เลือกอ่านหัวข้อที่คุณต้องการได้เลย! สำหรับ Asana Package Personal และ Basic Notify users when they are mentioned in task descriptions: ตอนนี้คุณจะได้รับการแจ้งเตือนเมื่อมีการ @mention คุณภายในคำอธิบายของงาน Customize card size in board view: สามารถเลือกขนาดของการ์ดบนบอร์ดได้ทั้งแบบเล็ก กลาง หรือใหญ่ ทั้งในโปรเจกต์และ My tasks Merge as duplicate on iOS: ผสานงานที่ซ้ำกันหรือยกเลิกสัญลักษณ์ที่บอกว่างานนี้เป็นงานซ้ำได้โดยตรงผ่าน iOS Deprecated team invite links: Asana ยกเลิกฟีเจอร์ Team invite links แล้ว โดยยังใช้รูปแบบการเชิญผ่านอีเมลไว้เหมือนเดิม Saved tabs on Android: สามารถดูมุมมองแบบกำหนดเองทั้งหมดในโปรเจกต์ และสลับแท็บได้ง่ายขึ้นบน Android Notes tab on iOS: เพิ่มพื้นที่สำหรับจดโน้ตในโปรเจกต์และ My tasks บน iOS Create a task from Slack: ใช้ emoji 📝 (:memo:) เพื่อสร้างงานใน Asana อัตโนมัติจากข้อความใน Slack (ในช่องที่ติดตั้ง Asana Slackbot) ดูรายละเอียดเพิ่มเติม ที่นี่ สำหรับ Asana Package Starter และ Premium Dynamic “Me” filter for people custom fields and creator field:...
Continue readingสรุป 9 ฟีเจอร์สุดล้ำ! ของ Asana AI ผู้ช่วยจัดการงานของคุณให้ดียิ่งขึ้น
บทความนี้จะพาคุณไปรู้จัก 9 ฟีเจอร์สุดล้ำของ Asana AI แบบละเอียดยิบ ที่จะเปลี่ยนรูปแบบการทำงานของคุณให้เร็วขึ้น ง่ายขึ้น จะมีอะไรบ้าง? ไปดูกันเลย! เลือกอ่านหัวข้อที่คุณต้องการได้เลย! 1. Smart status – สรุปสถานะโปรเจกต์อัตโนมัติแบบเรียลไทม์ หมดปัญหาที่ต้องมานั่งอัปเดตสถานะโปรเจกต์เองทุกอาทิตย์ เพราะ Smart status จะช่วยสรุปสถานะงานทั้งหมดของโปรเจกต์ออกมาให้คุณได้ทันที เช่น สถานะของโปรเจกต์ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงไหน? งานไหนกำลังล่าช้า? งานไหนเป็นความเสี่ยง (Risk) จะไม่ทันเวลา? งานไหนต้องโฟกัสต่อจากนี้เป็นพิเศษ? ทำให้ผู้จัดการโปรเจกต์ (Project Manager) เห็นภาพรวมของโปรเจกต์ทั้งหมดได้ในคลิกเดียวและช่วยลดเวลาในการทำสรุป Status Report ได้อย่างมหาศาล 2. Smart chat – ผู้ช่วยส่วนตัวที่ถามอะไรก็ตอบได้ทันที เปรียบเสมือนคุณมีเลขาส่วนตัวที่สามารถถามทุกเรื่องได้เกี่ยวกับโปรเจกต์หรืองานที่คุณดูแล เพียงพิมพ์ถามด้วยภาษาที่ใช้ทั่วไป (รองรับภาษาไทย) เช่น งานที่ใกล้เดดไลน์สัปดาห์นี้มีอะไรบ้าง? ช่วยสรุปความคืบหน้าโปรเจกต์ A ให้หน่อย Smart chat จะค้นหาข้อมูลจากทุกโปรเจกต์และให้คำตอบคุณได้ทันทีตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่ต้องเสียเวลามานั่งหาข้อมูลด้วยตัวเองอีกต่อไป 3. Smart fields – ให้ AI สร้างและกรอกฟิลด์ที่จำเป็นให้อัตโนมัติ ผู้ช่วยที่คอยแนะนำว่าโปรเจกต์ควรมีฟิลด์อะไรที่ต้องใส่บ้าง พร้อมกรอกข้อมูลที่สำคัญให้แบบอัตโนมัติ ทั้งผู้รับผิดชอบงาน, วันที่และวันครบกำหนด, ลำดับความสำคัญของงาน 4. Smart summaries – สรุปข้อมูลยาว ๆ ให้เหลือแต่ประเด็นสำคัญ เหมาะสำหรับผู้จัดการโปรเจกต์ (Project Manager) ที่ต้องดูแลหลายโปรเจกต์พร้อม ๆ กัน Smart summaries ช่วยสรุปงานหรือโปรเจกต์ยาว ๆ ให้เหลือแค่ประเด็นที่สำคัญ ไม่ต้องอ่านข้อมูลทั้งหมดก็เข้าใจภาพรวมได้ 5. Smart editor – ช่วยเขียนและปรับคำให้ดูโปรขึ้น Smart editor สามารถช่วยเขียนและปรับแต่งข้อความให้กระชับ ชัดเจน และตรงประเด็น รวมถึงเปลี่ยนโทนภาษาให้คุณดูโปร มากยิ่งขึ้น 6. Smart...
Continue readingLINE OA vs BotBonnie จากการสื่อสารสู่การสร้างกำไร เครื่องมือไหนเหมาะกับธุรกิจของคุณมากกว่ากัน?
เลือกอ่านหัวข้อที่คุณต้องการได้เลย! LINE OA ทำอะไรได้บ้าง? และเหมาะกับใคร? LINE Official Account (LINE OA) คือ บัญชีทางการของแบรนด์บนแพลตฟอร์ม LINE ที่ใช้สื่อสารกับลูกค้าโดยตรง ฟีเจอร์ของ LINE OA: แชทบน LINE แบบ 1:1 Broadcast ส่งข้อความถึงผู้ติดตาม Rich Menu / Rich Message Step Message (ส่งข้อความอัตโนมัติตามลำดับวัน) ฟีเจอร์ Step Message เหมาะสำหรับทำ Drip Marketing แบบง่าย ๆ เช่น ตั้ง Trigger เมื่อมีคนเพิ่มเพื่อน แล้วส่งข้อความอัตโนมัติใน Day 0 / Day 1 / Day 3 เพื่อให้ข้อมูลหรือโปรโมชัน โดยสามารถเลือกกลุ่มเป้าหมายตามเพศ อายุ ระบบมือถือ หรือพื้นที่ได้ จุดเด่นของ LINE OA: คนไทยนิยมใช้ไลน์เป็นช่องทางการสื่อสารหลักกว่า 56 ล้านบัญชีหรือคิดเป็น 78.2% ของประชากรทั้งหมด ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน ติดตั้งและพร้อมใช้งานได้ทันที เหมาะสำหรับร้านค้า SME ที่ต้องการสื่อสารกับลูกค้าอย่างรวดเร็วและเป็นระบบผ่านช่องทาง LINE ข้อจำกัดของ LINE OA: ใช้งานได้เฉพาะบน LINE เท่านั้น ข้อมูลที่ได้รับค่อนข้างอยู่ในระดับพื้นฐาน เช่น เพศ อายุ ประเภทมือถือที่ใช้ พื้นที่ เน้นการส่งข้อความตามช่วงเวลา มากกว่าเหตุการณ์หรือพฤติกรรมที่ซับซ้อนของลูกค้า หากต้องการ Automation หรือ Segmentation ที่ซับซ้อนขึ้น ต้องใช้ API หรือเครื่องมือเสริม LINE OA เหมาะกับ: ทีมขนาดเล็กหรือกลางที่ต้องการระบบอัตโนมัติแบบแค่ตั้งข้อความแล้วส่งอัตโนมัติ สำหรับลูกค้ากลุ่มกว้างบน...
Continue readingกรณีศึกษา Xiaomi ไต้หวัน ใช้ BotBonnie เพิ่ม Engagement บน Instagram ถึง 98%
แบรนด์สมาร์ทโฟนระดับโลก “Xiaomi” ให้ความไว้วางใจ Appier เพื่อพลิกโฉมการทำการตลาดบนโซเชียลมีเดีย ผ่านเครื่องมือ Automation ของ BotBonnie) ที่ช่วยเพิ่มยอดไลค์ถึง 5 เท่า และดันอัตราการร่วมกิจกรรมสูงสุดถึง 98% ภาพรวมของโปรเจกต์ Xiaomi x BotBonnie จาก Appier ในยุคที่ผู้บริโภคใช้เวลาส่วนใหญ่บนโซเชียลมีเดีย แบรนด์ต่างๆ ต้องคิดหาวิธีสร้าง “ปฏิสัมพันธ์จริง” กับลูกค้าให้ได้มากกว่าการโพสต์คอนเทนต์ทั่วไป Xiaomi Taiwan มองเห็นโอกาสนี้และได้ให้ความไว้วางใจ Appier เพื่อนำ BotBonnie เครื่องมือ Marketing Automation บน LINE, Facebook, Instagram มาช่วยยกระดับการสื่อสารกับแฟนคลับในกิจกรรม Xiaomi Fan Festival 2024 และแคมเปญ “Heartbeat” กับ “The Moment” ผลลัพธ์คือ Engagement เพิ่มขึ้นกว่า 100+ ผู้ใช้ใหม่ ยอดไลก์เฉลี่ยมากขึ้น 5 เท่า อัตราการทำกิจกรรมจบครบ 98% ทำความรู้จักแบรนด์ Xiaomi Xiaomi Corporation ก่อตั้งในปี 2010 และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (1810.HK)บริษัทเป็นหนึ่งในผู้นำด้าน สมาร์ทโฟนและอุปกรณ์อัจฉริยะ (Smart Devices) ที่เชื่อมต่อกันผ่าน IoT Platform วิสัยทัศน์ของ Xiaomi “Make friends with users and be the coolest company in the users’ hearts.” ปัจจุบัน Xiaomi เป็นหนึ่งในแบรนด์สมาร์ทโฟนชั้นนำของโลก ติดอันดับ 3 อันดับแรกของยอดขายทั่วโลก โดยข้อมูล ณ มีนาคม 2024 ผู้ใช้งานประจำต่อเดือน (MAU)...
Continue readingAsana Features Updated ประจำเดือนพฤศจิกายน 2025
สำหรับ Asana Package Personal และ Basic Enhanced password requirements and admin controls: ผู้ใช้งาน Asana ทุกคนต้องตั้งรหัสผ่านอย่างน้อย 8 ตัวอักษร และไม่สามารถใช้รหัสผ่านที่เคยถูกตรวจพบว่าถูกละเมิดได้ โดยผู้ดูแลระบบ (Admins) สามารถกำหนดความยาวขั้นต่ำของรหัสผ่านในโดเมนได้สูงสุดถึง 20 ตัวอักษร Chart color update: ปรับโทนสีของกราฟและแผนภูมิให้มีความสอดคล้องกันมากขึ้น เพื่อให้ข้อมูลดูอ่านง่ายและเป็นมืออาชีพยิ่งขึ้น Smart Workflow Gallery: เริ่มต้นโปรเจกต์ใหม่ได้รวดเร็วขึ้นด้วยเทมเพลตและเวิร์กโฟลว์ที่ Asana แนะนำให้เหมาะกับงานของคุณมากที่สุด สำหรับ Asana Package Starter และ Premium Proactive rule suggestions: Asana จะแนะนำการตั้งค่าอัตโนมัติที่เหมาะกับแต่ละโปรเจกต์ รวมถึงกฎ (Rules) ที่ใช้ AI เพื่อช่วยให้เวิร์กโฟลว์ทำงานได้อัตโนมัติทั้งกระบวนการ ดูรายละเอียดเพิ่มเติม ที่นี่ Reference custom fields: สามารถแนบงาน (Tasks), โปรเจกต์ (Projects), พอร์ตโฟลิโอ (Portfolios) และเป้าหมาย (Goals) เข้ากับฟิลด์ต่าง ๆ ได้โดยตรง เพื่อให้เห็นความเชื่อมโยงระหว่างงานได้ชัดเจนขึ้น และนำข้อมูลไปใช้ต่อในระบบอัตโนมัติหรือรายงานได้สะดวกกว่าเดิม ดูรายละเอียดเพิ่มเติม ที่นี่ Relative date triggers now work on subtasks: ตั้งค่าทริกเกอร์ตามวันและเวลาที่ให้ทำงานได้กับทั้งงานหลักและงานย่อย เพื่อให้ระบบอัตโนมัติจัดการเวิร์กโฟลว์ได้ครบและต่อเนื่องมากขึ้น Script rule ownership and editing: ผู้แก้ไขโปรเจกต์ (Project Editor) สามารถดูรายละเอียดของ Script Rule ได้เอง พร้อมทั้งเปลี่ยน Owner หรือแก้ไขกฎได้ เพื่อให้เวิร์กโฟลว์ทำงานต่อเนื่องแม้ Owner เดิมจะเปลี่ยนไป Rule ownership...
Continue readingเคล็ดลับเขียน Prompt บน Asana AI Studio อย่างไรให้ได้ผลลัพธ์ที่ชาญฉลาด
พวกเรากำลังอยู่ในยุคที่ AI เข้ามามีบทบาทสำคัญในเครื่องมือการทำงานทุกประเภท รวมถึงแพลตฟอร์มอย่าง Asana ที่เพิ่มฟีเจอร์ Asana Intelligence (Asana AI) เพื่อช่วยให้ทีมทำงานเร็วขึ้น มีข้อมูลครบและตัดสินใจได้แม่นยำมากขึ้น แต่หัวใจสำคัญของการใช้งาน AI ให้ได้ผลจริง ไม่ได้อยู่ที่เทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว มันอยู่ที่สิ่งที่เราสั่งให้ AI ทำหรือที่เรียกว่า Prompt นั่นเอง การเขียน Prompt ที่ดี จะทำให้ AI ทำงานให้เราได้อย่างมีประสิทธิภาพและได้ผลลัพธ์ที่ตรงกับความต้องการของเรามากขึ้น บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักเคล็ดลับ การเขียน Prompt สำหรับ Asana AI ให้ได้ผลลัพธ์ที่ชาญฉลาดและการตอบสนองที่ดีขึ้น Note: Asana AI และ AI Studio สามารถใช้งานได้สำหรับแพ็กเกจ Asana Starter ขึ้นไปเท่านั้น ผู้ใช้งานแบบ Personal (ฟรี) ไม่สามารถใช้งาน AI ได้ ดูรายละเอียดแพ็กเกจเพิ่มเติมได้ ที่นี่ ทำไมการเขียน Prompt ถึงสำคัญกับ AI? Prompt คือ “ข้อความคำสั่ง” ที่บอกให้ AI รู้ว่าเราต้องการอะไรและอยากให้ AI ทำอะไร เช่น “ช่วยสรุปโน้ตการประชุมให้สั้นใน 3 บรรทัด” “ตั้งชื่อโปรเจกต์ใหม่จากรายละเอียดด้านล่างให้เหมาะกับการตลาด” ยิ่งคุณเขียนคำสั่งได้ชัดเจนมากเท่าไหร่ AI ก็จะเข้าใจและตอบกลับได้ตรงกับความต้องการได้มากขึ้น สำหรับ Asana การเขียน Prompt ที่ดีจะช่วยอะไรบ้าง? สร้างหรือจัดการ Task ได้แบบอัตโนมัติ ให้ AI ช่วยสร้างงานใหม่ หรืออัปเดตข้อมูลใน Task ได้ทันทีตามเงื่อนไขที่ตั้งไว้ วิเคราะห์ข้อมูลหรือสรุปงานให้ ไม่ต้องเสียเวลาอ่านข้อมูลทั้งหมด AI จะช่วยย่อยสาระสำคัญให้ภายในไม่กี่วินาที ช่วยตัดสินใจใน Workflow ได้อย่างแม่นยำ ด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลจากหลายแหล่งพร้อมกัน ทำให้ทีมเห็นภาพรวมก่อนตัดสินใจ ทำงานร่วมกับ Automation และกฎ (Rules)...
Continue readingทำความรู้จัก CDP คืออะไร? และเหตุผลที่นักการตลาดควรรู้จัก AIRIS
CDP หรือ Customer Data Platform เป็นหนึ่งในคำที่ถูกพูดถึงมากขึ้นในแวดวงนักการตลาด เพราะปัจจุบันทุกธุรกิจต้องรับมือกับข้อมูลลูกค้าจำนวนมหาศาลจากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน โซเชียลมีเดีย อีเมล หรือแม้แต่ข้อมูลออฟไลน์ (หน้าร้าน) ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ ข้อมูลกระจัดกระจาย (Data Silos) และไม่สามารถมองเห็นข้อมูลลูกค้าทั้งหมดในภาพรวมเดียวกันได้อย่างครบถ้วน คำถามคือ แล้วจะทำอย่างไรให้ข้อมูลลูกค้าที่กระจัดกระจายเหล่านี้ถูกรวมไว้ที่เดียว เพื่อทำความเข้าใจความต้องการของลูกค้าได้จริงๆ? คำตอบก็คือ Customer Data Platform หรือ CDP นั่นเอง CDP หรือ Customer Data Platform คืออะไร? CDP หรือ Customer Data Platform คือ แพลตฟอร์มที่ช่วยรวบรวมข้อมูลลูกค้าจากทุกช่องทางของธุรกิจแบบ Real-time เพื่อจะได้นำข้อมูลทั้งหมดมาสร้างเป็นโปรไฟล์ลูกค้าแบบ 360° ในที่เดียว คุณลองนึกภาพว่า ลูกค้าคนเดียวกันคลิกเข้าเว็บไซต์คุณจากมือถือ ลงทะเบียนอีเมลไว้ และต่อมาอาจดาวน์โหลดแอปมาใช้งาน หากว่าคุณไม่มีระบบ CDP คุณอาจคิดว่านี่คือลูกค้า 3 คน แต่จริง ๆ แล้วเป็นคนเดียวกันทั้งหมด CDP จะทำหน้าที่เชื่อมโยงข้อมูลเหล่านี้เข้าด้วยกัน และสร้างเป็นโปรไฟล์ที่แม่นยำว่า “นี่คือลูกค้าคนเดียวกัน” พร้อมทั้งเก็บพฤติกรรม การซื้อ ความสนใจ และประวัติการสื่อสารกับแบรนด์ไว้อย่างครบถ้วน ยกระดับ CDP ของคุณไปอีกขั้น ด้วยการขับเคลื่อนจาก AI ของ AIRIS แม้ว่า CDP จะช่วยแก้ปัญหาข้อมูลกระจัดกระจาย และเปิดโอกาสให้นักการตลาดเข้าใจลูกค้าได้ดีขึ้น แต่ CDP แบบเดิมยังมีข้อจำกัด คือ นักการตลาดต้องใช้เวลามากในการวิเคราะห์และตัดสินใจด้วยตนเอง ซึ่งอาจช้าเกินไปสำหรับยุคที่ลูกค้าเปลี่ยนพฤติกรรมอย่างรวดเร็ว และนี่คือจุดที่ AI เข้ามาเสริมพลังให้ CDP ก้าวไปอีกขั้น ทำความรู้จัก AIRIS คืออะไร? AIRIS คือหนึ่งในผลิตภัณฑ์ของ Appier เพื่อช่วยให้การทำงานของนักการตลาดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น Appier ได้เปิดตัว AIRIS ในปี 2022...
Continue readingAsana Features Updated ประจำเดือนตุลาคม 2025
เลือกอ่านหัวข้อที่คุณต้องการได้เลย! สำหรับ Asana Package Personal และ Basic Less feedback in Slack: การยืนยันการกระทำ (Action confirmations) จะไปแสดงเป็น การตอบกลับในเธรด (threaded replies) แทนที่จะเป็นโพสต์หลัก เพื่อลดการรบกวน จากการเชื่อม Slack กับ Asana Mobile push notifications sync across devices: คุณจะไม่ได้รับการแจ้งเตือนบนมือถือ หากคุณได้เก็บ (archived) การแจ้งเตือนเดียวกันนั้นไว้ใน Asana inbox บนเว็บแล้ว Guest authentication with magic links: ผู้ใช้งาน Guest สามารถเข้าสู่ระบบด้วยลิงก์แบบครั้งเดียวที่มีอายุจำกัด (magic links) ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานการยืนยันตัวตนของ FedRAMP/NIST โดยเหตุการณ์ทั้งหมดจะถูกบันทึกใน audit logs และปฏิบัติตามนโยบาย session ของโดเมน ดูรายละเอียดเพิ่มเติม ที่นี่ Multi-filter and multi-sort: สามารถใช้ตัวกรองหลายแบบและการเรียงลำดับหลายเงื่อนไขในมุมมองโปรเจกต์บน Android ได้แล้ว เช่นเดียวกับบน iOS Hide all images on Board view: ใช้ตัวเลือกการแสดงผล (view options toggle) เพื่อปิดภาพหน้าปกทั้งหมดบนบอร์ดของคุณ ทำให้สามารถสแกนงานได้ง่ายขึ้น ดูรายละเอียดเพิ่มเติม ที่นี่ Comment drafts sync on Android: เริ่มเขียนคอมเมนต์บนเว็บหรือ iOS แล้วมาต่อบน Android ได้ แต่เวอร์ชันแรกนี้รองรับเฉพาะแค่ข้อความ (text-only drafts) Team pages: แก้ไขชื่อและคำอธิบายของรายการที่จัดไว้ (curated items) ได้โดยไม่ต้องลบและสร้างใหม่ View...
Continue readingพลิกโฉมทีมการตลาดของ Accor ด้วย Asana เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานเกือบ 100%
Accor บริษัทโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปและหนึ่งในผู้นำระดับโลกที่มีโรงแรมในเครือมากมายรวมถึงในประเทศไทยเองที่รู้จักกันในชื่อโรงแรมต่าง ๆ เช่น SO/, Mövenpick, Pullman, Novotel และ ibis ได้เลือกใช้แพลตฟอร์ม Asana เพื่อยกระดับกระบวนการทำงานด้านการตลาดของพวกเขา ด้วยการรวมการจัดการแคมเปญทั้งหมดไว้ในที่เดียว ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานเพิ่มขึ้น 96% ช่วยลดการประชุมได้ครึ่งหนึ่ง ส่งผลให้ทีมการตลาดมีเวลาที่จะไปโฟกัสกับงานด้านความคิดสร้างสรรค์และการคิดกลยุทธ์มากขึ้น ความท้าทายและอุปสรรคของ Accor ทีมการตลาดของ Accor ต้องเจอกับข้อมูลที่กระจัดกระจายและการสื่อสารหลายช่องทาง ข้อมูลสำคัญกระจายอยู่ใน Excel และ PowerPoint ทำให้การทำงานร่วมกันซับซ้อนและเสียเวลาในการค้นหาข้อมูลนาน รวมถึงยังต้องประชุมและส่งอีเมลจำนวนมาก จนกินเวลาที่ควรใช้กับงานสำคัญอื่น ๆ และความท้าทายยิ่งกว่านั้น คือ ทีมงานในแต่ละภูมิภาคและเขตเวลายังทำงานเชื่อมต่อกันได้ราบรื่นนัก โซลูชันของ Accor Accor ใช้ Asana เป็นแพลตฟอร์มศูนย์กลางในการทำงานด้านการตลาด เชื่อมต่อผู้ร่วมงานภายนอกกว่า 200 ราย ทั้งเอเจนซี่และที่ปรึกษาไว้ในระบบเดียว พร้อมจัดอบรมเฉพาะทีมเพื่อให้ทุกคนใช้งานได้อย่างราบรื่น ผลลัพธ์ของ Accor หลังใช้งาน Asana การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ช่วยพลิกโฉมการทำงานด้านการตลาดของ Accor ด้วยการรวมการสื่อสารไว้ในที่เดียว ส่งผลให้บริษัทสามารถ: เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของทีมขึ้นถึง 96% ลดจำนวนการประชุมและการส่งอีเมลลง 50% มีเวลามากขึ้นสำหรับงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์และการคิดเชิงกลยุทธ์ ด้วยระบบการทำงานใหม่นี้ยังสามารถทำงานร่วมกับทีมทั่วโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้การจัดการโปรเจกต์ง่ายขึ้น และช่วยให้นักการตลาดโฟกัสกับสิ่งที่ตัวเองต้องทำได้ดีที่สุดคือการสร้างและออกแบบแคมเปญที่โดดเด่นเพื่อดึงดูดลูกค้าของพวกเขา “ด้วย Asana เราสามารถสร้างศูนย์กลางของข้อมูลทั้งหมดได้ ช่วยให้การสื่อสารระหว่างทีมท้องถิ่นและทีมทั่วโลกเป็นไปอย่างราบรื่น และทำให้เราวางแผนและจัดการแคมเปญได้โดยไม่กระทบกับงานของทีม” Juliette Dembele Campaign Director at Accor Accor เลือก Asana เพื่อรวบรวมให้การจัดการแคมเปญการตลาดทั้งหมดอยู่ในระบบเดียว นักการตลาดยืนยันว่าเวิร์กโฟลว์ทำงานง่ายและมีความโปร่งใสมากขึ้น ทีมการตลาดมักต้องเจอกับความวุ่นวายในการสื่อสาร ไม่ว่าจะเป็นอีเมลประสานงานที่เยอะเกินไป การประชุมยาวอย่างต่อเนื่อง ไฟล์ข้อมูล Excel ที่กระจัดกระจาย หรือ PowerPoint ที่มีหลายเวอร์ชันจนไม่รู้ว่าอันไหนคือไฟล์ Final Accor ที่มีพนักงานและผู้ร่วมงานกว่า 700 คน ต้องดูแลหลายแบรนด์ใน 4 ภูมิภาคทั่วโลก และต้องจัดการแคมเปญการตลาดหลายร้อยแคมเปญในแต่ละปี ซึ่งก็เผชิญกับความท้าทายเดียวกัน Juliette Dembele (Campaign...
Continue reading