เลือกอ่านหัวข้อที่คุณต้องการได้เลย! สำหรับ Asana Package Personal และ Basic Cross-platform syncing of draft comments in iOS: การซิงค์ความคิดเห็นที่คุณร่างเอาไว้บน iOS ข้ามแพลตฟอร์มระหว่างมือถือและเว็บไซต์ เพื่อให้คุณเห็นความคิดเห็นของคุณที่ร่างไว้บนทุกอุปกรณ์ Inbox notifications in Microsoft Teams: ผู้ใช้งาน Asana สามารถได้รับการแจ้งเตือนผ่าน Microsoft Teams ได้โดยตรงใน Inbox จาก Asana จากแถบด้านข้าง เข้าถึงแชทของคุณและคลิกที่แชทกับบอท Asana พิมพ์ “link project” คลิกปุ่ม Link project จากนั้นบอท Asana จะขอให้คุณเลือกโปรเจกต์ที่ต้องการเชื่อมโยง เลือก My Tasks แล้วคลิก Link เพื่อเริ่มรับการแจ้งเตือนส่วนตัว คุณจะได้รับการแจ้งเตือนเมื่อมีการมอบหมายหรือยกเลิกการมอบหมายงานให้คุณ ดูรายละเอียดเพิ่มเติม ที่นี่ Project views in Microsoft Teams desktop app: สร้างการมองเห็นความคืบหน้าของโปรเจกต์ร่วมกัน โดยที่สมาชิกในทีมไม่ต้องออกจาก Microsoft Teams ได้โดยมีขั้นตอนดังนี้ ในการฝัง (Embed) โปรเจกต์ Asana ใน Microsoft Teams ให้คลิกที่ปุ่ม + เพื่อเพิ่มแท็บใหม่ ค้นหา “Asana” และติดตั้งแท็บแอป Asana สำหรับช่องทางนั้น เลือกโปรเจกต์ที่คุณต้องการฝัง (Embed) คุณสามารถเลือกที่จะส่งการแจ้งเตือนโปรเจกต์จาก Asana ไปยังช่องทางนี้ได้ และการแสดงผลโปรเจกต์แบบ Embed สามารถใช้งานได้เฉพาะในแอป Microsoft Teams เวอร์ชัน Desktop เท่านั้น ดูรายละเอียดเพิ่มเติม ที่นี่ สำหรับ Asana Package Starter...
Continue reading5 ขั้นตอน ยกระดับโฟลว์การทำงานของทีม Project Management
ถึงแม้ว่าหลาย ๆ คนจะเข้าใจว่าการบริหารโปรเจกต์ (Project Management) คือ การควบคุมและกำหนดเวลาของโปรเจกต์ แต่ในความเป็นจริงแล้ว การบริหารโปรเจกต์กลับมีขอบเขตที่กว้างกว่านั้นมาก ซึ่งในบทความนี้เรามีคำแนะนำง่าย ๆ ที่จะช่วยให้คุณเข้าใจ 5 ขั้นตอนของการบริหารโปรเจกต์ได้อย่างครบถ้วน การเข้าใจวงจรของการจัดการโปรเจกต์จะช่วยให้คุณปรับปรุงกระบวนการภายใน และด้วยการนำเครื่องมือที่ช่วยบริหารจัดการโปรเจกต์ จะยิ่งช่วยยกระดับการทำงานของคุณให้มีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น 5 ขั้นตอน การยกระดับการทำงานของทีม Project Management มีอะไรบ้าง? PMBOK® หรือ Project Management Body of Knowledge คือคู่มือที่รวบรวมความรู้และทักษะในการบริหารจัดการโปรเจกต์ จัดทำโดย Project Management Institute หรือ PMI โดยเนื้อหาในคู่มือจะเจาะลึกขั้นตอนการจัดการโปรเจกต์ทั้ง 5 ขั้นตอน ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากต่อผู้ที่ต้องการพัฒนาความรู้และทักษะด้านการบริหารจัดการโปรเจกต์ 1. การเริ่มต้นโปรเจกต์ (Project initiation) ในช่วงเริ่มต้นของโปรเจกต์ ทีมจะต้องกำหนดขอบเขตและวัตถุประสงค์ของโปรเจกต์ ระบุผู้ที่เกี่ยวข้อง พร้อมศึกษาถึงความเป็นไปได้ และจัดทำเอกสารโปรเจกต์เพื่อให้สมาชิกในทีมเข้าถึงข้อมูลและสื่อสารกันได้อย่างง่ายดาย โดยทีมส่วนใหญ่มักจะเริ่มต้นด้วยการประชุมหรือศึกษาความเป็นไปได้ของโปรเจกต์ นอกจากการนำเสนอแนวคิดเบื้องต้นของโปรเจกต์แล้ว คุณควรระบุถึงประโยชน์ ต้นทุน และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการดำเนินโปรเจกต์ รวมถึงตัวชี้วัดความสำเร็จอื่น ๆ ตามเกณฑ์ที่องค์กรของคุณใช้ พร้อมสรุปรายละเอียดสำคัญของโปรเจกต์ เช่น เป้าหมาย งบประมาณ และระยะเวลา จะช่วยให้ทีมเข้าใจขอบเขตงานและใช้เป็นแนวทางในการดำเนินโปรเจกต์ได้ง่ายขึ้น 2. การวางแผนโปรเจกต์ (Project planning) ขั้นตอนแรกของการวางแผนโปรเจกต์คือการกำหนดเป้าหมายของโปรเจกต์ในแต่ละส่วนงานให้ชัดเจนโดยคุณสามารถใช้แผนงานที่ได้รับความนิยมเหล่านี้ SMART Goals เป็นวิธีการที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การกำหนดเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง วัดผลได้ ทำได้จริง เกี่ยวข้อง และมีกรอบเวลาที่ชัดเจน วิธีนี้ช่วยให้ทีมสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ วางแผนโปรเจกต์ และติดตามความคืบหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ CLEAR Goals เป็นอีกแนวทางหนึ่งที่เน้นการทำงานร่วมกันและความยืดหยุ่น โดยมีเป้าหมายร่วมกัน ซึ่งเหมาะกับทีมที่มีสภาพแวดล้อมการทำงานที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา OKR (Objectives & Key Results) เป็น framework ที่มุ่งเน้นการจัดวางเป้าหมายในระดับองค์กร โดยเริ่มจากวัตถุประสงค์ในภาพรวมและกำหนดโปรเจกต์ต่าง ๆ ที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ OKR จะช่วยให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเห็นภาพรวมขององค์กรได้อย่างชัดเจน มีหลายวิธีที่จะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายได้...
Continue readingAsana Features Updated ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2025
เลือกอ่านหัวข้อที่คุณต้องการได้เลย! สำหรับ Asana Package Personal และ Basic Your Year in Asana: ร่วมเฉลิมฉลองสิ่งที่คุณและทีมทำสำเร็จ ด้วยการย้อนชมผลงานของคุณตลอดปีที่ผ่านมาใน Asana อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม ที่นี่ Curated team pages: ยกระดับการใช้งานรูปแบบทีม เพื่อการทำงานร่วมกันอย่างต่อเนื่องด้วยหน้าเพจแบบทีมที่มีการจัดการไว้เป็นอย่างดี https://www.dmit.co.th/wp-content/uploads/2025/01/Team-page-Update-Feature.mp4 อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม ที่นี่ iOS multi-filter and multi-sort: ใช้ Filters และการเรียงลำดับโปรเจกต์ในหลากหลายมุมมองได้ในที่เดียวเมื่อใช้งานบน iOS สำหรับ Asana Package Starter และ Premium Android project summaries: ดูภาพรวมความคืบหน้าของโปรเจกต์แบบคร่าว ๆ ด้วยฟีเจอร์สรุปโปรเจกต์อัจฉริยะบนมือถือ สำหรับ Asana Package Advanced และ Business Saved views for capacity planning and workload: สร้างมุมมองการบันทึกเพื่อดูสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับคุณและทีมของคุณ สำหรับ Asana Package Enterprise Multiple onboarding flows in custom onboarding: สร้างประสบการณ์การเริ่มต้นใช้งานที่แตกต่างกันตามบทบาท ทีม หรือตามความต้องการภายในโดเมนเดียวกันได้ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม ที่นี่ Private custom fields: ปกป้องความเป็นส่วนตัวของฟิลด์ที่กำหนดเองและตั้งค่าต่าง ๆ โดยกำหนดให้เฉพาะสมาชิกที่ได้รับสิทธิ์เท่านั้นที่สามารถดูหรือแก้ไขได้ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม ที่นี่ Edit restriction on custom field values: ปกป้องข้อมูลที่สำคัญโดยการกำหนดสิทธิ์ว่าใครสามารถแก้ไขค่าของฟิลด์ที่ตั้งค่าในโปรเจกต์ได้ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม ที่นี่ Portfolio advanced permissions: จำกัดสิทธิ์การแก้ไข ปรับแต่งและแชร์พอร์ตโฟลิโอ ให้เฉพาะผู้ดูแลระบบเท่านั้น อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม ที่นี่ Transfer...
Continue readingเจาะลึกกลยุทธ์การสร้าง Customer Loyalty เพื่อเอาชนะใจลูกค้า
ในยุคที่การแข่งขันทางธุรกิจเข้มข้นขึ้นทุกวัน การสร้างฐานลูกค้าที่ภักดีให้กับแบรนด์ นอกจากจะเป็นการดึงดูดใจผู้บริโภคในครั้งแรกแล้ว ยังเป็นการรักษาความสัมพันธ์ระยะยาวที่มั่นคงและยั่งยืนอีกด้วย ในบทความนี้เรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับคำว่า Customer Loyalty คืออะไร? และเจาะลึกถึงกลยุทธ์การสร้าง Customer Loyalty ให้สำเร็จจะต้องทำอย่างไรบ้าง? ไปดูกัน! เลือกอ่านหัวข้อที่คุณต้องการได้เลย! Customer Loyalty คืออะไร? Customer Loyalty (ความภักดีของลูกค้า) คือ ความผูกพันที่ลูกค้ามีต่อแบรนด์จนเกิดเป็นความภักดี เวลาที่พวกเขาซื้อสินค้าก็จะนึกถึงแบรนด์ของคุณเป็นอันดับแรก โดยลูกค้าที่มีความภักดีกับแบรนด์มักจะเป็นผู้ที่สร้างผลกำไรสูงสุดให้กับบริษัท เนื่องจากพวกเขามีแนวโน้มใช้จ่ายมากกว่าลูกค้าใหม่ และอาจมีการแนะนำแบรนด์ให้กับลูกค้าคนอื่น ๆ อีกด้วย แบรนด์ที่สามารถสร้าง Customer Loyalty ได้ประสบความสำเร็จ มักจะมอบประสบการณ์ที่ตรงใจและเฉพาะตัว (Personalization) เพื่อสร้างคุณค่าทางอารมณ์ให้กับลูกค้า มากกว่าแค่เสนอโปรโมชันหรือสิทธิพิเศษทั่วไป ความท้าทายในการสร้าง Customer Loyalty การสร้างสมดุลระหว่างแรงจูงใจและผลกำไร รางวัลหรือโปรโมชันที่น่าดึงดูดใจส่งผลต่อการสร้าง Customer Engagement แต่ก็ต้องสร้างผลกำไรให้กับธุรกิจได้ด้วยเช่นกัน ดังนั้นการรักษาสมดุลระหว่างแรงจูงใจของลูกค้าและความยั่งยืนของธุรกิจให้เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญ การทำความเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้า การเข้าใจพฤติกรรมลูกค้าต้องใช้ข้อมูลเชิงลึกที่มากเพียงพอ แต่บางบริษัทมีข้อจำกัดเรื่องข้อมูล ทำให้ไม่สามารถปรับแต่งข้อเสนอหรือสร้างกลยุทธ์ความภักดีให้ตรงกับพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าได้ “We see our customers as invited guests to a party, and we are the hosts. It’s our job every day to make every important aspect of the customer experience a little bit better.” Jeff Bezos CEO & Founder of Amazon การจัดการข้อมูล อุปสรรคในการรวบรวม วิเคราะห์ และใช้ข้อมูลลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ นักการตลาดจึงจำเป็นต้องมีระบบที่คอยติดตามและวัดผลความสำเร็จในการสร้าง Customer Loyalty ด้วย 6 อุปสรรค์ในการสร้าง...
Continue readingรู้จัก Change Management เตรียมความพร้อมสู่การเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน
การเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้องค์กรเติบโต ไม่ว่าจะเป็นการนำเครื่องมือใหม่ กลยุทธ์ใหม่ หรือการบุกตลาดใหม่ การเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ อาจเป็นไปได้ง่าย แต่การเปลี่ยนแปลงองค์กรครั้งใหญ่จำเป็นที่จะต้องมีการวางแผนที่เหมาะสม มิฉะนั้นอาจนำไปสู่ความวุ่นวายและประสิทธิภาพขององค์กรที่ลดลง เพื่อให้การเปลี่ยนแปลงขององค์กรเป็นไปอย่างราบรื่นมากที่สุด คุณต้องมีกระบวนการจัดการการเปลี่ยนแปลง (Change Management) ที่มีประสิทธิภาพ บทความนี้เราจะอธิบายว่าการทำ Change Management คืออะไร? และกระบวนการทำ Change Management ที่เหมาะสมสำหรับองค์กรมีอะไรบ้าง? ไปดูกันเลย! Change Management คืออะไร? Change Management คือ กระบวนการวางแผน เตรียมตัวและจัดการการเปลี่ยนแปลงในองค์กรอย่างรอบคอบโดยคำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อพนักงานและทีมต่าง ๆ เพื่อให้การเปลี่ยนแปลงเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากที่สุด ซึ่งการทำ Change Management มักเริ่มจากการทดลองกับกลุ่มเล็ก ๆ ว่าการเปลี่ยนแปลงนั้นมีประสิทธิภาพมากน้อยแค่ไหนก่อน แล้วค่อยขยายไปทั่วทั้งองค์กร ซึ่งเป้าหมายของการทำ Change Management ก็คือการเตรียมทีมให้พร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงและให้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ ขั้นตอนการทำ Change Management มีอะไรบ้าง? เราจะขอยกตัวอย่างเหตุการณ์ เมื่อองค์กรของคุณกำลังจะนำเครื่องมือใหม่ ๆ เข้ามาใช้งานภายในองค์กร เพื่อปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงาน อย่างเช่น แพลตฟอร์ม Asana พนักงานและองค์กรต้องเตรียมตัวอย่างไร? และมีขั้นตอนอะไรบ้าง? 1. การระบุเหตุผลและวางแผนให้ชัดเจน ต้องระบุเหตุผลและวางแผนให้ชัดเจนว่าทำไมการเปลี่ยนแปลงนี้จึงจำเป็นและต้องเกิดขึ้น เช่น ปรับปรุงการทำงาน ลดปัญหา และบรรลุเป้าหมายขององค์กร พร้อมกำหนดตัวชี้วัดความสำเร็จ (KPIs) เช่น อัตราการใช้งานและผลลัพธ์ที่ได้จากการใช้งานเครื่องมือใหม่ ๆ 2. การสื่อสารและสร้างความเข้าใจภายในองค์กร หลังจากที่ระบุเหตุผลและการวางแผนที่ชัดเจนแล้ว ก็ถึงเวลาแจ้งให้ทีมงานทุกคนที่เกี่ยวข้องทราบถึงเหตุผลและเป้าหมายของการเปลี่ยนแปลงนั้นว่าทำไปเพื่ออะไร? พร้อมการรับฟังความคิดเห็นหรือตอบคำถามจากทีมงานที่เกี่ยวข้อง โดยบางบริษัทอาจจัดตั้งทีม Adoption Alliance ก็คือทีมที่คอยดูแลการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ทั้งหมด ตั้งแต่การกำหนดเป้าหมาย การสื่อสารภายในองค์กรให้ทุกคนเข้าใจ รวมถึงการกระตุ้นให้พนักงานและทีมต่าง ๆ เข้าร่วมการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้อย่างเต็มประสิทธิภาพ 3. การเตรียมความพร้อมสู่การเปลี่ยนแปลง ศึกษาและวิเคราะห์สภาพแวดล้อมขององค์กรก่อนเกิดการเปลี่ยนแปลง และเริ่มจากการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ โดยออกแบบกระบวนการทำงานที่สำคัญเพื่อให้รู้ถึงผลกระทบ พร้อมบันทึกคำถามและผลลัพธ์ที่ได้ เพื่อเตรียมการรับมือหรือวิธีการแก้ไขปัญหาล่วงหน้าก่อนที่จะขยายไปทั่วทั้งองค์กร เช่น ทีมการตลาด ทดลองใช้งาน Asana ในการบริหารแคมเปญการตลาดเพื่อปรับปรุงการทำงานร่วมกันและแก้ไขปัญหาก่อนใช้งานจริงในองค์กร 4. การเริ่มต้นดำเนินการเปลี่ยนแปลง...
Continue readingAsana Feature Updated ประจำเดือนมกราคม 2025
เลือกอ่านหัวข้อที่คุณต้องการได้เลย! สำหรับ Asana Package Personal และ Basic Group tasks by date fields: จัดกลุ่มงานโดยใช้ช่องวันที่ในโปรเจกต์และใน “งานของฉัน (My tasks)” เพื่อการจัดระเบียบโปรเจกต์และการติดตามกระบวนการทำงาน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม ที่นี่ Board view with no task limits: สามารถมองเห็นและจัดกลุ่มงานในโปรเจกต์หรือในบอร์ด “งานของฉัน (My tasks)” ได้ ไม่ว่าจะมีงานมากแค่ไหนก็ตาม Improved customization in board view: สามารถจัดกลุ่มตามผู้รับผิดชอบ เรียงลำดับ และซ่อนกลุ่มที่ไม่มีงานในมุมมองบอร์ดของโปรเจกต์ได้ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม ที่นี่ Enhancements to project overview in iOS: ติดตามความคืบหน้าของทีมได้ง่าย ๆ บนมือถือ IOS ด้วยการรวมข้อมูลเชิงลึกของโปรเจกต์ไว้ในที่เดียว อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม ที่นี่ Granular email notification settings: ปรับแต่งการแจ้งเตือนทางอีเมลได้ตามใจ ด้วยตัวเลือกที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้นสำหรับการรับการแจ้งเตือน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม ที่นี่ Tab management improvement: ตั้งค่าแท็บใดก็ได้ให้เป็นค่าเริ่มต้นในโปรเจกต์, พอร์ตโฟลิโอและทีม สำหรับ Asana Package Starter และ Premium Custom sorting in Gantt view: จัดกลุ่มงานในมุมมองแบบ Gantt ให้เหมาะสมที่สุดกับความต้องการของโปรเจกต์ของคุณ https://www.dmit.co.th/wp-content/uploads/2025/01/Gantt-View-Feature-update.mp4#t=1 อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม ที่นี่ สำหรับ Asana Package Advanced และ Business Portfolio saved views: ปรับแต่งและบันทึกมุมมองพอร์ตโฟลิโอเพื่อให้เข้าถึงได้ง่ายทุกเมื่อวิธีสร้างมุมมองพอร์ตโฟลิโอ: ใช้การเรียงลำดับและตัวกรองกับพอร์ตโฟลิโอของคุณ คลิก Save view เพื่อบันทึกมุมมองนี้เป็นแท็บรายการเริ่มต้นสำหรับทุกคน...
Continue readingอัปเดต 10 Marketing Trends สำหรับปี 2025 มีอะไรบ้าง?
นับตั้งแต่ยุคโฆษณาในหนังสือพิมพ์มาจนถึงปัจจุบันที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เทรนด์การตลาดมีการเปลี่ยนแปลงและความท้าทายมากขึ้นเรื่อย ๆ ตามเทคโนโลยีและพฤติกรรมผู้บริโภค นั่นหมายความว่านักการตลาดไม่สามารถเลือกใช้วิธีการเดิม ๆ ที่เคยได้ผลในอดีตมาใช้ตลอดเวลาได้ ฉะนั้นการมองหาแนวโน้มหรือเทรนด์ใหม่ ๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ธุรกิจรักษาความได้เปรียบและวางแผนกลยุทธ์การตลาดให้ตรงกับพฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบัน ในปี 2025 นี้ เราได้ทำการสรุป 10 เทรนด์การตลาดสำคัญ โดยมีทั้งที่ยังเป็นเทรนด์ต่อเนื่องมาจากปีที่แล้วและเทรนด์การตลาดใหม่ ๆ ที่ช่วยผลักดันให้ธุรกิจประสบความสำเร็จในปี 2025 นี้ จะมีอะไรบ้าง? เลือกอ่านหัวข้อที่คุณต้องการได้เลย! 1. AI in Marketing เทรนด์การตลาดกับ AI ยังไปต่อด้วยกันยาว ๆ ด้วยการเปิดตัวเครื่องมือ AI ของแบรนด์ต่าง ๆ มากมาย เช่น ChatGPT, Gemini, Asana AI, BrazeAI™ หรือ Zendesk AI แสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์กำลังเติบโตและเปลี่ยนแปลงอนาคตของการตลาดอย่างชัดเจน ในปี 2025 นี้ นักการตลาดจะยังคงปรับตัวกับการใช้เทคโนโลยี AI ในกระบวนการทำงานหลายส่วน ๆ และเพิ่มรายได้ให้กับธุรกิจของคุณ มาดูกันว่านักการตลาดสามารถทำงานร่วมกับ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในด้านไหนกันได้บ้าง? วิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าและคาดการณ์แนวโน้ม (Data Analysis) จากผลวิจัยของ The Work Innovation Lab พบว่า 30% ของพนักงานใช้ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลอยู่แล้ว และจำนวนกว่าสองเท่า (62%) ต้องการใช้ AI เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลของผู้บริโภคและลูกค้า เพราะพวกเขาเชื่อว่าข้อมูลที่ได้จาก AI และ Machine Learning สามารถช่วยให้นักการตลาดเข้าใจกลุ่มเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพการโฆษณาที่ชาญฉลาดและตรงกลุ่มเป้าหมาย ไม่เสียเงินไปกับกลุ่มที่ไม่ใช่ลูกค้าของเรา วางแผนได้ดีขึ้น ด้วยการการคาดการณ์แนวโน้มที่แม่นยำ เข้าใจพฤติกรรมของผู้ซื้อได้ดียิ่งขึ้น เพิ่มอัตราการรักษาลูกค้าและความภักดี โดยการส่งคอนเทนต์ที่เฉพาะตัวกับแต่ละคน (Personalization) ภาพจาก Report: The State of AI at Work...
Continue readingfoodora สร้างความเชื่อมั่นและขับเคลื่อนการมีส่วนร่วมของลูกค้าผ่าน BrazeAI™
foodora บริษัทจัดส่งอาหารที่ดำเนินกิจการกว่า 200 เมืองทั่วยุโรป เป็นผู้นำในด้านธุรกิจ Digital Quick Commerce โดยมีพันธกิจ คือการมอบประสบการณ์ที่น่าประทับใจ รวดเร็ว และราคาที่คุ้มค่า เพื่อให้ลูกค้ามีเวลาโฟกัสกับสิ่งที่สำคัญอื่น ๆ ในชีวิตพวกเขา และสามารถสั่งสิ่งที่ต้องการได้ทุกเวลาตามใจชอบ โดยไม่มีความรู้สึกผิด บริษัทมุ่งเน้นการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าเสมือนมิตรภาพ โดยสร้างความไว้วางใจและความภักดีไปพร้อม ๆ กัน ด้วยความที่ foodora เข้าใจความต้องการของลูกค้า จึงได้ตั้งเป้าที่จะส่งมอบการสื่อสารด้วยข้อความที่มีความ Personalized กับลูกค้าแต่ละคนในเวลาที่เหมาะสม เพื่อยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า พร้อมทั้งกระตุ้นให้เกิดการซื้อซ้ำและสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนกับลูกค้าในระยะยาว ความท้าทายและเป้าหมายของ foodora ความท้าทาย foodora ต้องการแพลตฟอร์มที่สร้างการมีส่วนร่วมกับลูกค้าได้แบบครอบคลุม เพื่อรวบรวมการสื่อสารกับลูกค้าทั้งหมดให้เป็นหนึ่งเดียว ก่อนหน้านี้พวกเขามีปัญหาด้านการสื่อสารด้วยข้อความที่ไม่ค่อยตรงกับความต้องการของลูกค้า และต้องพึ่งพาแพลตฟอร์มหลายตัวที่ขาดข้อมูลเชิงลึก ส่งผลให้พลาดโอกาสและสูญเสียลูกค้าไป เป้าหมาย เป้าหมายของ foodora มีความชัดเจน คือการเพิ่มประสิทธิภาพการมีส่วนร่วมของลูกค้า (Customer Engagement) โดยการส่งข้อความที่ใช่ ในเวลาที่เหมาะสมสำหรับลูกค้าแต่ละคนแบบ Personalized เพื่อเพิ่มอัตรา Conversion Rate และความพึงพอใจของลูกค้า รวมถึงการลด Unsubscribe Rate ยกระดับการรักษาความสัมพันธ์และสร้างความภักดีที่ยั่งยืนให้กับลูกค้าที่ใช้งาน foodora กลยุทธ์ทางการตลาดที่ foodora เลือกใช้ ด้วย Braze ทำให้ foodora สามารถสร้างกลยุทธ์การตลาดแบบ Cross-Channel Marketing ได้อย่างมีประสิทธิภาพผ่านหลากหลายช่องทางที่ลูกค้าของพวกเขาอยู่ เช่น ผ่าน Email, Push Notification และ In-app Messaging นอกจากนี้พวกเขายังใช้เครื่องมืออย่าง Intelligent Timing ที่เป็นหนึ่งในฟีเจอร์ของ BrazeAI™ ในการช่วยวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก เพื่อเปลี่ยนการส่งข้อความแบบเดิม ๆ ตามเวลาที่กำหนด มาเป็นการส่งข้อความในเวลาที่เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละคนมากที่สุด โดย foodora เริ่มทดลองใช้ฟีเจอร์ Intelligent Timing กับลูกค้าใหม่ในออสเตรีย ช่วงที่พวกเขากำลัง Onboarding กับ Braze โดยผลลัพธ์ช่วงทดลองแสดงให้เห็นว่ามี Unsubscribe Rate...
Continue readingAsana AI ผู้ช่วยอัจฉริยะในการบริหารงานและโปรเจกต์ของคุณ
ยินดีต้อนรับสู่ Asana AI ผู้ช่วยอัจฉริยะที่ออกแบบมาเพื่อยกระดับประสบการณ์การจัดการงานและโปรเจกต์ของคุณ ช่วยให้คุณทำงานได้อย่างชาญฉลาดมากยิ่งขึ้น ทั้งการทำงานอัตโนมัติและการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับโปรเจกต์ของคุณ บทความนี้จะแนะนำภาพรวมเกี่ยวกับฟีเจอร์และสิ่งที่ Asana AI สามารถทำได้ จะมีอะไรบ้างไปดูกัน! เลือกอ่านหัวข้อที่คุณต้องการได้เลย! Asana AI คืออะไร? Asana AI คือ เครื่องมือผู้ช่วยอัจฉริยะที่ผสานเข้ากับแพลตฟอร์ม Asana เพื่อช่วยให้คุณจัดการงานและโปรเจกต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยการใช้ประโยชน์จากปัญญาประดิษฐ์ Asana AI จึงสามารถทำให้งานประจำเป็นงานอัตโนมัติ ช่วยในการสร้างและแก้ไขงาน และจัดทำสรุปข้อมูลที่มีประโยชน์เกี่ยวกับโปรเจกต์ของคุณได้ ฟีเจอร์ของ Asana AI มีอะไรบ้าง? 1. สถานะอัจฉริยะ (Smart Status) รับข้อมูลพร้อมอัปเดตสถานะของโปรเจกต์และงานของคุณได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ติดตามข้อมูลได้ง่ายโดยไม่ต้องค้นหาข้อมูลทั้งหมดเอง 2. แชทอัจฉริยะ (Smart Chat) รับคำตอบที่มาจาก AI สำหรับคำถามเกี่ยวกับการจัดการโปรเจกต์ของคุณ ช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง รวดเร็วและมีข้อมูลครบถ้วน 3. ฟิลด์อัจฉริยะ (Smart Fields) ใช้ AI ในการกรอกข้อมูลสำคัญให้อัตโนมัติ เพื่อให้แน่ใจว่ารายละเอียดงานของคุณจะครบถ้วนและอัปเดตอยู่เสมอ 4. สรุปอัจฉริยะ (Smart Summaries) รับสรุปรายงานของโปรเจกต์ งาน และพอร์ตโฟลิโอของคุณแบบกระชับ ช่วยให้เข้าใจประเด็นสำคัญโดยไม่ต้องอ่านรายละเอียดยาว ๆ 5. ตัวแก้ไขอัจฉริยะ (Smart Editor) ปรับปรุงกระบวนการสร้างและแก้ไขงานด้วยคำแนะนำจาก AI ช่วยให้เขียนคำอธิบายงานได้ชัดเจนและมีประสิทธิภาพมากขึ้น 6. โปรแกรมสร้างกฎอัจฉริยะ (Smart Rule Creator) สร้างรูปแบบ Workflow การทำงานของคุณให้เป็นอัตโนมัติ ด้วยกฎที่ปรับแต่งเองและขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อให้แน่ใจว่ากระบวนการทำงานประจำวันได้รับการจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ 7. เป้าหมายอัจฉริยะ (Smart Goals) ปรับปรุงประสิทธิภาพและทำให้การตั้งเป้าหมายมีมาตรฐานยิ่งขึ้นด้วย Smart Goals ที่วิเคราะห์เป้าหมายปัจจุบันและเสนอแนวทางการพัฒนา เช่น การเพิ่มเกณฑ์ความสำเร็จ สรุปผลกระทบ ระบุเป้าหมายหลัก สนับสนุนเป้าหมายย่อย และกำหนดทีมที่รับผิดชอบ 8. โปรเจกต์อัจฉริยะ (Smart Project)...
Continue reading