Customer Experience (CX) คือ ประสบการณ์ของลูกค้า แต่ถ้าจะขยายความในเชิงลึกก็หมายถึง ประสบการณ์ที่ลูกค้าได้พบเจอกับร้านค้าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสินค้า การบริการ อาจจะได้รับประสบการณ์ที่ดี หรือไม่ดีก็ได้ขึ้นอยู่กับร้านค้านั้นๆ ซึ่งมันก็จะส่งผลโดยตรงต่อการตัดสินใจในการบริโภคของลูกค้าในการซื้อสินค้าและบริการต่อๆไปในอนาคต เมื่อพูดถึงการทำธุรกิจลูกค้าหรือผู้บริโภค เป็นสิ่งที่เราควรให้ความสำคัญที่สุด เพราะพวกเขาเป็นผู้ที่ให้ผลตอบแทน และสร้างผลกำไร เพื่อให้ธุรกิจของเราเติบโตและพัฒนาต่อไปได้ ดังนั้นการที่เรารู้ถึง Customer Experience ที่ลูกค้าเคยพบเจอ รวมไปถึงรู้ความต้องการที่แท้จริงของลูกค้าได้นั้น ก็จะช่วยการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า รวมไปถึงอาจจะสร้างความภักดีต่อแบรนด์ (Brand Loyalty) ซึ่งก็เป็นผลประโยชน์ที่ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่ายไม่ว่าจะร้านค้าและลูกค้า เพราะลูกค้าก็คงได้รับประสบการณ์ที่ดีจากร้านค้า ส่วนร้านค้าก็ได้รับลตอบแทนจากลูกค้า และก็คงไม่มีธุรกิจไหนที่อยากสร้างประสบการณ์ที่แย่ให้กับลูกค้าอยู่แล้ว ซึ่งจริงๆแล้วการที่ร้านค้าจะมอบ Customer Experience ที่ดีให้กับลูกค้ามันก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรนัก เพียงแค่คุณนึกว่าตัวเองเป็นลูกค้าหรือผู้บริโภคดูว่า ถ้าคุณเป็นเหมือนกับเขาคุณต้องการอะไรบ้าง เช่น สินค้าที่มีคุณภาพเหมาะสมกับราคา การบริการที่ดีและเอาใจใส่อยู่เสมอตั้งแต่ต้นจนจบ การบริการที่ดีมันมีอยู่หลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น การบริการและแก้ปัญหาที่รวดเร็ว, มีหลายช่องทางที่รองรับการติดต่อที่ลูกค้าสะดวก, แก้ปัญหาของลูกค้าได้อย่างตรงจุด และอื่น ๆ อีกมากมาย หากคุณทำแค่ร้านเล็กๆ มันก็อาจจะดูแลง่าย ทำคนเดียวได้ ปัญหาก็อาจจะไม่มากนัก แต่ถ้าหากคุณต้องการที่จะเติบโตและขยายธุรกิจให้กว้างขึ้น มันอาจจะไม่ได้ง่ายเหมือนที่คุณคิด มันอาจจะเจอปัญหาที่มากขึ้นตามไปด้วย เพราะฉะนั้นคุณควรเลือกใช้กระบวนการทำงานที่มีประสิทธิภาพเพื่อพร้อมสำหรับการขยายธุรกิจไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ โดยคุณควรมองหาเครื่องมือหรือตัวช่วยที่มาปรับกระบวนการทำงานให้ง่าย รวดเร็ว แล้วยังเป็นเครื่องมือที่บริษัทหลายๆบริษัททั้งในไทยและต่างประเทศใช้กันอย่างแพร่หลายนั่นก็คือ Zendesk Zendesk คือ Customer Service Software ที่จะช่วยปรับหรืออัพเกรดการบริการของลูกค้าของคุณให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเรื่องการรวบรวมช่องทางการติดต่อของลูกค้า (Omnichannel), การบันทึกประวัติหรือข้อมูลของลูกค้าทั้งหมด, สามารถบริการลูกค้าอย่างมืออาชีพที่ไหนก็ได้, และยังสามารถส่งต่องานให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องโดยตรงได้อย่างรวดเร็ว และยังมีฟีเจอร์อื่น ๆ อีกมากมาย ดูรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกเลย ทดลองใช้ Zendesk trial ฟรี สอบถาม ราคา Zendesk ติดต่อบริษัท ดีมีเตอร์ ไอซีที จำกัด ผู้ให้บริการระบบ Zendesk ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ – Zendesk Thailand Partner สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ราคา Zendesk พร้อมโปรโมชันพิเศษ โทร. 02-030-0066 096-804-5482 (คุณยิ่ว), 097-187-7302 (คุณเล็ก), 092-262-0475...
Continue readingBitkub ลงทุนใช้ Zendesk ซอฟต์แวร์ในการดูแลลูกค้า24ชั่วโมง!
Bitkub ลงทุนใช้ Zendesk ซอฟต์แวร์ ในการดูแลลูกค้า 24 ชั่วโมง! คุณพบปัญหาแบบนี้หรือเปล่า? Pain points Pain point ลูกค้า เจ้าหน้าที่ตอบช้า เจ้าหน้าที่บริการไม่เป็นมิตร ต้องเล่าปัญหาเดิมซ้ำๆ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ ไม่มีบันทึกประวัติลูกค้า ทำให้เราต้องเล่าปัญหาใหม่ทุกครั้ง เจ้าหน้าที่ตอบคำถามไม่ได้ Agent , เจ้าหน้าที่ ไม่มีข้อมูลลูกค้า ไม่มีข้อมูลประวัติการติดต่อ ทำให้ต้องตอบเรื่องเดิมซ้ำๆ ทำงานหลายหน้าต่าง ทำงานซ้ำซ้อน เช่น ลูกค้าคนเดียวกัน ทักหาเพื่อถามคำถามเดิมจากหลายช่องทางออนไลน์ เจ้าหน้าที่ตอบคำถามไม่ได้ เพราะไม่มีข้อมูลในการตอบคำถาม ใช้เวลาตอบคำถามนาน ทำให้บริการลูกค้าช้า ธุรกิจ ไม่รู้ว่าลูกค้าได้รับบริการครบถ้วนไหม ไม่รู้จำนวนเคสที่เข้ามา ไม่รู้จำนวนเคสที่แก้ไขแล้ว หรือ ที่ยังไม่ได้แก้ ไม่รู้ระยะเวลาที่ใช้แก้แต่ละเคส ไม่รู้ว่าตอนนี้ปัญหา อยู่ที่เจ้าหน้าที่คนไหน ไม่รู้ว่าเจ้าหน้าที่ ทำงานมีคุณภาพแค่ไหน ต้องการลดต้นทุนการให้บริการ ที่มาจากช่องทางโทรศัพท์ ต้องการ Support ลูกค้าจำนวนมาก พนักงานเยอะ ต้องการ Support ภายใน ลูกค้า เจ้าหน้าที่ตอบช้า เจ้าหน้าที่บริการไม่เป็นมิตร ต้องเล่าปัญหาเดิมซ้ำๆ ไม่ว่าช่องทางเดิม หรือช่องทางใหม่ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ ไม่มีบันทึกประวัติลูกค้า ทำให้เราต้องเล่าปัญหาใหม่ทุกครั้ง เจ้าหน้าที่ตอบคำถามไม่ได้ Agent , เจ้าหน้าที่ ไม่มีข้อมูลลูกค้า ไม่มีข้อมูลประวัติการติดต่อ ทำให้ต้องตอบเรื่องเดิมซ้ำๆ ทำงานหลายหน้าต่าง ทำงานซ้ำซ้อน เช่น ลูกค้าคนเดียวกัน ทักหาเพื่อถามคำถามเดิมจากหลายช่องทางออนไลน์ เจ้าหน้าที่ตอบคำถามไม่ได้ เพราะไม่มีข้อมูลในการตอบคำถาม ใช้เวลาตอบคำถามนาน ทำให้บริการลูกค้าช้า ธุรกิจ ไม่รู้ว่าลูกค้าได้รับบริการครบถ้วนไหม ไม่รู้จำนวนเคสที่เข้ามา ไม่รู้จำนวนเคสที่แก้ไขแล้ว หรือ ยังไม่ได้แก้ ไม่รู้ระยะเวลาที่ใช้แก้แต่ละเคส / ไม่รู้ first reply time ไม่รู้ว่าตอนนี้ปัญหา อยู่ที่เจ้าหน้าที่คนไหน ไม่รู้ว่าเจ้าหน้าที่ทำงานมีคุณภาพแค่ไหน ต้องการลดต้นทุนการให้บริการ ที่มาจากช่องทางโทรศัพท์ ต้องการ Support ลูกค้าจำนวนมาก พนักงานเยอะ ต้องการ...
Continue readingCloud Ace ร่วมมือกับ Demeter ICT ขับเคลื่อน Digital transformation ให้กับองค์กรอย่างครบวงจร
บริษัท คลาวด์ เอซ จำกัด ผู้ให้บริการเทคโนโลยี และโซลูชันครบวงจรสำหรับ Google Cloud ประกาศร่วมมือกับ บริษัท ดีมีเตอร์ ไอซีที จำกัด ผู้ให้บริการเทคโนโลยีเพื่อธุรกิจ เช่น Google Workspace เพื่อผลักดันการสร้าง Digital transformation ให้กับองค์กรในประเทศไทย ในฐานะ Google Cloud Partner หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสในประเทศไทย ทำให้องค์กรในประเทศตระหนักถึงความสำคัญของ Digital transformation ไม่ใช่เพียงแค่ให้องค์กรสามารถผ่านพ้นวิกฤตไปได้เท่านั้น แต่รวมถึงโอกาสในการพัฒนาธุรกิจให้รองรับกับความต้องการในยุคที่เทคโนโลยีนั้นเติบโตอย่างรวดเร็ว Google ผู้นำด้านเทคโนโลยีระดับโลกได้สร้างบริการแพลตฟอร์ม Google Cloud บริการคลาวด์สาธารณะที่ปลอดภัย เพื่อการพัฒนาระบบและแอปพลิเคชันที่ดีกว่า และ Workspace เว็บแอปพลิเคชันเพื่อการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพบนระบบคลาวด์ นายยูซุเกะ โคนิชิ (กรรมการผู้จัดการ, บริษัท คลาวด์ เอซ จำกัด) กล่าวว่า “เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากในการเชื่อมความสัมพันธ์ และความร่วมมือกันระหว่างคลาวด์เอซ และดีมีเตอร์ไอซีที ระหว่างสถานการณ์การแพร่ระบาดครั้งใหญ่ของ COVID-19 การที่องค์กรต้องรับมือกับสถานการณ์ และปรับวิถีการทำงานให้เป็นแบบ Remote work กลายเป็นปัจจัยสำคัญในการดำเนินธุรกิจอย่างมาก และตามมาด้วยความต้องการบริการสนับสนุนในการใช้งานเครื่องมือ อย่าง Google Workspace (เดิมชื่อ G Suite) คลาวด์ เอซ และดีมีเตอร์ ไอซีที ในฐานะ Google partner ที่ชำนาญ เราพร้อมสนับสนุนธุรกิจในประเทศไทยให้ดำเนินต่อไปด้วยบริการครบวงจร ตั้งแต่การปรับวิถีของการทำงานด้วย Google Workspace ไปจนถึงการปรับระบบรากฐานทางเทคโนโลยี และนวัตกรรมของทุกองค์กรให้ทันสมัยด้วย Google Cloud“ ดร.วรัญญู สุจิวรพันธ์พงศ์ (ผู้ก่อตั้ง และประธานกรรมการบริหาร, บริษัท ดีมีเตอร์ ไอซีที จำกัด) กล่าวว่า “ความร่วมมือกันระหว่างดีมีเตอร์ ไอซีที และคลาวด์เอซ ในครั้งนี้ เป็นการนำจุดแข็งเฉพาะด้านในผลิตภัณฑ์ของกูเกิ้ลของแต่ละองค์กรมาเสริมความแข็งแกร่งในการให้บริการลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าของเรามีประสิทธิภาพในการทำงานสูงสุดจากผลิตภัณฑ์ของกูเกิ้ล“ ■ เกี่ยวกับ Google...
Continue readingความปลอดภัยของ Google Meet
ในช่วงนี้หลายองค์กรกำลังใช้ Google Meet เพื่อการประชุมออนไลน์ อาจจะมีความกังวลอยู่บ้างในเรื่องของการรักษาความปลอดภัย แต่บอกได้เลยว่า Google Meet นั้นขึ้นชื่อในเรื่องของการรักษาความปลอดภัยและข้อมูลส่วนตัวในระดับสูง ได้รับการรับรองจากมาตรฐานสากลอย่าง ISO/IEC SOC FedRAMP PCI DSS FISC Compliance และ ENS ซึ่งคุณสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัยและสบายใจได้เลย การประชุมของคุณจะปลอดภัยได้อย่างไร รหัสการประชุม – รหัสการประชุมแต่ละรหัสมีความยาว 10 อักขระโดยมี 25 อักขระในชุด วิธีนี้จะทำให้การ “คาดเดา” รหัสการประชุมทำได้ยากขึ้น รายละเอียดการประชุม – หากคุณเปลี่ยนรายละเอียดการประชุมในคำเชิญ รายละเอียดจะเปลี่ยนทั้งรหัสเข้าประชุมและ PIN ทางโทรศัพท์ ซึ่งจะมีประโยชน์อย่างยิ่งหากผู้ใช้ไม่ได้อยู่ในคำเชิญเข้าร่วมการประชุมอีกต่อไป ซึ่งหมายถึงว่าผู้ใช้คนนั้นจะไม่เห็นรายละเอียดและจะเข้าร่วมการประชุมไม่ได้แล้วนั่นเอง การเข้าร่วมการประชุม – ผู้เข้าร่วมภายนอกจะเข้าร่วมการประชุมโดยตรง ก็ต่อเมื่อได้รับคำเชิญให้เข้าร่วมกิจกรรมในปฏิทิน (Calendar) หรือได้รับคำเชิญโดยผู้เข้าร่วมในโดเมนจากการประชุมของ Google Meet เท่านั้น– ผู้เข้าร่วมภายนอกรายอื่นจะต้องขอเข้าร่วมการประชุม จากนั้นสมาชิกขององค์กรที่จัดการประชุมจะต้องยอมรับคำเชิญนั้น– จำกัดไม่ให้ผู้เข้าร่วมภายนอกเข้าร่วมการประชุมล่วงหน้าเกิน 15 นาทีขึ้นไป – ฟีเจอร์เพิ่มเติมต่างๆ เช่น ผู้สร้างการประชุมจะสามารถควบคุมผู้เข้าร่วมประชุมได้ อย่างการปิดไมค์ หรือนำออกจากการประชุมหากพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เรียกได้ว่า Google Meet มีมาตรฐานในการรับรองความปลอดภัยการใช้งานของคุณในระดับสูงและสากล อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ที่รักษาความปลอดภัยการเข้าร่วมประชุมของบุคคลภายนอกองค์กรอีกด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้จะทำให้การประชุมในองค์กรของคุณราบรื่นและไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยอีกต่อไป ที่มา – support.google.com/meet Google Workspace เพื่อการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ บริษัท ดีมีเตอร์ ไอซีที จำกัด ตัวแทนจำหน่าย Google Workspace ในประเทศไทย อย่างเป็นทางการ รายละเอียดแพ็กเกจ 02-030-0066...
5 เหตุผล ทำไมธุรกิจต้องมี Sales CRM
หากพูดถึง CRM (Customer Relationship Management) หลายคนอาจนึกไปถึงซอฟตแวร์หรือเครื่องมือสักอย่างที่ช่วยในการบริหารและพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น ทว่าแม้แต่ CRM เองก็สามารถแบ่งแยกออกไปได้อีกหลายประเภท ขึ้นอยู่กับว่าต้องการใช้ CRM กับเนื้องานใด ทีมซัพพอร์ตอาจใช้ CRM ในการจัดการ Tickets หรือคำร้องที่ถูกส่งเข้ามา ฝ่ายการตลาดอาจใช้ CRM ในการวิเคราะห์ผลตอบรับจากแคมเปญออนไลน์ ขณะที่ฝ่ายขายหรือ Sales มักใช้ CRM ในการปรับปรุง Sales Pipeline (ระบบการวางแผนการขาย) เรามาดู 5 เหตุผลว่าทำไมถึงต้องใช้ Sales CRM กัน 1. ลดความซ้ำซ้อน Sales CRM เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้บริหาร Touchpoint ของลูกค้าผ่านกระบวนการขาย ซึ่ง Touchpoint ในที่นี้ อาจจะเป็นทั้งการมีปฏิสัมพันธ์ทางตรงหรือทางอ้อมกับลูกค้าก็เป็นได้ เครื่องมือ Sales CRM จะช่วยติดตามทุกการสื่อสารต่างๆ นำข้อมูลมาจัดเรียงให้โดยอัตโนมัติ ทั้งส่งแจ้งเตือนกำหนดการในการ follow up leads และอีกมากมาย Sales CRM ยังช่วยลดความยุ่งยากในส่วนของการดูแลลูกค้าเป้าหมาย เมื่อไม่ต้องมานั่งเสียเวลาเรื่องการกรอกเก็บข้อมูลพนักงาน ฝ่ายขายก็สามารถโฟกัสไปที่การสร้างความสัมพันธ์อันดีกับกลุ่มผู้ที่สนใจผลิตภัณฑ์ได้ง่ายขึ้น 2. ระบบการขายแบบรวมศูนย์กลาง พนักงานแผนกขายใช้เวลาเป็นวันในการทำทุกอย่างตั้งแต่รีเสิรช์ยันติดต่อเพื่อดีลกับฝ่ายจัดสรรและฝ่ายขายหน้าร้าน ทางเมเนเจอร์เองก็ยุ่งวุ่นวายกับการมอนิเตอร์เพอฟอแมนซ์ บริหารคลังสินค้า ไหนจะต้องให้คำแนะนำทีมอีก เมื่อไม่มีระบบศูนย์รวมที่ช่วยจัดการงานแต่ละงาน อะไรที่อาจถูกมองว่าเล็กน้อยก็กลายเป็นเรื่องยุ่งยากในแผนกที่นำไปสู่ความไม่มีระเบียบแบบแผนได้ Sales CRM จึงมักถูกออกแบบขึ้นมาในรูปแบบของ one-stop solution ให้รองรับกับการทำงานในแต่ละวัน สามารถบูรณะเข้ากับเครื่องมืออื่นที่กำลังใช้งานอยู่ตลอดจนช่องทางสื่อสารต่างๆ มากมาย ให้การจัดการงานทั้งหมดสามารถทำครบจบในแพลตฟอร์มเดียว การมีระบบที่รวมศูนย์กลางนี้ยังช่วยให้องค์กรมีรากฐานที่น่าเชื่อถือ พนักงานฝ่ายขายสามารถหาข้อมูล Lead ได้แม่นยำและง่ายดายยิ่งขึ้น ทั้งข้อมูลเก่าต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้ในการติดตามหรือปิดดีลลูกค้า และยังสามารถเข้าถึงช่องทางสื่อสารอื่นขององค์กรไม่ว่าจะเป็นอีเมล โทรศัพท์ กระทั่งกล่องแชทบนเว็บไซต์ ไม่ต้องยุ่งยากสลับหน้าจอไปมาให้น่าเวียนหัวอีกต่อไป 3. ปรับปรุงข้อมูลลูกค้าให้แม่นยำยิ่งขึ้น หลายครั้งที่การกรอกข้อมูลที่ซ้ำซ้อนไปมามากๆ นำไปสู่ความผิดพลาดได้ Sales CRM ช่วยลดข้อผิดพลาดเหล้านั้นด้วยระบบที่บันทึกทุก action ของพนักงานแบบอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็นการพูดคุยหรือส่งอีเมลก็บันทึกไว้ได้หมด โดยเฉพาะถ้าใช้ Zendesk...
Continue readingขับเคลื่อนธุรกิจสู่การทำงานแบบ Work From Home ด้วย Google Workspace
อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่า ขณะนี้วิกฤติการระบาดของ COVID-19 ระลอกใหม่ได้กลับมาอีกครั้ง จากปีที่แล้ว เทรนด์ Work From Home นี้เพิ่งเริ่มเป็นที่รู้จัก ปัจจุบันการ Work From Home เข้ามามีบทบาทกับการทำงานในองค์กรอย่างมาก หลายองค์กรมองหาโซลูชันที่ให้พนักงานสามารถทำงานจากที่บ้านได้โดยต้องไม่กระทบกับการดำเนินธุรกิจ ดังนั้นสิ่งสำคัญคือการมุ่งเน้นไปที่การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนสำหรับอนาคต การทำงานแบบดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ จึงสามารถลดข้อจำกัดในการติดต่อสื่อสาร และการทำงานร่วมกัน ให้พนักงานสามารถทำงานได้จากทุกที่ ทุกเวลา โดยใช้เครื่องมือเทคโนโลยีเข้ามาช่วย บริษัท ดีมีเตอร์ ไอซีที จำกัด จึงจัดงานสัมมนาออนไลน์นี้ เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และแนวทางการบริหาร การจัดการ และการวางแผนธุรกิจระยะยาวสำหรับองค์กร เพื่อลดความเสี่ยงในการลงทุนด้านทรัพยากร พัฒนา และปรับเปลี่ยนสู่องค์กรดิจิทัล เตรียมพร้อมรับมือกับการทำงานแบบ Work From Home อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยเครื่องมือการทำงานบนคลาวด์อย่าง Google Workspace ลงทะเบียน สิ่งที่คุณจะได้รับจากการเข้าร่วม • ไอเดียเชิงธุรกิจในการเปลี่ยนแปลงองค์กรให้เท่าทันการแข่งขันในช่วงวิกฤติ COVID-19 อย่างมีประสิทธิภาพ • ทำความรู้จักกับ Google Workspace เครื่องมือสำหรับการทำงานร่วมกันขององค์กรยุคดิจิทัล ที่มีผู้ใช้งานมากกว่าพันล้านคนทั่วโลก • การบริหารกระบวนการทำงาน ลดขั้นตอนการทำงานที่ซ้ำซ้อน และการจัดการทรัพยากรบุคคลตามนโยบาย Work From Home • แนวทางการลดความเสี่ยงในการลงทุนด้านทรัพยากรในองค์กร • ผลลัพธ์จากการพัฒนา และปรับเปลี่ยน (Transform) ในการเตรียมความพร้อมสู่องค์กรดิจิทัล Agenda 14:00 – 14:05 Greeting กล่าวต้อนรับ 14:05 – 14:25 องค์กรชั้นนำเปลี่ยนแปลงการทำงานอย่างไรให้พร้อมกับสถานการณ์เสี่ยงต่อโควิด-19 How leading businesses transform its collaboration in COVID-19 crisis. 14:25 – 15:00 Work From Home ให้ประสบความสำเร็จด้วย Google Workspace What can...
Continue readingอยากรวมช่องทาง Facebook, Line และอื่นๆ ต้องทำอย่างไร?
อยากรวมช่องทาง Facebook, Line และอื่นๆ ต้องทำอย่างไร? หากคุณกำลังมองหาเครื่องมือที่จะมาช่วยในการรวบรวมช่องทางการติดต่อของลูกค้าจากช่องทางต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Line, Facebook, Email, Twitter, Whatsapp, WeChat และอื่นๆอีกมากมายนั้น คุณมาถูกที่แล้ว วันนี้ Demeter ICT จะมาแนะนำเครื่องมือที่จะช่วยให้คุณรวบรวมช่องทางเหล่านั้นให้ง่ายขึ้น โดยเครื่องมือที่เรากำลังพูดนั้น มีชื่อว่า Zendesk เจ้า Zendesk คือ Customer Service Software หรือก็คือ ซอฟต์แวร์ที่จะมาช่วยในเรื่องของการบริการของลูกค้าให้ดีและมีประสิทธิมากยิ่งขึ้น โดยที่จุดเด่นของ Zendesk นั้น คือ การรวบรวมช่องทางการติดต่อของลูกค้าจากช่องทางต่าง ๆ หรือ ที่หลาย ๆ คนอาจจะเคยได้ยินคำว่า Omnichannel ซึ่ง Pain Points หลัก ๆ ของบริษัทที่ใช้ Zendesk ยกตัวอย่างเช่น ต้องการผสานช่องทางต่าง ๆ ของลูกค้าไว้ในที่เดียว หรือที่เรียกว่า Omnichannel ต้องการเก็บรวบรวมข้อมูลของลูกค้าที่ติดต่อเข้ามาไว้ในระบบ โดยที่เวลาลูกค้าติดต่อมาอีกในครั้งหน้าจะได้ไม่ต้องสอบถามข้อมูลลูกค้าอีกรอบให้เสียเวลา และสามารถนำข้อมูลของลูกค้าไปต่อยอดทางธุรกิจได้ มี Admin หรือ Agent ในการตอบลูกค้าหลายคน จึงต้องการ track ข้อมูลให้ชัดเจนเพื่อให้เช็คได้ว่าใครคุยถึงไหนแล้ว ใครเป็นคนตอบลูกค้า เพื่อให้ง่ายต่อการเช็คและตรวจสอบ (ซึ่งบางบริษัทก็ใช้เอาไว้ติดต่อกันภายในองค์กรก็สามารถทำได้เช่นกัน เช่น เวลาส่งเรื่องไปให้ทีมต่าง ๆ ก็จะง่ายและสะดวกในการติดตามมากยิ่งขึ้น) ต้องการที่จะวัดผล ประเมินผลของพนักงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะ Zendesk มีการวัดผลของผู้ที่ใช้ระบบ และสามารถสร้างเป็น Report ให้ดูได้แบบง่ายดาย ต้องการดู Report ของลูกค้าที่ติดต่อเข้ามาได้อย่าง Real-time เพื่อปรับกลยุทธ์ให้เข้ากับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับบริษัทได้อย่างรวดเร็วและทันที หากคุณมี Pain Points บางข้อหรือหลายๆข้อที่ตรงกับผู้ที่ใช้ Zendesk ด้านบน ก็บอกได้เลยว่า วันนี้พวกคุณเจอทางออกแล้ว เพราะ Zendesk จะมาช่วยแก้ Pain Points...
Continue reading5 กลยุทธ์การขายบน WeChat
Wechat เป็นแพลตฟอร์มโซเชียลที่มีคนใช้มากที่สุดในจีน เป็นแอปที่แม้แต่ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางก็สามารถใช้เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคชาวจีนได้ แต่บริษัทเหล่านี้สามารถขายมากขึ้นบนแพลตฟอร์มนี้ได้อย่างไร? ในบทความนี้เราจะแนะนำ 5 เคล็ดลับ และกลยุทธ์ที่เป็นประโยชน์ในการขายสินค้าบน Wechat WeChat มีความสำคัญในการเข้าสู่ตลาดจีนในปี 2020 ปัจจุบัน Wechat กลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ไม่เพียงแต่สำหรับบุคคลทั่วไปเท่านั้น แต่ยังรวมถึง บริษัทขนาดเล็ก กลาง และใหญ่ที่ตั้งใจสร้างกลยุทธ์ทางการตลาดที่มีประสิทธิภาพโดยมุ่งเป้าไปที่ตลาดจีน ในความเป็นจริง Wechat ยังคงเป็นเครื่องมือเดียวในการเชื่อมต่อโดยตรงกับลูกค้าชาวจีน การใช้ Wechat ทำให้บริษัทต่างๆมีโอกาสเข้าถึงผู้ใช้ชาวจีนจำนวนมาก ซึ่งมีผู้ใช้งานต่อเดือนถึง 1.2 พันล้านคน ทำไม WeChat จึงมีความสำคัญต่อผู้ใช้งานสำหรับแบรนด์ขนาดกลาง และขนาดเล็กในจีน WeChat เป็นแพลตฟอร์มการส่งข้อความในช่วงหลายปีที่ผ่านมา Wechat มีวัตกรรมหลายอย่างที่เป็นมากกว่าการแชทออนไลน์ธรรมดา ๆ WeChat อนุญาตให้ผู้ใช้: สร้างแวดวงผู้ติดต่อ และสนทนา โพสต์เนื้อหา หรือ กิจกรรมบนหน้า WeChat Moment ลงข่าวสารต่างๆได้ สามารถทำการจอง (แท็กซี่ ร้านอาหาร เที่ยวบิน และอื่น ๆ) ใช้ WeChat Wallet เพื่อซื้อสินค้าออนไลน์ ดูยอดเงิน การโอนเงินไปยังรายชื่อติดต่ออื่น ๆ โดยชำระเงินผ่านมือถือ ใช้สเเกน QR Code สามารถเชื่อมต่อโลกดิจิทัลภายในโทรศัพท์ของเรากับผู้คน และสถานที่ได้ นอกจากนี้ก็ยังสามารถเพิ่มเพื่อน เเละจ่ายเงินผ่านการสเเกน WECHAT ยังช่วยให้บริษัทต่างๆสามารถทำ Customer Relationship Management (CRM) ได้อย่างสมบูรณ์ผ่าน สามารถสร้างบัญชีอย่างเป็นทางการของ Wechat โต้ตอบกับผู้ติดตาม และอัปเดตข่าวสารของแบรนด์อยู่เสมอ มี WeChat Mini Program ภายในระบบ WeChat ที่ครอบคลุมฟังก์ชันต่างๆ เช่น อีคอมเมิร์ซ เกม และอื่น ๆ Wechat pay มีผู้ใช้ที่ใช้งานอยู่ 900 ล้านรายต่อเดือน โดยมีธุรกรรม 1 พันล้านรายการต่อวันจากการเชื่อมต่อ O2O...
Continue readingรวบรวมแอปจาก Google Workspace ที่ใช้สำหรับ Work From Home
วันนี้ Demeter ICT ได้รวบรวมแอปจาก Google Workspace ที่ใช้สำหรับ Work From Home ซึ่งแอปเหล่านี้จะช่วยให้คุณทำงานได้ทุกที่อย่างสะดวกสบายและตอบสนองการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ 1. ประชุมออนไลน์ Google Meet เป็นแอปที่ใช้สำหรับประชุมทางวิดีโอสำหรับองค์กร (Video Conference) สามารถเข้าร่วมประชุมทางวิดีโอได้โดยตรงจากแอป Google Meet, Calendar และ Gmail มีอินเทอร์เฟซที่เรียบง่ายและรวดเร็ว ดูตารางการประชุมประจำในแต่ละวันได้อย่างง่ายดาย เข้าร่วมการประชุมด้วยการคลิกลิงก์เพียงครั้งเดียว 2. นัดหมายและติดตามงาน Calendar เป็นปฏิทินออนไลน์ที่แชร์ถึงกัน ออกแบบมาสำหรับทำงานร่วมกัน ที่คุณนั้นสามารถใช้เพื่อวางแผนและกำหนดวันเวลาในการส่งงานร่วมกันกับทีมได้ ซึ่ง Calendar ผสมผสานการทำงานของ Gmail และ Google Meet ที่คุณสามารถสร้างนัดหมายการประชุมและส่งคำเชิญพร้อมรายละเอียดไปยังอีเมลได้ง่ายและรวดเร็ว รวมถึงสามารถดูตารางเพื่อนร่วมงานได้แบบออนไลน์ 3. คุยงานภายในองค์กร Google Chat เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ใช้ติดต่อสื่อสารในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถสร้างแชทได้ทั้งส่วนตัวและกลุ่ม ซึ่งการใช้งานเหมือนกับการส่งข้อความในไลน์ ต่างแค่ใช้ที่อยู่อีเมลของเพื่อนร่วมงานคุณในการติดต่อ ที่สำคัญคือ ข้อความที่รับส่งและไฟล์ที่แชร์ในแชทจะไม่หายและซิงค์ไว้ทั้งหมด ไม่ว่าคุณจะเข้าด้วยอุปกรณ์ไหนก็สามารถค้นหาข้อความเดิมได้อยู่ 4. ส่งงานและแชร์ไฟล์ Google Drive เป็นบริการที่คุณสามารถจัดเก็บ เข้าถึง และแชร์ไฟล์ขององค์กรอย่างปลอดภัยได้เนื่องจากอมูลของคุณถูกเก็บไว้บน Cloud เพียงแค่มีอินเทอร์เน็ต คุณก็สามารถเปิดดูไฟล์ได้ทุกที่ ทุกเวลา ไม่ว่าจะเป็นเดสก์ท็อป หรือโทรศัพท์มือถือ และสามารถแชร์ไฟล์ให้กับทีมได้ทันทีเมื่อต้องทำงานร่วมกัน 5. Brainstorm ร่วมกัน Docs, Sheets, Slides ทั้ง 3 นี้คือ เครื่องมือที่ใช้สำหรับการสร้างเอกสารแบบออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นสเปรดชีตหรือสไลด์ คุณสามารถทำงานร่วมกัน ดู แก้ไข และแสดงความคิดเห็นได้แบบเรียลไทม์ และงานทั้งหมดที่ทำจะถูกบันทึกอัตโนมัติ Docs เอกสารออนไลน์ สร้างและแก้ไขเอกสารร่วมกันสูงสุด 100 คน รองรับไฟล์ Microsoft และไฟล์อื่น ๆ อย่าง .docx, .pdf, .odt, .rtf, .txt หรือ...
Continue reading