นได้ 2. ทำความเข้าใจกลุ่มเป้าหมายของคุณ หากคุณต้องการให้ลูกค้ารักและภักดีกับแบรนด์ของคุณ การทำความเข้าใจถึงความต้องการและบุคลิกของลูกค้า คือ กุญแจสำคัญ ยิ่งถ้าคุณสามารถแบ่งกลุ่มอีเมลของลูกค้าตามความต้องการหรือบุคลิกของพวกเขาได้ละเอียดมากเท่าไหร่ คุณก็จะมีโอกาสในการสร้างประสบการณ์ที่ดีแบบ Personalized และความภักดีต่อแบรนด์ของคุณได้มากยิ่งขึ้นเท่านั้น เพราะลูกค้าจะรับรู้ได้ว่าคุณให้ความสำคัญกับพวกเขา รู้ว่าเขาต้องการอะไรและไม่ต้องการอะไรจากแบรนด์ของคุณ 3. การแบ่งกลุ่มลูกค้า เครื่องมือการสร้างการมีส่วนร่วมของลูกค้าแบบเฉพาะตัว (Personalized Customer Engagement Platform) อย่าง Braze ช่วยให้นักการตลาดสามารถแบ่งกลุ่มลูกค้าและส่งข้อความที่มีความละเอียดและเฉพาะตัวมากยิ่งขึ้น เช่น ลูกค้าบางคนมักมีส่วนร่วมดีกับแบรนด์ในตอนเช้า ลูกค้าบางคนไม่ต้องการโฆษณาที่เกี่ยวกับการขายเลยหรือลูกค้าบางกลุ่มจะเปิดเฉพาะโปรโมชันที่เกี่ยวกับรองเท้าเท่านั้น พบว่ายิ่งคุณมีข้อมูลมากเท่าไร คุณก็ยิ่งสามารถส่ง Email Marketing ถึงกลุ่มลูกค้าได้ละเอียดและตรงกับความต้องการยิ่งขึ้นเท่านั้น 4. การผสาน Email...

Continue reading

Lunch with a Side of Intelligence: Increase Customer Engagement with Sage AI by Braze

ขอเรียนเชิญคุณเข้าร่วมรับประทานอาหารกลางวันมื้อพิเศษสุด Exclusive! ในกิจกรรม “Lunch with a Side of Intelligence” – Increase Customer Engagement with Sage AI by Braze ที่ Demeter ICT ได้จัดขึ้นร่วมกับ Braze  เพื่อพาทุกท่านมาร่วมพูดคุยเกี่ยวกับการสร้างประสบการณ์การมีส่วนร่วมแบบ Personalized ของลูกค้าในยุคที่ AI เข้ามามีบทบาทสำคัญในด้านการตลาดกันแบบเจาะลึก ท่านจะได้พูดคุยและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ พร้อมกับการรับประทานอาหารร่วมกับผู้บริหารระดับ C-Level ในวงการ Marketing และ CRM จากบริษัทชั้นนำในหลากหลายอุตสาหกรรมของประเทศไทย โดยมีคุณสิทธินันท์ พลวิสุทธิ์ศักดิ์ (CEO, Content Shifu) moderator รับเชิญพิเศษที่จะนำทุกท่านถกประเด็นสำคัญเพื่อแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ Marketing AI ในแง่มุมต่าง ๆ พร้อมผู้เชี่ยวชาญจาก Braze และ Demeter ICT ที่จะมาร่วมแชร์ประสบการณ์อย่างใกล้ชิดไปพร้อม ๆ กันในกิจกรรมนี้ วันพฤหัสบดีที่ 20 มิถุนายน 2567 เวลา 10.30 – 13.00 น. สถานที่: Sheraton Grande Sukhumvit, BTS Asok ปิดการลงทะเบียน ติดตามได้ใหม่งานหน้า Speaker Varanyu Suchivoraphanpong CEO & Founder ofDemeter ICT Sutthikiat Sutthitham Head of ThailandBraze Sitthinunt Pholvisutsak CEO & Founder ofContent Shifu Agenda 10.30 – 11.00 AM Registration ลงทะเบียนเพื่อเข้างานและพบกับผู้เข้าร่วมงานท่านอื่น...

Continue reading
Asana with Email

4 เคล็ดลับ ใช้งาน Asana ร่วมกับ Email อย่างไรให้มีประสิทธิภาพ

เครื่องมือสื่อสารภายในองค์กรนั้นมีอยู่มากมาย แต่เมื่อพูดถึงเรื่องการทำงาน อีเมลมักเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้สำหรับทุกองค์กร วันนี้เราจะมาช่วยให้คุณทำงานร่วมกันได้อย่างชาญฉลาดมากยิ่งขึ้นโดยการผสมผสานระหว่างแพลตฟอร์ม Asana เข้ากับระบบอีเมลของคุณ ซึ่งจะมี 4 เคล็ดลับง่าย ๆ ดังต่อไปนี้ 1. การอัปเดตข้อมูลผ่าน Email บน Asana ในแบบของคุณ คุณสามารถติดตามความเคลื่อนไหวและจัดการโปรเจกต์บน Asana ได้ตามต้องการโดยไม่ต้องเข้าสู่ระบบ Asana เพียงใช้การแจ้งเตือนผ่านทางอีเมล เพื่อติดตามงานและการอัปเดตที่สำคัญ โดยคุณสามารถเลือกความถี่และประเภทของการอัปเดตทางอีเมลที่คุณได้รับจาก Asana ได้ด้วยตัวเองดังนี้ การอัปเดตกิจกรรม (Activity updates) รับอีเมลเกี่ยวกับทุกการ @mention งานใหม่ที่ได้รับมอบหมายให้คุณทำและการอัปเดตความคืบหน้าสำหรับงานที่คุณเกี่ยวข้อง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการอัปเดตข้อมูลงานใน Asana บ่อย ๆ การกล่าวถึง (Mentions only) คุณจะได้รับอีเมลทุกครั้งที่ถูก @กล่าวถึงในงานหรือการแสดงความคิดเห็น นอกจากนี้ระบบจะแจ้งเตือนเมื่อคุณได้รับข้อความหรือมีการมอบหมายงาน การสรุปรายวัน (Daily summaries) ได้รับภาพรวมประจำวันของงานที่คุณได้รับมอบหมายและวันครบกำหนดที่ใกล้จะถึง คุณจะเห็นการอัปเดตทั้งหมดเหล่านี้รวมอยู่ในอีเมลฉบับเดียว การรายงานรายสัปดาห์ (Weekly reports) หากคุณต้องการการอัปเดตที่ไม่ถี่จนเกินไป สามารถเลือกรับอีเมลแบบรายสัปดาห์ ที่มีรายงานสถานะเกี่ยวกับโปรเจกต์ใน Portfolio ของคุณ การอัปเดตเหล่านี้ช่วยให้คุณสามารถติดตามความเคลื่อนไหวได้ทุกที่ทุกเวลา โดยเฉพาะในวันที่คุณไม่มีเวลาเข้ามาใน Asana มากนัก และอยากบอกว่าข้อมูลทั้งหมดที่เราส่งแจ้งเตือนไปยังอีเมลของคุณนั้น ยังสามารถดูในกล่องข้อความของ Asana ได้ด้วยเช่นกัน 2. สร้างงานผ่าน Email ไปที่ My Tasks โดยตรง เป็นเรื่องง่ายมากที่จะพลาดอีเมลสำคัญไม่ว่าจะเป็นไฟล์ การแจ้งเตือน การอัปเดตโปรเจกต์ หรืออะไรก็ตาม หากคุณไม่มีวิธีเตือนความจำที่ง่ายดายในการย้อนกลับมาดูอีเมลอีกครั้ง อาจทำให้บางสิ่งที่สำคัญหลุดรอดไปได้ การสร้าง Tasks (งาน) เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการบันทึกรายการงานเหล่านั้น เพื่อให้คุณทราบว่าอะไรบ้างที่ต้องทำให้เสร็จเมื่อใดและใครเป็นผู้รับผิดชอบ Asana ช่วยให้คุณสร้าง Tasks งานใหม่ได้ง่าย ๆ ผ่านอีเมลของคุณได้ดังนี้ ส่งต่ออีเมลไปที่ x@mail.asana.com สิ่งนี้จะสร้างงาน (มอบหมายให้คุณ) ในพื้นที่ทำงานบน Asana ที่เชื่อมโยงกับที่อยู่อีเมลของคุณ คุณยังสามารถสร้างอีเมลใหม่และเปลี่ยนให้เป็นงานได้ โดยหัวเรื่องของคุณจะกลายเป็นชื่องาน ในขณะที่เนื้อหาอีเมลจะกลายเป็นคำอธิบายงาน และส่งไปที่ x@mail.asana.com...

Continue reading