ผลการคาดการณ์ของธุรกิจธนาคารต่าง ๆ ที่ประเมินสถานการณ์โควิด-19 เอาไว้ว่า จำนวนผู้ติดเชื้อจะเริ่มลดลงก็ในไตรมาสที่ 4 และในส่วนของธุรกิจเองก็คิดว่าจะเริ่มกลับมาฟื้นตัวก็ในปี 65 ดังนั้นในระหว่างนี้แบรนด์ควรจะต้องมีวิธีปรับตัวอย่างไร? เพื่อให้ธุรกิจสามารถอยู่รอดและเป็นการสร้างโอกาสให้แบรนด์ของคุณไปอยู่ในใจของผู้บริโภคได้ ในช่วงที่ผู้บริโภคนั้นมีจิตใจที่ย่ำแย่และต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด ผลกระทบจากโควิด-19 ที่มีต่อผู้บริโภคมีอะไรบ้าง? สุขภาพจิตที่ย่ำแย่ลง เนื่องจากหลาย ๆ สถานการณ์ที่รุมเร้าไม่ใช่แค่เพียงโควิด-19 เท่านั้นแต่ยังมีปัญหาด้านเศรษฐกิจที่แย่ไม่แพ้กัน ทำให้เกิดภาวะเครียดตามมา จึงเกิดการชอปปิงบำบัดออนไลน์ขึ้นมาแทน ผู้บริโภคเริ่มเซนซิทีฟกับเรื่องราคามากขึ้นเพราะผู้บริโภคมีรายได้ที่ลดลง ออมเงินกันมากขึ้น ความมั่นใจต่อภาครัฐส่งผลต่อพฤติกรรมผู้บริโภคเช่นกัน ผู้บริโภคไม่กล้าจับจ่ายใช้สอย เพราะไม่สามารถคาดเดาว่ารัฐจะจัดการกับสถานการณ์นี้ได้เมื่อไหร่ เทรนด์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปเมื่อเกิดโควิด-19 การบริโภคสินค้าบนช่องทาง Digital, การ Work from home, Live Online, Webinar โดยในตอนแรกอาจจะยังเป็นสถานการณ์ที่หลาย ๆ บริษัทอาจจะยังไม่คุ้นชิน แต่ตอนนี้ระยะเวลาผ่านมาเกือบ 2 ปีทำให้มันกลายเป็น Permanent Shift คือ การเปลี่ยนแปลงแบบถาวร ความต้องการบริโภคสินค้าบนช่องทางออนไลน์มากขึ้น แต่ต้องบอกก่อนว่าจำนวนผู้บริโภคบนช่องทางออนไลน์มีจำนวนมากขึ้นเป็นปกติอยู่แล้ว และเน้นไปที่ Functional เป็นหลัก แต่เทรนด์ที่เพิ่มเข้ามาในช่วงโควิด-19 คือความต้องการทางด้าน Emotional หรือที่หลาย ๆ คนเรียกว่า ชอปปิงบำบัด Active in Social & Sustain ผู้บริโภคมี Mindset ในแง่ของสังคม วัฒนธรรมต่อแบรนด์ที่เปลี่ยนไป เช่น ความยั่งยืนในสิ่งแวดล้อม ภาพลักษณ์ของแบรนด์ทางสังคม และเรื่องที่ Sensitive ที่สุดของประเทศไทยคือเรื่องของการเมือง ทำให้แบรนด์ต้องคำนึงถึงเรื่องพวกนี้ให้มากขึ้นและเตรียมรับมือกับ Crisis Management ตลอดเวลา 8C ที่ธุรกิจต้องคำนึงถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป Connectivity การเข้าถึงผู้บริโภคในทุก ๆ Touchpoint ไม่ว่าจะเป็นออนไลน์หรือออฟไลน์ให้เชื่อมต่อถึงผู้บริโภค Conversation การสนทนาที่เพิ่มรูปแบบมากขึ้น ไม่ใช่แค่การสนทนาเพื่อขายของเพียงเท่านั้น แต่ต้องรับฟังปัญหาของผู้บริโภคให้มากขึ้น Compassion ความเห็นอกเห็นใจผู้บริโภคว่าต้องเจอกับอะไรในตอนนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมากเพราะเป็นการสร้างประสบการณ์ให้กับลูกค้าให้จดจำภาพลักษณ์ของแบรนด์ได้เลย Consciousness การตระหนักรู้จิตใจของผู้บริโภค ธุรกิจสามารถช่วยแก้ปัญหาอะไรของคุณได้บ้าง จากเดิมที่เน้น Functional แต่มาเพิ่ม Emotional เข้าไปด้วย ซึ่งถ้าธุรกิจทำได้แบรนด์ของเราจะไปอยู่ในใจของลูกค้าอย่างแน่นอน...
Continue reading3 วิธี พลิกโฉมการบริการลูกค้าแบบ Work From Home
ความไม่แน่นอนของระบบการทำงานแบบ Work From Home (WFH) ในช่วงที่มีวิกฤติ COVID-19 แพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง ภาครัฐต้องประกาศให้ทุกบริษัท WFH แบบ 100% ซึ่งส่งผลต่อรูปแบบและประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงานที่เปลี่ยนไปอย่างแน่นอน การ Work from home แบบ 100% นั้นก่อให้เกิดความท้าทายใหม่ ๆ ที่บริษัทจะต้องปรับปรุง แก้ไข และพัฒนาเพื่อให้บริษัทนั้นไปต่อได้ในสถานการณ์แบบนี้ บริษัทจำนวนมากพยายามที่จะมองหาเครื่องมือหรือโซลูชันที่มาช่วยในส่วนของการทำงานของพนักงาน รวมไปถึงการบริการลูกค้าที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดเทียบเท่ากับการทำงานที่ออฟฟิศโดยทำงานที่บ้าน ความท้าทายของการ WFH ของพนักงาน ขาดการเข้าถึงแหล่งข้อมูล ฐานความรู้เป็นองค์ประกอบที่สำคัญมากในการให้บริการลูกค้า ยิ่งสำหรับพนักงานที่เข้ามาใหม่หรือยังไม่มีประสบการณ์มากนัก การที่จะให้ตอบลูกค้าโดยลำพังนั้นอาจทำให้เกิดปัญหาได้ ดูได้จากข่าว Food Delivery แห่งหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ ทำให้ทางบริษัทเสียรายได้อย่างมหาศาล ดังนั้น บริษัทควรสร้างคลังความรู้ พร้อมวิธีแก้ปัญหาเบื้องต้นที่ผ่านการตรวจสอบแล้ว และมีการอัปเดตอยู่ตลอดเวลาเพื่อช่วยให้กับทีมบริการลูกค้าทำงานได้ง่ายมากยิ่งขึ้น การหาเครื่องมือที่นำมาใช้ในการทำงานแบบ WFH นี่คือความท้าทายของบริษัทอย่างแท้จริงว่าจะมองหาวิธีแก้ปัญหาอะไรบ้าง? ที่จะมาช่วยให้พนักงานสามารถทำงานแบบ WFH ได้มีประสิทธิภาพมากที่สุดและทางทีมหรือหัวหน้างานก็ยังสามารถตรวจสอบการทำงานของพนักงานได้ ไม่ใช่พอทำงานที่บ้านก็ต่างคนต่างทำงานแบบไม่สามารถตรวจสอบอะไรได้เลย การพัฒนาทักษะใหม่ ๆ ที่ไม่คุ้นเคยเมื่อ WFH อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นว่าการ Work from home แบบ 100% ส่งผลให้รูปแบบการทำงานเปลี่ยนไปอย่างแน่นอน เพราะมันก็คงไม่สามารถทำงานได้เหมือนอยู่ที่บริษัท ธุรกิจก็ต้องหาเครื่องมือหรือโซลูชันใหม่ ๆ มาเพื่อให้กับพนักงานทำงานที่บ้านได้สะดวกขึ้น และดูว่าพนักงานพร้อมที่จะพัฒนาทักษะหรือวิธีการทำงานที่เปลี่ยนไปหรือไม่? 3 วิธีที่จะพลิกโฉมและแก้ปัญหาการทำงานแบบ WFH ในความท้าทายที่เกิดขึ้น มีดังนี้ 1. การสร้าง Knowledge Base หรือ ศูนย์ความรู้ที่พนักงานทุกคนสามารถเข้าถึงได้ง่าย หรือมีคลังคำตอบสำหรับคำถามที่พบบ่อยเพื่อไม่ให้ทีมงานต้องมาตอบคำถามเดิม ๆ ซ้ำไปซ้ำมา แล้วเอาเวลาไปมุ่งเน้นกับลูกค้าที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างแท้จริง และยังมี Help center ที่ให้สำหรับลูกค้าบางท่านที่ชอบหาข้อมูลด้วยตัวเอง (Self-Service) จนกระทั่งใช้ AI Chatbot ในการรับคำร้องหรือคำถามของลูกค้าและแก้ปัญหาเบื้องต้นได้โดยไม่ต้องติดต่อกับทีมงานด้วยการจัดทำระบบจากหลังบ้าน 2. เลือกเครื่องมือที่เหมาะสมในการทำงานแบบ WFH จริง ๆ ในปัจจุบันมีโซลูชันและเครื่องมือที่สามารถทำงานที่บ้านได้มากมาย แต่ถ้าพูดถึงการบริการและซัพพอร์ตลูกค้าแล้วต้องนึกถึงซอฟต์แวร์ที่ชื่อว่า Zendesk เพราะว่า Zendesk...
Continue readingAI Chatbot กลยุทธ์ที่ทำให้ธุรกิจไม่มีวันหลับใหล
โลกยุคดิจิทัลเป็นโลกที่มีการเคลื่อนไหวตลอดเวลา เพราะทุกแอปพลิเคชัน ทุกโซเชียลมีเดีย มีการเปิดใช้งานและออนไลน์อยู่เสมอ ธุรกิจต่าง ๆ จึงมองหาโอกาสหรือโซลูชันที่จะช่วยให้ธุรกิจสามารถทำยอดขายหรือกำไรได้มากขึ้น ซึ่งก็มีหลาย ๆ ธุรกิจที่เลือก AI Chatbot เป็นตัวช่วยเพื่อเพิ่มโอกาสในการเติบโตในธุรกิจที่สามารถให้บริการหรือขายสินค้าได้ตลอดแบบไม่มีวันหลับไหล AI Chatbot คืออะไร? AI (Artificial Intelligence) แปลว่า ปัญญาประดิษฐ์ ซึ่ง AI Chatbot คือ ปัญญาประดิษญ์ที่ถูกสร้างมาเพื่อจำลองเป็นมนุษย์หรือพนักงานในการการสื่อสารกับลูกค้าหรือผู้บริโภคในรูปแบบของข้อความนั่นเอง ซึ่งในปัจจุบันก็มีผู้พัฒนา Chatbot หลากหลายเจ้า แต่เจ้าที่เราจะหยิบยกมาพูดในวันนี้ คือ inGenious AI Chatbot เพราะมันไม่เพียงแค่ตอบแชทอัตโนมัติได้เท่านั้น แต่ยังสามารถเสนอขายสินค้า ปิดการขาย เก็บข้อมูลลูกค้า หรือแม้แต่เป็น Help Center ในการช่วยเหลือลูกค้าได้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมงแบบไม่มีวันหยุด ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ inGenious AI Chatbot ถูกเลือกเป็นโซลูชันนึงที่ธุรกิจนำเอามาใช้ เพราะมันไม่ได้มีดีแค่การเพิ่มโอกาสและยอดขายให้กับธุรกิจเท่านั้น แต่มันยังสามารถเชื่อมต่อเข้ากับ Zendesk Support เพื่อช่วยเก็บข้อมูลที่คล้ายคลึงกับระบบ CRM ช่วยลดงานให้กับทีม Customer Service & Support อย่างมาก ทำให้สามารถเอาเวลาไปช่วยเหลือลูกค้าที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างแท้จริงได้ หรือถ้าลูกค้าต้องการที่จะติดต่อกับคนหรือเจ้าหน้าที่ inGenious AI Chatbot ก็สามารถสลับให้คนหรือเจ้าหน้าที่มาคุยกับลูกค้าแทนได้ในทันที และที่สำคัญที่สุดสำหรับเจ้าของธุรกิจคือ Chatbot ช่วยลดต้นทุนของธุรกิจในหลาย ๆ ส่วนได้อย่างมหาศาล จากผลสำรวจที่ว่า Chatbot สามารถช่วยธุรกิจลดต้นทุนไปได้กว่า 30% ในส่วนของการซัพพอร์ตลูกค้า AI Chatbot ถูกนำมาใช้ในหลายธุรกิจมาสักพักใหญ่แล้ว และมีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ดูได้จากขนาดตลาดของ Chatbot ที่มีมูลค่าอยู่ที่ 703 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2016 และคาดการณ์ว่าจะมากกว่า 1.3 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2024 Chatbot จะเป็นแรงผลักดันในการสื่อสารทางธุรกิจให้เติบโตมากยิ่งขึ้น ธุรกิจที่เหมาะกับการใช้แชทบอทหรือสามารถนำแชทบอทมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ได้แก่ สถาบันและอุตสาหกรรมทางการเงิน การดูแลสุขภาพ การศึกษา...
Continue readingรู้หรือไม่? Zendesk สามารถเชื่อมต่อ Facebook ได้ถึง 15 เพจ!
ใช่แล้ว! คุณอ่านไม่ผิด Zendesk สามารถเชื่อมต่อ Facebook ได้ถึง 15 เพจจริง ๆ Zendesk คืออะไร? Zendesk คือ Customer Service & Support Software หรือ Help Desk ชื่อดังจากประเทศสหรัฐอเมริกา ที่มุ่งเน้นในเรื่องของการบริการและซัพพอร์ต เพื่อสร้าง CX หรือประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า พร้อมเป็นกระบวนการทำงานในรูปแบบของ Cloud System ทั้งหมด ทั้งนี้ Zendesk ยังได้รับรางวัล Digital Customer Service Software อันดับ 1 จาก Gartner อีกด้วย ซึ่งจุดเด่นของซอฟต์แวร์ตัวนี้ก็คือการทำกลยุทธ์แบบ Omnichannel ที่จะช่วยรวบรวมช่องทางการติดต่อสื่อสารกับลูกค้าทุกช่องทางไว้ในที่เดียวไม่ว่าจะ Facebook, Line, Twitter, Instagram, Whatsapp, WeChat และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งแค่ในส่วนของ Facebook เองก็สามารถเชื่อมต่อได้ถึง 15 เพจแล้ว ดูรายละเอียดเกี่ยวกับ Zendesk เพิ่มเติม >> https://bit.ly/2QY2cwD เนื่องจากการทำธุรกิจในปัจจุบันตัวสินค้าและการบริการลูกค้าที่ดีมันต้องไปควบคู่กัน ถ้าคุณภาพสินค้าดีแต่การบริการลูกค้าไม่ดี ลูกค้าก็พร้อมที่จะย้ายไปหาคู่แข่งหรือมองหาสินค้าทดแทนที่ได้รับการบริการที่ดีกว่า ดังนั้นการบริการและซัพพอร์ตที่ดีก็เป็นสิ่งที่ธุรกิจไม่ควรมองข้ามเช่นกัน ซึ่งการเชื่อมต่อช่องทางการสื่อสารของลูกค้าที่มาจากหลากหลายช่องทาง หรือ Omnichannel ก็เป็นการที่ช่วยให้ทีมบริการและซัพพอร์ตลูกค้าทำงานง่ายขึ้นเช่นกัน เพราะจะได้ไม่ต้องย้ายแพลตฟอร์มหรือหน้าจอในการตอบลูกค้าไปมา ที่ก่อให้เกิดความผิดพลาดได้ พร้อมกับการเก็บข้อมูลของลูกค้าคนนั้น ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ต้องให้ลูกค้าต้องเล่าปัญหาซ้ำ ๆ ให้วุ่นวาย เรียกได้ว่าสร้างประสบการณ์ที่ดีทั้งลูกค้าและในส่วนของทีมงานเองในเวลาเดียวกัน นี่เป็นเพียงเศษเสี้ยวของซอฟต์แวร์ Zendesk เท่านั้น Zendesk ยังมีฟีเจอร์อีกมากมายไปดูกัน >> https://bit.ly/3ddhBRu ถ้าหากใครสนใจหรืออยากลองนำ Zendesk ไปเชื่อมต่อกับช่องทางการสื่อสารต่าง ๆ ของลูกค้า เพื่อสร้าง CX ที่ไม่เหมือนใคร ก็สามารถติดต่อ Demeter ICT...
Continue readingAgent Experience หรือ ประสบการณ์ตัวแทนคืออะไร? (และส่งผลที่ดีต่อลูกค้าด้วย)
หลาย ๆ ธุรกิจมุ่งเน้นที่จะสร้างประสบการณ์ลูกค้า (CX) ที่ดีที่สุดและให้ลูกค้าเป็นศูนย์กลางของทุกสิ่งในกระบวนการทำงาน ตั้งแต่การขาย การตลาด การซัพพอร์ต เพื่อสร้างความพึงพอใจในทุกขั้นตอนของ Customer Journey จนลืมไปว่าอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลต่อประสบการณ์ (CX) ที่ดีของลูกค้าก็คือ ตัวแทน เจ้าหน้าที่ หรือ Agent นั่นเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่ธุรกิจไม่ควรมองข้ามเช่นกัน เพราะตัวแทนก็เป็นมนุษย์เหมือนเรา ๆ การที่ตัวแทนมีความสุขก็จะส่งผลถึงประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีขึ้น และการมีเครื่องมือที่ช่วยให้ตัวแทนทำงานได้ง่ายขึ้นก็เป็นสิ่งที่บริษัทสามารถช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับตัวแทนมากขึ้น ซึ่งมันก็จะส่งผลดีต่อไปถึงลูกค้าเช่นเดียวกัน ประสบการณ์ตัวแทน หรือ Agent Experience คืออะไร? ประสบการณ์ของตัวแทน คือ กิจกรรมต่าง ๆ ที่ทีมบริการและซัพพอร์ตมีส่วนร่วมกับบริษัทตั้งแต่การใช้เครื่องมือขององค์กร Workflow ในการทำงาน จนไปถึงการให้ความสำคัญกับหน้าที่ของตัวแทนว่ามีบทบาทในองค์กรมากแค่ไหน ซึ่งมันจะส่งผลโดยตรงต่อตัว Agent เช่น ตัวแทนสามารถแก้ปัญหาได้ง่ายขึ้นไหม? คุณภาพในการมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าเป็นอย่างไร? ตัวแทนรู้สึกมีคุณค่ามากแค่ไหนในการทำงานในองค์กร? แล้วทำไมประสบการณ์ของตัวแทนจึงสำคัญ? ประสบการณ์ตัวแทนที่ไม่ดี สามารถส่งผลไปถึงการบริการลูกค้าที่ไม่ดีได้อย่างรวดเร็ว หรือแย่ไปกว่านั้นก็อาจจะทำให้ลูกค้าของคุณได้รับประสบการณ์ที่ไม่ดีไปด้วย เพราะฉะนั้นก่อนที่ธุรกิจจะซัพพอร์ตลูกค้าได้ดีนั้น ควรเริ่มที่การซัพพอร์ตตัวแทนที่ดูแลลูกค้าให้ดีเสียก่อน ในปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ลักษณะการทำงานของหลาย ๆ ธุรกิจมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากไม่ว่าจะ Work From Home หรือ การทำงานบนช่องทางออนไลน์ที่มากขึ้น และอยู่ในสภาวะที่ต้องแยกกันทำงานที่บ้าน ทำให้ตัวแทนต้องมาเสียเวลากับเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่เข้าใจยาก ก็ไม่น่าแปลกที่ว่า 70% ของตัวแทนจะรู้สึกงานล้นมือ ตามรายงานของ Zendesk Customer Experience Trends Report 2021 แต่ Zendesk ต่างออกไป ด้วยการรับรองว่าเป็น Digital Customer Service Software อันดับ 1 จาก Gartner ที่คำนึงถึงตัวแทนหรือผู้ใช้งานก่อนเป็นอันดับแรกเสมอ เพื่อให้ใช้งานง่ายและสะดวกที่สุดสำหรับผู้ใช้งาน และยังสร้างประสบการณ์ที่ดีทั้งตัวแทนและลูกค้า (CX) ไปในเวลาเดียวกันได้อีกด้วย ที่มา : Zendesk Blog ทดลองใช้ Zendesk trial ฟรี สอบถาม ราคา Zendesk ติดต่อ...
Continue readingZendesk เผย Facebook Messenger ช่องทางการสื่อสารที่เติบโตมากที่สุดในวิกฤติโควิด-19
การส่งข้อความ หรือ Messaging เป็นช่องทางการติดต่อสื่อสารระหว่างลูกค้ากับร้านค้าที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และยังมีแนวโน้มที่จะมากขึ้นไปอีกในอนาคต วันนี้ Demeter ICT จะมาเล่าว่าทำไมคุณถึงควรเลือก Facebook Messenger ในการสร้าง CX หรือประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าของคุณให้ได้รู้กัน ไปดูกันเลย! ก่อนอื่นต้องรู้ว่าทำไมต้องเป็น Facebook Messenger? หลาย ๆ คนอาจจะสงสัยว่าทำไมต้องเป็น Facebook Messenger ไม่ใช้ Line, Instagram หรือ Twitter ต่าง ๆ ด้วยผลสำรวจของ Zendesk Customer Experience Trends Report 2021 จากทาง Zendesk ที่เป็นผู้นำในการให้บริการด้าน Omnichannel Customer Service Software พบว่า Facebook Messenger เป็นแอปพลิเคชันรับส่งข้อความที่มีผู้ใช้เพิ่มขึ้นมากที่สุด โดยเพิ่มขึ้นเร็วกว่าช่องทางอื่น ๆ ในปี 2020 ที่ผ่านมา โดยเปอร์เซ็นต์ของลูกค้าที่ชอบใช้ Facebook Messenger ในการรับส่งข้อความเติบโตขึ้นถึง 110% ดู Zendesk Customer Experience Trends Report 2021 คลิก! จากสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมารวมถึงในตอนนี้ก็อาจจะเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลให้ลูกค้าหันมาใช้ช่องทาง Facebook Messenger และ Social Media ในการติดต่อสื่อสารกับร้านค้าและลูกค้ามากขึ้น ซึ่งธุรกิจก็ต้องเรียนรู้และรับมือกับพฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนไป ส่วนในมุมของธุรกิจเองการที่ลูกค้าเปลี่ยนช่องทางการติดต่อมาทางแชทหรือการส่งข้อความทางโซเชียลมีเดียนั้น ก็ช่วยลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการติดต่อสื่อสารไปได้อย่างมหาศาล นอกจากนี้ยังช่วยให้ทีม Customer Service & Support สามารถบริการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นในคราวเดียว ต่างจากการพูดคุยโทรศัพท์แบบเดิม ๆ ที่สามารถคุยได้ครั้งละคนเท่านั้น ซึ่ง Zendesk ก็รับรู้ได้ถึงการเติบโตของ Facebook Messenger และการรับส่งข้อความผ่านทาง Social Media จึงได้ออกแบบฟีเจอร์มาเพื่อตอบโจทย์การทำงานของทีม Customer Service & Support...
Continue readingปฏิรูป! การสื่อสารยุคอนาคตด้วย Chatbot รูปแบบการทำงานแบบ Real-time
เมื่อพูดถึงประสบการณ์การบริการ (CX) ลูกค้ามักจะเลือกช่องทางการบริการที่ลูกค้าคุ้นเคย ใช้อยู่เป็นประจำ ไม่เป็นทางการมากนัก และที่สำคัญติดต่อได้รวดเร็วทันที ด้วยเหตุนี้การที่ธุรกิจจะติดต่อสื่อสารกับลูกค้าได้แบบ Real-time ทุกคนนั้น เป็นสิ่งที่ท้าทายและไม่ใช่เรื่องง่าย Chatbot (แชทบอท) จึงเป็นวิธีหนึ่งที่หลาย ๆ ธุรกิจเลือกนำเอามาใช้ในกระบวนการทำงานของทีม Customer Service & Support เพื่อตอบสนองความต้องการเบื้องต้นของลูกค้าที่กล่าวมาข้างต้น แล้ว Chatbot คืออะไร? Chatbot (แชทบอท) คือ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ชนิดหนึ่งที่มีคนเรียกกันว่า AI หรือ ปัญญาประดิษฐ์ ถูกออกแบบมาเพื่อใช้สนทนากับมนุษย์ สามารถทำงานอยู่บนเว็บไซต์และแอปพลิเคชันของคุณได้ จะแสดงเป็น Pop-up ในรูปแบบของ Messenger และ การส่งข้อความทาง Social Media ต่าง ๆ หลาย ๆ บริษัทใช้ Chatbot เป็นตัวช่วยในการขยายธุรกิจที่กำลังเติบโตขึ้น ถึงแม้ว่า Chatbot จะขาดการสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างธุรกิจกับลูกค้า แต่มันก็ยังเป็นเครื่องมือที่หลาย ๆ ธุรกิจให้ความสนใจ ดูได้จาก Google Keyword Planner โดยคำว่า Chatbot มียอด Search มากขึ้นเกิน 4,000 ครั้งในปี 2020 ที่ผ่านมา และมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นเรื่อย ๆ ในปี 2021 อย่าง Zendesk เองที่เป็นผู้นำในการให้บริการด้าน Customer Service & Support Software ก็ได้มองเห็นถึงเทรนด์ในการเติบโตของการใช้โปรแกรม Chatbot กับธุรกิจเช่นกัน จึงได้สร้างฟีเจอร์ที่ชื่อว่า Zendesk Messaging ที่ออกแบบมาให้ตอบโจทย์ทางด้านการบริการและซัพพอร์ตลูกค้ามากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการส่งข้อความตอบโต้อัตโนมัติ การเก็บข้อมูลลูกค้าเบื้องต้น รวมถึงการสนทนาเชิงรุกและนำเสนอสินค้าให้กับลูกค้าก็ทำได้ และที่สำคัญ Chatbot ทำงานได้ 24 ชั่วโมง (24/7) แปลว่าสามารถบริการลูกค้าได้แบบ Real-time ตลอดเวลา เพราะสถานการณ์ในตอนนี้เห็นได้ว่าผู้บริโภคและลูกค้าหันมาบริโภคและซื้อสินค้าบนช่องทางออนไลน์เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก ดังนั้น...
Continue reading16 ทักษะสำคัญ ที่ทีม Customer Service & Support ควรมี! มีอะไรบ้าง?
ผลกระทบจาก Covid-19 เป็นสิ่งที่บ่งบอกได้ชัดเจนที่สุดว่า ยุคดิจิทัลได้เข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวันของทุกคนอย่างแท้จริงแล้ว เพราะลูกค้าออนไลน์ที่มากขึ้นกว่าเดิม บทบาทของทีมบริการและซัพพอร์ตลูกค้า หรือ Customer Service & Support จึงเป็นศูนย์กลางของธุรกิจในปัจจุบัน โดย ผลสำรวจ จาก Zendesk ผู้นำทางด้าน Customer Service & Support Software ระดับโลก พบว่า ลูกค้ามากกว่า 77% จะภักดีต่อแบรนด์ที่มอบประสบการณ์ที่ดี (CX) ให้กับลูกค้าและช่วยเหลือหากพวกเขาเจอปัญหาต้องการความช่วยเหลือ ยิ่งไปกว่านั้นกว่า 80% จะย้ายแบรนด์ไปหาคู่แข่งทันทีหากได้รับประสบการณ์และบริการที่แย่มากกว่า 1 ครั้ง มันบ่งบอกถึงความสำคัญของทีม Customer Service & Support เลยว่าเราไม่ควรมองข้ามมันไป การที่เราจะมอบประสบการณ์ที่ดี (CX) ให้กับลูกค้าได้นั้น เราต้องมีระบบการบริการลูกค้าที่ดีก่อน ซึ่งการบริการลูกค้าที่ดีนั้น คือ การผสมผสานระหว่างทักษะของทีมบริการที่เหมาะสมและเครื่องมือที่เข้าใจความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง ซึ่งวันนี้เราจะนำ 16 ทักษะ ที่ทีมบริการและซัพพอร์ตลูกค้าควรจะต้องมี เพื่อส่งเสริมให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น 1. Empathy หรือ ความเอาใจใส่ ความเอาใจใส่เป็นทักษะที่จำเป็นต้องมีสำหรับทีม Customer Support ซึ่งมีค่ามากกว่าประสบการณ์การบริการลูกค้าซะอีก ยิ่งในตอนนี้ที่มีโรคระบาด Covid-19 ความเอาใจใส่และให้ความสำคัญกับลูกค้าถือเป็นสิ่งที่ดีมาก “ ในปี 2021 เราต้องมองเห็นสิ่งที่ลูกค้าคาดหวัง บริษัทต่าง ๆ ยังคงต้องมีความเอาใจใส่และความยืดหยุ่นมากกว่าที่เคยเป็นในอดีต ” Ben Motteram Principal and CX Expert 2. Collaboration Skills หรือ ทักษะการทำงานร่วมกัน ทีม Customer Service & Support มักจะต้องทำงานร่วมกับทีมอื่น ๆ อยู่เสมอเพื่อให้งานสำเร็จลุล่วง ดังนั้นทักษะในการทำงานร่วมกันจึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ยิ่งในยุคปัจจุบันที่มีความห่างไกลกันมากขึ้น เช่น การ Work From Home เครื่องมืออย่าง Zendesk...
Continue readingWork From Home อย่างไร? ให้ได้ประสิทธิภาพเหมือน (ดีกว่า) ที่ทำงาน
เนื่องจากในสถานการณ์ โควิด-19 ทำให้หลาย ๆ บริษัทต้องหันมา Work From Home อีกครั้ง ซึ่งไม่ง่ายเลยกับบางบริษัทที่ระบบและรูปแบบการทำงานยังไม่เอื้อต่อการ Work From Home ส่งผลให้ธุรกิจอาจเกิดความล่าช้าและสะดุดไปเมื่อเจอเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด ดังนั้นในตอนนี้จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยที่หลาย ๆ บริษัทจะมองหาโซลูชันใหม่ ๆ มาปรับใช้ในกระบวนการทำงานแบบ Cloud System มากขึ้น เพื่อให้ธุรกิจสามารถดำเนินต่อไปได้โดยไม่มีสะดุดไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น อยู่ที่ไหน เวลาใดก็ตาม ซึ่งปัญหาแรกของการ Work From Home เลยก็คือ เวลาลูกค้าจะติดต่อหาบริษัทไม่ว่าจะเพื่อสอบถามข้อมูล แจ้งปัญหา ต้องการความช่วยเหลือต่าง ๆ พวกเขาจะติดต่อใคร? มีคนรับเคสไหม? ใครเป็นคนรับเคส? จะดูข้อมูลต่าง ๆ ได้อย่างไร? เกิดเป็นคำถามเต็มไปหมด และส่งผลให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ที่ลุกลามตามมา เพราะฉะนั้นมันคงถึงเวลาแล้วที่คุณจะต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานแบบเดิม ๆ ให้เข้ากับยุคที่อะไรก็เกิดขึ้นได้แบบนี้ และ Zendesk คือคำตอบของคำถามทั้งหมด แล้ว Zendesk ช่วยเรื่องการ Work From Home อย่างไร? ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า Zendesk คือ Customer Service & Support Software อันดับ 1 จากประเทศอเมริกาที่มีลูกค้ามากกว่า 200,000 รายทั่วโลก ถ้ายกตัวอย่างในประเทศไทยก็จะมี Bitkub, Kerry, True, Uniqlo เป็นต้น พร้อมด้วยการทำงานทุกอย่างบน Cloud System แปลว่า คุณและทีมสามารถบริการ ซัพพอร์ตลูกค้าได้ทุกที่ทุกเวลา และ Zendesk ยังสามารถรองรับได้กับทุก Device ไม่ว่าจะ Laptop, Tablet, Mobile ก็สามารถทำงานอย่างมืออาชีพได้เหมือนกัน พร้อมทั้งมีฟีเจอร์อื่น ๆ ที่ช่วยให้การ Work From Home สมบูรณ์มากขึ้น เช่น...
Continue reading