Trivago บอกเล่าประสบการณ์การบริหารจัดการลูกค้า

ที่ Trivago พนักงานมากกว่า 950 คนมุ่งเน้นที่จะผลักดันนวัตกรรมทั้งในเครื่องมือค้นหา และการแก้ปัญหาด้านการตลาดของบริษัท โดยการท้าทายสถานะของอุตสาหกรรม ตั้งแต่ปี 2005 บริษัท Trivago เป็นหนึ่งในบริษัทอินเทอร์เน็ตที่เติบโตเร็วที่สุดในภาคเทคโนโลยีการท่องเที่ยว วันนี้ Trivago เป็นบริษัทค้นหาโรงแรมทางอินเทอร์เน็ตที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทุกๆ เดือน มีนักท่องเที่ยวมากกว่า 120 ล้านคนเลือกใช้บริการของ Trivago ในการค้นหาที่พัก เพื่อเปรียบเทียบราคาที่ถูกที่สุดจากโรงแรมมากกว่า 1 ล้านแห่ง เพื่อที่จะให้ข้อมูลที่นักท่องเที่ยวต้องการในเว็บไซต์ Trivago ตระหนักถึงความจำเป็นในการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างโรงแรม จึงได้ทุ่มเทให้กับทีม Hotel Relation และยังส่งมอบประสบการณ์สุด ‘ว้าว’ ให้กับลูกค้า เมื่อพูดถึงรายงานบรรทัดแรก ระบบสนับสนุนจะให้ภาพรวมที่ชัดเจนและรวดเร็ว “การวิเคราะห์ของระบบสนับสนุนเป็นสิ่งที่โดดเด่นจริงๆ การมองเห็นกระบวนการทำงานและความคืบหน้าของทีม Hotelier Care ของเราเป็นเครื่องมือสร้างแรงบันดาลใจที่ยอดเยี่ยม” Savvidis กล่าว สำหรับ Savvidis แล้ว ระบบสนับสนุนนั้นใช้งานง่าย อีกทั้งระบบนี้ยังเป็นทางการและโปร่งใส “คนของเราตอนนี้มีความภาคภูมิใจในงานของพวกเขา แต่สิ่งที่เรารู้สึกสนุกไปกับงานจริงๆก็คือฟังก์ชัน Multi-brand ซึ่งช่วยให้เราสามารถสร้างประสิทธิภาพและความพึงพอใจในบริการให้ดียิ่งขึ้นได้ “ หลังจากดำเนินการใช้ระบบสนับสนุนแล้ว Trivago ทำการสำรวจฝ่ายธุรกิจโรงแรมเพื่อประเมินความพึงพอใจโดยรวม พวกเขาพบว่ามากกว่า 8 ใน 10 ของธุรกิจโรงแรมมีความสุขกับบริการของทีม Hotelier Care ไม่เพียงแค่นั้น ทีมงานของเรายังคงทำงานอย่างหนักเพื่อสร้างความพึงพอใจในปัจจุบันให้ดียิ่งขึ้น โดยการปรับปรุงเทคนิคการตอบสนองต่อไป Savvidis บอกเล่าประสบการณ์ให้ว่า ทีมยังสามารถบรรลุเป้าหมายในการโต้ตอบตลอด 24 ชั่วโมง ธุรกิจโรงแรมส่วนใหญ่เกินครึ่งได้รับการตอบกลับภายในเวลาดังกล่าวอีกด้วย   “การวิเคราะห์ของระบบสนับสนุนเป็นสิ่งที่โดดเด่นจริงๆ การมองเห็นกระบวนการทำงานและความคืบหน้าของทีม Hotelier Care ของเราเป็นเครื่องมือสร้างแรงบันดาลใจที่ยอดเยี่ยม” – Ioannis Savvidis หัวหน้าฝ่าย HOTELIER CARE & OPERATIONS ที่ Trivago ที่มา: Zendesk บริษัท ดีมีเตอร์ ไอซีที จำกัด ผู้ให้บริการระบบ Zendesk ในประเทศไทย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมพร้อมโปรโมชั่นพิเศษ โทรเลย!  02-675-9371...

Continue reading

การปฏิบัติงานบริหารลูกค้า 4 ประเภท บริษัทของคุณอยู่ในประเภทใด?

“การกระทำสำคัญกว่าคำพูด” จริงไหม? แน่นอนว่าสิ่งที่คุณปฏิบัตินั้นย่อมมีความหมายมากกว่าสิ่งที่คุณพูด หรือสิ่งที่คุณเป็นอยู่แล้ว วลีนี้ไม่ได้ใช้เพียงแค่กับผู้คนเท่านั้น แต่ยังสามารถประยุกต์ใช้เข้ากับการขาย การตลาด โซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดการด้านบริการลูกค้า จากรายงานของ Zendesk Benchmark (เผยแพร่ไว้เมื่อกุมภาพันธ์ ปี 2015) เราตัดสินใจที่จะสำรวจไอเดียนี้โดยการใช้เวลาในการมองข้ามความเป็นอุตสาหกรรมธรรมดา ค้นหาการจัดประเภทที่เกี่ยวข้องและถูกต้องสำหรับการบริการลูกค้าที่มีประสิทธิภาพ   ลักษณะการบริการลูกค้าทั้ง 4 ประเภทขององค์กร จากการใช้กระบวนการวิเคราะห์แบบจัดกลุ่ม เราได้จัดกลุ่มองค์กรบริการลูกค้าตามลักษณะการปฏิบัติงานและการจัดการที่คล้ายคลึงกันและพบว่าทีมสนับสนุนสามารถแบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลัก ๆ เพื่อเป็นแนวทางในการสร้างมาตราฐานที่ดียิ่งขึ้น 1. นักสร้างความสัมพันธ์ (Relationship Builders) เหล่าทีมเล็กพริกขี้หนูเหล่านี้ถนัดในการจัดการความสัมพันธ์ รวมถึงส่งมอบประสบการณ์ที่ทำให้ลูกค้าประทับใจได้ดี วัฒนธรรมนี้สามารถพบเห็นได้จากการขยายการตลาดของพวกเขา 2. ผู้เชี่ยวชาญด้านความจุกจิก (Master of Complexity) บริษัทเหล่านี้มีโครงสร้างการจัดการแบบไดนามิก และดำเนินงานด้านบริการลูกค้าที่จุกจิกและซับซ้อนได้ดีทีเดียว 3. ดอกไม้ที่เบ่งบานช้า (Late Bloomers) ด้วยแนวทางที่ไม่สมดุลในการสนับสนุนการจัดการ บริษัทเหล่านี้เลยยังไม่ได้ตระหนักถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นอย่างเต็มที่ พวกเขาอาจให้ความสำคัญไปยังฝ่ายขายหรือฝ่ายการตลาดของตนมากเกินไป แทนที่จะให้ความสำคัญกับการสนับสนุนลูกค้า (ปัญหาทั่วไปของบริษัท start-ups) 4. กัปตันการชั่ง (Captain of Scale) ทีมงานเหล่านี้ให้ความสำคัญกับการจัดการบริการลูกค้ามากที่สุดเท่าที่พวกเขาทำได้ เพื่อการขายและการตลาด และกำหนดมาตรฐานระดับทองคำในการดำเนินงานสนับสนุนลูกค้าเลยทีเดียว เราไปถึงจุดนั้นกันอย่างไร? ตามแนวทางการวิเคราะห์ จากงานวิจัยได้จัดกลุ่มธุรกิจและองค์กรไว้ 12 กลุ่มด้วยกัน โดยอาศัยตัวชี้วัดที่บอกถึงภาระงานที่คล้ายคลึงกัน กลยุทธ์การสนับสนุน และแหล่งที่มาของการดำเนินงานบริการลูกค้าของพวกเขา ซึ่ง 12 กลุ่มนี้ ถูกแบ่งอย่างละเอียดทีกที จึงได้ออกมาเป็น 4 กลุ่มหลักๆ ที่มีลักษณะการดำเนินงานและการจัดการที่คล้ายกัน การมุ่งเน้นไปที่มาตรฐานการปฏิบัติงานในรายงานฉบับที่ 4 ของเรา ไม่ใช่เพียงแค่การสำรวจข้อมูลที่สนุกสนานเท่านั้น รายงานนี้จะเจาะลึกข้อมูลในแต่ละประเภททั้ง 4 ประเภท (และ 12 กลุ่มย่อย) เพื่อให้ข้อมูลเชิงลึกและเคล็ดลับเช่นเดียวกับเกณฑ์มาตรฐานที่แท้จริงสำหรับการเปรียบเทียบองค์กรต่างๆ ที่มีความหมายและมีความเกี่ยวข้องมากขึ้น แล้วบริษัทของคุณเป็นประเภทไหนล่ะ? เกณฑ์มาตรฐานอุตสาหกรรมรวมทั้งขนาดของบริษัท และประเภทกลุ่มเป้าหมายยังคงเป็นเรื่องใหญ่สำหรับหลาย ๆ บริษัท ที่กำลังมองหาภาพรวมในการเปรียบเทียบ แต่เราค้นพบว่าหลายบริษัทจะเกี่ยวโยงกับบริษัทที่มีการดำเนินงานและการจัดการที่คล้ายคลึงกัน โดยไม่คำนึงถึงอุตสาหกรรม ที่มา: Zendesk   บริษัท ดีมีเตอร์ ไอซีที จำกัด ผู้ให้บริการระบบ...

Continue reading

การออกแบบหน้าเพจ”คำถามที่พบบ่อย”เพื่อให้ลูกค้าสามารถแก้ไขปัญหาได้ด้วยตัวเอง

การพูดคุยกันเป็นเรื่องที่ดี และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสนับสนุนลูกค้าของคุณก็ทำได้ดีทีเดียว แต่จริงๆแล้ว จากการสำรวจของ Zendesk พบว่า  67% ของลูกค้าต้องการติดต่อสอบถามไปยัง call center  91% ลูกค้าที่ชอบค้นหาคำตอบด้วยตนเอง หาคำตอบด้วยตนเองจากหน้าเพจ FAQ เพื่อความสะดวกรวดเร็ว  ดังนั้น การดีไซน์หน้าเพจ FAQ จึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามในการสร้างความพึงพอใจต่อผู้ใช้งานให้มีประสิทธิภาพ แถมยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างบริษัทของคุณกับลูกค้าอีกด้วย ระบุเป้าหมาย Christopher Calabrese UX ดีไซน์เนอร์ระดับสูงแห่ง Cooper ในนิวยอร์กกล่าวว่า ก่อนที่คุณและทีมจะดีไซน์หน้าเพจ “คำถามที่พบบ่อย” บนเว็บไซต์ของคุณ ควรตอบคำถามให้ได้ก่อนว่า ทำไมองค์กรของคุณต้องการเป็นหนึ่งในอันดับแรก? ถ้าเว็บไซต์ของคุณสร้างความสับสนให้แก่ลูกค้า และลูกค้าไม่สามารถหาข้อมูลสำคัญได้ งั้นหน้าเพจ “คำถามที่พบบ่อย” ก็จะเป็นเพียงแค่กล่องยาที่รักษาโรคไม่ได้ แค่นั้นเอง อย่าลืม ‘ใคร’ ในคำถามที่พบบ่อย สร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ชมเว็บไซต์ คือสิ่งสำคัญที่สุด ในส่วนของหน้าคำถามที่พบบ่อย อย่าไขว้เขวกับภารกิจหลักเด็ดขาด ซึ่งในที่นี้คือเวลาลูกค้ามีคำถามที่ต้องการคำตอบ การให้ข้อมูลที่เรียบง่ายและตรงประเด็นคือสูตรลับแห่งชัยชนะ มีสิ่งที่ควรพินิจพิเคราะห์อยู่ 2 อย่างด้วยกัน อย่างแรกคือ คำถามในหน้าเพจคำถามที่พบบ่อยของคุณ ควรเป็นคำถามที่คาดว่าลูกค้าจะถามจริงๆ ไม่ใช่ว่าใส่อะไรลงไปก็ได้ ดังนั้นควรลองถามพนักงานคนอื่นๆดูก่อน อย่างที่สองคือ สมมติว่ามีคำถามประมาณ 4-5 คำถามบนเพจ ลองเอาออกแล้วใส่ส่วนขยายสำหรับคำตอบบริเวณด้านล่างคำถามแทน ลูกค้าของคุณจะได้ไม่ต้องคลิกนั่นคลิกนี่ ลงทุนกับสื่อต่างๆอย่างวิดีโอให้คำแนะนำ หรือรูปภาพสวยๆ ถ้าเป็นไปได้ก็ควรหลีกเลี่ยงกล่องข้อความที่เด้งขึ้นมาเพื่อเรียกยอดไลค์ สิ่งใดก็ตามที่ช่วยให้ผู้ใช้เว็บไซต์บรรลุเป้าหมายที่ต้องการได้ จะนำไปสู่ประสบการณ์ที่น่าทึ่งได้ดีทีเดียว มือถือ มือถือ มีแต่มือถือเต็มไปหมด กฎเหล็กที่ขาดไม่ได้เลยคือ ลูกค้าของคุณใช้โทรศัพท์มือถือกันทั้งนั้นนะ และพวกเขาก็คาดหวังที่จะใช้บริการจากคุณไม่ว่าจะเป็นตอนใช้คอมพิวเตอร์ที่บ้าน หรือตอนใช้โทรศัพท์มือถือ ดีไซน์หน้าเว็บไซต์และเว็บเพจต่างๆของคุณ ต้องทำให้โทรศัพท์มือถือสามารถรองรับได้ แล้วก็คำนึงถึงความสวยงามด้วยล่ะ การวางกลยุทธ์แพลตฟอร์มบนมือถือเป็นเรื่องที่ดี แต่อย่าให้มันมีบทบาทสำคัญมากกว่า หรือแยกมันออกจากเว็บไซต์หลักของคุณ เพราะว่าการดีไซน์แพลตฟอร์มบนมือถือเป็นแค่ส่วนหนึ่งของการทำเว็บไซต์ของคุณเท่านั้น เป็นอย่างไรบ้างล่ะ? ยอดเยี่ยมมาก! ตอนนี้คุณได้ออกแบบหน้าเพจ FAQ ที่ดีที่สุดในโลกเป็นที่เรียบร้อย ผ่านเข้ารอบต่อไปได้เลย หลังจากนั้นก็ควรสำรวจด้วยว่าเพจคำถามที่พบบ่อยของคุณ ประสบความสำเร็จต่อผู้ใช้งานหรือลูกค้าของคุณหรือเปล่า ตรวจดูข้อมูลต่างๆบนเว็บไซต์ และลองถามพนักงานของคุณด้วยว่าพวกเขาได้ยินอะไรจากลูกค้าบ้างหรือเปล่า? ที่มา: Zendesk สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ราคา Zendesk พร้อมโปรโมชันพิเศษ โทร. 02 030 0066 Facebook Page : @demeterict support@dmit.co.th Official LINE...

ส่งมอบประสบการณ์ที่แสนพิเศษให้ลูกค้าออนไลน์

หากตอนนี้คุณเป็นหัวหน้าทีมสนับสนุนที่กำลังยุ่งอยู่กับทีมเพื่อจัดการ KPI ลองนึกภาพชุดข้อมูลที่เน้นคำแนะนำและการดำเนินการที่เรียบง่าย ให้คุณสามารถใช้งานได้เพื่อบรรลุเป้าหมายของคุณ เรามีประสบการณ์ทั้งหมดที่น่าหงุดหงิดเมื่อคุณกำลังออนไลน์และต้องการความช่วยเหลืออย่างมาก แต่กลับไม่มีวิธีที่สะดวกและรวดเร็วในการติดต่อกับบริษัท อาจจะเป็นหน้าเพจ “ติดต่อเรา” ที่มีแต่ข้อมูลติดต่อพื้นฐานอย่างเบอร์โทรศัพท์ หรืออีเมล์ แต่ไม่มีสิ่งใดยืนยันว่าคุณจะได้รับการตอบกลับเมื่อไหร่ นี่เป็นประสบการณ์ที่คุณให้กับลูกค้าของคุณอยู่หรือไม่? ในโพสต์นี้เราจะแบ่งปันวิธีการที่ทำให้บริษัทของคุณโดดเด่น ด้วยประสบการณ์ออนไลน์ที่ไร้รอยต่อกับลูกค้า ในขณะเดียวกันก็ช่วยทีมสนับสนุนของคุณสามารถเร่งเวลาในการแก้ปัญหาได้อย่างทันท่วงที Zendesk Web Widget จึงนำพลังของ Zendesk มาสู่เว็บไซต์ของคุณผ่านการติดต่อในรูปแบบต่างๆ อย่างการแชทสด และคำแนะนำที่ฝังอยู่ในส่วนของการบริการด้วยตนเอง ลองมาดูรายละเอียดกันเถอะ ทำให้มั่นใจได้ว่าเราจะไม่ห่างจากคุณ ลูกค้าของคุณไม่ควรต้องไปตามล่าขอความช่วยเหลือ ลดประสบการณ์ออนไลน์แย่ๆ ของพวกเขาด้วยการทำให้การขอความช่วยเหลือและค้นหาคำตอบเป็นเรื่องง่าย ไม่ว่าจะใช้อุปกรณ์ใดก็ตาม เมื่อฝังเว็บวิดเจ็ตนี้ลงในเว็บไซต์แล้วล่ะก็ คลิกเพียงครั้งเดียวก็สามารถให้คำแนะนำ หรือให้คำตอบกับลูกค้าของคุณได้เลย นอกจากนี้สิ่งที่เป็นความรู้ที่เกี่ยวข้องจะได้รับการแนะนำโดยอัตโนมัติ หากลูกค้ายังต้องการความช่วยเหลือพวกเขาสามารถเลือกประเภทของคำถามก่อนที่จะได้รับข้อมูลที่เกี่ยวข้องอีกด้วย ***กดดูคลิป*** แก้ปัญหาได้เร็วขึ้นด้วยระบบบริการตนเอง ไม่ใช่คำถามทั้งหมดต้องได้รับการตอบกลับแบบส่วนตัวและไม่ใช่ลูกค้าทุกคนมีเวลาหรือมีความปรารถนาต่อสิ่งเดียว การแสดงสิ่งที่เป็นความรู้โดยตรงในเครื่องมือช่วยให้ลูกค้าสามารถค้นหาคำตอบได้เองแทนที่จะรอการตอบกลับ ทำให้ประสบการณ์นั้นดียิ่งขึ้นเพื่อให้ลูกค้าไม่ต้องมานั่งมองหาเนื้อหาที่ต้องการ ซึ่งความช่วยเหลือตามบริบทในเว็บวิดเจ็ตจะแสดงสิ่งที่เป็นความรู้เบื้องต้นโดยอิงตามหน้าเว็บที่ลูกค้ากำลังดูอยู่ ยกตัวอย่างเช่น หากลูกค้ากำลังมองหาหน้าเช็คเอาต์ พวกเขาสามารถหาบทความเกี่ยวกับการชำระเงินหรือตัวเลือกการจัดส่งได้เมื่อคลิกที่วิดเจ็ต ลูกค้าที่หาคำตอบเองนั้นจะช่วยย่นระยะเวลาในการรอการตอบกลับ และเป็นโอกาสสำหรับทีมสนับสนุนของคุณเพื่อให้ความสำคัญกับคำถามที่ท้าทายมากขึ้น ตรวจจับข้อมูลมากขึ้นอย่างแม่นยำและรวดเร็ว การจับข้อมูลตามบริบทจากลูกค้าจะช่วยลดความไม่แน่นอนในการแก้ปัญหา ตัวอย่างเช่น ได้รับหมายเลขคำสั่งซื้อของลูกค้าก่อนที่พวกเขาจะส่งคำถามเกี่ยวกับสถานะการสั่งซื้อ โดยโฟกัสไปยังข้อมูลที่มีความสำคัญจริงๆ ลูกค้าจะไม่รู้สึกจมอยู่กับรูปแบบที่ยืดเยื้อ ในขณะที่ตัวแทนสนับสนุนยังมีทุกสิ่งทุกอย่างที่ต้องการจะเสนอรายละเอียดในเวลาอันรวดเร็ว ในกรณีที่เป็นไปได้คุณสามารถหลีกเลี่ยงการทิ้งภาระให้กับลูกค้าเพื่อให้ข้อมูลโดยการใช้ข้อมูลที่คุณมีอยู่แล้วจากเส้นทางของลูกค้าด้วยแอพพลิเคชัน Pathfinder ที่ตัวแทนสนับสนุนสามารถดูหน้าเพจต่างๆ ที่ลูกค้าเข้าชม ค้นหา รวมถึงบทความที่พวกเขาดูก่อนที่จะเข้าถึงในส่วนของความช่วยเหลือได้ ติดตั้งข้อมูลนี้เพื่อให้ตัวแทนสนับสนุนสามารถตอบสนองได้ดียิ่งขึ้น เว็บวิดเจ็ตนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้มั่นใจได้ว่า ความช่วยเหลือนั้นสามารถค้นหาได้อย่างง่ายดายเสมอ โดยมีตัวเลือกด้านบริการตนเองและศูนย์กลางเพื่อให้ลูกค้าสามารถได้รับสิ่งที่ต้องการได้ในเวลาที่รวดเร็วที่สุด สำหรับในส่วนบริษัทของคุณนั่นหมายถึงการทำให้ลูกค้าพึงพอใจจากการบริการที่สามารถตอบสนองได้มากขึ้น อีกทั้งทีมสนับสนุนที่มีบริบทมากขึ้นจากคำถามที่ได้รับ เพื่อให้สามารถสนับสนุนและช่วยเหลือลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น ที่มา : Zendesk สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ราคา Zendesk พร้อมโปรโมชันพิเศษ โทร. 02 030 0066 Facebook Page : @demeterict support@dmit.co.th Official LINE...

ระบบAI(แชทบอท) มีการกำหนดแนวโน้มการสนับสนุนลูกค้าล่าสุดอย่างไร ?

อนาคตอันใกล้นี้ มีไว้สำหรับเราแล้วหรือยัง? ตอนนี้เต็มไปด้วยรถยนตร์ที่ขับด้วยตัวเอง ผู้ดูแลอันโนมัติสำหรับคิว Netflix และนวัตกรรมบ้านที่มีการตรวจและปรับอุณหภูมิให้เหมาะกับคุณ  ปัญญาประดิษฐ์เหล่านี้ มีแนวโน้มที่จะสัมผัสกับทุกแง่มุมของชีวิตของเรา เป็นเดิมพันที่จะเปลี่ยนแปลงประสบการณ์ของลูกค้า บอกได้เลยว่าผู้นำธุรกิจกำลังวางชิปของตนในเดิมพันนั้น รายงานล่าสุดของ Gartner พบว่า 55% ขององค์กรชั้นนำ เริ่มลงทุนในศักยภาพของปัญญาประดิษฐ์ หรือวางแผนที่จะดำเนินการดังกล่าวภายในปี 2563 ด้วยความตื่นตัวที่เพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มที่จะได้รับจากระบบอัตโนมัติ นวัตกรรม AI บริการ จึงมีวิธีที่พวกเขามีที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงต่อไป ดังนี้ : Chatbot chatbots หรือระบบการตอบลูกค้าผ่านระบบแชท โดยที่ไม่ต้องมีพนักงานอยู่หน้าจอคอมในเวลานั้น เพื่อความสะดวก รวดเร็วและให้ลูกค้าพึงพอใจเป็นอย่างมาก กลายเป็นตัวช่วยพิเศษสำหรับธุรกิจ แต่โปรดจำไว้ว่านั่นไม่ใช่หมายความว่า chatbots กำลังจะมาแทนที่เจ้าหน้าที่ การละเลยงานหุ่นยนต์ให้กับหุ่นยนต์เป็นโอกาสสำหรับองค์กรในการพัฒนาแนวทางในการให้บริการด้วยตนเอง เจ้าหน้าที่ฝ่ายสนับสนุนจะไม่จมอยู่กับหน้าที่ระดับต่ำ เช่นรีเซ็ตรหัสผ่าน และสามารถมุ่งเน้นเพิ่มเติมเกี่ยวกับการริเริ่มใหญ่และซับซ้อนมากขึ้น การสนับสนุนหลายช่อง ฝ่ายบริการลูกค้า AI มักจะมีความสามารถในการกำกับการเดินทางของลูกค้า และนำลูกค้าไปยังช่องทางสนับสนุนอื่นๆ เมื่อจำเป็น ตัวอย่างเช่นการแชทอย่างรวดเร็วผ่านโปรแกรมการรับส่งข้อความ โดยทั่วไปจะนำไปสู่ความละเอียดที่รวดเร็วกว่าการตอบกลับทางอีเมล ฝ่ายบริการลูกค้า AI สามารถรับรู้ปัญหาทั่วไปที่ได้รับการแก้ไขได้ดีที่สุดผ่านทางช่องทางหนึ่งๆ และนำลูกค้าโดยตรงไปหาลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าและตัวแทนมีความสะดวกรวดเร็ว : ลูกค้ามีปัญหา ในการแก้ไขได้อย่างมีประสิทธิภาพตัวแทนติดอยู่ (หรือปรับปรุง) ข้อตกลงระดับบริการ (SLA) และช่องทางการสนับสนุนที่ทำงานหนักเกินไปจนหยุดพักได้ Better Times ความละเอียด AI สำหรับการบริการลูกค้า มีศักยภาพที่จะเพิ่มความเร็วในการแก้ไขปัญหาใบสั่งงาน (Ticket ) ได้อย่างรวดเร็ว บริการอัตโนมัติไม่เพียงแต่สามารถให้คำตอบอย่างรวดเร็วเท่านั้น แต่ยังช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถจัดการปัญหาที่หุ่นยนต์ไม่สามารถจัดการได้ง่ายขึ้น ให้ความช่วยเหลือเป็นพิเศษแก่เจ้าหน้าที่ ให้คำแนะนำสำหรับวิธีจัดการปัญหาได้ดีที่สุด ความสามารถในการบริการลูกค้า AI เพื่อทำความเข้าใจรูปแบบและการเรียนรู้พฤติกรรมขั้นพื้นฐานของมนุษย์ จะทำให้ปัญญาประดิษฐ์เป็นประโยชน์ต่อเจ้าหน้าที่เท่าที่จะเป็นไปได้ ที่มา – Zendesk สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ราคา Zendesk พร้อมโปรโมชันพิเศษ โทร. 02 030 0066 Facebook Page : @demeterict support@dmit.co.th Official LINE...

เราจะใช้อะไรในการให้บริการลูกค้าที่ดีกว่าระหว่าง Live Chat หรือโทรศัพท์ สำหรับ SMART SME

เครื่องมือการบริการลูกค้าในปัจจุบันไม่ใช่เรื่องที่เหมาะกับทุกอย่าง ช่องทางการติดต่อสื่อสารทางสังคมโทรศัพท์ อีเมล การแชท มีประโยชน์แตกต่างกันไปให้กับ บริษัท และลูกค้า  เมื่อพูดถึงการบริการลูกค้าส่วนบุคคลตามความต้องการส่วนบุคคล การแชทสด และโทรศัพท์เป็นทางเลือกที่ชัดเจนที่สุดโดยที่ทั้งคู่ อนุญาตให้มีการเชื่อมต่อระหว่างลูกค้าและลูกค้าสามารถอธิบายปัญหาหรือตั้งคำถามและรับคำตอบได้ทันที มีความแตกต่างที่สำคัญซึ่งอาจส่งผลต่อทีมลูกค้าและธุรกิจของคุณ ความแตกต่างระหว่างการ แชทสด กับ การสนับสนุนทางโทรศัพท์ เป็นเรื่องสำคัญ ในขณะที่การสนับสนุนทางโทรศัพท์มักเป็นปฏิกิริยา (สนทนากับลูกค้า /เริ่มต้นการสนทนา) สามารถใช้งานเป็นช่องทางการสนับสนุนเชิงรุกได้ เช่น ด้วยการแชทสดตัวแทนสามารถชักชวนลูกค้า หรือตอบคำถามที่ทำให้พวกเขาไม่ต้องคลิกที่ “ซื้อ” , ซึ่งปัญหาบางอย่างก็ไม่สามารถทำได้ผ่านทางโทรศัพท์ อีกความแตกต่างที่สำคัญระหว่างการ แชทสด และ การสนับสนุนทางโทรศัพท์ คือการบันทึกและทบทวนบทสนทนาของลูกค้า การสนทนาที่เก็บไว้ในข้อความสามารถค้นหาได้ง่ายขึ้น และสามารถเปิดเผยข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับเวลาที่ลูกค้าต้องการความช่วยเหลือได้อย่างชัดเจน การวิเคราะห์การแชทสดให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับลิงก์การแนะนำผลิตภัณฑ์ (สิ่งที่นำมายังไซต์ของคุณ) และระบบปฏิบัติการ  (วิธีที่ลูกค้าต้องการเข้าถึงคุณ) สถานะที่ใช้งาน หรือไม่ได้ใช้งานเวลาในเว็บไซต์จำนวนการเข้าชมจำนวนการแชทและที่ตั้ง  การแชทสดเป็นสิ่งล้ำค่า แทนที่จะใช้เวลาที่ลูกค้าเสียเวลาเล่าปัญหาซ้ำ ตัวแทนสามารถดูการสนทนาก่อนหน้านี้และเลือกบทสนทนาที่ปิดไว้ ลูกค้าสามารถรับสำเนาบทสนทนาสำหรับบันทึกของตนเองได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากมากกับการถอดเสียงโทรศัพท์ด้วยตนเอง  การแชทสด ช่วยให้บริษัทและลูกค้ามีความยืดหยุ่นมากขึ้น สำหรับตัวแทนหรือลูกค้าที่ไม่สะดวกในการสนทนาเนื่องจากปัญหาทางภาษาหรือบุคลิกภาพของพวกเขา สามารถแชทติดต่อสอบถามได้อย่างง่ายดาย ตัวแทนฝ่ายบริการลูกค้าสามารถแก้ปัญหาของลูกค้าได้ดี ผ่านการแชทสด     สุดท้ายพิจารณาผลกระทบทางการเงินของแต่ละแพลตฟอร์มเมื่อเปรียบเทียบ แชทสด กับ การสนับสนุนทางโทรศัพท์ สายด่วน สำหรับการสนับสนุนทางโทรศัพท์มีค่าใช้จ่ายที่สูง และต้องใช้ระยะเวลารอ แต่ในทางกลับกัน แชทสดเป็นบริการฟรีแก่ลูกค้า (ผลิตภัณฑ์ของ Zendesk มีความสามารถที่บันทึกประวัติการแชทได้) คำถามของลูกค้าจะได้รับการตอบสนองอย่างรวดเร็ว พร้อมกับการลดราคาค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น เมื่อมีการโยกย้ายการสนทนาจากศูนย์บริการไปยังวิดเจ็ตการแชท ทีมบริการลูกค้าสามารถช่วยลูกค้าจำนวนมากได้ตลอดเวลา ลดเวลาในการแก้ไขและการรอ รวมถึงค่าใช้จ่ายที่ถูกลงอย่างมาก ที่มา – Zendesk สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ราคา Zendesk พร้อมโปรโมชันพิเศษ โทร. 02 030 0066 Facebook Page : @demeterict support@dmit.co.th Official LINE...

มาดูเบื้องหลังความสำเร็จของบริษัทระดับโลกอย่าง Lazada และเคล็ดลับเพิ่มประสบการณ์ที่ดีกับลูกค้าของเค้ากัน!

มาดูเบื้องหลังความสำเร็จของบริษัทระดับโลกอย่าง Lazada และเคล็ดลับเพิ่มประสบการณ์ที่ดีกับลูกค้าของเค้ากัน! การบริการลูกค้าถือว่าเป็นสิ่งสำคัญอันดับหนึ่งในทุกๆธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการบริการก่อนและหลังการขาย ถือว่าเป็นปัจจัยหลักที่จะส่งผลต่อการปิดดีลการขายได้ มาดูกันดีกว่าว่าทาง Lazada มีวิธีบริหารและใช้เครื่องมืออะไรบ้างในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน LAZADA      บริษัทยักษ์ใหญ่ด้าน e-commerce ในภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ครอบคลุมถึงประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลลิปปินส์ สิงคโปร์ เวียดนาม และประเทศไทย ซีอีโอของ Lazada คุณ Maximilan Bittner ได้กล่าวถึงจุดสำคัญที่ทำให้บริษัทเติบโตด้วยอัตราที่รวดเร้วไว้ว่า “สิ่งสำคัญคือการโฟกัสให้เพียงไม่กี่จุดเท่านั้น แต่ไม่กี่จุดนั้นต้องเป็นจุดที่สำคัญ” ซึ่งจัดสำคัญที่ซีอีโอพูดถึงมีอยู่ 3 จุดหลักๆ คือ           1. การบริการลูกค้า                    2. การบริหารจัดการผู้ขาย               3. ความพึงพอใจของพนักงาน        (Customer Support)                    (Vendor Management)                  (Employee Satisfaction) แล้ว Lazada ทำอย่างไรถึงสามารถบริหารจัดการสามสิ่งนี้ให้มีประสิทธิภาพในเวลาเดียวกันได้?  ถ้าคุณมีธุรกิจส่วนตัวหรือทำงานในองค์กรใหญ่ๆก็จะรู้ดีว่าการที่จะมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้านั้น การทำงานเบื้องหลังไม่ได้ดูสมูทเหมือนภาพที่ออกมาเสมอไป ส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าก็คือ การใช้โปรแกรม helpdesk เข้ามาช่วยจัดการอย่างเช่น Zendesk Support กว่า 1,600 เอเจ้นท์ในบริษัท Lazada เพราะสิ่งที่ Lazada ต้องจัดการคือการจัดการระหว่าง ลูกค้าที่ซื้อสินค้ากับบริษัทขนส่งต่างๆในแต่ละประเทศ  และนี่ก็คือเคล็ดลับที่ทำให้ Lazada สามารถสร้างประสบการณ์ที่ดีกับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความเจ๋งอีกอย่างหนึ่งของ Zendesk นั่นก็คือ...

Continue reading

ลูกค้าติดต่อซัพพอร์ตและกำลังโกรธ? Zendesk พยากรณ์ได้ด้วย Machine Learning

Zendesk ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ CRM สำหรับบริการลูกค้าชื่อดัง นำเทคนิค machine learning เข้ามาช่วย “พยากรณ์” อารมณ์ของลูกค้าว่าแย่แค่ไหน เพื่อให้พนักงานเตรียมรับมือกับลูกค้าได้ทันท่วงที ฟีเจอร์ใหม่ของ Zendesk เรียกว่า Satisfaction Prediction โดยจะนำฐานข้อมูลการบริหารลูกค้าจำนวนมหาศาลของ Zendesk มาวิเคราะห์ด้วยเทคนิค machine learning จากนั้นในอนาคต ถ้าหากลูกค้ามีแนวโน้มว่ากำลังโกรธหรืออารมณ์เสีย ระบบจะแจ้งเตือนพนักงานดูแลลูกค้าเป็นลำดับคะแนน 0-100 (0 คือแย่ที่สุด) เพื่อให้พนักงานสามารถจัดลำดับความสำคัญ มาช่วยดูแลลูกค้ากลุ่มนี้ก่อน Zendesk ระบุว่าพิจารณาปัจจัยหลายอย่างประกอบกัน เช่น ดูว่าลูกค้าตั้งใจกรอกแบบฟอร์มขอความช่วยเหลือมากน้อยแค่ไหน พนักงานตอบสนองเร็วหรือไม่ รูปแบบของภาษาที่ใช้ในฟอร์ม เป็นต้น ฟีเจอร์นี้เริ่มเปิดใช้กับลูกค้า Zendesk Enterprise บางรายแล้ว และจะขยายกลุ่มผู้ใช้ต่อไปในปี 2016 ที่มา – Zendesk    สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ราคา Zendesk พร้อมโปรโมชันพิเศษ โทร. 02 030 0066 Facebook Page : @demeterict support@dmit.co.th Official LINE...

มองมุมกลับ เพราะเหตุใดลูกค้าจึงหงุดหงิด

การให้บริการแก่ลูกค้าที่โมโหหรือหงุดหงิดง่ายถือว่าเป็นเรื่องที่น่าปวดหัวและทำให้ผู้ประกอบการหนักใจได้ ไม่ว่าใครก็ตามที่ได้รับคำต่อว่าบ่อยๆนั้นก็จะทำให้เสียสุขภาพจิตซะเปล่าๆยิ่งถ้าเป็นเรื่องที่เราไม่ได้เป็นฝ่ายผิดด้วย คุณอาจจะต้องสร้างกำแพงอารมณ์ขึ้นมาเพื่อเป็นภูมิคุ้มกันเวลารู้สึกเสียใจ คุณอาจจะถึงขั้นรู้สึกไม่พอใจกับลูกค้าของคุณ คุณอาจจะคิดว่า ทำไมลูกค้าถึงไม่เข้าใจเรา? ทำไมต้องงี่เง่าแบบนี้? เดี๋ยวก่อนๆเรามาทำความเข้าใจในฝั่งของลูกค้ากันดีกว่า เข้าใจความโกรธ การช่วยเหลือลูกค้าที่ประสบปัญหาเกี่ยวกับสินค้า/บริการของคุณถือว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง ลูกค้ากำลังประสบปัญหาซึ่งปัญหานั้นมันน่าหงุดหงิด! ซึ่งมันก็เป็นสิ่งที่สมเหตุสมผลที่บางรายจะรู้สึกหงุดหงิด อารมณ์เสีย หรือแม้กระทั่ง โมโหจนเลือดขึ้นหน้าหรือเปล่า? พวกเราในฐานะที่มีหน้าที่บริการลูกค้า (customer service) ก็จะถูกคาดหวังว่าจะสามารถอดทนและก้าวผ่านสถานการณ์นั้นๆได้และการเอาใจใส่ลูกค้าเป็นคำตอบที่ดีที่สุด ความโกรธมักจะถูกนิยามว่าเป็นอารมณ์รอง (secondary emotion) – เป็นปฏิกิริยาการป้องกันตนเองจากความทุกข์ทรมานไม่ว่าจะเป็นความทรมานจากความเจ็บปวด (ทางกายและทางอารมณ์) หรือความกลัว ความทุกข์ทรมานทางอารมณ์มักจะถูกมองว่าเกิดจากช่องว่างระหว่างความคาดหวังและการรับรู้ความเป็นจริง อารมณ์โกรธไม่ใช่ข้อแก้ตัวของการกระทำที่ไม่เหมาะสมแต่การทำความเข้าใจถึงสิ่งที่ก่อให้เกิดอารมณ์โกรธสามารถช่วยให้เราให้อภัยได้ง่ายขึ้นเมื่อมีคนมาระเบิดความโกรธใส่เรา ความเศร้าของฝ่าย support เป็นสิ่งที่มักจะเกิดขึ้นเมื่อลูกค้านั้นรู้สึกหงุดหงิดกับฝ่ายบริการลูกค้าหรือ customer support และลูกค้าเหล่านี้ก็มีแนวโน้มที่จะหัวเสียเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นั่นก็เพราะว่าเขาจะไม่ไว้ใจว่าทีม support จะแก้ไขปัญหาให้ได้หรือเต็มใจแก้ปัณหาให้อีกต่อไป สิ่งเหล่านี้อาจเกิดจากการที่ลูกค้าเคยประสบกับกับการบริการที่ไม่ดีจากองค์กรของคุณมาก่อน หรืออาจจะเคยพบเจอปัญหาเหล่านี้จากองค์กรต่างๆมานักต่อนัก จนทำให้ลูกค้าเหล่านี้ไม่เชื่อใจองค์กรไหนก็ตามว่าจะใส่ใจกับปัญหาของพวกเขา                              สิ่งนี้เกิดจากอะไร? ลูกค้าเหล่านี้เบื่อหน่ายที่จะรอความช่วยเหลือที่ชักช้า ลูกค้าเหล่านี้คิดว่าเขาจะไม่ชอบทางแก้ปัญหาของคุณ ลูกค้าเหล่านี้ถูกส่งสายต่อหรือส่งเรื่องต่อไปเจ้าหน้าที่หลายต่อหลายคน แต่ก็ยังไม่ได้ทางแก้ปัญหาที่ชัดเจน ลูกค้าเหล่านี้ยังมีปัญหาอื่นที่ยังค้างอยู่ที่คุณก็ยังไม่ได้หาทางแก้ไขให้ พวกเขาเคยมีประสบการ์ณที่ไม่ดีกับการซัพพอร์ตไม่ว่าจะเป็นจากองค์กรของคุณหรือองค์กรอื่นๆก็ตาม ระดับความต้องการหรือความคาดหวังของการให้บริการจากฝ่ายซัพพอร์ตของลูกค้าอาจจะมากกว่าสิ่งที่ฝ่ายซัพพอร์ตสามารถทำให้ได้ แล้วเราจะมีวิธีอย่างไรที่จะดึงความเชื่อใจกลับมาจากลูกค้ากลุ่มนี้? จะมีวิธีใดที่จะสามารถทำให้ฝ่ายซัพพอร์ตสามารถดูแลลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น? วิธีหนึ่งที่จะช่วยทำให้เราสามารถรับมือกับลูกค้าได้อย่างรวดเร็วขึ้นคือการนำเครื่องมือ helpdesk มาช่วยในการจัดการรับเรื่องต่างๆจากลูกค้า อย่างเช่นการใช้ Customer Service Platform ที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการรับมือกับลูกค้าและยังถือว่าเป็นการทำ CRM อย่างเช่น Zendesk ที่ติดอันดับ Top 5 platform ที่ช่วยจัดการเรื่อง customer service   บริษัท ดีมีเตอร์ ไอซีที จำกัด พาร์ทเนอร์ของ Zendesk ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ สนใจติดต่อ 026759371 หรือ 0922626390 หรือ Email: support@dmit.co.th ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Zendesk  คลิ๊ก...