บริษัท คลาวด์ เอซ จำกัด ผู้ให้บริการเทคโนโลยี และโซลูชันครบวงจรสำหรับ Google Cloud ประกาศร่วมมือกับ บริษัท ดีมีเตอร์ ไอซีที จำกัด ผู้ให้บริการเทคโนโลยีเพื่อธุรกิจ เช่น Google Workspace เพื่อผลักดันการสร้าง Digital transformation ให้กับองค์กรในประเทศไทย ในฐานะ Google Cloud Partner หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสในประเทศไทย ทำให้องค์กรในประเทศตระหนักถึงความสำคัญของ Digital transformation ไม่ใช่เพียงแค่ให้องค์กรสามารถผ่านพ้นวิกฤตไปได้เท่านั้น แต่รวมถึงโอกาสในการพัฒนาธุรกิจให้รองรับกับความต้องการในยุคที่เทคโนโลยีนั้นเติบโตอย่างรวดเร็ว Google ผู้นำด้านเทคโนโลยีระดับโลกได้สร้างบริการแพลตฟอร์ม Google Cloud บริการคลาวด์สาธารณะที่ปลอดภัย เพื่อการพัฒนาระบบและแอปพลิเคชันที่ดีกว่า และ Workspace เว็บแอปพลิเคชันเพื่อการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพบนระบบคลาวด์ นายยูซุเกะ โคนิชิ (กรรมการผู้จัดการ, บริษัท คลาวด์ เอซ จำกัด) กล่าวว่า “เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากในการเชื่อมความสัมพันธ์ และความร่วมมือกันระหว่างคลาวด์เอซ และดีมีเตอร์ไอซีที ระหว่างสถานการณ์การแพร่ระบาดครั้งใหญ่ของ COVID-19 การที่องค์กรต้องรับมือกับสถานการณ์ และปรับวิถีการทำงานให้เป็นแบบ Remote work กลายเป็นปัจจัยสำคัญในการดำเนินธุรกิจอย่างมาก และตามมาด้วยความต้องการบริการสนับสนุนในการใช้งานเครื่องมือ อย่าง Google Workspace (เดิมชื่อ G Suite) คลาวด์ เอซ และดีมีเตอร์ ไอซีที ในฐานะ Google partner ที่ชำนาญ เราพร้อมสนับสนุนธุรกิจในประเทศไทยให้ดำเนินต่อไปด้วยบริการครบวงจร ตั้งแต่การปรับวิถีของการทำงานด้วย Google Workspace ไปจนถึงการปรับระบบรากฐานทางเทคโนโลยี และนวัตกรรมของทุกองค์กรให้ทันสมัยด้วย Google Cloud“ ดร.วรัญญู สุจิวรพันธ์พงศ์ (ผู้ก่อตั้ง และประธานกรรมการบริหาร, บริษัท ดีมีเตอร์ ไอซีที จำกัด) กล่าวว่า “ความร่วมมือกันระหว่างดีมีเตอร์ ไอซีที และคลาวด์เอซ ในครั้งนี้ เป็นการนำจุดแข็งเฉพาะด้านในผลิตภัณฑ์ของกูเกิ้ลของแต่ละองค์กรมาเสริมความแข็งแกร่งในการให้บริการลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าของเรามีประสิทธิภาพในการทำงานสูงสุดจากผลิตภัณฑ์ของกูเกิ้ล“ ■ เกี่ยวกับ Google...
Continue readingความปลอดภัยของ Google Meet
ในช่วงนี้หลายองค์กรกำลังใช้ Google Meet เพื่อการประชุมออนไลน์ อาจจะมีความกังวลอยู่บ้างในเรื่องของการรักษาความปลอดภัย แต่บอกได้เลยว่า Google Meet นั้นขึ้นชื่อในเรื่องของการรักษาความปลอดภัยและข้อมูลส่วนตัวในระดับสูง ได้รับการรับรองจากมาตรฐานสากลอย่าง ISO/IEC SOC FedRAMP PCI DSS FISC Compliance และ ENS ซึ่งคุณสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัยและสบายใจได้เลย การประชุมของคุณจะปลอดภัยได้อย่างไร รหัสการประชุม – รหัสการประชุมแต่ละรหัสมีความยาว 10 อักขระโดยมี 25 อักขระในชุด วิธีนี้จะทำให้การ “คาดเดา” รหัสการประชุมทำได้ยากขึ้น รายละเอียดการประชุม – หากคุณเปลี่ยนรายละเอียดการประชุมในคำเชิญ รายละเอียดจะเปลี่ยนทั้งรหัสเข้าประชุมและ PIN ทางโทรศัพท์ ซึ่งจะมีประโยชน์อย่างยิ่งหากผู้ใช้ไม่ได้อยู่ในคำเชิญเข้าร่วมการประชุมอีกต่อไป ซึ่งหมายถึงว่าผู้ใช้คนนั้นจะไม่เห็นรายละเอียดและจะเข้าร่วมการประชุมไม่ได้แล้วนั่นเอง การเข้าร่วมการประชุม – ผู้เข้าร่วมภายนอกจะเข้าร่วมการประชุมโดยตรง ก็ต่อเมื่อได้รับคำเชิญให้เข้าร่วมกิจกรรมในปฏิทิน (Calendar) หรือได้รับคำเชิญโดยผู้เข้าร่วมในโดเมนจากการประชุมของ Google Meet เท่านั้น– ผู้เข้าร่วมภายนอกรายอื่นจะต้องขอเข้าร่วมการประชุม จากนั้นสมาชิกขององค์กรที่จัดการประชุมจะต้องยอมรับคำเชิญนั้น– จำกัดไม่ให้ผู้เข้าร่วมภายนอกเข้าร่วมการประชุมล่วงหน้าเกิน 15 นาทีขึ้นไป – ฟีเจอร์เพิ่มเติมต่างๆ เช่น ผู้สร้างการประชุมจะสามารถควบคุมผู้เข้าร่วมประชุมได้ อย่างการปิดไมค์ หรือนำออกจากการประชุมหากพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เรียกได้ว่า Google Meet มีมาตรฐานในการรับรองความปลอดภัยการใช้งานของคุณในระดับสูงและสากล อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ที่รักษาความปลอดภัยการเข้าร่วมประชุมของบุคคลภายนอกองค์กรอีกด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้จะทำให้การประชุมในองค์กรของคุณราบรื่นและไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยอีกต่อไป ที่มา – support.google.com/meet Google Workspace เพื่อการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ บริษัท ดีมีเตอร์ ไอซีที จำกัด ตัวแทนจำหน่าย Google Workspace ในประเทศไทย อย่างเป็นทางการ รายละเอียดแพ็กเกจ 02-030-0066...
5 เหตุผล ทำไมธุรกิจต้องมี Sales CRM
หากพูดถึง CRM (Customer Relationship Management) หลายคนอาจนึกไปถึงซอฟตแวร์หรือเครื่องมือสักอย่างที่ช่วยในการบริหารและพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น ทว่าแม้แต่ CRM เองก็สามารถแบ่งแยกออกไปได้อีกหลายประเภท ขึ้นอยู่กับว่าต้องการใช้ CRM กับเนื้องานใด ทีมซัพพอร์ตอาจใช้ CRM ในการจัดการ Tickets หรือคำร้องที่ถูกส่งเข้ามา ฝ่ายการตลาดอาจใช้ CRM ในการวิเคราะห์ผลตอบรับจากแคมเปญออนไลน์ ขณะที่ฝ่ายขายหรือ Sales มักใช้ CRM ในการปรับปรุง Sales Pipeline (ระบบการวางแผนการขาย) เรามาดู 5 เหตุผลว่าทำไมถึงต้องใช้ Sales CRM กัน 1. ลดความซ้ำซ้อน Sales CRM เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้บริหาร Touchpoint ของลูกค้าผ่านกระบวนการขาย ซึ่ง Touchpoint ในที่นี้ อาจจะเป็นทั้งการมีปฏิสัมพันธ์ทางตรงหรือทางอ้อมกับลูกค้าก็เป็นได้ เครื่องมือ Sales CRM จะช่วยติดตามทุกการสื่อสารต่างๆ นำข้อมูลมาจัดเรียงให้โดยอัตโนมัติ ทั้งส่งแจ้งเตือนกำหนดการในการ follow up leads และอีกมากมาย Sales CRM ยังช่วยลดความยุ่งยากในส่วนของการดูแลลูกค้าเป้าหมาย เมื่อไม่ต้องมานั่งเสียเวลาเรื่องการกรอกเก็บข้อมูลพนักงาน ฝ่ายขายก็สามารถโฟกัสไปที่การสร้างความสัมพันธ์อันดีกับกลุ่มผู้ที่สนใจผลิตภัณฑ์ได้ง่ายขึ้น 2. ระบบการขายแบบรวมศูนย์กลาง พนักงานแผนกขายใช้เวลาเป็นวันในการทำทุกอย่างตั้งแต่รีเสิรช์ยันติดต่อเพื่อดีลกับฝ่ายจัดสรรและฝ่ายขายหน้าร้าน ทางเมเนเจอร์เองก็ยุ่งวุ่นวายกับการมอนิเตอร์เพอฟอแมนซ์ บริหารคลังสินค้า ไหนจะต้องให้คำแนะนำทีมอีก เมื่อไม่มีระบบศูนย์รวมที่ช่วยจัดการงานแต่ละงาน อะไรที่อาจถูกมองว่าเล็กน้อยก็กลายเป็นเรื่องยุ่งยากในแผนกที่นำไปสู่ความไม่มีระเบียบแบบแผนได้ Sales CRM จึงมักถูกออกแบบขึ้นมาในรูปแบบของ one-stop solution ให้รองรับกับการทำงานในแต่ละวัน สามารถบูรณะเข้ากับเครื่องมืออื่นที่กำลังใช้งานอยู่ตลอดจนช่องทางสื่อสารต่างๆ มากมาย ให้การจัดการงานทั้งหมดสามารถทำครบจบในแพลตฟอร์มเดียว การมีระบบที่รวมศูนย์กลางนี้ยังช่วยให้องค์กรมีรากฐานที่น่าเชื่อถือ พนักงานฝ่ายขายสามารถหาข้อมูล Lead ได้แม่นยำและง่ายดายยิ่งขึ้น ทั้งข้อมูลเก่าต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้ในการติดตามหรือปิดดีลลูกค้า และยังสามารถเข้าถึงช่องทางสื่อสารอื่นขององค์กรไม่ว่าจะเป็นอีเมล โทรศัพท์ กระทั่งกล่องแชทบนเว็บไซต์ ไม่ต้องยุ่งยากสลับหน้าจอไปมาให้น่าเวียนหัวอีกต่อไป 3. ปรับปรุงข้อมูลลูกค้าให้แม่นยำยิ่งขึ้น หลายครั้งที่การกรอกข้อมูลที่ซ้ำซ้อนไปมามากๆ นำไปสู่ความผิดพลาดได้ Sales CRM ช่วยลดข้อผิดพลาดเหล้านั้นด้วยระบบที่บันทึกทุก action ของพนักงานแบบอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็นการพูดคุยหรือส่งอีเมลก็บันทึกไว้ได้หมด โดยเฉพาะถ้าใช้ Zendesk...
Continue readingขับเคลื่อนธุรกิจสู่การทำงานแบบ Work From Home ด้วย Google Workspace
อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่า ขณะนี้วิกฤติการระบาดของ COVID-19 ระลอกใหม่ได้กลับมาอีกครั้ง จากปีที่แล้ว เทรนด์ Work From Home นี้เพิ่งเริ่มเป็นที่รู้จัก ปัจจุบันการ Work From Home เข้ามามีบทบาทกับการทำงานในองค์กรอย่างมาก หลายองค์กรมองหาโซลูชันที่ให้พนักงานสามารถทำงานจากที่บ้านได้โดยต้องไม่กระทบกับการดำเนินธุรกิจ ดังนั้นสิ่งสำคัญคือการมุ่งเน้นไปที่การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนสำหรับอนาคต การทำงานแบบดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ จึงสามารถลดข้อจำกัดในการติดต่อสื่อสาร และการทำงานร่วมกัน ให้พนักงานสามารถทำงานได้จากทุกที่ ทุกเวลา โดยใช้เครื่องมือเทคโนโลยีเข้ามาช่วย บริษัท ดีมีเตอร์ ไอซีที จำกัด จึงจัดงานสัมมนาออนไลน์นี้ เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และแนวทางการบริหาร การจัดการ และการวางแผนธุรกิจระยะยาวสำหรับองค์กร เพื่อลดความเสี่ยงในการลงทุนด้านทรัพยากร พัฒนา และปรับเปลี่ยนสู่องค์กรดิจิทัล เตรียมพร้อมรับมือกับการทำงานแบบ Work From Home อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยเครื่องมือการทำงานบนคลาวด์อย่าง Google Workspace ลงทะเบียน สิ่งที่คุณจะได้รับจากการเข้าร่วม • ไอเดียเชิงธุรกิจในการเปลี่ยนแปลงองค์กรให้เท่าทันการแข่งขันในช่วงวิกฤติ COVID-19 อย่างมีประสิทธิภาพ • ทำความรู้จักกับ Google Workspace เครื่องมือสำหรับการทำงานร่วมกันขององค์กรยุคดิจิทัล ที่มีผู้ใช้งานมากกว่าพันล้านคนทั่วโลก • การบริหารกระบวนการทำงาน ลดขั้นตอนการทำงานที่ซ้ำซ้อน และการจัดการทรัพยากรบุคคลตามนโยบาย Work From Home • แนวทางการลดความเสี่ยงในการลงทุนด้านทรัพยากรในองค์กร • ผลลัพธ์จากการพัฒนา และปรับเปลี่ยน (Transform) ในการเตรียมความพร้อมสู่องค์กรดิจิทัล Agenda 14:00 – 14:05 Greeting กล่าวต้อนรับ 14:05 – 14:25 องค์กรชั้นนำเปลี่ยนแปลงการทำงานอย่างไรให้พร้อมกับสถานการณ์เสี่ยงต่อโควิด-19 How leading businesses transform its collaboration in COVID-19 crisis. 14:25 – 15:00 Work From Home ให้ประสบความสำเร็จด้วย Google Workspace What can...
Continue readingอยากรวมช่องทาง Facebook, Line และอื่นๆ ต้องทำอย่างไร?
อยากรวมช่องทาง Facebook, Line และอื่นๆ ต้องทำอย่างไร? หากคุณกำลังมองหาเครื่องมือที่จะมาช่วยในการรวบรวมช่องทางการติดต่อของลูกค้าจากช่องทางต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Line, Facebook, Email, Twitter, Whatsapp, WeChat และอื่นๆอีกมากมายนั้น คุณมาถูกที่แล้ว วันนี้ Demeter ICT จะมาแนะนำเครื่องมือที่จะช่วยให้คุณรวบรวมช่องทางเหล่านั้นให้ง่ายขึ้น โดยเครื่องมือที่เรากำลังพูดนั้น มีชื่อว่า Zendesk เจ้า Zendesk คือ Customer Service Software หรือก็คือ ซอฟต์แวร์ที่จะมาช่วยในเรื่องของการบริการของลูกค้าให้ดีและมีประสิทธิมากยิ่งขึ้น โดยที่จุดเด่นของ Zendesk นั้น คือ การรวบรวมช่องทางการติดต่อของลูกค้าจากช่องทางต่าง ๆ หรือ ที่หลาย ๆ คนอาจจะเคยได้ยินคำว่า Omnichannel ซึ่ง Pain Points หลัก ๆ ของบริษัทที่ใช้ Zendesk ยกตัวอย่างเช่น ต้องการผสานช่องทางต่าง ๆ ของลูกค้าไว้ในที่เดียว หรือที่เรียกว่า Omnichannel ต้องการเก็บรวบรวมข้อมูลของลูกค้าที่ติดต่อเข้ามาไว้ในระบบ โดยที่เวลาลูกค้าติดต่อมาอีกในครั้งหน้าจะได้ไม่ต้องสอบถามข้อมูลลูกค้าอีกรอบให้เสียเวลา และสามารถนำข้อมูลของลูกค้าไปต่อยอดทางธุรกิจได้ มี Admin หรือ Agent ในการตอบลูกค้าหลายคน จึงต้องการ track ข้อมูลให้ชัดเจนเพื่อให้เช็คได้ว่าใครคุยถึงไหนแล้ว ใครเป็นคนตอบลูกค้า เพื่อให้ง่ายต่อการเช็คและตรวจสอบ (ซึ่งบางบริษัทก็ใช้เอาไว้ติดต่อกันภายในองค์กรก็สามารถทำได้เช่นกัน เช่น เวลาส่งเรื่องไปให้ทีมต่าง ๆ ก็จะง่ายและสะดวกในการติดตามมากยิ่งขึ้น) ต้องการที่จะวัดผล ประเมินผลของพนักงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะ Zendesk มีการวัดผลของผู้ที่ใช้ระบบ และสามารถสร้างเป็น Report ให้ดูได้แบบง่ายดาย ต้องการดู Report ของลูกค้าที่ติดต่อเข้ามาได้อย่าง Real-time เพื่อปรับกลยุทธ์ให้เข้ากับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับบริษัทได้อย่างรวดเร็วและทันที หากคุณมี Pain Points บางข้อหรือหลายๆข้อที่ตรงกับผู้ที่ใช้ Zendesk ด้านบน ก็บอกได้เลยว่า วันนี้พวกคุณเจอทางออกแล้ว เพราะ Zendesk จะมาช่วยแก้ Pain Points...
Continue reading5 กลยุทธ์การขายบน WeChat
Wechat เป็นแพลตฟอร์มโซเชียลที่มีคนใช้มากที่สุดในจีน เป็นแอปที่แม้แต่ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางก็สามารถใช้เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคชาวจีนได้ แต่บริษัทเหล่านี้สามารถขายมากขึ้นบนแพลตฟอร์มนี้ได้อย่างไร? ในบทความนี้เราจะแนะนำ 5 เคล็ดลับ และกลยุทธ์ที่เป็นประโยชน์ในการขายสินค้าบน Wechat WeChat มีความสำคัญในการเข้าสู่ตลาดจีนในปี 2020 ปัจจุบัน Wechat กลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ไม่เพียงแต่สำหรับบุคคลทั่วไปเท่านั้น แต่ยังรวมถึง บริษัทขนาดเล็ก กลาง และใหญ่ที่ตั้งใจสร้างกลยุทธ์ทางการตลาดที่มีประสิทธิภาพโดยมุ่งเป้าไปที่ตลาดจีน ในความเป็นจริง Wechat ยังคงเป็นเครื่องมือเดียวในการเชื่อมต่อโดยตรงกับลูกค้าชาวจีน การใช้ Wechat ทำให้บริษัทต่างๆมีโอกาสเข้าถึงผู้ใช้ชาวจีนจำนวนมาก ซึ่งมีผู้ใช้งานต่อเดือนถึง 1.2 พันล้านคน ทำไม WeChat จึงมีความสำคัญต่อผู้ใช้งานสำหรับแบรนด์ขนาดกลาง และขนาดเล็กในจีน WeChat เป็นแพลตฟอร์มการส่งข้อความในช่วงหลายปีที่ผ่านมา Wechat มีวัตกรรมหลายอย่างที่เป็นมากกว่าการแชทออนไลน์ธรรมดา ๆ WeChat อนุญาตให้ผู้ใช้: สร้างแวดวงผู้ติดต่อ และสนทนา โพสต์เนื้อหา หรือ กิจกรรมบนหน้า WeChat Moment ลงข่าวสารต่างๆได้ สามารถทำการจอง (แท็กซี่ ร้านอาหาร เที่ยวบิน และอื่น ๆ) ใช้ WeChat Wallet เพื่อซื้อสินค้าออนไลน์ ดูยอดเงิน การโอนเงินไปยังรายชื่อติดต่ออื่น ๆ โดยชำระเงินผ่านมือถือ ใช้สเเกน QR Code สามารถเชื่อมต่อโลกดิจิทัลภายในโทรศัพท์ของเรากับผู้คน และสถานที่ได้ นอกจากนี้ก็ยังสามารถเพิ่มเพื่อน เเละจ่ายเงินผ่านการสเเกน WECHAT ยังช่วยให้บริษัทต่างๆสามารถทำ Customer Relationship Management (CRM) ได้อย่างสมบูรณ์ผ่าน สามารถสร้างบัญชีอย่างเป็นทางการของ Wechat โต้ตอบกับผู้ติดตาม และอัปเดตข่าวสารของแบรนด์อยู่เสมอ มี WeChat Mini Program ภายในระบบ WeChat ที่ครอบคลุมฟังก์ชันต่างๆ เช่น อีคอมเมิร์ซ เกม และอื่น ๆ Wechat pay มีผู้ใช้ที่ใช้งานอยู่ 900 ล้านรายต่อเดือน โดยมีธุรกรรม 1 พันล้านรายการต่อวันจากการเชื่อมต่อ O2O...
Continue readingรวบรวมแอปจาก Google Workspace ที่ใช้สำหรับ Work From Home
วันนี้ Demeter ICT ได้รวบรวมแอปจาก Google Workspace ที่ใช้สำหรับ Work From Home ซึ่งแอปเหล่านี้จะช่วยให้คุณทำงานได้ทุกที่อย่างสะดวกสบายและตอบสนองการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ 1. ประชุมออนไลน์ Google Meet เป็นแอปที่ใช้สำหรับประชุมทางวิดีโอสำหรับองค์กร (Video Conference) สามารถเข้าร่วมประชุมทางวิดีโอได้โดยตรงจากแอป Google Meet, Calendar และ Gmail มีอินเทอร์เฟซที่เรียบง่ายและรวดเร็ว ดูตารางการประชุมประจำในแต่ละวันได้อย่างง่ายดาย เข้าร่วมการประชุมด้วยการคลิกลิงก์เพียงครั้งเดียว 2. นัดหมายและติดตามงาน Calendar เป็นปฏิทินออนไลน์ที่แชร์ถึงกัน ออกแบบมาสำหรับทำงานร่วมกัน ที่คุณนั้นสามารถใช้เพื่อวางแผนและกำหนดวันเวลาในการส่งงานร่วมกันกับทีมได้ ซึ่ง Calendar ผสมผสานการทำงานของ Gmail และ Google Meet ที่คุณสามารถสร้างนัดหมายการประชุมและส่งคำเชิญพร้อมรายละเอียดไปยังอีเมลได้ง่ายและรวดเร็ว รวมถึงสามารถดูตารางเพื่อนร่วมงานได้แบบออนไลน์ 3. คุยงานภายในองค์กร Google Chat เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ใช้ติดต่อสื่อสารในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถสร้างแชทได้ทั้งส่วนตัวและกลุ่ม ซึ่งการใช้งานเหมือนกับการส่งข้อความในไลน์ ต่างแค่ใช้ที่อยู่อีเมลของเพื่อนร่วมงานคุณในการติดต่อ ที่สำคัญคือ ข้อความที่รับส่งและไฟล์ที่แชร์ในแชทจะไม่หายและซิงค์ไว้ทั้งหมด ไม่ว่าคุณจะเข้าด้วยอุปกรณ์ไหนก็สามารถค้นหาข้อความเดิมได้อยู่ 4. ส่งงานและแชร์ไฟล์ Google Drive เป็นบริการที่คุณสามารถจัดเก็บ เข้าถึง และแชร์ไฟล์ขององค์กรอย่างปลอดภัยได้เนื่องจากอมูลของคุณถูกเก็บไว้บน Cloud เพียงแค่มีอินเทอร์เน็ต คุณก็สามารถเปิดดูไฟล์ได้ทุกที่ ทุกเวลา ไม่ว่าจะเป็นเดสก์ท็อป หรือโทรศัพท์มือถือ และสามารถแชร์ไฟล์ให้กับทีมได้ทันทีเมื่อต้องทำงานร่วมกัน 5. Brainstorm ร่วมกัน Docs, Sheets, Slides ทั้ง 3 นี้คือ เครื่องมือที่ใช้สำหรับการสร้างเอกสารแบบออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นสเปรดชีตหรือสไลด์ คุณสามารถทำงานร่วมกัน ดู แก้ไข และแสดงความคิดเห็นได้แบบเรียลไทม์ และงานทั้งหมดที่ทำจะถูกบันทึกอัตโนมัติ Docs เอกสารออนไลน์ สร้างและแก้ไขเอกสารร่วมกันสูงสุด 100 คน รองรับไฟล์ Microsoft และไฟล์อื่น ๆ อย่าง .docx, .pdf, .odt, .rtf, .txt หรือ...
Continue readingประชุมออนไลน์ด้วย Google Meet
กลับมาอีกครั้งกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 ที่ทำให้หลายองค์กรต้องกลับมา Work From Home อีกครั้งและคงหนีไม่พ้นกับการประชุมออนไลน์ ซึ่งวันนี้ Demeter ICT จะสรุปจุดเด่นหลัก ๆ ของ Google Meet ที่มีการใช้งานง่ายและฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่น่าสนใจ มาดูกันเลย 1. สามารถเข้าประชุมออนไลน์ได้ง่าย ทุกอุปกรณ์ เข้าผ่านเว็บ https://meet.google.com ได้โดยตรง และเข้าผ่านเว็บเบราว์เซอร์ที่ทุกท่านใช้งานกันเป็นประจำอย่าง Google Chrome ผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ทุกอุปกรณ์ โดยการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Google Meet ซึ่งรองรับทั้ง IOS และ Android ผ่าน Gmail สามารถเข้า Google Meet ได้ทันทีโดยที่ไม่ต้องสลับหน้าต่าง ซึ่งแถบเมนู Google Meet จะอยู่ด้านซ้าย และในแอปพลิเคชันเมนูจะด้านล่างโดยที่ไม่ต้องสลับไปแอป Google Meet เช่นกัน ผ่าน Calendar วิธีนี้เป็นวิธีที่ฮอตฮิตที่สุด เนื่องจากผู้ใช้งานส่วนใหญ่จะนัดหมายการประชุมพร้อมกับประชุมออนไลน์ ซึ่งคุณสามารถดูหรือสร้างการนัดหมายและคลิกเข้าการประชุมออนไลน์ได้ง่าย ๆ ดูเพิ่มเติมวิธีการเข้าประชุมออนไลน์ Google Meet 2. เข้าร่วมการประชุมออนไลน์ได้สูงสุด 250 คน* ในตอนนี้ใครก็ตามที่มีบัญชี Google สามารถเข้าร่วมหรือสร้างการประชุมออนไลน์ได้มากสุด 100 คน แต่หากเป็นระดับธุรกิจสามารถสร้างและเข้าร่วมได้มากสุด 250 คน พร้อมบันทึกวิดีโอระหว่างประชุม 3. แชร์หน้าจอนำเสนองาน คุณสามารถนำเสนองานหรือแชร์หน้าจอได้ง่าย ๆ โดย Google Meet จะมีให้เลือก Your entire screen คือ นำเสนอทั้งหน้าจอ A window คือ เลือกหน้าจอโปรแกรมที่ต้องการนำเสนอ และ A Chrome Tab คือ เลือกนำเสนอ แท็บใดแท็บหนึ่งที่เปิดใน Google Chrome โดยในส่วนของคุณภาพของเสียงยังเป็นแบบ...
Continue readingDigital Transformation คืออะไร สำคัญแค่ไหนต่อการทำธุรกิจ?
เมื่อคำว่า ‘ดิจิทัล’ ไม่ใช่เรื่องใหม่อีกต่อไป ธุรกิจก็ต้องหาหนทางปรับตัวตาม ในยุคที่เศรษฐกิจดิจิทัลมีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และความคาดหวังของลูกค้าเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง Digital Transformation เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจเอาตัวรอดจากความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ไปได้ ล่าสุด Gartner เผยว่า ไวรัสโควิด-19 ที่ระบาดหนักในปี 2020 ได้ทำให้หลายองค์กรหันมาสนใจการทำ Business Transformation มากขึ้นเป็นประวัติการณ์ แตกต่างจากการคาดการณ์ไทมไลน์เดิมซึ่งใช้ระยะเวลาเป็นปีเหลือเพียงหลักสัปดาห์ แล้ว Digital Transformation คืออะไร? Digital Transformation (DX) คือ การนำเทคโนโลยีและกลยุทธ์ทางดิจิทัลเข้ามาใช้ในการวางรากฐาน เป้าหมาย การดำเนินธุรกิจ ตลอดจนขั้นตอนการทำงานและวัฒนธรรมขององค์กร ตัวอย่างของ Digital Transformation IT modernization หรือ การใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น Cloud Computing การ Reskill พนักงาน การนำเครื่องมือดิจิทัลเข้ามาปรับใช้ เช่น ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) เข้ามาช่วยทำงาน เพื่อที่พนักงานจะสามารถโฟกัสกับงานที่เน้นใช้ความคิดสร้างสรรค์ ทักษะการแก้ปัญหา อื่นๆ ได้มากขึ้น การใช้กระบวนการคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking) ในการค้นคว้าหาวิธีแก้ Pain Points ของลูกค้า การปรับปรุงกระบวนการทำงานเพื่อให้รับกับความต้องการของลูกค้าให้มากขึ้น การปรับสภาพองค์กรให้รองรับการทำงานแบบ Remote-Working 3 เสาหลักในการทำ Digital Transformation 1. คน (People) Digital Transformation เริ่มต้นจากผู้คน เพราะประสบการณ์ของพนักงานและประสบการณ์ที่ลูกค้าจะได้รับมีส่วนที่เชื่อมโยงเกี่ยวข้องกัน ดังนั้นในขั้นตอนแรก เราจึงต้องรู้ก่อนว่าในสิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง และความรู้สึกของพนักงานที่มีต่อการเปลี่ยนแปลงนั้น ยกตัวอย่างเช่น หากว่าคุณจะนำเทคโนโลยีเอไอเข้ามาช่วยในแผนก Customer Service ทำให้พนักงานรู้สึกกังวลว่าตนจะตกงาน ผู้เป็นหัวหน้าก็ควรสื่อสารให้เข้าใจตรงกัน “ถ้าเราสามารถขจัดความกังวลของคนอื่น ให้พวกเขารู้สึกได้ว่าเสียงของพวกเขามีค่า ก็จะช่วยให้เขาพร้อมจะก้าวรับความเปลี่ยนแปลงได้ง่ายขึ้น” – Dana Otto, Senior Manager, Change Management, Zendesk กล่าว 2. กระบวนการ...
Continue reading